ตอนที่แล้วตอนที่ 57 เป็นเจ้าของที่ดินสักที! ความวุ่นวาย (อ่านฟรี 10/06/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 59 ข้าขอมอบภารกิจให้เจ้า! (อ่านฟรี 16/06/2567)

ตอนที่ 58 ปรากฏการณ์ฟ้าดินสั่นสะเทือนทั้งเมืองหลวง (อ่านฟรี 13/06/2567)


ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ก่อนที่ชายหนุ่มจะอนุญาตให้ฟิชลงไปว่ายน้ำเล่น

[“ระบบ รับรางวัลเลยได้ใช่ไหม แล้วมันจะสร้างยังไง เสกร้านมาให้เลย ? แล้วคนอื่นจะได้รับผลกระทบอะไรรึเปล่า”] ชายหนุ่มกล่าวถามระบบในใจ เพราะเขาไม่รู้เลยว่าร้านเซียนรับจ้างมีขนาดเท่าไหร่ ลักษณะเป็นยังไงบ้าง

[“ร้านของท่านจะใช้เวลาสามวันถึงจะแล้วเสร็จ ในระหว่างนั้นระบบจะกั้นฟ้า กันดิน ปิดสวรรค์ ไม่อาจมีสิ่งใดเข้ามาแทรกแซงได้ รวมทั้งขับไล่ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นดิน และ ผืนน้ำของท่าน”] เสียงของระบบตอบกลับมาทำให้ชายหนุ่มกระจ่างขึ้นไม่น้อย

(**ขอเปลี่ยนคำที่ระบบใช้เรียกตัวเอกจากโฮส เป็น ท่าน นะครับ มันอ่านแล้วดูลื่นกว่า**)

[“งั้นข้าขอรับรางวัลเลย ! ตรงนี้แหละ!”] ชายหนุ่มตอบกลับไปทันที จะรอช้าทำไมล่ะ ? เขาชี้ไปยังจุดที่อยากจะให้ร้านตั้งไว้ ซึ่งก็คือชายขอบของที่ดินซึ่งติดกับถนนหินของเมืองเลย หน้าร้านติดถนน ผู้คนย่อมสังเกตง่าย จริงไหม ?

[“ไม่สามารถทำได้ ท่านต้องหาทำเลที่เหมาะสมที่สุดก่อนถึงจะตั้งร้านได้ ไม่เช่นนั้นระบบจะสุ่มตำแหน่งร้านให้ท่าน”] เสียงระบบตอบกลับมา ทำให้ชายหนุ่มเซ็งไม่น้อย แล้วทำไมก่อนหน้านี้มาบอกให้เลือกเอง ?

[“แล้วข้าจะหายังไง ? ในเมื่อเลือกแล้วเจ้าก็ไม่ยอมรับ”] ชายหนุ่มถามสิ่งที่เขาสงสัยกลับไป

[“ใช้ระบบตรวจสอบของท่านในการหาทำเลที่ดีที่สุด ท่านจะเจอเอง”] ระบบตอบกลับก่อนจะเงียบไป

[“จริงด้วยแหะ อืมม ตรงนี้ความเหมาะสมต่ำ ตรงนี้ปานกลาง ตรงนี้ค่อนข้างดี”] ชายหนุ่มเดินไปทั่วบริเวณ เขาก็ตรวจสอบไปด้วย

ซึ่งในระหว่างที่เขาเดินหาอยู่นั้น สัตว์เลี้ยงของเขาก็สร้างความวุ่นวายไปทั่ว ชายหนุ่มรับรู้แต่หาได้สนใจไม่ เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาหาทำเลที่เหมาะสมที่สุดอยู่

จนกระทั่งเขาเดินมาถึงจุดที่ผืนดินและน้ำบรรจบกันเป็นรูปทรงหยินหยาง ทั้งสองฝั่งต่างแบ่งกันคนละครึ่งได้อย่างลงตัว ทำให้ดูเหมือนกับว่าผืนดินถูกบึงน้ำโอบล้อม และบึงน้ำถูกผืนดินเกื้อหนุน แถมระบบตรวจสอบยังแจ้งเตือนอีกว่าที่ตรงนี้คือทำเลที่สมบูรณ์แบบ ! มันมีความกว้างทั้งหมดประมาณ แปดหมู่

“ที่นี่แหละ !” ชายหนุ่มส่งเสียงออกมาด้วยความภูมิใจ ในที่สุดก็หาเจอ !

“อะไรรึเถ้าแก่ ?” หานจุนหมิงที่ได้ยินเสียงของเถ้าแก่ดังขึ้นก็กล่าวถามออกมา

“ไม่มีอันใด ข้าแค่หาทำเลที่เหมาะสมจะตั้งร้านในที่ดินผืนนี้เจอแล้วก็เท่านั้น” ชายหนุ่มตอบกลับไป ทำให้อีกฝ่ายต้องมองสถานที่ซึ่งพวกเขายืนอยู่ตรงนี้อีกรอบหนึ่ง

“ผืนดินและบึงน้ำ โอบล้อมกันในลักษณะแห่งหยินหยาง ทั้งสองเกื้อหนุนกันให้กำเนิดชีวิต ลมปราณในจุดนี้หนาแน่นยิ่งกว่าทุกหนแห่งเสียอีก ท่านกล่าวถูกแล้วเถ้าแก่ สถานที่ตรงนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ” หานจุนหมิงหยิบลูกคิดของเขามาดีดคำนวณบางอย่างก่อนจะกล่าวออกมา แม้เขาจะไม่อาจสัมผัสถึงมันได้ชัดเจนนัก แต่ก็พอคำนวณได้บางส่วน

แต่ก็น่าแปลกใจ เพราะเขาก็เคยมาที่ดินผืนนี้บ้างแล้ว รวมถึงยังมีผู้ฝึกตนอีกนับไม่ถ้วนที่เคยมา แต่กลับไม่มีใครเคยรู้ถึงความลับของที่ดินจุดนี้มาก่อน เหมือนมันถูกซ่อนเอาไว้ แต่เถ้าแก่กลับหามันเจอ

‘เถ้าแก่ไม่ธรรมดาจริง ๆ’ ชายกลางคนกล่าวชมในใจอย่างอดไม่ได้ เขาคิดไม่ผิดที่เลือกเดินตามเถ้าแก่

หลังจากนี้ต่อให้ตระกูลโจวจะมาเอาเรื่อง เขาก็จะช่วยเถ้าแก่ให้ถึงที่สุด !

[“รับรางวัลภารกิจ สร้างร้านตรงนี้แหละ!”] ชายหนุ่มบอกกล่าวกับระบบในใจ

ทันใดนั้นท้องฟ้าก็ได้เกิดความปั่นป่วนขึ้น !

ครึ่งหลัง

หมู่มวลเมฆบนนภาถูกแหวกออกเหมือนมีบางอย่างกำลังจะลงมาจากฝากฟ้า พลังงานจากสวรรค์สีทองมากบารมีได้สาดส่องลงมาทั่วทั้งผืนดินและแผ่นน้ำ มันค่อย ๆ ก่ออาณาเขตกำแพงสีทองแข็งแกร่งปิดกั้นพื้นที่แห่งนี้เอาไว้ในลักษณะของโดมครึ่งวงกลมสีทอง

ประชาชนทั่วไปรวมถึงผู้ฝึกตน ไม่ว่าจะที่ยังอยู่ด้านใน หรือเห็นเหตุการณ์จากด้านนอกล้วนตื่นตระหนกกับภาพสะเทือนฟ้าดินเช่นนี้ พวกที่อยู่ด้านในล้วนทำอะไรไม่ถูก พยายามจะวิ่งออกไปจากที่แห่งนี้ ก็ไม่อาจทำได้

ส่วนพวกที่อยู่ด้านนอกต่างพากันมุ่งหน้ามายังที่แห่งนี้เพื่อดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้น พลังปราณจากฟ้าดินอันมหาศาลแผ่ขยายออกไปทั่วบริเวณจนทั่วทั้งเมืองหลวงยังรู้สึกได้ ผู้ฝึกตนล้วนได้รับประโยชน์กันถ้วนหน้า แม้แต่ประชาชนธรรมดาหรือสัตว์ทั่วไปก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย

...

ภายในที่พักของตระกูลโจวซึ่งยังอยู่ในเมืองหลวง

“ท่านผู้อาวุโส เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ ?” ลูกศิษย์คนหนึ่งเอ่ยถามโจวชือทีแหงนหน้ามองท้องฟ้าซึ่งกำลังสาดแสงสีทองลงมาอยู่

“ปรากฏการณ์ฟ้าดิน ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็เคยพบเพียงแสงสีทองขนาดเล็กสาดส่องลงมา เมื่อไปยังที่เกิดเหตุก็พบว่ามันเป็นการถือกำเนิดของเม็ดยาระดับจักรพรรดิ น่าเสียดายที่ครั้งนั้นตระกูลของเราไม่อาจได้รับมันมาในครอบครอง” โจวชือตอบลูกศิษย์ของเขาไป

“แต่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคราวนี้มันยิ่งใหญ่กว่ามาก ไม่อาจเทียบกันได้เลย แถมผ่านมาหนึ่งก้านธูปแล้วมันก็ยังไม่หายไป ข้าเดาว่าภายในเมืองหลวงคงกำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเป็นแน่” โจวชือกล่าวออกมาเสียงหนักแน่น

“เรียกรวมคนในตระกูลที่ยังอยู่ในเมืองหลวง เราจะไปดูกัน!” เขากล่าวสั่งการเสียงเด็ดขาด คราวนี้ตระกูลของเขาจะต้องไม่พลาดเหตุการณ์ในครั้งนี้ !!

...

ห้องบัลลังก์อันกว้างใหญ่ ที่แห่งนี้มีจักรพรรดิกำลังนั่งอยู่ที่บัลลังก์ด้านบนสุด

ชายกลางคนในชุดคลุมสีทองลายมังกรทะยานทอดสายตาลงมามองบรรดาข้าราชบริพารทั้งหลาย ในเวลานี้มีผู้คนนับร้อยกำลังประชุมกันถึงเรื่องที่เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดินในเมืองหลวง ว่าพวกเขาควรจะทำเช่นไรกับมัน

“ทุกท่านมีความเห็นว่าเช่นไรบ้าง ?” จักรพรรดิผู้นั่งบนบัลลังก์กล่าวถามออกมาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ ราวกับว่าทุกผู้คนต้องยอมสยบให้กับตัวเขา

พลังอำนาจที่ไม่อาจบอกได้แผ่กระออกมาโดยที่ตัวของเขาไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ล้วนทำให้ทุกคนในห้องบัลลังก์อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

“ข้าว่าไม่ควรนิ่งนอนใจพะยะค่ะ ฝ่าบาท เราควรส่งกองกำลังไปตรวจสอบดู” แม่ทัพในชุดเกราะสีเงินดำผู้หนึ่งกล่าวออกมา

“แต่หม่อมฉันว่า พวกเราไม่ควรทำอะไรบุ่มบ่าม เพียงส่งคนไปตรวจสอบก่อนน่าจะดีกว่าเพคะ” หญิงชราในชุดขุนนางชั้นสูงกล่าวขัดแย้งออกมา

“ความคิดของท่านก็ไม่ถูกไปเสียทีเดียว ถ้าพวกเราชักช้าอาจจะไปถึงที่เกิดเหตุไม่ทันพวกขุมกำลังระดับสูงสุดเอาได้นะ!” ฝ่ายที่สนับสนุนความคิดของแม่ทัพในชุดเกราะคนแรกกล่าวแย้งขึ้น

“เจ้าจะบ้ารึไง!? ถ้าเราบุ่มบ่ามไป แล้วเกิดความเสียหายขึ้นกับเมืองหลวงใครจะรับผิดชอบกัน ?” ทางด้านฝ่ายที่เห็นด้วยกับหญิงชราก็กล่าวโต้แย้ง

เสียงตะโกนโหวกเหวกดังไปทั่วห้องบัลลังก์ สถานการณ์ในตอบนี้นับว่าแปลกประหลาดอย่างมาก ตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรมานับพันปีก็ไม่เคยมีบันทึกว่าเคยพบเห็นปรากฏการณ์ฟ้าดินที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน !

“เงียบ” จักรพรรดิกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

น่าแปลกที่แม้เสียงนี้จะแผ่วเบา แต่กลับทำให้ทุกคนในห้องบัลลังก์เงียบลงไปทั้งหมด ไม่มีใครกล้ากล่าวอะไรขึ้นมาแม้แต่น้อย

“ท่านมหาราชครูเคยพยากรณ์เอาไว้ว่า วันหนึ่งท้องฟ้าแห่งนครจะแหวกออก ฟ้าดินสาดส่องแสงทองทั่วหล้า มหาโชคลาภจะปรากฏ อาณาจักรวูดเสธแห่งนี้จะรุ่งเรืองขึ้นมาอีกรา” จักรพรรดิกล่าวออกมาน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทุกคนในห้องบัลลังก์ล้วนรับฟังด้วยความตะลึงงัน

พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าท่านมหาราชครูได้พยากรณ์เอาไว้ !

“ถ้าเช่นนั้น ข้าขอสั่งให้องค์ชายสามไปจัดการเรื่องนี้ จงไปสืบดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้นแล้วมารายงานแก่ข้า มีผู้ใดมีข้อโต้แย้งหรือไม่ ?” จักรพรรดิกล่าวรวบรัดก่อนจะจ้องมองทุกคนในห้องบัลลังก์

“น้อมรับคำเสด็จพ่อ พะยะค่ะ” อค์ชายสามก้าวออกมายังกลางห้องโถงก่อนจะก้มคารวะให้กับองค์จักรพรรดิแล้วกล่าวออกมา

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด