Chapter 1031 นิกายนิรันดร ปะทะ ห้าพันอสุรกายสงคราม
โจวหงที่เพิ่งตัดผ่านระดับได้ไม่นาน แต่กระนั้นก็สามารถสังหารอสุรกายสงครามระดับเหลืองหลายร้อยตนได้ ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน.
เกรงว่าระดับจักรพรรดิยุทธ์ของเขานั้น พลังโจมตีเทียบเท่ากับระดับปราชญ์ยุทธ์เลย แน่นอนว่าพลังโจมตีที่ทรงพลังขนาดนั้นเพราะเป็นผลของทักษะเทพกระบี่เหมันต์ด้วยนั่นเอง.
จุนซ่างเซียวที่ยกระดับด้วยน้ำยาพรสวรรค์กระบี่ ทำให้เขาเป็นปราชญ์สองวิถี ยุทธ์และกระบี่ จึงดูทรงพลังกว่าปรกติ หากนับเพียงแค่วิถีกระบี่เพียงสายเดียวคงไม่มีทางที่จะเทียบกับอีกฝ่ายได้แน่.
“แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?”
เซียวจุ้ยจื่อที่อยู่ใกล้ ๆ ชะงัก เผยแววตาประหลาดใจออกมาเช่นเดียวกัน.
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานั้น อสุรกายสงครามที่พุ่งเข้ามา ถูกทะลวงไปที่หมวกเกราะทันที.
“บอกกี่ครั้งแล้ว ในสนามรบนั้นไม่ควรประมาท.”
เย่ซิงเฉินที่บินมาจากที่ไกล ใบหน้าเต็มไปด้วยความอหังการ.
“......”
เซียวจุ้ยจื่อไม่เอ่ยอะไรอีก ก่อนที่จะควบคุมกระทะเรือนเมฆาวีระบุรุษลับ“ข้าจะรับผิดชอบป้องกัน เจ้ารับหน้าที่โจมตีก็แล้วกัน.”
“ไม่จำเป็น.”
เย่ซิงเฉินที่พุ่งออกไป เหวี่ยงกระบี่เจิ้นหยางไปมา“เสียเวลาเปล่า ๆ.”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ข้อมือของเขาที่ขยับ ริ้วแสงกระบี่ที่เหวี่ยงออกไปปรากฏแสงสว่างวับวาว!
“ตูมมมม! ตูมมมม! ตูมมมม!”
ในเวลานั้น อสุรกายสงครามสี่ห้าตัว ถูกสะบั้นหมวกไปอย่างรวดเร็ว.
ราชันย์รันติการก็ฝึกฝนเพลงกระบี่ลับเทพกระบี่เหมันต์เช่นกัน แม้นว่าจะไม่สามารถเทียบกับโจวหงได้ ทว่าก็อยู่ในขั้นที่ไม่เลว สามารถโจมตีได้อย่างหนักหน่วงรุนแรง.
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
อีกฝั่ง ราชาสัตว์จื่อหลิงที่พุ่งเข้าไปในฝูงของศัตรู.
เขาที่เหวี่ยงหมัด ระเบิดเสื้อผ้า เหลือแต่กางเกงในสีแดงตัวเดียว.
“......”
ทุกคนที่มุมปากกระตุกไปมา.
เหล่ายอดฝีมือมากมายที่เห็นราชาสัตว์จื่อหลิน เห็นเขาระเบิดเสื้อผ้าหลายครั้งแล้ว พลางกล่าวออกมาในใจ“สภาพนี้ทำให้แข็งแกร่งได้อย่างงั้นรึ?!”
กล่าวได้ว่าสภาพไม่ใส่เสื้อผ้าของถางจู่จื่อนั้นแข็งแกร่งมาก.
เวลานี้เขาที่รับมือกับอสุรกายสงครามระดับปฐพีแปดตัวพร้อมกัน แม้แต่ไม่เสียเปรียบอีกด้วย.
“ไสหัวไป!”
“ครืนนนนนน!”
ราชาสัตว์จื่อหลินที่ต่อยอสุรกายสงครามระดับปฐพีสามตนลอยกระเด็นออกไป.
แข็งแกร่ง ก้าวร้าว!
แม้นว่าเขาจะไม่ได้ฝึกฝนทักษะของนิกายนิรันดร ทว่าก็ได้กลั่นร่างกายจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำให้แข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก!
“ครืนนนนนน---”
อสุรกายสงครามระดับปฐพีที่ลอยกระเด็นออกไปตนแล้วตนเล่า!
