บทที่ 640: งูปีกนกและซากปรักหักพัง!
แม้ว่าถังเจิ้นจะรู้มานานแล้วว่ามีซากปรักหักพังของโหลวเฉิงในดินแดนโพ้นทะเล แต่ก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจู่ ๆ ก็จะได้เจอเร็วขนาดนี้!
เพราะตามที่ซือถูหยวนจื่อเล่าให้ฟังนั้นคือมันหายากมาก และส่วนใหญ่ก็ถูกพวกหมานสูทำลายทิ้งไปหมดแล้ว จนถึงขั้นบางที่แม้แต่ซากของกำแพงก็ยังไม่เหลือเลย
ตามรายงานจากทหารเชิ่งหลงคือซากปรักหักพังของโหลวเฉิงที่พบในครั้งนี้มีความสมบูรณ์มาก และไม่มีร่องรอยความเสียหายมากนัก!
หลังจากที่ถังเจิ้นรู้ข่าวเขาก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที
เขามีข้อสงสัยอยู่ในใจเกี่ยวกับดินแดนโพ้นทะเลนี้มากมาย และมีลางสังหรณ์ว่าคำตอบของมันน่าจะอยู่ในซากปรักหักพังของโหลวเฉิงแห่งนี้
แม้เขาจะคาดเดาคำตอบคร่าว ๆ ไว้ในใจแล้วก็ตาม ทว่าหากยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนล่ะก็เขาจะไม่ด่วนสรุป
เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเด็กเล่น แต่เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งจึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมถังเจิ้รถึงระมัดระวังนัก
สิบนาทีต่อมาถังเจิ้นกับนักรบเชิ่งหลงสิบคนกำลังขึ้นเครื่องบินตรงไปยังที่ตั้งของซากปรักหักพังดังกล่าว โดยในระหว่างที่บินอยู่นั้นจะสามารถมองเห็นมอนสเตอร์ต่าง ๆ เป็นครั้งคราวและมีหลาย ๆ ครั้งที่เห็นพวกมันอยู่กันเป็นฝูง
มีมอนสเตอร์มากมายในดินแดนโพ้นทะเล พวกหมานสูต้องต่อสู้กับพวกมันมานานนับปีไม่ถ้วน แต่พวกมันก็ยังสามารถรักษาสภาพที่ค่อนข้างสมดุลเอาไว้ได้ นี่แสดงให้เห็นว่ามอนสเตอร์พวกนี้มันเคี้ยวยากไม่น้อยเลยทีเดียว
การมีอยู่ของมอนสเตอร์เหล่านี้เองที่จำกัดการพัฒนาของพวกหมานสูกับคอยจำกัดจำนวนประชากรให้คงอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคน
แม้จะฟังดูเยอะก็ตาม แต่ว่าดินแดนโพ้นทะเลแห่งนี้มันกว้างใหญ่เกินไปอีกทั้งยังมีความอุดมสมบูรณ์มาก ต่อให้มีพวกหมานสูเพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีกหลายเท่าก็สามารถรองรับได้สบาย ๆ อยู่ดี
ดังนั้นบทสรุปของการวิเคราะห์จึงเป็นการมีอยู่ของมอนสเตอร์เหล่านี้มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พวกหมานสูเติบโตอย่างไร้การควบคุม และยังลดความยากในการพิชิตดินแดนโพ้นทะเลด้วย
เครื่องบินบินไปเรื่อย ๆ ผ่านป่าเขาและทะเลสาบอันกว้างใหญ่ บางครั้งจะใช้ปืนใหญ่ยิงใส่พวกมอนสเตอร์บินได้ที่พยายามจะขวางทาง!
เมื่อผ่านยอดเขาแห่งหนึ่งจู่ ๆ ก็มีงูปีกนกสามหัวตัวใหญ่บินตรงเข้ามาหาทำท่าเหมือนอยากกลืนเครื่องบินทั้งลำลงท้องในอึกเดียว
ระดับการฝึกฝนของมันคือลอร์ด 3 ดาวและถือได้ว่าเป็นเจ้าเหนือหัวของแถบนี้แน่นอน
แต่ก็น่าเสียดายที่ไอ้นี่มันดันมาหาที่ตาย ก็กล้ามาโจมตีเครื่องบินที่ถังเจิ้นนั่งอยู่ แสดงว่ามันไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าไอ้ที่มันกำลังหาเรื่องอยู่คือราชา 2 ดาว!
และผลก็คือก่อนที่มันจะทันได้เข้าใกล้เครื่องก็มีมือใหญ่ยักษ์ที่สร้างจากพลังจิตของถังเจิ้นคว้าหมับเอาไว้ก่อนจะปามันลงพื้นเบื้องล่างอย่างแรง
เสียงตกกระแทกพื้นของมันดังสนั่น ต้นไม้นับไม่ถ้วนหักโค่น ต้นที่หักบางต้นถึงขนาดแทงทะลุกขไปในร่างของมันเลยทีเดียว จนตอนนี้ร่างกายของมันโชกเลือดไปทั้งตัว
งูปีกนกที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่เพียงแต่จะไม่แสดงความโกรธแค้นเท่านั้น แต่มันยังแสดงความหวาดกลัวต่อมนุษย์ที่ปรากฏตัวขึ้นเหนือหัวมันอีกด้วย ดวงตาเย็นเยียบของมันฉายความกลัวออกมาชัดเจน
ทันใดนั้นเองมันก็กระโจนลุกขึ้นแล้วพุ่งเข้าป่าลึกแบบหน้าตั้งโดยไม่คำนึงถึงอาการบาดเจ็บและเลือดที่ไหลยาวเป็นทางเลย
แต่ก็น่าเสียดายที่ก่อนที่มันจะทันได้หนีไปได้ไกลก็มีดาบที่มีเปลวไฟสีดำบินตรงเข้าหัวมัน
ดาบแทงทะลุหัวมันได้ง่ายดายราวกับไม่มีอะไรต้านทานและตอกหัวมันติดกับพื้น
หัวที่เหลืออีกสองหัวต่างแสดอาการแตกต่างกันไป หัวหนึ่งเศร้าโศก ส่วนอีกหัวโกรธแค้น แต่ที่เหมือนกันคือหัวทั้งสองนี้กำลังเงยหน้ามองดูบนท้องฟ้าเหนือหัวตัวเอง
พวกมันได้แยกเขี้ยวอันมหึมาให้เห็น เหมือนมันจะคิดว่าถ้าหนีไม่ได้ก็สู้ตายไปเลยดีกว่า
หากมันคิดแบบนั้นจริง ๆ ล่ะก็นั่นคงเป็นความคิดสุดท้ายของพวกมันตอนยังมีชีวิตแล้วล่ะ เพราะหลังจากนั้นภาพทีพวกมันเห็นจู่ ๆ ก็พร่ามัว รู้ตัวอีกทีคือหัวทั้งสองได้กลิ้งหลุน ๆ ออกจากตัวไปตกในป่าทึบแล้ว
“ใครก็ได้ลงมาเคลียร์ศพไอ้งูนี่หน่อย เอาของที่มีประโยชน์กลับไปให้หมดที”
ตามคำสั่งของถังเจิ้นนักรบหลายคนก็รีบลงเครื่องมาอย่างรวดเร็วและเริ่มลงมือชำแหละศพเจ้างูยักษ์สามหัว
สำหรับถังเจิ้นที่เป็นถึงราชา 2 ดาวนั้นแค่ซากศพของมอนสเตอร์ระดับลอร์ด 3 ดาวไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเขาเลย
แต่ไม่ใช่กับนักรบเชิ่งหลง ไม่ว่าจะเป็นหนัง เขี้ยว เนื้อ เกล็ด ดีงู หรืออื่น ๆ ในตัวมันล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของล้ำค่าที่มีมูลค่ามหาศาล เอาแค่ราคาอย่างเดียวก็พอให้นักรบธรรมดา ๆ เอาไปใช้ได้หลายชาติ...
ดังนั้นเมื่อถังเจิ้นว่าง ๆ ก็จะออกล่ามอนสเตอร์คล้าย ๆ กันนี้บ้างเป็นครั้งคราวและเอาให้เมืองเชิ่งหลงไปจัดการต่อ
ในแง่หนึ่งมันสามารถลดอันตรายและอุปสรรค์ให้แก่ทหารเชิ่งหลงได้ และในอีกแง่หนึ่งมันสามารถเอามาใช้เป็นสิทธิ์ประโยชน์ให้แก่นักรบเชิ่งหลงได้
ตามข้อกฎบังคับของเมืองเชิ่งหลง ตราบใดที่นักรบโหลวเฉิงมีคะแนนมากพอสามารถนำคะแนนดังกล่าวมาหาแลกซื้อวัตถุดิบจากร่างกายของมอนสเตอร์ระดับลอร์ดเหล่านี้ได้ในราคาที่ถูกมาก
จุดประสงค์ของธุรกิจขาดทุนนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้พวกนักรบขยันทำงานหนักเพื่อเพิ่มพูนระดับการฝึกฝนของพวกตนซะ
กลับมาที่เหล่านักรบที่ชำแหละงู เนื่องจากเป็นระดับลอร์ดจึงทำให้งานเสร็จสิ้นได้เร็วมาก
หลังรวบรวมของทั้งหมดแล้วทุกคนก็ขึ้นเครื่องและมุ่งตรงไปยังซากปรักหักพังต่อไป
เป็นพื้นที่ที่มีป่าไม้อันเขียวชอุ่มนี้เมื่อเปรียบเทียบกับที่อื่นแล้วต้นไม้ที่นี่สูงกว่าและมีหินที่ขรุขระโผล่ทะลุต้นไม้ยักษ์เหล่านั้นเป็นหย่อม ๆ
เถาวัลย์ขนาดใหญ่ห้อยย้อยลงมาจากก้อนหินเหล่านั้นและปกคลุมพื้นที่แผ่กว้าง ตามคาคบไม้จนเหมือนกระโจมเต็นท์
ที่นี่มีสัตว์ตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ คล้าย ๆ กับลิงอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้โดยเก็บผลไม้สีแดงบนเถาวัลย์เป็นอาหาร
ขณะที่เครื่องบินบินข้ามท้องฟ้ามาพวกสัตว์ตัวน้อยทั้งหลายต่างก็กรี๊ดกร๊าดวิ่งหนีกันด้วยความหวาดกลัวและหลบซ่อนอยู่ตามซอกเถาวัลย์ จากนั้นก็แอบมองด้วยความหวาดกลัว
สถานที่ที่ถังเจิ้นจะไปคือยอดเขาขนาดยักษ์ที่ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์เช่นกันซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร
ความเร็วของเครื่องบินนั้นเร็วมาก ในชั่วพริบตาก็มาถึงใกล้ ๆ ภูเขายักษ์และร่อนลงจอกอย่างรวดเร็วตามการชี้นำของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน
เมื่อร่างของถังเจิ้นปรากฏตัวขึ้น เหล่าสมาชิกของกองทัพเชิ่งหลงที่รออยู่ที่นี่ต่างหันมามองด้วยความเคารพ
หลังจากที่แสดงความเคารพแล้วหัวหน้าหน่วยก็รายงานสถานการณ์โดยไม่ต้องรอให้เขาออกคำสั่ง
ก็คือเมื่อเช้าวานนี้ทีมค้นหาได้ผ่านมาแถวนี้และพบร่องรอยของกิจกรรมของพวกหมานสูข้าง ๆ ลำธารก็เลยซ่อนตัวรอดู แล้วก็อย่างที่คิดคือมีพวกหมานสูมาออกหาปลาที่นี่
จากประสบการณ์ที่ได้ในช่วงนี้มันบอกว่าถ้ามีพวกมันอยู่ที่นี่ล่ะก็แสดงว่าใกล้ ๆ นี่จะต้องมีอีก ดังนั้นทหารเชิ่งหลงจึงไม่ได้ลงมือแหวกหญ้าให้งูตื่นและรออย่างอดทน จากนั้นก็รอตามรอยไปที่รังของพวกมัน และเมื่อเจอรังของมันก็จะเรียกการยิงสนับสนุนไประเบิดที่ซ่อนของพวกมันซะ
แต่ไม่คาดคิดว่าเมื่อพวกหมานสูเหล่านี้ลุกขึ้นและกำลังจะกลับจู่ ๆ ก็มีมอนสเตอร์โผล่มาและจะจับพวกหมานสูนั่นกินเป็นอาหาร
พวกหมานสูคนหนึ่งเห็นก็ตกใจและรีบวิ่งตรงมายังจุดที่ทหารเชิ่งหลงซ่อนตัวซะอย่างนั้น และแน่นอนว่าเมื่อเจอกันพวกมันก็เงิบไปเลย
ผลก็คือหลังจากการต่อสู้อย่างดุเดือดมอนสเตอร์ก็ถูกยิงตาย ส่วนพวกหมานสูนั้นนอกจากคนหนึ่งที่บาดเจ็บสาหัสที่หนีไปได้แล้วพวกที่เหลือต่างถูกยิงตายหมดเช่นกัน
แล้วทหารเชิ่งหลงก็ไล่ตามไป และไม่ช้าก็ตามรอยเลือดมาจนพบกับซากปรักหักพังของโหลวเฉิงที่ถูกหุบเขานี้บดบังไว้อยู่
หลังจากการสำรวจเบื้องต้นพวกเขาก็รู้สึกว่าซากปรักหักพังนั้นอันตรายมากจึงไม่กล้าเข้าไปลึกแต่แจ้งให้ฐานบัญชาการทราบก่อนและรอคำสั่งเพิ่มเติม
นี่คือเรื่องราวทั้งหมด ทุกอย่างดูปกติมากราวกับการมาพบกับซากปรักหักพังนี่เป็นเรื่องบังเอิญ เว้นเสียแต่ว่าไอ้หมานสูที่บาดเจ็บนั่นตอนนี้ไปไหนแล้วก็ไม่รู้เนี่ยแหละ
หลังจากที่ถังเจิ้นได้ฟังรายงานเสร็จแล้วจึงยกยิ้มเยาะเย้ยออกมา