ตอนที่แล้วบทที่ 34 คาถาชำระจิตมีอานุภาพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 ได้ของวิเศษโดยบังเอิญ

บทที่ 35 ผลที่ได้มาล้วนถูกกำหนดไว้ก่อนแล้ว


พร้อมกับการประกาศรายการวัสดุที่ต้องใช้สำหรับสระวิเศษชำระร่าง บนพื้นผิวของเกาะหลิ่วหลี่ยังคงสงบนิ่ง แต่แท้จริงแล้วกระแสใต้น้ำก็ไหลเชี่ยวกรากไปแล้ว

แม้แต่ชาวบ้านธรรมดาบางส่วนที่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ก็ยังรู้ว่ากลุ่มอิทธิพลใหญ่บนเกาะในตอนนี้ต่างกำลังตามหาสิ่งที่เรียกว่าทรายร่วงทะเลดาวกันอยู่

หลี่ฟานสืบหาอย่างลับๆ แต่ไม่เป็นผล วันนี้กลับได้พบแขกที่คาดไม่ถึง

นั่นก็คือเสี่ยวเฮิง ผู้มาจากต่างสังวรที่หลี่ฟานพบตอนเพิ่งมาถึงยุทธภพเซียนนั่นเอง

"นั่งตามสบายเถอะ" หลี่ฟานรินน้ำชาให้เขาหนึ่งถ้วย

เสี่ยวเฮิงพิจารณาที่อยู่ในตอนนี้ของหลี่ฟาน สายตาเต็มไปด้วยความอิจฉาและคิดถึง

"ไม่ทราบว่าน้องชายน้อยมาหาข้ามีธุระอะไรหรือ?" เขายังคงมีความประทับใจที่ดีต่อเสี่ยวเฮิง จึงถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

เสี่ยวเฮิงเหลือบมองรอบๆ ด้วยความระแวดระวังก่อน จากนั้นเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยเสียงเบาว่า "ได้ยินว่าพี่หลี่กำลังหาทรายร่วงทะเลดาวเหมือนกันใช่ไหม?"

สายตาของหลี่ฟานเข้มขึ้น "ใช่ ข้าอายุมากแล้ว อยากจะฝึกวิชา มีแต่ต้องพึ่งสระวิเศษชำระร่างเท่านั้น ทำไม เจ้ารู้จักสิ่งนี้งั้นหรือ?"

เสี่ยวเฮิงกลืนน้ำลายเอื๊อก พยักหน้าเล็กน้อย "ใช่ ตอนแรกตอนที่เซียนลงมาปรากฏกายที่ต้าหลีให้สัญญาว่าขอเพียงรวบรวมวัสดุที่ท่านต้องการได้ ก็จะพาคนกลุ่มหนึ่งไปยังโลกใหญ่แห่งการฝึกเซียนได้ ในนั้นก็มีทรายร่วงทะเลดาวด้วย"

หลี่ฟานชะงักไปครู่ จากนั้นถามด้วยความสงสัยว่า "มีด้วยหรือ? ทำไมข้าจำเรื่องนี้ไม่ได้เลย?"

ก่อนหน้านี้หลี่ฟานก็เคยไปถามพวกคนจากต้าหลีแล้ว ทุกคนก็บอกว่าไม่รู้เรื่องเลยได้แต่ถามออกมาอย่างนี้

เสี่ยวเฮิงได้ยินแล้วก็รู้สึกเก้อเขินไปเล็กน้อย "ตอนประกาศทั่วหล้าในครั้งนั้น ในรายการก็ตัดวัสดุไปสองสามอย่างแล้ว เป็นโควตาที่กำหนดไว้ก่อน แจกไปให้ตระกูลใหญ่ของต้าหลี ส่วนที่ให้ตระกูลข้าต้องไปรวบรวมก็คือทรายร่วงทะเลดาวนี่แหละ"

หลี่ฟานพยักหน้าช้าๆ

"พูดมาเถอะ เงื่อนไขของเจ้าคืออะไร?" หลี่ฟานถามตรงประเด็น

เห็นหลี่ฟานถามตรงไปตรงมาขนาดนี้ เสี่ยวเฮิงกลับขัดเขินเสียเอง หน้าแดงก่ำ อธิบายว่า "ตอนนั้นเจ้าจ่ายเงินจัดงานศพให้ซูฉางหยู ก็ถือว่ามีบุญคุณต่อข้า ที่จริงข้าไม่ควรทำแบบนี้ แต่การใช้ชีวิตบนเกาะหลิ่วหลี่ก็ยากเย็นเหลือเกินข้าไม่มีฝีมือเหมือนพี่หลี่เจ้า ตอนนี้ก็ยังต้องอยู่ในเขตสลัมชานเมือง ทุกวันก็ต้องทำงานหนักเพื่อยังชีพ..."

เสี่ยวเฮิงพูดเล่าไปเรื่อยเปื่อย หลี่ฟานแย้มยิ้ม ขัดจังหวะเขาขึ้นมา

"ไม่ต้องพูดมาก ความยากลำบากของเจ้า ข้าก็รู้ สิ่งนี้ข้ามุ่งมั่นต้องได้มาให้ได้ขอเพียงเจ้าให้เบาะแสมาได้ มีอะไรต้องการก็บอกมาได้เลย ข้าจะพยายามสนองให้ได้มากที่สุด"

เสี่ยวเฮิงขอบคุณเป็นอย่างมาก "ถ้างั้นก็ต้องขอบคุณพี่ชายก่อนล่ะ"

เขาหยุดชะงักไปครู่ จากนั้นกล่าวด้วยความรู้สึกหวนคิดว่า "ที่จริงสิ่งนี้ก็ไม่ได้หายากอะไรนัก แค่คำเรียกของเซียนกับพวกเราคนธรรมดามันไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง แน่นอนว่า ถ้าไม่ใช่มีคำอธิบายรายละเอียดวัสดุแต่ละอย่างมาพร้อมกับรายการตอนนั้น ข้าก็คงไม่รู้ว่าที่จริงแล้วทรายร่วงทะเลดาวที่ว่านั่น ก็คือดาวตกบนฟ้านั่นเอง"

หลี่ฟานได้ยินแล้วก็ครุ่นคิด ไตร่ตรองพินิจพิเคราะห์อยู่นาน ก่อนจะหยั่งรู้ขึ้นมาได้ในที่สุด "ทรายร่วงทะเลดาว... ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง แต่ขอเพียงเป็นดาวตกก็ใช้ได้หรือ? มีข้อกำหนดพิเศษอะไรอีกไหม?"

"มี มี"

เสี่ยวเฮิงพยักหน้ารัวๆ จากนั้นก็คอยๆ บอกข้อกำหนดที่ชัดเจนมาทีละข้อ

"ก่อนอื่นรูปลักษณ์ภายนอกของดาวตกต้องดี ถ้าพื้นผิวขรุขระเป็นหลุมก็ไม่ได้ ต่อมา น้ำหนักโดยรวมของแท่งเดียวต้องอย่างน้อย 50 ชิ่น

แล้วก็..."

หลี่ฟานฟังไปด้วย จดจำเอาไว้ในใจอย่างแม่นยำไปด้วย

พอเสี่ยวเฮิงพูดจบ หลี่ฟานก็ไม่ลืมสัญญาของตัวเอง

"พูดมาเถอะ เจ้าอยากได้อะไรบ้าง"

เสี่ยวเฮิงเอ่ยเสียงเบาว่า "ข้าแค่อยากได้ลานบ้านที่ดูดีหน่อย บวกกับงานที่เบาสบายกว่านี้นิดหน่อยก็พอ แน่นอนว่าถ้าได้สาวใช้สักสองสามคนจะยิ่งดี"

หลี่ฟานตั้งตัวพร้อมรับมือกับเสี่ยวเฮิงที่อาจเปิดปากขอเอาใหญ่แล้ว แต่พอเห็นอีกฝ่ายดูจะพึงพอใจง่ายๆ แบบนี้ก็อดส่ายหน้ายิ้มๆ ไม่ได้

"คิดไม่ถึงว่าโอรสของกษัตริย์ผู้พิทักษ์ทิศใต้แห่งเจิ้นหนาน จะขอแค่นี้เองหรือ? ลองขอเพิ่มอีกหน่อยก็ได้นะ ข้าพอมีเสียงพูดอยู่บ้างในตึกเทียนเป่า"

เสี่ยวเฮิงปฏิเสธไป "ข้ารู้ตัวดีว่าความสามารถตัวเองมีแค่ไหน ขอแค่ได้กินดีอยู่ดี ไม่ต้องใช้ชีวิตแบบเหน็ดเหนื่อยขนาดนี้ก็สมใจแล้ว ถ้าพลันมีทรัพย์สมบัติที่ทำให้คนอิจฉาได้ง่ายๆ กลับจะทำให้ดึงดูดเคราะห์ร้ายได้ง่ายกว่า"

หลี่ฟานพยักหน้า ก็ไม่บังคับอะไรอีก

หลังจากพูดคุยทักทายกันอีกสองสามประโยค เสี่ยวเฮิงก็ลากลับ

"มีความตั้งใจที่จะฝึกวิชาบ้างหรือเปล่า? สุดท้ายแล้วก็ฝ่าฟันความยากลำบากนานัปการมาถึงโลกใหญ่แห่งการฝึกเซียนนี้ได้ จะให้มาเสียเที่ยวฟรีๆ ก็คงจะไม่ได้นะ" ก่อนจะจากไป หลี่ฟานถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

"เรื่องวันหน้าค่อยว่ากัน ไม่ได้สนใจเรื่องฝึกเซียนเลยจริงๆ อ่าน《คาถาชำระจิตเสวียนหวง》ที เดียวก็ง่วงจนจะหลับ จะขจัดหมอกพิษเซียนออกให้หมดก็ไม่รู้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน" เสี่ยวเฮิงตอบกลับอย่างเบื่อหน่าย หันหลังเดินจากไปแล้ว

ส่งเสี่ยวเฮิงกลับไปแล้ว หลี่ฟานก็รีบไปยังตึกเทียนเป่าทันที

พบกับอวิ๋นหยูเจิน หลี่ฟานทวนคำอธิบายเรื่องทรายร่วงทะเลดาวของเสี่ยวเฮิงอีกครั้ง

"ทรายร่วงทะเลดาวก็คือดาวตกงั้นหรือ? ง่ายขนาดนั้นเชียว?" อวิ๋นหยูเจินแปลกใจเล็กน้อย "คนที่ชื่อเสี่ยวเฮิงนี่เชื่อถือได้ไหม?"

