ตอนที่แล้วบทที่ 1 โลกแห่งวิญญาจารย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 3 เสวียนอู่ สัตว์เทพผู้พิทักษ์จตุรทิศ

บทที่ 2 พิธีปลุกวิญญาณยุทธ์


เนื่องจากค่ายกลกระบี่สำหรับพิธีปลุกวิญญาณยุทธ์ที่อยู่ใกล้เคียงมีเพียงเมืองซิงเยว่ ทุกคนจึงเริ่มมุ่งหน้าไปยังที่นั้น

การเดินทางใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วยามก็ถึงลานกลางเมืองที่กำลังมีพิธีปลุกวิญญาณยุทธ์ เพราะหมู่บ้านหยางอยู่ไม่ห่างจากเมืองซิงเยว่มากนัก

ลานปลุกวิญญาณยุทธ์เปิดรอบรรดาเด็กอัฉริยะทุกคนร่วมทดสอบ เพียงจ่ายเหรียญทองจำนวนหนึ่งก็สามารถเดินเข้าค่ายกลเพื่อปลุกวิญญาณยุทธ์ได้แล้ว

เมื่อตระกูลหยางมาถึง ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยรวมตัวกันณ.ลานกลางเมืองอยู่ก่อนแล้ว นอกจากตระกูลหยางยังมีคนจากตระกูลอื่นที่เดินทางมาเข้าร่วมพิธีปลุกวิญญาณยุทธ์ด้วยเช่นกัน ทำบรรยากาศค่อนข้างครึกครื้นเลยทีเดียว

ไม่ช้าก็ถึงคราวของตระกูลหยาง

เมื่อหยางหมิงก้าวไปข้างหน้าจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับใช้ค่ายกลปลุกวิญญาณยุทธ์ วิญญาจารย์จากเมืองซิงเยว่ก็เริ่มปลดปล่อยพลังอันแข็งแกร่งเพื่อเปิดมัน ทันใดนั้น ก็ปรากฏค่ายกลรูปทรงหกเหลี่ยมลอยขึ้นจากพื้นดิน

“จงเอ๋อร์ เจ้าคนแรก” หยางหมิงโบกมือเรียกหยางจงแล้วเผยยิ้มอย่างมีความสุข

หยางจงเป็นหลานชายที่หยางหมิงชื่นชอบเป็นที่สุด

“ขอรับท่านปู่” หยางจงตอบแล้วเดินตรงไปยังใจกลางค่ายกลภายใต้สายตาของทุกคนที่เฝ้ามอง

พลังของค่ายกลเริ่มมีปฏิกิริยาทันทีเมื่อหยางจงเดินเข้าไป กายเขาถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีทองก่อนเสียงร้องของวิหคเพลิงจะดังก้องไปทั่ว พร้อมปรากฏร่างวิหคขนาดยักษ์บนท้องฟ้าเหนือหัวเขา

วิหคยักษ์ตัวนี้มีเปลวเพลิงปกคลุมไปทั่วร่างกาย ปีกที่กางออกของมันกว้างถึงสามสิบฉื่อก่อนที่พลังอันน่าพิศวงจะแผ่กระจายปกคลุมบนท้องฟ้า

ทำทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับตาเบิกโพลงด้วยความประหลาดใจ

หยางหมิงมองยังวิหคเพลิงเบื้องหน้าพร้อมตัวสั่นเทาด้วยความอัศจรรย์ใจ “ชิงหลวน! มันคือชิงหลวน วิญญาณยุทธ์ระดับสิบ!”

ระดับวิญญาณยุทธ์เริ่มจากต่ำไปสูงคือตั้งแต่หนึ่งถึงสิบ ส่วนที่เกินระดับสิบขึ้นไปเรียกวิญญาณยุทธ์ขั้นสูง

เป็นพวกที่ถือว่าหาได้ยาก เพราะระดับสิบนี้นับเป็นอัจฉริยะผู้มีพลังสมบูรณ์แต่กำเนิด และเป็นธรรมดาที่หยางหมิงจะมีอาการตื่นเต้น

หยางไห่ พ่อของหยางจงรวมถึงวิญญาจารย์ทุกคนในตระกูลหยางที่ได้เห็นต่างรู้สึกตื่นเต้นและยินดีไปด้วยเช่นกัน

“ขอแสดงความยินดีกับผู้นำตระกูลหยาง” หลี่กวง ผู้นำตระกูลหลี่ เขาก้าวไปข้างหน้าผสานมือขึ้นแสดงความยินดีแล้วกำหมัดหันไปทางหยางหมิงพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตระกูลหยางค้นพบอัจฉริยะแล้ว ช่างน่าอิจฉาจริงๆ”

ตระกูลหลี่เป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่แห่งเมืองซิงเยว่ มีความแข็งแกร่งโดยรวมมากกว่าตระกูลหยางเล็กน้อย หยางหมิงหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาผสานมือขึ้นแล้วกำหมัดพร้อมยิ้มตอบอย่างสุภาพ “ขอบคุณพี่หลี่ ภายภาคหน้าต้องรบกวนท่านแล้ว” เหล่าผู้คนสามารถเห็นความภูมิใจและตื่นเต้นของหยางหมิงที่แสดงออกมาทางสีหน้าได้อย่างชัดเจน

ผู้นำตระกูลคนอื่นๆ ในเมืองซิงเยว่ต่างปรี่เข้าร่วมแสดงความยินดีกับหยางหมิงและหยางไห่กันท่วมท้น

หยางหมิงและหยางไห่ภูมิใจยิ้มกว้างจนหุบไม่อยู่

ส่วนหยางจงก็เดินออกจากค่ายกลอย่างมีความสุขพร้อมสายตาอิจฉาของทุกคน แม้เขาจะยังเด็กแต่ก็เข้าใจดีว่าวิญญาณยุทธ์ระดับสิบหมายถึงอะไร

จากนี้ไปเขาคือผู้ที่สวรรค์ภูมิใจ!

ขณะเดินผ่าน เขาก็มองหยางเสี่ยวเทียนด้วยสายตาแห่งผู้ชนะ

หยางเสี่ยวเทียนขมวดคิ้วทันทีที่เห็นท่าทางวางมาดของหยางจง แม้เขาจะเป็นบุตรชายของท่านลุงก็ตาม

ท่านปู่กลับภูมิใจในตัวหยางจงมากกว่าหลานคนอื่นๆ แม้เขาจะเป็นคนแรกที่ก่อปัญหาเสมอ ต่างจากเขากับหยางหลิงเอ๋อร์ที่มักถูกตำหนิอยู่บ่อยครั้ง

“เสี่ยวเทียน ถึงตาเจ้าแล้ว” หยางหมิงกล่าวกับหยางเสี่ยวเทียน

เขาขานรับ จากนั้นเดินไปยังใจกลางของค่ายกลด้วยท่าทางดูประหม่านิดหน่อย

เนื่องจากหยางจงเป็นอัจฉริยะผู้มีวิญญาณยุทธ์ระดับสิบ เขาจึงค่อนข้างกังวลเมื่อยืนอยู่ตรงกลางของค่ายกล

ที่สุดแล้ว ในโลกแห่งวิญญาจารย์ ไม่ว่าใครจะมีวิญญาณยุทธ์เป็นอะไร ตัวกำหนดอนาคตแท้จริงของบุคคลนั้นคือระดับวิญญาณยุทธ์ต่างหาก

ผู้นำตระกูลคนอื่นๆ ในเมืองซิงเยว่ต่างมองไปยังหยางเสี่ยวเทียนด้วยความอยากรู้ว่าเขาจะมีวิญญาณยุทธ์แบบไหน เพราะเขาก็เป็นหนึ่งในหลานชายอีกคนของหยางหมิงเช่นกัน

หยางเฉาก็เป็นอีกคนที่เฝ้ามองบุตรชายไม่วางตาด้วยตื่นเต้นและได้แต่คอยสวดภาวนาในใจอย่างเงียบๆ

ใจกลางค่ายกล พลังที่แผ่ออกมาห่อหุ้มทำให้หยางเสี่ยวเทียนรู้สึกอบอุ่นมาก ก่อนทันใดนั้นรอบตัวเขาจะมีแสงสว่างพุ่งออกมา

หัวใจหยางเฉาบีบแน่นด้วยความตื่นเต้น

ฮัม!

หลังน้ำเสียงแปลกใจอย่างแผ่วเบาดังขึ้น ก็ปรากฏเงาบางอย่างลอยออกมาจากร่างของหยางเสี่ยวเทียนพุ่งไปบนท้องฟ้าเบื่องหลังเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด