ตอนที่แล้วChapter 1047 ราชันย์ประทานพลัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1049 ราชันย์เจิ้นเหว่ย

Chapter 1048 ข้าจุนซ่างเซียวมาแล้ว!


เด็กสี่คนตัดผ่านระดับไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หนึ่งในทันที เป็นการยกระดับที่น่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก.

อย่างไรก็ตาม เหล่าประชาชนที่อยู่รอบ ๆ แววตาที่เผยความอิจฉาและซาบซึ้งออกมา

แม้แต่จุนซ่างเซียวและหลี่ชิงหยาง ยังตื่นตะลึงไปตาม ๆกัน หากแต่พวกเขากับดูเป็นเรื่องธรรมดา!

ไม่ประหลาดใจรึ?

ไม่ตื่นตะลึงอย่างงั้นรึ?

กล่าวได้ว่าการที่เด็ก ๆ ยกระดับพลังบ่มเพาะได้ในทันที กลายเป็นเรื่องพื้น ๆ ไม่มีอะไรแปลกประหลาดรึ?

“แปลก!”

จุนซ่างเซียวที่แทบทรุดไปกับพื้น “แปลกเกินไปแล้ว!”

“ท่านพ่อ ท่านแม่!”

เด็กสี่คนที่หายเจ็บแล้ว ยืนขึ้นยืดอก กล่าวด้วยความตื่นเต้น“ข้าได้รับการประทานพลัง องค์ราชันย์ประทานพลังให้กับข้า!”

จุนซ่างเซียวที่มองภาพดังกล่าว แววตาที่จับจ้อง สั่นส่ายไปมาด้วยความสงสัย “เห็นชัดเจนว่าวิญญาณถูกโจมตี เด็กเหล่านี้ทำไมถึงไม่เป็นไร!”

“แปลก เป็นอะไรที่แปลกมาก!”ระบบกล่าว.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “มันมีกฎเหล็กการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมอยู่ การจะได้สิ่งใด ก็ต้องจ่ายไปด้วยราคาที่เท่าเทียมกัน ข้าว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ โลกนี้จะมีการเพิ่มพลังบ่มเพาะขึ้นทันทีโดยที่ไม่จ่ายด้วยอะไร เรื่องนี้ ต้องมีความลับซ่อนอยู่แน่!”

“โฮสน์มีระบบ มีความเห็นงั้นรึ?”

“ข้ามีระบบ ทว่าก็แลกเปลี่ยนกับระเบิดนับเวลาย้อนหลัง จะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างนิกาย ชีวิตไม่ได้สบายอยู่อย่างที่ตัวเองต้องการ ไม่สามารถมีความรักแบบชายหญิงได้ นี่คือสิ่งแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม!”

ระบบที่กลายเป็นเงียบ.

ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะพูดจริง.

เรื่องนี้ย่อมต้องมีเบื้องหลัง.

มีบางสิ่งที่อยู่เบื้องหลังดังกล่าว.

“ตระกูลหลี่และตระกูลจาง ได้รับการประทานพลัง แม้นว่าจะไปไม่ถึงระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย ทว่าแค่นี้ก็น่ายกย่องแล้ว.”ใครบางคนที่ยืนอยู่หน้าห้องโถงเอ่ยออกมา“คนที่ได้รับการประทานพลัง ให้รอที่นี่ให้คนจากวังหลวงมารับ.”

“รับทราบ!”

เด็กหลายคนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

เด็กเหล่านี้ได้รับเลือกจากราชันย์ หลังจากนี้จะต้องกลายเป็นคนที่โดดเด่น นำชื่อเสียงมาให้กับวงศ์ตระกูล!

พิธีการได้จบแล้ว เด็กสี่คนถูกนำไปยังตำหนักด้านใน เหล่าผู้คนที่รอบ ๆ ได้เริ่มแยกย้าย และพูดคุยกันเสียงเบา.

จุนซ่างเซียวที่ดึงจิตสัมผัสกลับมา“เด็กทั้งสี่ แม้นวาจะตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ ทว่ากลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นดูแผ่วเบาไม่มั่นคง คล้ายว่าจะสลายไปได้ทุกเมื่อ.”

“ดูเหมือนกับ.”

“เหมือนกับโจรสลัดที่พบในทะเล เพิ่มระดับด้วยวิธีการบางอย่าง ทำให้มีพลังแตกต่างกับผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝึกฝนด้วยวิธีการปรกติ.”

ระบบเอ่ย “หากกองกำลังครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ด้วยวิธีเมื่อครู่ พันคน และจักรพรรดิยุทธ์พันคน ต่อสู้กัน คิดว่าฝ่ายใหนจะชนะ?”

“แน่นอนว่าต้องเป็นครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์.”

ก่อนหน้านี้เหล่าโจรสลัดที่มีครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ แม้นว่าจะไม่สามารถเทียบได้กับชาวยุทธ์ทั่วไป ทว่าก็ยังเหนือกว่าระดับจักรพรรดิยุทธ์อยู่เช่นกัน.

ระบบเอ่ย “ดังนั้นราชันย์เจิ้นเหว่ย ที่สามารถยกระดับพลังของคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว ไม่ได้ฝึกฝนด้วยวิธีปรกติ ทว่าก็สามารถที่จะกำราบฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน!”

จุนซ่างเซียวที่กลายเป็นเงียบ.

สมมุติฐานของระบบนั้นมีความเป็นไปได้สูงมาก ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่สามารถยกระดับเด็กที่อ่อนแอให้แข็งแกร่งได้ในทันที หากว่าเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่งล่ะ ไม่ใช่ว่าสามารถสร้างกองทัพที่น่าพรั่นพรึงขึ้นมาได้เลย ไม่ใช่รึ?

“แม้แต่เด็กยังยกระดับได้สูงกว่าเดิมมาก หากเป็นผู้ใหญ่ ต้องไม่ธรรมดาแน่!”

กลับมายังโรงเตี้ยม จุนซ่างเซียวที่นอนบนเตียงพลางครุ่นคิด “ราชันย์เจิ้นเหว่ยไม่ธรรมดา หรือว่ามีเผ่าวิญญาณสิงร่างอยู่?”

ในความเข้าใจของเขา เผ่าวิญญาณมีความสามารถในการดูดพลังของคนอื่นเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนได้ แน่นอนว่าอาจจะมีวิธีในการเพิ่มพลังให้กับคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน.

“ปรมาจารย์ฟ่านเอ่ยว่าจังหวัดตงไห่ยวีนั้นมีแผนการร้ายที่ใหญ่โตซ่อนอยู่ เกี่ยวกับความเป็นความตายของแผ่นดินใหญ่ เขามายังอาณาจักรเจิ้นเหว่ย หรือว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับราชันย์เจิ้นเหว่ยกัน?”จุนซ่างเซียวครุ่นคิด.

“ปวดหัวจริง ๆ.”

เขาที่นอนศีรษะถูไปมากับหมอน.

ระบบเอ่ย “ไม่ว่าราชันย์เจิ้นเหวิ่ยจะถูกเผ่าวิญญาณสิงหรือไม่? หรือมีแผนการใหญ่อะไร เรื่องเร่งด่วนก็คือ....”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวตัดทันที “หาปรมาจารย์ฟ่าน!”

“ไม่ผิด.”

“เฮ้อ.”

จุนซ่างเซียวที่ถอนหายใจ “การเดินทางมายังจังหวัดหนานตงยวี ไม่เพียงไม่ได้เที่ยวเล่น ยังเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องซับซ้อนซะแล้ว.”

ตอนแรก เขาคิดว่าจะเป็นเรื่องที่ธรรมดาไม่มีอะไรต้องกังวล.

ทว่ายิ่งคิดยิ่งรับรู้ บอกได้ว่าอาณาจักรเจิ้นเหว่ยนั้นไม่ธรรมดา ยิ่งคิดก็ยิ่งมีพิรุธ.

“เผ่าวิญญาณสารเลว!”

จุนซ่างเซียวที่บ่นอุบอิบ “เพราะว่าพวกเจ้า ทำให้บิดาต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่ คิดจนสมองจะบวมแล้ว.”

ระบบเอ่ย “โฮสน์และศิษย์ได้รับกายาโบราณจากเหล่าราชันย์ยุทธ์ มีภารกิจช่วยกอบกู้โลก เรื่องนี้ไม่สามารถผลักความรับผิดชอบได้.”

......

วันถัดมา.

จุนซ่างเซียวและศิษย์ยังคงปลอมตัว เข้าไปยังเมืองที่แตกต่างกัน ซึ่งที่ลานจัตุรัสก็มีพิธีประธานพลังเช่นกัน.

หลังเย่ซิงเฉินและเหออู๋ตี้ได้เห็น ก็กล่าวด้วยความอัศจรรย์ใจออกมาเช่นกัน “แสงสีแดงที่ปกคลุมนั่น สามารถยกระดับพลังบ่มเพาะได้ เป็นเรื่องที่เหลื่อเชื่อมาก!”

พวกเขาเห็นเด็กที่ไม่มีพลังบ่มเพาะตัดผ่านระดับไปถึงระดับอาจารย์ยุทธ์ แม้นว่าจะประหลาดใจ ทว่าก็ไม่ได้มากมายนัก.

จนกระทั่งสามวันหลังจากนั้น พวกเขาที่เข้ามาใกล้เมืองเจิ้นเหว่ย ก็ได้เป็นพยานกับผู้ฝึกยุทธ์ร้อยคนที่ก้าวไปถึงระดับบรรพชนยุทธ์ แสงสีแดงที่ทำให้พวกเขากลายเป็นกษัตริย์ยุทธ์ ภายในใจก็สั่นไหวขึ้นมา!

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุกไปมาอย่างแรง.

แม้นว่านิกายนิรันดรจะมีรูปแบบการบ่มเพาะที่ทำให้ศิษย์ตัดผ่านไปยังระดับกษัตริย์ยุทธ์ ทว่าก็ต้องใช้ทรัพยากรมากมาย ทั้งเม็ดยาและศิลาวิญญาณนับไม่ถ้วน หากแต่คนเหล่านี้เพียงแค่ถูกแสงแดงปกคลุม ก็สำเร็จแล้ว.

หากไม่เพราะว่าการป้องกันรูปปั้นนั้นเข้มงวด แม้แต่มีค่ายกลปกคลุมอยู่ โกวเซิ่งคงทะลวงเข้าไป ตรวจสอบสิ่งที่ซ่อนเอาไว้ด้านในอย่างแน่นอน!

“หืม?”

จุนซ่างเซียวที่รู้สึกเศร้าใจ ทันใดนั้นก็พบว่ากลุ่มกษัตริย์ยุทธ์ที่เพิ่งตัดผ่านระดับนั้น ดวงตามีแววแสงสีแดงเรื่อ ๆอยู่ ใบหน้าของเขาถึงกับชะงักงันไปในทันที.

“ที่เรียกว่าราชันย์ประทานพลังนั้น ถึงจะยกระดับพลังบ่มเพาะขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็แลกมาด้วยการถูกควบคุมอย่างงั้นรึ?”

......

นอกเมือง.

ขณะที่จุนซ่างเซียวนำศิษย์เดินทางอยู่นั้น.

เขาเห็นสตรีที่งดงามผู้หนึ่งที่นอนเกลือกลิ้งไปบนพื้น ร้องไห้ด้วยความเศร้าโหยหวนสะอื้นไม่หยุด “พี่เฟิง ท่านบอกจะแต่งกับข้า ทำไมไปยังวังหลวงแล้วไม่กลับมาอีกล่ะ.....”

วังหลวง.

คนที่ได้รับเลือก ประทานพลังจากราชันย์ใช่ไหม?

จุนซ่างเซียวที่จำได้ว่า เหล่าผู้เยาว์ที่ได้รับพลัง ถูกนำเข้าไปในวังหลวง รับใช้ราชันย์เจิ้นเหว่ยถือเป็นเกียรติประวัติที่น่ายกย่องของพวกเขา.

“เจ้านิกาย.”

หลี่ชิงหยางเอ่ย “หากเดินทางเรื่อย ๆ ราว ๆ สองชั่วยาม น่าจะถึงเมืองเจิ้นเหว่ยแล้ว.”

จุนซ่างเซียวที่เห็นสตรีที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ก่อนที่จะโบกมือ “พวกเราไป.”

......

หลังจากสองชั่วยาม.

จุนซ่างเซียวที่นำศิษย์ไปหยุดที่ประตูเมืองเจิ้นหยาง.

กล่าวได้ว่าขนาดของมันนั้นไม่ได้ด้อยกว่าเมืองจักรพรรดิต้าจุนเลย.

ทวีปชิงหยุนนั้นมีเก้าจังหวัด ถึงแม้นว่าจะไม่ค่อยมีสงคราม แต่กระนั้นก็ไม่มีใครกล้าโจมตีเมืองจักรพรรดิแน่ ดังนั้นหลายพันปีมานี้ ทำให้เมืองจักรพรรดิต้าจุนนั้นดูคึกคัก ผู้คนคับคั่งมากกว่าเมืองหลวงจังหวัดอื่น ๆ.

แน่นอน.

จากกลิ่นอายของเมืองเจิ้นเหว่ย ดูเหมือนว่าจะเหนือกว่าเมืองจักรพรรดิต้าจุนด้วยซ้ำ.

จุนซ่างเซียวและศิษย์ที่หยุดที่หน้าประตู สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าเกรงขาม ราวกับว่าพร้อมออกรบทุกเมื่อ!

“ไป.”

เหล่าทหารผู้คุ้มกันประตูตรวจสอบบัตรประจำตัวอย่างระเอียด.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้าไปด้านใน พบว่าในครรลองสายตาของพวกขนั้น พบรูปปั้นยักษ์ที่ใหญ่กว่าเมืองใด ๆ!

“ราชันย์เจิ้นเหว่ย.”

“ข้า จุนซ่างเซียวมาหาแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด