บทที่ 38 ในที่สุดก็ได้เข้าสระวิเศษ
หลี่ฟานไม่ได้อธิบายมากนัก บอกให้เขาวางใจได้ ก่อนจะรีบร้อนมาถึงตึกเทียนเป่า
อวิ๋นหยูเจินค่อนข้างประหลาดใจที่หลี่ฟานมาอย่างกะทันหัน
และหลังจากฟังเหตุผลที่หลี่ฟานมาแล้ว อวิ๋นหยูเจินก็อธิบายที่มาที่ไปของเรื่องราวด้วยสีหน้าโกรธเคือง
ที่แท้ หลังจากสืบถามมาหลายเดือน กลุ่มอิทธิพลต่างๆ บนเกาะหลิ่วหลี่ก็ทราบเรื่องที่ทรายร่วงทะเลดาวก็คืออุกกาบาตจากฟากฟ้าในที่สุด
แต่พอพวกเขาคิดจะรวบรวมอุกกาบาต กลับพบว่าทรายร่วงทะเลดาวในพื้นที่ทะเลรอบเกาะหลิ่วหลี่ถูกตึกเทียนเป่ากวาดต้อนจนหมดสิ้นแล้ว
ส่วนภาพความวุ่นวายในตลาดเกาะหลิ่วหลี่ก่อนหน้านี้ ก็เป็นฝีมือตึกเทียนเป่าทำอยู่เบื้องหลังนั่นเอง
"ตึกเทียนเป่าช่างหลอกลวงพวกเราเสียจริง!" พวกเขารู้สึกละอายและโกรธแค้น จึงไปเอะอะอยู่กับเจ้าเกาะหลิ่วหลี่ ต้องการคำอธิบาย
อวิ๋นหยูเจินย่อมแก้ต่างให้ตนเองอย่างชอบธรรม บอกว่าการกระทำของตนเป็นการแข่งขันทางธุรกิจที่ถูกต้อง
ส่วนเจ้าเกาะหลิ่วหลี่ก็มองว่าวิธีการของอวิ๋นหยูเจินถึงจะรุนแรงไปหน่อย แต่การช่วงชิงโควตาสระวิเศษชำระร่างนั้นต้องอาศัยฝีมือของแต่ละคนอยู่แล้ว
ขอเพียงสุดท้ายสามารถเก็บรวบรวมวัสดุที่เหล่าเซียนต้องการได้ครบ ต่อให้วิธีการจะผิดแผกไปบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้
ดังนั้นเจ้าเกาะจึงไม่ได้ลงโทษตึกเทียนเป่า กลับไปดุด่าคนเหล่านั้นที่มาทำเรื่องเสียหายเสียอีก
พวกนั้นจะยอมจำนนได้อย่างไร?
ดังนั้นไม่กี่วันต่อมา บนเกาะก็เริ่มมีข่าวลือแพร่สะพัดว่า ตึกเทียนเป่าแอบทำธุรกิจลักลอบพามนุษย์เข้ามา
แถมยิ่งโจมตีกันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนว่าพรุ่งนี้ตึกเทียนเป่าจะโดนเซียนสอบสวนแล้วถูกฆ่าให้ตายยกตึก
"งั้นเรื่องนี้ร้ายแรงจริงหรือไม่? เหล่าเซียนจะลงโทษจริงๆ หรือ?" หลังเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด หลี่ฟานอดถามไม่ได้
"นี่แหละเป็นจุดที่ปวดหัวที่สุดของเรื่องนี้" อวิ๋นหยูเจินขมวดคิ้ว "อย่างที่เขาว่ากัน ไม่รู้กฎหมายก็ยากจะเกรงกลัว การช่วยเหลือมนุษย์ลักลอบเข้ามาไม่เคยมีกฎระเบียบห้ามอย่างชัดเจน แต่เรื่องนี้ก็นับเป็นข้อห้ามอยู่ดี เป็นเรื่องที่ซ่อนเร้นไม่ให้ใครเห็น"
"ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เมื่อสิบกว่าปีก่อน มีเซียนคนหนึ่งบังเอิญไปเจอเข้าพอดีตอนพามนุษย์ลักลอบเข้ามา โมโหมากเลยฆ่ามนุษย์ที่อยู่ตรงนั้นตายหมดสิ้น"
"ตั้งแต่นั้นมาทุกคนก็เข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดอะไร ทำธุรกิจลักลอบพาคนเข้ามานี้อย่างเงียบๆ"
หลี่ฟานฟังแล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกัน "อย่างนี้นี่เอง เรื่องนี้ใหญ่หรือเล็กก็ได้ วิธีจัดการก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเหล่าเซียนสินะ?"
"ถูกต้อง ถ้าเหล่าเซียนไม่ค่อยใส่ใจ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเหล่าเซียนอารมณ์ไม่ดี งั้นก็..." อวิ๋นหยูเจินพูดไม่จบ เพียงแต่สีหน้าค่อนข้างซีดขาว
หลี่ฟานเงียบไป
เขานึกถึงฉากตอนที่พบเจอโข่วหงและเต๋าเสวียนจื่อครั้งแรก
มนุษย์ธรรมดาในสายตาของพวกผู้ฝึกเซียนเหล่านี้ ช่างเหมือนมดปลวกจริงๆ ที่พวกเขาจะฆ่าทิ้งได้ง่ายๆ ตามใจ
"ยอมเสี่ยงโดนตัดหัวก็ยังทำธุรกิจลักลอบพาคนเข้ามา ลองนึกดูก็รู้ว่ากำไรคงสูงมากเลยสินะ" หลี่ฟานถอนหายใจ
"แน่นอนอยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายในการลักลอบพาคนเข้ามาครั้งหนึ่ง มักต้องใช้เวลาเกือบสิบปีในการเก็บรวบรวมจากโลกเล็กๆ โลกหนึ่ง ถึงจะพอนึกออกหรือยังล่ะว่าได้กำไรมากแค่ไหน" อวิ๋นหยูเจินพยักหน้า "ก็เพราะแบบนี้ไง บางเซียนถึงได้อดใจไม่ไหว แอบร่วมวงด้วยเพื่อแบ่งชิ้นส่วนไปบ้าง"
"พวกเซียนเหล่านี้จะไม่มีวันยอมรับหรอกว่าพวกเขามีส่วนร่วมในเรื่องพวกนี้ ตอนที่ติดต่อกับพวกเรา พวกเขาใช้วิชาเซียนปิดบังไว้ทั้งนั้น มองไม่เห็นหน้าแถมสุดท้ายยังต้องเอากำไรไปเป็นส่วนใหญ่อีกต่างหาก" พูดมาถึงตรงนี้ อวิ๋นหยูเจินก็รู้สึกค่อนข้างจนปัญญา "ดังนั้นเรื่องนี้ ตึกเทียนเป่าก็ต้องจัดการกันเองนั่นแหละ"
หลี่ฟานนึกถึงเซียนผู้นั้นที่มารับตอนเพิ่งเข้ามายุทธภพเซียนใหม่ๆ แล้วก็พยักหน้า
"แล้วเซียนท่านนั้นที่ประจำการอยู่ที่เกาะหลิ่วหลี่ เขาเป็นคนนิสัยอย่างไร? มีท่าทีเช่นไรต่อเรื่องนี้?" หลี่ฟานถามต่อ
"ท่านไร้เซียนแห่งเกาะหลิ่วหลี่ทุกวันนี้แทบไม่ออกจากที่พำนัก ข้าไม่ได้เห็นเขาสักกี่ครั้ง ดังนั้นจึงไม่มั่นใจในท่าทีของเขาจริงๆ แต่ดูจากลักษณะที่เขาจัดการเรื่องธรรมดาสามัญในอดีต เขาก็ดูไม่ใช่คนใจอ่อนเหมือนกันนะ" อวิ๋นหยูเจินพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก
หลังไตร่ตรองในหัวรอบหนึ่ง สุดท้ายหลี่ฟานก็ได้แต่ถอนหายใจ
หลี่ฟานรู้ดีว่า ถึงเขาจะมีแผนการมากมายแค่ไหน แต่เมื่อเผชิญกับความเหลื่อมล้ำทางพลังกำลังที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงแล้ว ทุกอย่างก็เปล่าประโยชน์
สำหรับปัจจัยที่ไม่แน่นอนเหมือนระเบิดเวลาเช่นนี้ หลี่ฟานก็ไม่มีวิธีอะไรมากนัก
หลี่ฟานใจหนึ่งขยับ คิดถึงพิษเซียนมนุษย์จำนวนมากที่เก็บไว้ในห้องเก็บของบางห้องบนเรือไท่เหยียน
"หากอยู่ในต้าเสวียน มีนักรบพลีชีพนับพันนับหมื่น บางทีอาจมีแรงต่อสู้ได้บ้าง น่าเสียดาย..."
แต่ไม่นานนัก เขาก็กดความคิดอันตรายนี้ลงไปได้
"นัดเวลาไปพบสักครั้งแล้วกัน เรื่องนี้ถึงอย่างไรก็ไม่ควรปล่อยให้บานปลายมากนัก" หลี่ฟานเอ่ยขึ้น
"อืม ข้าก็คิดแบบนี้เหมือนกัน" อวิ๋นหยูเจินว่า
"พวกเขาก็แค่อยากให้พวกเราส่งทรายร่วงทะเลดาวให้นิดหน่อยเท่านั้นเอง ยังไงพวกเราก็ได้เปรียบ เก็บรวบรวมมามากพอแล้ว สู้เอาบางส่วนออกมาโยนให้พวกเขาสู้กันเอง แย่งชิงกันไปเลยดีกว่า พวกเขาต้องเริ่มต่อสู้กันเองอย่างรวดเร็วแน่" หลี่ฟานหัวเราะเย็น "ในโลกนี้ไม่มีพันธมิตรที่มั่นคงตลอดไปหรอก"
...
สามวันต่อมา ตึกเทียนเป่านัดพบกับกลุ่มอำนาจต่างๆ บนเกาะหลิ่วหลี่ เสนอเงื่อนไขดังต่อไปนี้:
ตึกเทียนเป่ายินดีที่จะส่งทรายร่วงทะเลดาวบางส่วนให้ แต่ต้องให้อีกฝ่ายนำวัสดุที่มีมูลค่าเท่ากันมาแลกเปลี่ยน
พร้อมกันนี้ ส่วนที่ว่าแต่ละตระกูลจะแบ่งทรายร่วงทะเลดาวกันอย่างไรนั้น ให้แต่ละตระกูลตัดสินใจเอาเอง
สุดท้าย ต้องรับประกันโควตาหนึ่งที่ในสระวิเศษชำระร่างให้ตึกเทียนเป่า
เงื่อนไขเหล่านี้ไม่ค่อยรุนแรงนัก ดังนั้นหลังจากต่อรองกันสักพัก ทั้งสองฝ่ายก็ตกลงปรองดองกันอย่างรวดเร็ว
อย่างไรเสียทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้มีแค้นใหญ่หลวงอะไรกัน แค่แย่งชิงโควตาสระวิเศษชำระร่างกันเท่านั้น
ดังนั้น หลังจากต้องแลกมาด้วยราคาอุกกาบาตไปยี่สิบสามสิบก้อน ตึกเทียนเป่าก็หลุดออกจากวังวนอันวุ่นวายนี้มาได้สำเร็จ
เกือบจะในวันนั้นเลย ข่าวลือเรื่องการลักลอบพาคนเข้ามาบนเกาะก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ส่วนตระกูลอื่นๆ ต่างก็เริ่มต่อสู้กันเองอย่างเปิดเผยและลับๆ เพื่ออุกกาบาตสองสามสิบก้อนนั้น ไม่ว่างมาสนใจตึกเทียนเป่าแล้ว
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันที่สระวิเศษชำระร่างจะเปิดก็ใกล้เข้ามา
หลังเสร็จสิ้นการตรวจนับวัสดุที่แต่ละตระกูลส่งมอบ โควตาสำหรับสระวิเศษชำระร่างในครั้งนี้ก็ยืนยันลงมาในที่สุด
ครั้งนี้มีโควตาเข้าสระทั้งหมด 13 ที่ ตึกเทียนเป่าได้หนึ่งที่ในนั้น
เรื่องใหญ่ลงตัวแล้ว หลี่ฟานก็อดถอนหายใจโล่งอกไม่ได้
เพียงรอให้สระวิเศษเปิด หลี่ฟานก็จะขจัดสภาวะพิษทั้งหมดออกไปได้ และก้าวสู่หนทางการฝึกเซียนอย่างเป็นทางการ!
นี่เป็นวันที่เขารอคอยมาเนิ่นนาน
ดังนั้น แม้หลี่ฟานจะมีสติมั่นคงปานใด ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้
ชื่อ: หลี่ฟาน
ขั้น: มนุษย์
อายุทางกายภาพ: 42/99
อายุทางจิตใจ: 505/1299↑
ความคืบหน้าการเติมพลังหวนเจิน: 121%
ความคืบหน้าการเติมพลังหมุดยึด: 51%
จำนวนหมุดยึดปัจจุบัน: 1
ไอเท็มที่ผูกไว้: 《ตราทองล้อมหยกพันกลไก》, เรือไท่เหยียน, ศิลาจารึกหยุดยั้ง (เสียหาย)
หลี่ฟานมองหน้าต่างของ [หวนเจิน] หลังผ่านการเปลี่ยนแปลงมาสองปี อายุทางกายภาพของเขาถึงขีดจำกัดที่ 99 ปี และไม่มีท่าทีจะเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
ส่วนขีดจำกัดอายุทางจิตใจ เนื่องจากเขาตั้งใจฝึกฝน《คาถาชำระจิตเสวียนหวง》ทั้งวันทั้งคืน ยังคงค่อยๆ เพิ่มขึ้นอยู่
ไม่รู้ว่าหลังผ่านพิธีสระวิเศษแล้ว จะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นไรอีกบ้างนะ?
หลี่ฟานค่อนข้างคาดหวัง
วันเปิดสระวิเศษก็มาถึงในที่สุด ในวันนี้ หลี่ฟานกินยาตันหลี่เฉิน ที่อวิ๋นหยูเจินส่งให้ ภายใต้การนำทางของผู้เชี่ยวชาญ เข้าไปในวงจรอาคมตรงกลางเกาะหลิ่วหลี่