"น่าจะไม่ได้โกหก" หลี่ฟานกล่าวยืนยัน

"แต่ก็ต้องมีหลักฐานยืนยัน" หลี่ฟานพลิกจุดสนใจกะทันหัน "เจ้าบอกว่าอีกไม่นานคณะพาณิชย์เคลื่อนที่ของสมาคมการค้าหมื่นเวทมนตร์จะมาถึงเกาะหลิ่วหลี่ไม่ใช่หรือถึงตอนนั้นก็ลองไปสอบถามดูความจริงจากปากเขาก็แล้วกัน"

"เป็นความคิดที่ดี" อวิ๋นหยูเจินเห็นด้วย "ถ้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ก้อนหนึ่งก็ยิ่งดี"

"จะอย่างไรก็ตาม ก็ต้องเริ่มแอบซื้อดาวตกที่ตรงตามข้อกำหนดเอาไว้ก่อน ตอนนี้คนที่รู้เรื่องสิ่งนี้ยังไม่มากนัก อีกไม่นานแล้วใครจะรู้ นอกจากนี้ ตอนซื้อก็ต้องปนซื้อของอื่นๆ ไปด้วย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจกับสายตาผู้คน พร้อมกันนั้น ก็สามารถใช้คนไปปล่อยข้อมูลเท็จเกี่ยวกับทรายร่วงทะเลดาวในตลาดได้ อย่างนี้น้ำก็จะขุ่นตามไปด้วย"

หลี่ฟานคิดสักพัก แล้วก็สั่งสอนอย่างใจเย็นอีก

เพื่อให้มั่นใจว่าโควตาสระวิเศษชำระร่างจะตกเป็นของตัวเอง หลี่ฟานจำเป็นต้องวางแผนไว้ให้พร้อมสรรพ

"ท่านลุง ท่านช่างไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย ก่อนหน้านี้ก็แค่รู้ว่าท่านเป็นสื่อวิญญาณหาสมบัติไม่คิดเลยว่าท่านจะมีฝีมือขนาดนี้ด้วย" พออวิ๋นหยูเจินเห็นการจัดวางที่เป็นระเบียบเรียบร้อยของหลี่ฟานแบบนี้ในดวงตาก็พลันฉายแววความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย

"ท่านลุงเคยทำอะไรมาก่อนหรือ?" อวิ๋นหยูเจินอดถามขึ้นมาไม่ได้

"ก็แค่สอนหนังสือน่ะ" หลี่ฟานตอบแบบผ่านๆ

อวิ๋นหยูเจินทำหน้าไม่ค่อยเชื่อถือ

"พอแล้ว งานนี้เจ้าก็ไปจัดการเถอะ ข้ายังต้องไปฝึกวิชาอยู่ นอกจากจะมีเหตุการณ์พิเศษ ไม่งั้นก็อย่ามารบกวนข้า อ้อใช่ เรื่องที่ข้าสัญญากับเสี่ยวเฮิงไว้ เจ้าก็ช่วยจัดการไปด้วยแล้วกัน" หลี่ฟานฝากฝังประโยคสุดท้าย แล้วก็ออกจากตึกเทียนเป่าไป

"มงคลยิ่ง ทำไมจะเป็นมงคลยิ่งอีกแล้วล่ะ?" อวิ๋นหยูเจินรับรู้ทิศทางที่หลี่ฟานจากไปด้วยสีหน้ามึนงงในดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

นับตั้งแต่ที่รู้จักกับหลี่ฟานมา ทุกครั้งที่บอกให้หลี่ฟานไปทำสิ่งต่างๆ สัญชาตญาณของนางก็จะบอกว่าเป็นลางบอกเหตุแห่งความเป็นมงคลทั้งนั้น

นี่ทำให้อวิ๋นหยูเจินแทบจะคิดว่าความสามารถในการแสวงหาสิ่งดีหลีกเลี่ยงสิ่งร้ายของตนเองกำลังเสื่อมลงแล้ว

เพราะว่า ก่อนที่จะพบกับหลี่ฟาน นางไม่เคยพบเจอเรื่องมงคลเลยสักครั้ง

ในทางกลับกัน ตอนที่นางอยากจะกลืนหลี่เฉินตานเม็ดนั้นแล้วก้าวเดินบนเส้นทางการฝึกเซียนกลับได้สัมผัสว่าเส้นทางข้างหน้าจะอันตรายร้ายแรงสุดขีด ตายไปแล้วจะไม่มีชีวิต เป็นการทำนายชัดๆ ว่าจะเจอแต่ความอัปมงคลทั้งนั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด