บทที่ 41 นั่งบนภูเขารอเก็บเกี่ยวผลสำเร็จ
หลังขจัดสภาวะพิษในร่างกายแล้ว หน้าต่างของหลี่ฟานเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
ชื่อ: หลี่ฟาน
ขั้น: มนุษย์
อายุทางกายภาพ: 42/120↑
อายุทางจิตใจ: 505/2053↑
ความคืบหน้าการเติมพลังหวนเจิน: 121%
ความคืบหน้าการเติมพลังหมุดยึด: 51%
จำนวนหมุดยึดปัจจุบัน: 1
ไอเท็มที่ผูกไว้: 《ตราทองล้อมหยกพันกลไก》, เรือไท่เหยียน, ศิลาจารึกหยุดยั้ง (เสียหาย)
วิชายุทธ์: 《คาถาหล่อหลอมจิตเสวียนหวง》
อายุทางกายภาพพุ่งทะลุขีดจำกัด 100 ปี และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่ทำให้หลี่ฟานตื่นเต้นยิ่งกว่าคือ ขีดจำกัดอายุทางจิตใจ เกือบจะเพิ่มเป็นสองเท่าทันที ถึง 2000 กว่าปี!
เพียงแค่พึ่งพาสระวิเศษชำระร่าง ไม่มีทางจะได้ผลลัพธ์เช่นนี้
เป็นเพราะ《คาถาหล่อหลอมจิตเสวียนหวง》ที่ปรากฏขึ้นมาอย่างลึกลับนี้หรือ...
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไม《คาถาชำระจิตเสวียนหวง》ถึงกลายเป็น《คาถาหล่อหลอมจิตเสวียนหวง》ไป หลี่ฟานเองก็งงงวยไม่แพ้กัน
เมื่อครู่ที่อยู่ในสระวิเศษ เขาแทบทนความเจ็บปวดทรมานนั้นไม่ไหว จนเกือบจะหมดสติไปเลย
ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเกิดอะไรขึ้น
แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลามาพิจารณาอย่างละเอียด หลี่ฟานสงบจิตใจลง ก้มหน้าลงกล่าวกับเหอเจิ้งเฮ่า: "บุญคุณท่านเซียน ผู้เยาว์จะไม่มีวันลืม วันหน้าจะต้องตอบแทนอย่างงาม"
เหอเจิ้งเฮ่าก็รอคำพูดนี้ของหลี่ฟานอยู่ เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนยิ่งขึ้น "เพื่อนหนุ่มน้อยพูดเช่นนี้ได้อย่างไร เส้นทางเซียนยากลำบาก ข้าช่วยตามที่ช่วยได้ก็เท่านั้น"
เขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมา ยื่นให้หลี่ฟาน "หลังขจัดสภาวะพิษแล้ว ก็ได้เวลาเริ่มรับรู้พลังลมปราณท้องฟ้าแผ่นดิน นำปราณเข้าสู่ร่างกายหากสามารถหล่อหลอมประกายปราณแรกในร่างได้ ก็หมายถึงการก้าวเข้าสู่ขั้นฝึกปราณแล้ว เวลานี้จึงจะถือเป็นผู้ฝึกเซียนอย่างเป็นทางการได้ 《คัมภีร์ปราณห้าธาตุ》เล่มนี้เป็นประสบการณ์ในการติดต่อรับปราณของผู้มาก่อน เจ้าต้องศึกษาให้ดี"
จากนั้นเขาก็หยิบยันต์ขจัดฝุ่นออกมา ส่งให้หลี่ฟานอย่างสำคัญ
"นี่คือยันต์ขจัดฝุ่น ก่อนเริ่มนำปราณเข้าร่าง เจ้าต้องพกติดกายไว้"
เห็นหลี่ฟานเก็บของสองอย่างนี้เข้าที่แล้ว เหอเจิ้งเฮ่าจึงอธิบายว่า
"แม้เจ้าจะขจัดสภาวะพิษออกจากร่างไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาแบบถาวร"
"เจ้ายังต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ ต้องติดต่อกับคนธรรมดาทุกวัน เมื่อผ่านไปนานๆ ก็ยากจะหลีกเลี่ยงการเปื้อนสภาวะพิษอีก ยันต์ขจัดฝุ่นนี้จะช่วยเจ้าป้องกันสภาวะพิษรบกวนได้ แต่ก็คงอยู่ได้ไม่นาน ใช้ได้ราวๆ ห้าปีเท่านั้น"
"แต่ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า การบรรลุขั้นฝึกปราณภายในห้าปีน่าจะไม่ใช่เรื่องยาก" เหอเจิ้งเฮ่าพูดยิ้มๆ
"เมื่อบรรลุขั้นฝึกปราณแล้ว สามารถมาหาข้าที่เกาะ เวลานั้นข้าจะพาเจ้าไปฐานของพันธมิตรหมื่นเซียนในทะเลชงอวิ่นไปที่เกาะหมื่นเซียน เมื่อถึงเกาะแล้วเจ้าก็สามารถเลือกวิชายุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อฝึกฝนต่อไปได้"
เหอเจิ้งเฮ่าอธิบายสิ่งที่ควรระวังเกี่ยวกับการนำปราณเข้าสู่ร่างแก่หลี่ฟานอย่างละเอียด หลี่ฟานก็จดจำไว้ในใจอย่างดี
หลังจากสั่งสอนเรื่องต่างๆ เสร็จแล้ว หลี่ฟานก็รู้งานและขอตัวกลับ
"หวังว่าครั้งนี้คงได้ผลสักหน่อยนะ"
มองหลังของหลี่ฟานที่ห่างออกไป เหอเจิ้งเฮ่าพึมพำกับตัวเอง
จากนั้นเหอเจิ้งเฮ่าก็มองภูเขาใต้ฝ่าเท้า ส่ายหน้า "ศักยภาพหมดสิ้นแล้ว ได้เวลาเปลี่ยนภูเขาที่ตั้งแล้ว"
พูดจบเขาก็เหาะขึ้นเหนือทะเลเมฆ สะบัดแขนเสื้อ เก็บเมฆทั้งหมดเข้าแขนเสื้อ
มองทิวเขาเบื้องล่างที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เหอเจิ้งเฮ่าเลือกภูเขาที่จะเจริญเติบโตมากที่สุดในร้อยปีข้างหน้า
วิชายุทธ์ที่เหอเจิ้งเฮ่าฝึกนั้น เรียกว่า 《คัมภีร์เลือกภูเขา》
จุดเด่นใหญ่ที่สุดของ 《คัมภีร์เลือกภูเขา》 คือ นั่งบนภูเขารอเก็บเกี่ยวผลสำเร็จนั่นเอง
เลือกยอดเขา นั่งขัดสมาธิอยู่บนนั้น ฝึกวิชา เสียเวลาไปหลายปี ก็จะสามารถรวมพลังของตนกับภูเขาเป็นหนึ่งเดียว
หลังจากนั้น ภูเขาสูงขึ้นเท่าไหร่ วิชายุทธ์ของตนก็จะได้รับการเลี้ยงดู ยกระดับขึ้นตามไปด้วย
ในทางตรงกันข้าม หากมองผิด ในเวลาต่อมาความสูงของภูเขาไม่ได้เพิ่มขึ้น ก็เท่ากับเสียเวลาฝึกฝนสิบกว่าปีไปเปล่าๆ
นอกจากได้ผลประโยชน์จากการที่ภูเขาสูงขึ้นแล้ว ยังสามารถได้อานิสงส์จากการช่วยเหลือผู้อื่นด้วย
ยกตัวอย่างเช่นการช่วยเหลือหลี่ฟานครั้งนี้ หากวันหน้าหลี่ฟานสามารถบรรลุขั้นฝึกปราณได้เขาก็จะได้รับผลตอบแทนอย่างลึกลับ เพิ่มพลังยุทธ์ของตน
ไม่ได้แย่งชิงหรือขโมยพลังของอีกฝ่าย แต่เหมือนกับคนหนึ่งสำเร็จแล้ว ไก่หมาก็ติดสวรรค์ได้ด้วย
การที่ภูเขาสูงขึ้น จะดึงต้นไม้บนเขาให้สูงขึ้นตาม การเจริญเติบโตของยักษ์ ก็จะช่วยยกระดับสิ่งของในอ้อมแขนด้วย
แน่นอนว่า เมื่อเทียบกับภูเขาและแม่น้ำ เงื่อนไขในการช่วยเหลือผู้อื่นไม่ได้เข้มงวดถึงขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องผูกมัดกับใครคนใดคนหนึ่ง สามารถแผ่กระจายกว้างออกไปได้ ในทางกลับกัน ผลตอบแทนที่จะได้รับในภายหลังก็ขึ้นอยู่กับการลงทุนในตอนแรกมากน้อยเพียงใด
ดังนั้นเมื่อพบบรรดาผู้เยาว์ที่มีอนาคต เหอเจิ้งเฮ่าจึงไม่เคยตระหนี่ถี่เหนียวที่จะช่วยพวกเขาไปก้าวหนึ่ง
...
ออกจากวงจรอาคมกลางเกาะหลิ่วหลี่แล้ว หลี่ฟานไม่ได้รบกวนผู้อื่น กลับไปที่ตึกถิงโหยววางเงียบๆ
หลังขจัดสภาวะพิษออกไป หลี่ฟานรู้สึกแตกต่างจากแต่ก่อนอย่างมาก
เหมือนอ่อนวัยลงไปสิบกว่าปี สายตาการได้ยินก็ดีขึ้นมาก
ยิ่งกว่านั้นยังรับรู้ได้ถึงพลังบริสุทธิ์ที่หมุนวนไหลเวียนอยู่ทั่วท้องฟ้าแผ่นดินอย่างเลือนราง
นี่คือพลังปราณหรือ...
หลี่ฟานปลื้มปีติในใจ
เมื่อสามารถนำปราณเข้าสู่ร่างได้ ก็จะเป็นผู้ฝึกเซียนขั้นฝึกปราณแล้ว
หลี่ฟานอยากจะฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งตลอดทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว
แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ยังต้องตรวจสอบ 《คาถาหล่อหลอมจิตเสวียนหวง》ที่ปรากฏออกมาอย่างลึกลับก่อน
ค้นดูในสมองทั่วทั้งหัว ก็ไม่พบวิธีฝึกแบบใหม่
ดังนั้นหลี่ฟานจึงยังคงเริ่มฝึกฝนตามวิธีของ《คาถาชำระจิตเสวียนหวง》
ทันทีที่ลงมือฝึก หลี่ฟานก็สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่าง《คาถาหล่อหลอมจิต》กับ《คาถาชำระจิต》
ตอนที่ฝึกคาถาชำระจิตก่อนหน้านี้ มักต้องใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วยามกว่าจะทำใจให้สงบลงช้าๆ กำจัดความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดออกไปจากสมอง
แต่《คาถาหล่อหลอมจิต》นี่พอลงมือปฏิบัติปุบปับ ไม่ทันถึงพริบตา หลี่ฟานก็รู้สึกเหมือนจิตใจใสกระจ่างราวกับกระจก
เหมือนมีหินโม่ขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นในสมอง คอยดูดซับและบดขยี้ความคิดฟุ้งซ่านไม่หยุด เปลี่ยนมันให้กลายเป็นอาหารบำรุงเสริมจิตใจของตนเอง
ฝึกคาถาชำระจิตมาสามปี นอกจากจะแสดงผลในหน้าต่าง【หวนเจิน】 หลี่ฟานก็ไม่พบว่ามีผลดีอย่างอื่นอีก
แต่การฝึกคาถาหล่อหลอมจิต หลี่ฟานรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจิตวิญญาณของตนกำลังแข็งแกร่งขึ้นทุกขณะจิต
ถึงแม้ขนาดการเพิ่มขึ้นจะเล็กน้อยมาก แต่ก็เป็นการเพิ่มขึ้นจริงๆ!
หลี่ฟานประหลาดใจยินดีเหลือเกิน และยังเต็มไปด้วยข้อสงสัยอีกมากมาย
ทำไม《คาถาชำระจิตเสวียนหวง》ที่พบเห็นได้ทั่วไปในยุทธภพเซียน
แค่ใช้เพื่อขจัดสภาวะพิษเท่านั้น พอมาถึงตัวเขา ถึงกลายเป็น《คาถาหล่อหลอมจิตเสวียนหวง》ที่แปลกประหลาดเช่นนี้?
วิชาเซียนห้ามฝึกร่วมกัน แล้วคาถาหล่อหลอมจิตนี้จะนับเป็นวิชายุทธ์เซียนได้หรือไม่?
อาศัยความรู้ที่มีต่อยุทธภพเซียนในตอนนี้ หลี่ฟานหาคำตอบไม่ได้
แต่หลี่ฟานคาดเดาได้เลาๆ ว่า เบื้องหลังเรื่องนี้ต้องมีความลับใหญ่หลวงซ่อนอยู่แน่ๆ
ต่อไปถ้ามีโอกาส จะต้องค้นหาให้ถ่องแท้เป็นการส่วนตัว
หลี่ฟานคิดในใจ
...
ก้าวเข้าสู่ประตูเซียนเพียงก้าวเดียวเท่านั้น ก็ได้วิชาอัศจรรย์เช่น《คาถาหล่อหลอมจิตเสวียนหวง》มาอีกด้วย
หลี่ฟานอดรู้สึกลำพองใจไม่ได้
ทว่าไม่นานนัก เขาก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง
เนื้อหาในจดหมายทำลายความรู้สึกเหิมเกริมในใจเขาจนแหลกเป็นชิ้นๆ
เสี่ยวเฮิงนำปราณเข้าร่างสำเร็จ ไปที่เกาะหมื่นเซียนแล้ว