ตอนที่แล้วบทที่ 36 : รางวัลมหาศาล, ทักษะ​ระดับราชันย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 38 : การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของต้าเซี่ย

บทที่ 37 : คะแนนโชคลาภสิบล้านคะแนน, การปรับปรุงอย่างบ้าระห่ำ


บทที่ 37 : คะแนนโชคลาภสิบล้านคะแนน, การปรับปรุงอย่างบ้าระห่ำ

ด้วยการใช้คะแนนโชคลาภนับล้านคะแนน…..เย่หวู่ชางจึงประสบความสำเร็จในการยกระดับวิชาดาบระดับสวรรค์ไปสู่ขั้นความสมบูรณ์แบบ

ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับเจตนาดาบนั้นลึกซึ้งขึ้นอีกเล็กน้อย

เเละการผสมผสานทักษะ​ดาบหลายแบบเข้าด้วยกันก็ทำให้พลังการต่อสู้ของเขาทะยานขึ้นหลายเท่าตัว

แม้ว่าเขาจะยังอยู่ในขั้นแรกของอาณาจักรพระราชวังสีม่วง แต่ตอนนี้เขาสามารถจัดการตัวตนเดิมของเขาในอดีตอย่างง่ายดาย

เเต่แน่นอนว่านี่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเขาอยู่ดี

[ติ๊ง! ใช้คะแนนโชคลาภหนึ่งล้านคะแนน, เจตนาดาบของโฮสต์​เพิ่มขึ้นเป็นขั้นที่หกแล้ว!]

[ติ๊ง! ใช้คะแนนโชคลาภห้าล้านคะแนน, เจตนาดาบของโฮสต์​เพิ่มขึ้นเป็นขั้นที่เจ็ดแล้ว!]

ด้วยความก้าวหน้าสองระดับติดต่อกัน…..เจตนาดาบของเขา ณ ขณะนี้​ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เจตนา​ขั้นที่เจ็ดนั้นเป็นสัญลักษณ์ของปรมาจารย์ดาบ…..ซึ่งเป็นระดับที่หาได้ยากอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์

แม้แต่ผู้ฝึกฝนดาบของอาณาจักรถ้ำสวรรค์หลายคนก็อาจไม่สามารถแตะถึงระดับนี้ได้

ณ ตอนนี้​ เขารู้สึกว่าทุกการเคลื่อนไหวของเขามีความละเอียดอ่อนต่อเจตนาดาบ….เเละมันทำให้เขามีสัมผัสที่เฉียบแหลมต่อทุกสิ่งรอบตัวเขา

เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนทางอารมณ์ของผู้คนรอบตัวเช่นเดียวกับความเกลียดชังหรือความเป็นมิตรที่ซ่อนเร้นต่อเขา

แน่นอนว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นล้วนเกิดเมื่อเจตนาดาบของเข้าก้าวสู่ขั้นที่เจ็ด

เเละเมื่อรวมเจตนา​ดาบขั้นที่​เจ็ดนี้กับทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี…..พลังของมันจะเพิ่มขึ้นจนน่ากลัวยิ่งกว่าทักษะ​การต่อสู้ระดับสวรรค์ซะอีก

ส่วนถ้าใช้ร่วมกับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์…..มันก็จะเเสดงพลังที่ใกล้เคียงกับทักษะการต่อสู้ระดับราชันย์​เลยทีเดีย​ว

ในแง่ของพลังการต่อสู้ เขาไม่รู้ว่าเขาพัฒนาขึ้นไปกี่ขั้นต่อกี่ขั้น

เเละตอนนี้เขาได้นึกถึงมู่ซีเหยา อัจฉริยะ​จากเมืองโบราณชางหยวนอีกครั้ง…..ซึ่งอีกฝ่ายดูไม่ลึกล้ำและน่ากลัวอีกต่อไป

เขารู้สึกว่าหากพวกเขาได้พบกันอีกครั้ง, เขาคงจะสามารถคว้าชัยชนะในการต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย​

นอกจากนี้, การเปลี่ยนแปลงความแข็งแกร่งของเขายังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ราคาที่เขาต้องจ่ายก็หนักมากเช่นกัน

แค่คะแนนโชคลาภอย่างเดียวก็ใช้ไปแล้วหกล้านคะแนน….ตอนนี้เหลือเพียงสามล้านห้าแสนคะแนน​เท่านั้น​

ยิ่งไปกว่านั้น, ในการเลื่อนจากระดับเจ็ดไปสู่ระดับแปดนั้นยังต้องใช้คะแนนโชคลาภ​ถึงสิบล้านคะแนน

เมื่อมองดูคร่าวๆ…..นี่เป็นเป้าหมายที่ไม่สามารถเอื้อมได้โดยแท้

แต่โดยรวมแล้วเขาก็ยังค่อนข้างพอใจ

เเละเมื่อดูคะแนนโชคลาภที่เหลือ …..เย่หวู่ชางก็ไม่ลังเลใจและเลือกที่จะอัพเกรด​ทักษะของเขาต่อ

[ใช้คะแนนโชคลาภสามแสนคะแนน, ฉีกคำตัดสินมหาสมุทรได้เพิ่มขึ้นเป็นขั้นแรก…..พระราชวังสีม่วงของโฮสต์มีการเปลี่ยนแปลง, พลังวิญญาณของโฮสต์ได้รับการขัดเกลาและปรับปรุง!]

[ใช้คะแนนโชคลาภห้าแสนคะแนน ฉีกคำตัดสินมหาสมุทรได้เพิ่มขึ้นเป็นขั้นที่สอง…..พระราชวังสีม่วงของโฮสต์มีการเปลี่ยนแปลง, พลังวิญญาณของโฮสต์ได้รับการขัดเกลาและปรับปรุง!]

[ใช้คะแนนโชคลาภหนึ่งล้านคะแนน ฉีกคำตัดสินมหาสมุทรได้เพิ่มขึ้นเป็นขั้นที่ขั้นที่สาม…..พระราชวังสีม่วงของโฮสต์มีการเปลี่ยนแปลง, พลังวิญญาณของโฮสต์ได้รับการขัดเกลาและปรับปรุง!]

[อาณาจักรไม่เพียงพอ….ไม่สามารถพัฒนา​ต่อได้!]

เมื่อได้ยินเสียงนี้ เย่หวู่ชางก็ได้เเต่ถอนหายใจภายในใจ

ขั้นที่สี่ขึ้นไป….ยังไม่สามารถเพิ่มระดับได้

แท้จริงแล้วทักษะระดับราชันย์​นั้นไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น

อาจกล่าวได้ว่าทักษะระดับราชันย์​นั้นทรงพลัง​เพียงพอที่จะนำตระกูลใดตระกูล​หนึ่งเข้าสู่การครองภูมิภาคได้

สาเหตุ​ที่ราชวงศ์ต้าเซี่ยยืนหยัดมาได้อย่างยาวนานยก็เพราะ​สาเหตุ​นี้

โดยเนื้อแท้แล้วเป็นเพราะกษัตริย์ผู้ก่อตั้งเคยได้รับทักษะการต่อสู้ระดับราชันย์​ที่เสียหายมา…….เเละนั่นทำให้เขาสามารถสถาปนาราชวงศ์นี้ได้

ด้วยความช่วยเหลือจากทักษะการต่อสู้ที่เสียหายนั้น…..ทำให้ราชวงศ์ยังคงสามารถ​สร้างบุคคลที่แข็งแกร่งและปราบปรามกองกำลังภายในดินแดนได้อย่างมั่นคง

เเค่ทักษะระดับ​ราชันย์​ที่เสียหายยังสามารถสร้างราชวงศ์ได้……ไม่ว่าใครก็สามารถจินตนาการได้เพียงว่าทักษะระดับ​ราชันย์​ที่สมบูรณ์จะต้องทรงพลังมากแค่ไหน

เเละเพื่อจะสามารถ​ฝึกฝนขั้นที่สี่ได้……เย่ห​วู่​ชาง​จะต้องทะลวงผ่านอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์เสียก่อน

เมื่อเห็นสิ่งนี้, เย่หวู่ชางก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้

เพราะหากเขาสามารถฝึกฝนทักษะ​ระดับ​ราชันย์​ของเขาต่อไปได้…..เขารู้สึกว่าเมื่อเขาไปถึงขั้นที่เก้า เขาอาจจะสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ได้ด้วยระดับพระราชวังสีม่วงที่เขามี

จากนั้น, เมื่อดูคะแนนโชคลาภที่เหลืออีกหนึ่งล้านเจ็ดแสนคะแนน…..เย่ห​วู่​ชางก็เลือกที่จะใช้มันทั้งหมดเพื่ออัพเกรดฐานการฝึกตนของเขา

[ใช้คะแนนโชคลาภสามแสนคะแนน, การฝึกตนของโฮสด์ทะลวงไปสู่ขั้นที่สองของอาณาจักรพระราชวังสีม่วง!]

[ใช้คะแนนโชคลาภสี่แสนคะแนน, การฝึกตนของโฮสด์ทะลวงไปสู่ขั้นที่สามของอาณาจักรพระราชวังสีม่วง!]

[ใช้คะแนนโชคลาภหนึ่งล้านคะแนน, การฝึกตนของโฮสด์ทะลวงไปสู่ขั้นที่สี่ของอาณาจักรพระราชวังสีม่วง!]

ความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อความแข็งแกร่งของเขา

เเต่การเปลี่ยนแปลงจะเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดก็ต้องเทียบได้กับมู่ซีเหยา

เพราะด้วยการฝึกตนของเธอในขั้นที่แปดของอาณาจักรพระราชวังสีม่วง……เย่หวู่ชางรู้สึกว่าตอนนี้ เขาสามารถเอาชนะเธอได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม นั่นคือมู่ซีเหยาเมื่อไม่กี่ปีก่อน

เเต่ตอนนี้, เธอได้เขียนอยู่จดหมายมาถึงเย่ว์รู่ชวง

ในจดหมาย เธอกล่าวว่าเธอได้ทะลวงไปสู่ขั้นที่เก้าของอาณาจักรพระราชวังสีม่วงแล้ว และกำลังเตรียมที่จะเก็บตัวฝึกตนเพื่อมุ่งมั่นทะลวง​ไปสู่ขอบเขตสำแดงกฎเกณฑ์ก่อนการประชุมใหญ่มังกรเร้นลับที่จะมาถึง

เเละ ณ ขณะนี้…..สำหรับ​เย่ห​วู่​ชาง​ความก้าวหน้าทุกอย่างสามารถเรียกได้ว่าเป็นเรื่องสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน

การเปลี่ยนแปลงความแข็งแกร่งยังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตัวของเย่หวู่ชางเอง

แม้ว่าเขาจะไม่ปล่อยออร่าของเขา ออกมา….. แต่ออร่าที่เป็นเอกลักษณ์ของนักดาบก็สามารถทำให้ผู้คนกลั้นหายใจได้

………..

จากนั้น​เวลาผ่านก็ไปอย่างรวดเร็ว

และในไม่ช้าก็ถึงวันแต่งงานของเย่หวู่ชางกับสีคงหมิงเยว่

เนื่องจากนี่เป็นสถานการณ์พิเศษ งานแต่งงานจึงถูกเก็บเป็นความลับ…..โดยมีกองกำลังใกล้ชิดกับตระกูลเย่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเชิญ

ลุงจงและเซี่ยจือซวนก็ได้มาเข้าร่วมงานแต่งงาน

เเละเมื่อได้เห็นเย่หวู่ชางอีกครั้ง…..พวกเขาก็ตัวสั่นสะท้าน​อีกครา

เย่หวู่ชาง ในปัจจุบันทำให้พวกเขารู้สึกถึงความคลุมเครือและความต้องการอยากหลบเลี่ยงอย่างถึงที่สุด​

แม้ว่าเย่ห​วู่​ชาง​จะยืนอยู่ตรงนั้น แต่พวกเขารู้สึกราวกับว่าจิตใจของพวกเขากำลังถูกเจตนา​ดาบกดทับอยู่​

ในหมู่พวกเขา ลุงจงเป็นผู้ที่รู้สึกแบบนั้นมากที่สุด

เขารู้สึกว่าแม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากเย่หวู่ชางหลายสิบเมตร แต่รัศมีที่เล็ดลอดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้เลือดของเขาพลันหยุดนิ่ง

หากก่อนหน้านี้เขากล้าดูหมิ่นเย่วู่ชางและกล้าโจมตี​เขา

เเต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าเพียงออร่าเพียงอย่างเดียวของอีกฝ่ายก็สามารถทำให้เขาตายได้

เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น….ทำไมเขาถึงมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นเช่นนี้​

นี่เป็นความน่ากลัวของอัจฉริยะระดับสุดยอด​หรือเปล่า?

ลุงจงนั้นมีประสบการณ์​เดินทางท่องโลกมาหลายปี เเละเห็นอัจฉริยะมานับไม่ถ้วน…..แต่ก็ไม่เคยพบบุคคลใดที่ให้ความรู้สึกของการกดขี่รุนแรงได้อย่างเย่หวู่ชาง

…….

อีก​ด้าน​หนึ่ง​

เซี่ยจือซวนจ้องมองอย่างตั้งใจไปที่เย่หวู่ชางผู้ซึ่งสวมชุดเจ้าบ่าว และเผลอแสดงออกถึงความหลงใหลโดยไม่ได้ตั้งใจ

แรงดึงดูดในชายผู้แข็งแกร่งนั้นมีมาตั้งแต่กำเนิดสำหรับเหล่าหญิงสาว

ผู้หญิงคนไหนเล่าที่จะไม่หลงใหลอัจฉริยะที่ทรงพลังและหล่อเหลา​อย่างสมบูรณ์แบบเช่นนี้?

ในขณะนี้เซี่ยจือซวน รู้สึกว่าเธอกำลังตกหลุมรัก​

เเถมเธอยังรู้สึกอิจฉาสีคงหมิงเยว่…..พร้อมมีความปรารถนาที่ต้องการไปแทนที่เธอ

ความคิดแปลกๆปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ…..เเละมันทำให้หัวใจของเธอตื่นตระหนก

พร้อมกันนี้, เธอไม่รู้เลยว่าสีหน้าของเธอกำลังถูกสังเกต​เห็นโดยเย่ว์รู่ชวง…..ซึ่งกำลังรู้สึก​สนุกสนานกับเรื่องนี้มาก

เเละเธอก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้……สามีของเธอมีเสน่ห์ล้นเหลือจริงๆ

ดูเหมือนว่าแม้แต่องค์หญิงในตำนานแห่งราชวงศ์ต้าเซี่ยก็ยังตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของเขา

ยิ่งเซี่ยจือซวนอยู่นานเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น…..ในท้ายที่สุดหลังจากงานแต่งงานจบ, เธอก็รีบจากไปทันที​

ขณะที่เธอจากไป เธอก็พาเย่ว์รู่ชวงไปด้วย (ตกลงกันเเล้วให้ไปคุ้มกัน)​

มีข่าวลือว่าฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ต้าเซี่ยสิ้นพระชนม์แล้ว…..แต่ข่าวดังกล่าวถูกปกปิดและไม่ได้ประกาศออกมา

ณ ขณะนี้​ราชวงศ์ต้าเซี่ยทั้งหมดก็เริ่มไม่มี​การเคลื่อนไหว​มานานแล้ว…..เเละมันทำให้ผู้คนรู้สึกถึงพายุที่กำลังจะเกิดขึ้น

ในเวลานี้, การที่เซี่ยจือซวนมาเข้าร่วมงานแต่งงาน…..ก็เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้า

เมื่อได้ยินฝีเท้าที่ค่อนข้างตื่นตระหนกของเซี่ยจือซวน, เย่หวู่ชางก็รู้สึกสับสนงุนงงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้……และหันหลังเข้าไปในลานที่เตรียมไว้สำหรับสีคงหมิงเยว่

……………………

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด