Chapter 1038 ออกเดินทางสู่จังหวัดตงไห่ยวี
เรือรบตงกู่ได้มาจากพิภพสงคราม จุนซ่างเซียวยังไม่เคยนำมาใช้ในทวีปชิงหยุนเลย หากไปยังจังหวัดตงไห่ยวี แน่นอนว่าต้องใช้มัน.
เรืองนี้ใช้ศิลาวิญญาณยิ่งสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งเร็วเท่านั้น มีพลังป้องกันที่ไม่ธรรมดา ถึงจะเป็นทะเลที่มีอันตรายมากมาย น่าจะสามารถข้ามผ่านได้โดยง่าย.
“ตัดสินใจแล้ว.”
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ“พรุ่งนี้ออกเดินทาง.”
ดูเหมือนว่าปรมาจารย์ฟ่านจะรีบร้อนส่งขวดลอยน้ำมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาจจะเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของแผ่นดินใหญ่ ดังนั้นจึงต้องรีบไป ไม่ว่าเรื่องจะเป็นอย่างไร ดูเหมือนว่าจะต้องไปตรวจสอบดูก่อน.
โกวเซิ่งคิดเช่นนั้น ไม่ใช่เพราะจะช่วยเหลือปวงประชา.
สิ่งที่กังวลในเวลานี้เขาเกรงว่าที่จังหวัดตงไห่ยวีนั้น อาจจะมีเผ่าวิญญาณอยู่.
หากว่าสามารถยึดครองร่างไต่ลู่ได้ ก็ยึดร่างคนอื่น ๆ ได้เช่นกัน ลำพังพลังกลืนกินที่ยกระดับความแข็งแกร่งขึ้นทันที แน่อนว่ามันคือหายนะดี ๆ นี่เอง.
ระบบกล่าวชม“โฮสน์สามารถคิดเช่นนี้ได้ ถือว่าเป็นโชคของทวีปชิงหยุนจริง ๆ.”
“อีกอย่าง.”
จุนซ่างเซียวสีคางไปมา เอ่ยออกมาว่า“จังหวัดโพ้นทะเลควรจะมีทรัพยากรมากมาย หากไม่พบเหมืองแร่ศิลาวิญญาณสักแห่งสองสามแห่ง การเดินทางครั้งนี้ขาดทุนแหงม ๆ.”
“......”
ระบบที่หมดคำพูดในทันที.
นี่คิดจะไปช่วยคนอื่น ๆ หรือไปทำร้ายคนอื่นกัน!
“เจ้านิกาย!”
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อก้าวเข้ามา เอ่ยออกไปว่า“ศิษย์ยินดีที่จะไปจังหวัดตงไห่ยวีด้วย!”
“ตกลง.”
จุนซ่างเซียวเห็นด้วย.
จังหวัดตงไห่ยวีและเก้าจังหวัดแผ่นดินใหญ่แยกกันออกมาหลายหมื่นปีแล้ว การไปมาค่อนข้างยากลำบาก เป็นไปได้ว่าวัฒนธรรมต่าง ๆ คงจะแตกต่างกันไปแล้ว การนำศิษย์ไปด้วยก็ถือว่าไปหาประสบการณ์อย่างหนึ่ง.
“เจ้านิกาย!”
เย่ซิงเฉินที่ก้าวเข้ามา “ข้าขอไปด้วย!”
“ไปเตรียมตัว.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “พรุ่งนี้กินอาหารเช้าแล้ว ออกเดินทาง.”
“จูเหริน...”เปปป้าที่ยืนอยู่ด้านนอก เอ่ยเสียงเบา“ข้าไปด้วยได้หรือไม่?”
“ไม่มีปัญหา.”
“ขอบคุณจูเหริน!”
เขาเห็นเปปป้า จุนซ่างเซียวก็นึกอะไรได้ทันที รางวัลจากภารกิจล่าสุด วิชาหลอมปฐพีระดับกลาง เขาที่เอ่ยออกมาเสียงเบา “น่าจะเป็นให้สัตว์วิญญาณเรียน.”
“ฟิ้ว!”
เขาเปิดฟังก์ชันหอสัตว์วิญญาณ พร้อมกับส่งวิชาหลอมปฐพีขั้นกลางเข้าไป.
วิชาสัตว์ : วิชาหลอมปฐพีขั้นกลาง.
ประโยชน์ ทำให้สัตว์พันธะสัญญาเข้าใจทักษะควบแน่นผืนปฐพีได้.
เงื่อนไข : สัตว์ธาตุปฐพี 1/1 แกนผลึกธาตุปฐพีระดับเก้า 10/20 และ......
“รางวัลสำหรับเปปป้าจริง ๆ!”
ดูเหมือนว่าขาดแกนปฐพีขั้นเก้าระดับสูงอยู่ 10 ดังนั้นจึงไม่สามารถกดเรียนรู้ได้.
“จังหวังตงไห่ยวีควรจะมีแกนผลึกฐานปฐพีระดับสูงใช่ไหม.”จุนซ่างเซียวกล่าวพึมพำ.
......
เช้าวันถัดมา.
หลิวหว่านซีที่เตรียมอาการให้กับทุกคน และกินอาหารเสร็จ ก็มารวมตัวกันที่ลานยุทธ์.
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่โบกมือ นำเรือรบตงกู่ออกมา ขณะมันขยายขนาดหลายสิบจั้งออกมาลอยอยู่บนอากาศ.
“ว้าว ๆ!”
หลิวหว่านซีและเหยาเมิ่งหยิงที่อ้าปากหวอ.
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและศิษย์หลักต่างก็เคยเห็นที่พิภพสงครามมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ประประหลาดใจอะไร.
“เด็ก ๆ.”
จุนซ่างเซียวดีดนิ้ว “ขึ้นเรือ.”
“ฟิ้ว!”
เย่ซิงเฉินที่ก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ.
แขนทั้งสองที่กอดอก ยืนเด่นเป็นสง่า.
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อ เหออู๋ตี้ สามคนที่บินขึ้นไปบนเรือเช่นกัน.
การเดินทางไปยังจังหวัดตงไห่ยวีครั้งนี้ มีศิษย์หลักสี่คนเดินทางไปด้วย คนอื่น ๆ ให้อยู่ที่นิกาย.
ส่วนสัตว์พันธสัญญา เสี่ยวหลงและเซียวโม่เซียนเลือกที่จะอยู่นิกาย ดังนั้นจึงมีเพียงเปปป้าที่ตามไป ทำให้ตอนนี้มันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะว่าน้อยครั้งจะได้ออกไปกับเจ้านาย.
ราชาสัตว์วางแผนที่จะตามไปด้วยเช่นกัน ทว่าหากไปจังหวัดตงไห่ยวีแล้วก็ไม่มีคนที่แข็งแกร่งอยู่ และยังไม่รู้ว่าจะกลับมายามใด ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงให้เขาอยู่ที่นี่รับผิดชอบดูแลปกป้องนิกาย.
“สาวน้อย เตรียมข้าวผัดเสร็จยัง?”
“เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว!”
หลิวหว่านซีที่ส่งมอบแหวนมิติออกมา พร้อมกับรอยยิ้ม“ด้านในนั้นมีข้าวผัดหลายพันชุด เพียงพอให้เจ้านิกายและศิษย์พี่กิน ได้เป็นเวลานาน.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่กระโดดขึ้นเรือรบตงกู่ ก่อนที่จะตรวจสอบแกนพลังงาน พร้อมกับโบกมือให้ศิษย์ กล่าวออกมาว่า“เปิ่นจั้วจะไปจังหวัดตงไห่ยวี บางทีอาจจะต้องใช้เวลานาน พวกเจ้าก็ฝึกฝนบ่มเพาะให้หนักด้วย.”
“รับทราบ!”
ศิษย์ทุกคนที่กล่าวตอบรับเสียงดัง.
“ความเร็วของมันเร็วเล็กน้อย พวกเจ้าเกาะให้แน่น.”
จุนซ่างเซียวเตือนศิษย์ทั้งสี่ จากนั้นก็ก้าวไปยังห้องโดยสาร จิตสัมผัสเปิดใช้งานค่ายกล ที่เวลานี้เริ่มเปล่งแสงสว่างออกมารอบลำ.
“ศิษย์น้องเย่ ยืนอยู่บนดาดฟ้าเกาะขอบด้วย เดี๋ยวได้รับอันตราย.”หลี่ชิงหยางเอ่ย.
“ฮึ.”
เย่ซิงเฉินที่แค่นเสียง ทว่ายกมือวางบนขอบรั้วเท่านั้น.
แม้นว่านี่จะเป็นเรือเหาะ แต่ก็บินได้เร็วมาก ๆ.
“ฟิ้ว ----”
ในเวลานั้น ลวดลายค่ายกลที่ส่องสว่าง ศิลาดาราหกแฉกที่เป็นเชื้อเพลิง พุ่งออกไปยังทิศทางตะวันออกเฉียงใต้ทันที.
“โอ้วสวรรค์!”
“เร็วขนาดนี้เลยรึ?”
ศิษย์แต่ละคนที่รวมตัวกันอยู่บนลานยุทธ์ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
นี่คือเรือรบโบราณที่เหาะได้ พริบตาเดียวก็หายไป จากเทือกเขาไท่กู่แล้ว.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม—”
สายลมที่พัดโกรก เผ้าผมสีดำที่ปลิวสยายไปกับสายลม.
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและเหออู๋ตี้ แม้นว่าจะยืนได้มั่น ทว่าเรือรบนั้นเร็วมาก ตอนนี้พวกเขาที่เอียงลู่ไปตามลมที่กวาดซัดเข้ามาแล้ว.
หากแต่เย่อาหนิวตอนนี้ถึงกับเสียหลักลอยออกไปทันที.
ในเวลานั้นมือทั้งสองข้างของเขาที่คว้าเชือกเอาไว้แน่น กลายเป็นเหมือนกับว่าวที่ลู่ลม สายสะบัดอย่างบ้าคลั่ง เขาที่ได้แต่ส่งเสียงออกมา “เร็ว เร็วไปแล้ว!”
......
จากจังหวัดซีเหนียนหยางไปยังจังหวัดหนานซือ ถึงจะเป็นจักรพรรดิยุทธ์ที่บินเต็มกำลัง ก็จำเป็นต้องใช้เวลาสองชั่วยาม ทว่าด้วยเรือรบตงกู่ สามารถบินไปถึงชายฝั่งทะเลในเวลาสิบนาทีได้.
“เจ้านิกาย.”
หลี่ชิงหยางที่ก้าวเข้ามาในห้องโดยสารเอ่ยออกไปว่า“ไปยังจังหวัดตงไห่ยวีที่เต็มไปด้วยน้ำทะเล หากไม่ชินทาง อาจทำให้พวกเราหลงได้.”
เขาที่อ่านหนังสือมาเยอะ ทำให้เข้าใจเกี่ยวกับทะเลตะวันออกดี.
“ก็ใช่.”
จุนซ่างเซียวที่ลดความเร็วเรือลง สีคางไปมา “คงต้องหาต้นหนนำทางสินะ.”
“พรึด โครม!”
ที่ด้านนอกดาดฟ้าเรือ ราชันย์รัตติกาลที่หล่นลงมา เผ้าผมกระเซอะกระเซิง ได้แต่คำรามในใจ“เขาต้องตั้งใจอย่างแน่นอน!”
“ที่ชายฝั่งมีเมืองที่ชื่อเสียงคือเมืองโปไห่ พวกเราสามารถไปหาต้นหนที่มีประสบการณ์ที่นั่นได้.”หลี่ชิงหยางเอ่ย.
“ไป ไปเมืองโปไห่กัน.”
จุนซ่างเซียวยอมรับข้อเสนอของศิษย์ลำดับสอง ก่อนที่จะบังคับเรือรบให้บินไปยังเมืองโปไห่ทันที.
......
เมืองโปไห่.
นี่คือเมืองชายทะเลที่ติดกับทะเลตะวันออกของจังหวัดหนานซือ เพราะว่าต้องใช้ชีวิตอยู่กับทะเล ทำให้มีเรือหาปลาจำนวนมาก.
วันหนึ่ง.
ท้องฟ้าสีน้ำเงิน อากาศปลอดโปร่ง.
คนธรรมดามากมายที่กำลังยุ่งอยู่กับงานตัวเอง ทว่าทันใดนั้นก็สัมผัสได้ว่าท้องฟ้าที่มืดลง ทำให้เงยหน้าขึ้นไปมอง พบกับเรือโบราณที่ยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นในครรลองสายตาพวกเขา.
“เรือ?!”
“เรือบินได้?!”
แววตาของทุกคนที่เบิกกว้างกลมโต.
เหล่าชาวประมงที่หวาดผวาไปตาม ๆ กัน.
พวกเขาที่ขับเรือมาตลอดชีวิต นี่เป็นครั้งแรกที่เคยเห็นมันลอยบนท้องฟ้าได้!
“ทุกท่าน.”
จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าเอ่ยออกมาว่า“เปิ่นจั้วกำลังจะเป็นจังหวัดตงไห่ยวีวันนี้ มีต้นหนคนใหนที่มีประสบการณ์นำทางได้เป็นพิเศษ.”
หลี่ชิงหยาง“......”
ตอนแรกคิดไว้ว่าจะทำตัวไม่โดดเด่นค่อย ๆ หาต้นหนมากฝีมือ ท้ายที่สุดเจ้านิกายกับนำเรือรบตงกู่ ลอยอยู่บนท้องฟ้าเมือง พร้อมกับประกาศรับคนอย่างโจ่งแจ้ง.
ปรมาจารย์ฟ่านระบุว่าตอนนี้เร่งด่วนมาก ทำให้จุนซ่างเซียวใช้วิธีการที่ง่ายที่สุดนั่นเอง.
“เขาคือจุนซ่างเซียว!”
“เจ้านิกายนิรันดร!”
“โอ้วสวรรค์ นี่เขามาเมืองโปไห่ได้อย่างไร แล้วยังมีเรือเหาะได้อีก?!”
เสียงของจุนซ่างเซียวบนเรือเหาะได้ ทันใดนั้นก็สร้างความโกลาหลขึ้นมาทันที.
“เจ้านิกายจุน!”
ในเวลานั้น ชายชราขากระเผลกที่เดินค้ำไม้เท้าก้าวออกมา สายตาที่เป็นประกายแตกต่างกับคนอื่น ๆ เอ่ยออกมาว่า“เหล่าฟู่เคยไปยังจังหวัดตงไห่ยวี ยินดีที่จะนำทางท่าน!”
จุนซ่างเซียวที่จ้องมองลงไป พร้อมกับมองเขาชั่วขณะ ก่อนที่จะปล่อยพลังวิญญาณ ดึงเขาขึ้นมาบนเรือ.
“เขา.”
“......”
หลี่ชิงหยางที่ดวงตาส่ายไปมา.
การเดินทางข้ามทะเลไปยังจังหวัดตงไห่ยวีเต็มไปด้วยอันตราย เจ้านิกายกับเลือกต้นหนอย่างง่าย ๆ แบบนี้รึ?!
“ขอบคุณเจ้านิกายจุน!”ชายชราที่ขากระเผกยกมือประสาน แววตาพริบตาหนึ่งของเขาที่ซ่อนความเย็นยะเยือบเจ็บปวดที่ยากจะมองเห็นได้เอาไว้.
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ“ชายชรานี้ต้องมีประวัติความเป็นมาแน่.”
“.....”
ระบบกล่าวล้อ “ข้าก็เห็น ใครก็ตามล้วนแต่มีประวัติหมดล่ะ เมื่อพบกับโฮสน์!”
......
“ออกเดินทาง!”
จุนซ่างเซียวจ้องมองไปยังทะเลที่กว้างใหญ่ กล่าวเสียงดัง “ไปยังจังหวัดตงไห่ยวี!”
เย่ซิงเฉินได้ยินคำพูด เร่งรีบเกาะราวทันที.
อาหนิว มีประสบการณ์แล้วนั่นเอง.
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและคนอื่น ๆ ที่เร่งรีบหาที่เกาะเช่นกัน.
“ฟิ้ว ----”
ในเวลาต่อมา เรือรบตงกู่ก็หายไปจากครรลองสายตาของชาวยุทธ์ในเมืองโปไห่อย่างรวดเร็ว พุ่งหายไปในเส้นขอบฟ้า.
“ความเร็วนี่มัน.....”
ชายชราขากระเผกที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต กล่าวด้วยความตกใจ “เร็วเกินไปแล้ว!”