Chapter 1036 เรื่องของพิภพสงคราม
สิ่งที่น่าดูชมที่สุดในโลกใบนี้ก็คือการได้ชมการต่อสู้ของยอดฝีมือไงล่ะ!
แน่นอนเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ยิ่งได้ดูการต่อสู้ของเหล่ายอดฝีมือ ย่อมมีประโยชน์ในการยกระดับฝีมือของตัวเองด้วย.
เหล่าผู้ชมจากพิภพต่าง ๆ ที่มาชมการต่อสู้สองครั้ง ต้องจ่ายออกไปด้วยแร่ครั้งล่ะ 10 จิน นับว่าเป็นราคาที่ไม่ธรรมดาเลย!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จุนซ่างเซียวที่นำสุดยอดอาวุธออกมา ในเวลาอันสั้นสังหารอสุรกายสงครามนับหมื่นไป กล่าวได้ว่าทำให้พวกเขาตื่นตะลึง จนถึงขั้นหวาดกลัว.
ไม่คุ้มรึ ไม่คุ้มอย่างแน่นอน ยิ่งรอบที่สองมันเร็วเกินกว่าพวกเขาจะได้ประโยชน์!
เห็นท่าทางใบหน้าบิดเบี้ยวของเหล่าผู้ชม จุนซ่างเซียวในใจ“ถูกข้าไถเป็นอย่างไรล่ะ?”
“.....”ระบบที่กลายเป็นเงียบ.
นี่คือการกรรโชกทรัพย์อย่างชัดเจน แน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่กล้าขัดขืนได้แต่ต้องจ่ายออกมา.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อที่บินออกไป เก็บชิ้นส่วนชุดเกราะเข้าไปในแหวนมิติ.
ก่อนหน้านี้ 5000 ตอนนี้อีกหนึ่งหมื่น.
เศษชิ้นส่วนเหล่านี้ ถูกเก็บไปจนเกลี้ยงไม่มีเหลือ.
“เจ้าหุบเขาเข่อ.”
จุนซ่างเซียวที่หันหน้ากลับไป พร้อมกับยกมือประสานไปด้านหน้า “จบเรื่องแล้ว จุนโหมวขอลา!”
“เอิ่ม.....”
เข่อจินหนานที่ตะลึงไม่หาย ทำได้แค่ยกมือประสานรับ ยืนเซ่อจ้องมองคนของนิกายนิรันดรจากไป.
อสุรกายสงครามที่ลงโทษสองครั้ง ส่งกองกำลังที่พร้อมจะทำลายขยี้พวกเขาให้สิ้นซาก แต่กับถูกจัดการไปทั้งหมด ภาพที่เห็นนั้นมันได้สลักประทับในใจของเขาไปแล้ว!
“หวานอร่อย.”
จุนซ่างเซียวที่กลับฐานที่มั่นทวีปชิงหยุนด้วยรอยยิ้ม เพราะว่าหลังจากทำลายอสุรกายสงครามมชุดที่สอง สำเร็จภารกิจลับ ได้รับ 20,000 และยังได้รับยันต์ประสบการณ์อีกตั้งสองใบ.
การลงโทษพิภพสงครามแบบนี้ไม่ต่างจากส่งมอบรางวัลมาให้กับเขา!
......
“จู่ซ่าง.”
บนมิติที่เลือนราง ชายชราหลังค่อมที่เอ่ยด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ “อาวุธของเจ้านั่นแข็งแกร่งเล็กน้อย.”
สตรีในม่านหมอก เอ่ยกล่าวออกมาเบา ๆ “การลงโทษครั้งนี้ เปิ่นตี้ลงโทษอย่างเข้มงวดแล้ว แต่ไม่สามารถทำอะไรทวีปชิงหยุนได้เอง โถงพิภพคงพูดอะไรไม่ได้แล้ว.”
จะอย่างไร การลงโทษอีกฝ่าย ก็ไม่ต่างจากส่งมอบประสบการณ์ให้เท่านั้น.
กล่าวได้ว่าการส่งอสุรกายสงครามระดับสูงหนึ่งหมื่นตนออกไป ถือว่ามีความยากระดับนรกเลยก็ว่าได้.
“จู่ซ่าง.”
ชายชราหลังค่อมเอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง“เจ้าคนนามจุนซ่างเซียวนั่นไม่ธรรมดาเลย บางทีหลังจากนี้.....”
สตรีในม่านหมอกเอ่ยออกมาว่า“ในจักรวาลนี้มีคนไม่ธรรมดามากมาย นี่เป็นเพียงความสำเร็จขั้นแรกเท่านั้น.”
“ไป.”
“พวกเรากลับ.”
“รับทราบ!”
ร่างทั้งสองที่หายไปจากบนอากาศที่ว่างเปล่าเงียบ ๆ.
......
ฐานที่มั่นทวีปชิงหยุน.
หลังจากจุนซ่างเซียวกลับมาถึง เก็บดาบหนานโชว เขาก็ขาอ่อน หน้าผากที่หลั่งเหงื่อเป็นเม็ด ๆ เต็มไปหมด.
หากไม่เพราะว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นมาอีกขั้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เกรงว่าคงทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว.
ดาบหนานโชวรูปแบบที่สอง จะมีสภาพอ่อนแอสองชั่วโมง และพลังวิญญาณไม่ฟื้นคืนสองเดือน หลังจากเก็บดาบเข้าฝัก เขาก็กลายเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น.
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร.”
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ“เข้าไปในเขตแดนลับกาลอากาศก็หาย.”
“ศิษย์ทุกคนรับคำสั่ง กลับนิกายนิรันดร!”
“รับทราบ!”
ภารกิจฐานที่มั่นของทวีปชิงหยุนนั้นสำเร็จแล้ว สามารถเข้า ๆ ออก ๆ แม้แต่เข้ามาเก็บประสบการณ์ได้เป็นครั้งคราวก็พอ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่เป็นระยะยาว.
อย่างไรก็ตาม!
ก่อนที่จะไป จุนซ่างเซียวได้เข้าไปใช้งานร้านสมนาคุณ นำแต้มบุญซื้อเม็ดยากลั่นต้นกำเนิด และทักษะยุทธ์ทั้งหมดมา.
แม้นว่าเม็ดยากลั่นต้นกำเนิดจะด้อยกว่าเม็ดยารวมวิญญาณของเขา ทว่าอย่างน้อยก็มีผลเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะเช่นกัน การนำมันไปใส่ในเครื่องแลกเปลี่ยนอัตโนมัติให้ศิษย์ใช้แต้มแลกเปลี่ยนก็ไม่เลว และทักษะยุทธ์มากมายนั้น เขาสามารถนำไปใช้แลกเปลี่ยนกับยอดวิชาในฟังก์ชันหอตำราได้ด้วย.
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว จุนซ่างเซียวก็ไปหยุดที่หน้าประตูเคลื่อนย้าย.
จ้องมองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม ฐานที่มั่นที่มีระดับนครขนาดใหญ่ ตลอดสิ่งก่อสร้างอำนวยความสะดวกต่าง ๆ พร้อมเอ่ยออกมาว่า“ไว้ว่างข้าจะแวะกลับมา.”
“ฟิ้ว!”
ร่างกายของเขาที่หายไปในทันที.
หากยอดฝีมือพิภพอื่นเห็น แน่นอนคงจะถอยหายใจยาวด้วยความดีใจเป็นแน่.
เพราะว่าปิศาจร้ายได้จากไปแล้ว ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เล็งเป้ามายังพิภพสงคราม พวกเขาสามารถตะเวนไปทั่วอย่างไม่ต้องกังวลใจอีกแล้วนั่นเอง!
......
แท่นบูชาโบราณที่มีใบไม้และเถาวัลย์พันรัด.
ชายชราผมขาวทั่วศีรษะที่นั่งคุกเข่า ในท่าภาวนา.
“วูซซซซซ!”
ในเวลานั้น ที่ด้านหน้าของเขา ปรากฏผังป้ากั้วส่องสว่างเจิดจ้าขึ้นมา
ชายชราผมขาวที่ลืมตาขึ้นมา จ้องมองออกไป ใบหน้าที่ตื่นตะหนึก.“เกิดนิมิตร้าย!”
ภาพอันลางเลือนนั่นเป็นภาพเกาะแห่งหนึ่งที่ปรากฏบนนิมิตของแท่นบูชา.
เวลาเดียวกันข้ามผ่านมาอีกไกลจากเกาะดังกล่าว บนทะเลที่ไร้ที่สิ้นสุด มีเรือลำหนึ่งที่โดดเดี่ยวกำลังแล่นผ่านทะเลมา.
“ทั้งสอง.”
ต้นหนเรือเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “พวกเราผ่านพายุที่รุนแรงมาได้อย่างราบรื่น ขอเพียงมุ่งสู่ทิศตะวันออก สองเดือนจากนี้จะไปถึงจังหวัดตงไห่ยวีได้.”
นายน้อยหยวนนั่งบนห้องโดยสาร จ้องมองท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง ลอบคิดในใจ“ท้ายที่สุดก็หนีมาจากเจ้านั่นได้แล้ว ถึงจะเป็นสองปีก็ไม่บ่น.”
......
นิกายนิรันดร.
จุนซ่างเซียวสภาพอ่อนแอกลับมา ยังไม่ได้มีเวลาเข้าสู่เขตแดนลับกาลอากาศ ก็ได้สอบถามเรื่องราวของยุทธภพก่อน.
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “ยอดฝีมือ 2000 คนที่เข้าสู่พิภพสงครามกลับมาแล้ว ตอนนี้ทำให้ทั่วแผ่นดินโกลาหลขึ้นทีเดียว.”
“คาดไว้แล้ว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“......”
ลี่ลั่วฉิวค่อนข้างตื่นตะลึงเหมือนกัน “เหล่าตระกูลใหญ่หลากหลายจังหวัดดูเหมือนว่าจะมีปัญหาภายในขึ้นเช่นกัน เหตุผลนั้น เมื่อเหล่ายอดฝีมือเข้าสู่พิภพสงคราม พวกเขาได้ส่งมอบตำแหน่งประมุขให้กับลูกหลาน ทว่า ก็มีเหล่าอาวุโสบางคนแย่งชิงตำแหน่งไป ตอนนี้ก็เลยต่อสู้แย่งตำแหน่งคืน.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่หมดคำพูดไปเหมือนกัน.
“และก็มี”ลี่ลั่วฉิวรายงายต่อ“ผู้สืบทอดหลายคน เมื่อไม่มีอาจารย์และผู้นำอยู่ ก็เริ่มออกลาย พวกเขาบางคนที่ดื่มเหล้าเคล้านารีทุกวี่ทุกวัน ไม่สนใจเรื่องราวในนิกายหรือตระกูลเลย.”
“เมื่อเป็นเช่นนั้น.”จุนซ่างเซียวเอ่ย “การเข้าไปในพิภพสงครามครั้งนี้ ก็ทำให้พวกเขาได้รับรู้ความเป็นจริงมากมายเลยสินะ.”
“อ๋า ใช่แล้ว.”
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “เซียวโม่ตัดผ่านระดับไปยังจักรพรรดิยุทธ์แล้ว.”
“นับเป็นข่าวดี.”จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม “นั่นก็อธิบายว่านิกายไท่เสวียนเซิ่งไม่ธรรมดาเหมือนกัน.”
ลี่ลั่วฉิวกล่าวต่อ“แต่มีข่าวร้าย เหล่าคนระดับสูงกลับจากพิภพสงครามแล้ว เกรงว่าเซียวโม่คงยากจะได้ตำแหน่งอาวุโส.”
“บอกเขา.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “สถานะการณ์เปลี่ยนแล้ว ให้เขากลับมา.”
ด้วยความแข็งแกร่งของนิกายนิรันดร เขาสามารถก้าวเข้าไปประจันหน้ากับอีกฝ่ายเพื่อทวงความยุติธรรมได้อย่างตรง ๆ ดังนั้นการให้ซูเซียวโม่เป็นสายลับต่อ มีแต่จะทำให้เสียเวลา.
นอกจากนี้ เรื่องที่ฟางหลิงยวีนั้นสร้างความอับอายให้กับศิษย์ของเขา ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งใด เขาจะเป็นคนจัดการเอง.
......
นิกายไท่เสวียนเซิ่ง.
ไม่กี่วันก่อนซูเซียวโม่ที่นั่งอยู่ที่หอคอยควบคุมวิญญาณสัมบูรณ์.
เขาได้รับข่าวจากเจ้านิกายแล้ว ว่าให้เขากลับ ตอนนี้หัวใจของเขาที่เต้นไปมาไม่เป็นจังหวะ.
กลับนิกายนิรันดรรึ?
“ไม่ได้ ๆ!”
ซูเซียวโม่ที่คิดในใจ “ข้ายังไม่ได้เป็นอาวุโสเลย กลับไป ก็อายพรรคพวกสิ!”
“เจ้านิกาย.”
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “ซูเซียวโม่ส่งข่าวมาว่า จะยังคงเป็นสายลับต่อไป.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “เจ้าเด็กนี่เสพติดการเป็นสายลับไปสะแล้ว.”
ในเมื่อซูเซียวโม่ต้องการทำงานต่อ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ขัด ต้องไม่ลืมว่า การที่สามารถแฝงตัวในนิกายใหญ่ได้ ก็จะทำให้เขาได้รับรู้ข่าวและผลประโยชน์อีกหลายอย่างด้วย.
“เพ่ย!”ระบบเอ่ย.
“เจ้านิกาย.”
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “ที่ชายฝังของจังหวัดหนานตงซือได้ปรากฎขวดลอยน้ำจำนวนมาก มีข้อความขอความช่วยเหลือจากปรมาจารย์ฟ่าน นอกจากนี้ยังมีหมายเหตุว่าเร่งด่วนด้วย.”
“เร่งด่วน?”
จุนซ่างเซียวที่เคาะโต๊ะเบา ๆ ครุ่นคิดในใจ“เศษเกราะมากมายได้มาจากพิภพสงคราม เพราะว่าไม่ใช่แร่บริสุทธ์จึงยากที่จะใช้ฟังก์ชัน ตีเหล็กหลอมขึ้นมาได้ หากมีปรมาจารย์ฟ่าน ของเหล่านี้อาจจะนำมาทำประโยชน์ได้หรือไม่?”
ระบบเอ่ย “เจ้าจะไปจังหวัดตงไห่ยวี ต้องหาเหตุผลให้กับตัวเองด้วยรึ?”
จุนซ่างเซียวเอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง“หากไม่ได้ประโยชน์อะไร แล้วจะไปทำไมกัน.”