“ร้ายกาจจริง ๆ!”
เหล่ายอดฝีมือพิภพต่าง ๆ ที่เฝ้ามองอยู่แทบจะอ้าปากค้างไม่หุบ.
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นราสัตว์จื่อหลินที่จ้องมองไปยังอสุรกายสงครามระดับสวรรค์ มุมปากที่เผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา.
“ฟิ้ว-”
ในเวลานั้นริ้วแสงสีม่วงที่พุ่งโจมตีออกไป.
“ฟิ้ว!”
อสุรกายสงครามระดับสวรรค์ตนดังกล่าวแววตากลายเป็นมืดครึ้ม ก่อนที่จะขยับแขนดาบสั้นที่ปรากฏขึ้นที่มือทั้งสองข้าง ก่อนที่จะฟาดฟันลงมาทันที.
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
เงาดาบที่ฟาดฟันลงมา ทำให้ห้วงมิติแยกแตกออกจากกัน.
พลังดังกล่าวเข้าปะทะกับลำแสงสีม่วงแตกสลายหายไปในทันที.
“ตูมมมม! ตูมมมม! ตูมมมม!”
ริ้วแสงดาบเมื่อครู่นี้ ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง.
“อิ อิ อิ!”
เสียงหัวเราะแปลก ๆ ที่ดังขึ้น ก่อนที่จะเห็นราชาสัตว์จื่อหลินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าอย่างภาคภูมิ ในเวลานี้เขาได้สวมนวมสีชมพู เรียบร้อยแล้ว.
ถุงมือนรกแห่งความโกรธเกรี้ยว ทำให้พลังต่อสู้ของเขาลุกโชนขึ้น!
ความสามารถของเขาเพิ่มพูนขึ้นอีกขั้น!
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ราชาสัตว์จื่อหลินที่ต่อยออกไป กระหน่ำหมัดราวกับพายุ.
ในเวลาเดียวกันอีกส่วนหนึ่งของสนามรบ เสียงฟ้าแลบที่ดังขึ้น หลี่ชิงหยางที่เข้าสู่สนามรบเช่นกัน.
แม้นว่าจะไม่ได้ดูน่าหวาดกลัวเทียบเท่ากับถางจู่จื่อ ทว่าความเร็วของอีกฝ่ายนั้นรวดเร็วจนพวกเขามองไม่ทัน.
ในเวลาเดียวกันศิษย์ของนิกายนิรันดรที่มาถึง ก็เริ่มเข้าสู่สนามรบคนแล้วคนเล่า.
“ดูนั่นเร็วเข้า!”มีใครบางคนที่อุทานออกมาเสียงดัง.
ทุกคนที่จับจ้องมองไปยังหลี่ชิงหยาง ที่เวลานี้กำลังลอยอยู่บนอากาศ สายฟ้าที่เลื่อนไหลออกมาจากคมกระบี่.
“อำนาจสายฟ้า!”
“ซี่!”
สายฟ้ามากมายที่ไหลออกมาไม่หยุด แม้แต่ระเบิดออกไปเป็นช่วง ๆ อีกด้วย.
นี่คือหนึ่งในความสามารถของอาวุธเทวะ แม้นว่าจะไม่ได้ยอดเยี่ยมเท่ากับทักษะจิตสังหารพิฆาต ทว่าก็รุนแรงไม่น้อย.
“ฟิ้ว!”
หลี่ชิงหยางที่มีกายาทัณฑ์สายฟ้า พลังที่ไหลบ่าไปยังกระบี่เป้าสายฟ้าทะลวงสวรรค์ ทันทีที่กระบี่ของเขายกขึ้นก็โจมตีออกไปยังอสุรกายสงครามทันที.
“เปรี้ยง ----”
กระบี่ที่เปล่งแสงเจิดจ้า สายฟ้าที่ส่งเสียงคำรามเลื่อนลั่นกลายเป็นอสรพิษสายฟ้าเลื้อยออกไป.
พลังโจมตีพุ่งทะลวงหมวกเหล็กของอสุรกายสงคราม ตัดแยกออกเป็นสองส่วน.
“อาวุธของเจ้านั่น ไม่ธรรมดาเลย!”ยอดฝีมือคนหนึ่งที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
หลังจากที่หลี่ชิงหยางเข้าสู่สนามรบ กระบี่เป้าสายฟ้าที่เขาถืออยู่นั้น สังหารอสุรกายสงครามตนแล้วตนเล่า.
“ซี่!”
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
ปราณสายฟ้าที่ราวกับมีชีวิตนั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง.
หลี่ชิงหยางที่สะบั้นสังหารอสุรกายสงครามหลายสิบตัวในพริบตาเดียว.
“น่าพรั่นพรึงเกินไปแล้ว!”
“ร้ายกาจจริง ๆ!”
เหล่ายอดฝีมือพิภพต่าง ๆ ที่ตื่นตะลึงครั้งแล้วครั้งเล่ากับอาวุธที่ศิษย์นิกายนิรันดรมี.
สายตาของเข่อจินหนานที่ตื่นตะลึงตกใจเป็นอย่างมาก.
ไม่เพราะว่าการแสดงแกล้งตายในครั้งนั้น หากต้องปะทะกับเจ้านิกายจุนจริง ๆ เขาและศิษย์บางทีคงถูกสังหารไปจนหมดไม่มีเหลือแน่!
“เจ้าหุบเขาเข่อ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้ากลับไปยังฐานที่มั่นก่อน ที่นี่ปล่อยเป็นหน้าที่ของจุนโหมวเอง.”
5000 อสุรกายสงคราม นี่มันของกำนัลชัด ๆ แน่นอนว่าโกวเซิ่งที่หวังที่จะให้ศิษย์ของเขาได้เก็บเกี่ยวแต้มบุญด้วย ไม่มีความจำเป็นต้องแบ่งคนอื่น ๆ.
“ตกลง!”
เข่อจินหนานที่ไม่เกรงใจ ถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว.
เหล่าศิษย์และคนระดับสูงหุบเขาไป่เย่ที่หยุดชะงัก กลายเป็นพวกกินแตงไม่รู้ทันที.
“ศิษย์ทุกคนรับคำสั่ง!”
จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่นอกฐานที่มั่นทวีปหลิงหยวน เอ่ยออกมาว่า“ทำลายพวกขยะนี้ให้หมด!”
“รับทราบ!”
ศิษย์นิกายนิรันดรที่เวลานี้สวมชุดเจิ้นหยาง นำดาบเขี้ยวมังกร หอกเขี้ยวมังกรที่เจ้านิกายมอบให้ พุ่งเข้าหาอสุรกายสงครามอย่างบ้าคลั่ง.
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
ในเวลานั้น ริ้วแสงที่สว่างจ้าปรากฏขึ้นเป็นระยะ ๆ นอกฐานที่มั่นทวีปหลิงหยวน ราวกับงานเทศกาลดอกไม้ไฟ.
“ฟิ้ว--”
ในเวลานั้น ริ้วแสงของลูกศรที่พุ่งออกไปด้วยความเร็วทะลวงหมวกเกราะของอสุรกายสงครามอย่างแม่นยำ พร้อมกับทำให้พวกมันหมดสภาพไปในทันที.
“เย็ดเข้!”
ขณะจ้องมองคันศรเขี้ยวมังกรในมือ ลี่ซ่างเทียนที่เผยความประหลาดใจออกมา“คันศรที่เจ้านิกายมอบให้แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?”
สมาชิกหอฝนพรำนั้น มีความเชี่ยวชาญในการโจมตีระยะไกลเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าการใช้คันศรเขี้ยวมังกรจึงเป็นเรื่องที่ง่ายดาย.
อย่างไรก็ตามหากจะกล่าวถึงการโจมตีระยะไกลที่แข็งแกร่งที่สุด ย่อมต้องเป็นเซียวจุ้ยจื่ออยู่ดี.
ในเวลานี้ เขาที่สะพายกระทะด้านหลัง ถือคันศรเขี้ยวมังกร พร้อมกับง้างสาย ยิงอสุรกายสงครามเก็บทีละตัว ๆ.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
“ตูมมมม---”
ในกลุ่มของศิษย์ หลงจื่อหยางที่สวมเซ็ตเจิ้นหยาง มือซ้ายถือกระบี่เจิ้นหยาง มือขวาถือหอกเจิ้นหยาง เขาปะทะบดขยี้อสุรกายสงครามด้านหน้า เสียงดังกึกก้องน่าเกรงขาม.
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
ลี่เฟย เถียนซี เห่าหลิง และคนอื่น ๆ ที่เล็งเป้าไปยังอสุรกายระดับเหลือง ส่วนระดับลึกล้ำนั้นเป็นหน้าที่เหล่าติงและเจียงเซี่ย.
เหล่าคนระดับสูงของนิกายนิรันดรเวลานี้ กำลังเข้าประหัตประหารกับอสุรกายสงคราม 5000 อย่างเป็นทางการแล้ว!
