บทที่ 34 คาถาชำระจิตมีอานุภาพ
หลี่ฟานสืบเสาะอย่างลับๆ แล้วยืนยันว่าเรื่องของหลี่เฉินตาน อวิ๋นหยูเจินไม่ได้โกหก
ดังนั้นเขาจึงพบอวิ๋นหยูเจินอีกครั้งในสามวันต่อมา ตอบรับคำขอของนาง
ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า ก่อนสระวิเศษชำระร่างจะเปิด หลี่ฟานจะต้องช่วยตึกเทียนเป่ารวบรวมสมบัติจำนวนหนึ่งในทุกๆ ช่วงเวลา
พอถึงเวลาที่สระวิเศษเปิด อวิ๋นหยูเจินก็จะมอบหลี่เฉินตานให้หลี่ฟาน
แน่นอนว่า เพื่อแสดงความจริงใจ อวิ๋นหยูเจินก็เอาโฉนดที่ดินของตึกถิงโหยวออกมาอีก
เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ข้อตกลงกันแล้ว หลี่ฟานก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป รับมันเข้ากระเป๋าไป
แล้วหลี่ฟานก็ย้ายบ้านอีกครั้ง
ตึกถิงโหยวตั้งอยู่ใจกลางเกาะหลิ่วหลี่ โดยรอบคึกคักเฟื่องฟูู
แต่กลับใช้โครงสร้างตึกที่มีเอกลักษณ์และการตกแต่งด้วยต้นไม้พุ่มหญ้า
กั้นแยกสภาพแวดล้อมอันวุ่นวายเอาไว้หมด
ถึงจะอยู่ในย่านธุรกิจ แต่ก็เหมือนอาศัยอยู่ในภูเขาลึก
นี่คือความตั้งใจของการเอาความเงียบสงบมาอยู่ท่ามกลางความครึกครื้น จึงตั้งชื่อว่าถิงโหยว
ตึกถิงโหยวมีพื้นที่ใหญ่กว่าบ้านเล็กๆ ของหลี่ฟานเดิมหลายเท่า ภายในมีเนินเทียมและบ่อน้ำ ดอกไม้ต้นไม้ต้องให้คนดูแล
หลี่ฟานปฏิเสธสาวใช้ที่ตึกเทียนเป่าส่งมาอีกครั้ง จ้างคนใช้จากบนเกาะมาสักสี่คน ให้พวกเขามาทำความสะอาดทุกสามวันก็พอ
สำหรับความระมัดระวังของหลี่ฟาน อวิ๋นหยูเจินก็ไม่มีทางเลือกมาก
โชคดีที่หลี่ฟานไม่ได้ทำเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันอย่างลวกๆ
ในปีที่อาศัยอยู่ในตึกถิงโหยว หลี่ฟานก็ทำการเดินทางไปทะเลอย่างเป็นทางการของเกาะหลิ่วหลี่ได้สำเร็จสามครั้งก่อน แต่ละครั้งก็นำหีบสมบัติกลับมาสี่ห้าหีบ ไม่เพียงสั่นสะเทือนทั้งเกาะ ยังทำให้ตึกเทียนเป่าได้โควตากองเรือหนึ่งกองอีกด้วย
หลังจากนั้นทุกครั้งที่กองเรือตึกเทียนเป่าออกเดินทางไปทะเล หลี่ฟานก็จะไปด้วยเสมอ
ตลอดทั้งปี ตึกเทียนเป่าก็ทำกำไรได้มากมาย เกือบเท่ากับรายได้รวมของห้าปีก่อนหน้านี้
และเขาก็สร้างบารมีในใจคนของตึกเทียนเป่าไว้ได้มาก ใครๆ พบเขาก็ทั้งเคารพและเกรงกลัว
ในสายตาคนของตึกเทียนเป่า ท่านหลี่ผู้อาวุโสผู้นี้ไม่เพียงมีฝีมือล้นฟ้า
ทุกครั้งที่ออกเดินทางก็พาทุกคนไปหาสมบัติได้ ยังเป็นคนละเอียดรอบคอบ เด็ดขาดทั้งในการฆ่าและตัดสินใจ
ครั้งหนึ่งตอนกองเรือตึกเทียนเป่าออกเดินทางไปทะเล เพราะอิจฉาสมบัติล้ำค่าที่กู้ขึ้นมา ลูกเรือสองสามคนเกิดความคิดชั่ว อยากรวมตัวกันฆ่าคนแย่งสมบัติ
คาดไม่ถึงว่าท่านหลี่ผู้อาวุโสจับพิรุธได้แต่แรก ไม่รอให้พวกมันลงมือก็จัดการพวกมันให้หมดไปก่อน ตัดหัวทิ้งหมด
ศพโยนลงทะเล หัวเอาไปเสียบเรียงกันเพื่อข่มขวัญผู้อื่น
ผู้คนส่วนใหญ่พูดกันลับหลังว่า จริงๆ แล้วลูกเรือสองสามคนนั้นอาจแค่พูดเพ้อเจ้อตอนเมา ไม่แน่ว่าจะมีความกล้ากระทำเรื่องฆ่าคนปล้นสมบัติจริงๆ
แต่ถึงจะมีความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อย ท่านหลี่ผู้อาวุโสก็ไม่ปล่อยไว้เลย ฆ่าพวกมันไปหมดเลย
ทั้งเจ้าหน้าที่ทางการของเกาะหลิ่วหลี่และผู้จัดการร้านไม่เพียงไม่ตำหนิ
กลับยังชมเชยการกระทำของท่านหลี่ผู้อาวุโสครั้งนี้ ว่าเป็นการปกป้องทรัพย์สินของเกาะหลิ่วหลี่อย่างสมเหตุสมผล
แม้แต่ชาวบ้านบนเกาะเมื่อทราบเรื่องก็ด่าพวกโจรพวกนี้ว่าตายสมควรแล้วบอกว่าท่านหลี่ผู้อาวุโสทำได้ดีมาก
นับแต่นั้นมา ในกองเรือตึกเทียนเป่าก็ไม่มีใครกล้าคิดเป็นอื่นอีกแล้ว
ทุกคนพบหลี่ฟานต่างระมัดระวังตัว กลัวถูกเขาหาข้ออ้างฆ่าทิ้ง
...
หลี่ฟานไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเขาอย่างไร
เพื่อควบคุมกองเรือได้โดยเร็วที่สุด วิธีการฆ่าไก่ให้ลิงดูบ้างก็ยังจำเป็นมาก
เขาไม่มีพลังงานมากพอจะมาเสียเวลากับเรื่องสามัญพวกนี้
ในปีนี้ เขายังคงฝึกฝน《คาถาชำระจิตเสวียนหวง》อย่างหนักทุกครั้งที่มีเวลาว่าง
ไม่เพียงเพราะมันสามารถขจัดหมอกพิษเซียนได้ แต่ยังเป็นเพราะหลี่ฟานค้นพบเรื่องที่ทำให้เขาดีใจเหลือเกินอีกด้วย
ความคืบหน้าการเติมพลังของ【หวนเจิน】เร็วขึ้นแล้ว!
ก่อนหน้านี้ ความคืบหน้าการเติมพลังของ【หวนเจิน】จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติของกาลเวลาที่ผ่านไปเท่านั้น
ทุกยี่สิบปีจะถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ ค่อยๆ เพิ่มไปจนถึงสองร้อยเปอร์เซ็นต์อันเป็นขีดจำกัดแล้วก็จะไม่เพิ่มอีก
ในเก้าชาติก่อนหน้าที่เวียนว่ายตายเกิด หลี่ฟานได้ลองวิธีต่างๆ นานา
อยากจะเร่งความเร็วในการเติมพลัง แต่ก็ไม่สำเร็จ
หลี่ฟานออกจากต้าเสวียน มาถึงยุทธภพเซียนได้มากกว่าปีแล้ว
ตามความเคยชินเดิม ความคืบหน้าการเติมพลังควรอยู่ระหว่างหกถึงเจ็ดเปอร์เซ็นต์
แต่หลี่ฟานกลับพบอย่างประหลาดใจว่า ความคืบหน้าการเติมพลังกลับถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์แล้ว
ความเร็วในการเติมพลังเกือบจะเร็วขึ้นเป็นสองเท่า!
นอกจากคาถาชำระจิตแล้ว หลี่ฟานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งอื่นใดที่อาจช่วยเรื่องนี้ได้
คำอธิบายเดียวก็คือ ในการฝึกฝน《คาถาชำระจิตเสวียนหวง》ช่างสามารถเร่งความคืบหน้าการเติมพลังของ【หวนเจิน】ได้จริงๆ
ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้หลักการว่าเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางหลี่ฟานไม่ให้ฝึกฝนอย่างขันแข็งยิ่งขึ้น
และด้วยมีหน้าต่างแสดงผล【หวนเจิน】 ทุกความก้าวหน้าเล็กๆ น้อยๆ ก็มองเห็นได้ชัดเจน
นี่ก็ทำให้หลี่ฟานไม่สูญเสียพลังใจไปเพราะการฝึกฝนที่จำเจน่าเบื่อเป็นเวลานาน
นอกจากความคืบหน้าการเติมพลังแล้ว ขีดจำกัดอายุของหลี่ฟานก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย
ชื่อ: หลี่ฟาน
ขั้น: ไร้เซียน
อายุทางกายภาพ: 42/95↑
อายุทางจิตใจ: 505/1210↑
ความคืบหน้าการเติมพลังหวนเจิน: 115%
ความคืบหน้าการเติมพลังจุดยึด: 51%
จำนวนจุดยึดปัจจุบัน: 1
ไอเท็มที่ผูกไว้: 《ตราทองล้อมหยกพันกลไก》, เรือไท่เหยียน, ศิลาจารึกหยุดยั้ง (เสียหาย)
...
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางการฝึกฝนอย่างเหนือสติของหลี่ฟาน
ในไม่ช้า ก็เหลือเวลาอีกเพียงปีเดียวก่อนที่สระวิเศษชำระร่างจะเปิด
บนเกาะหลิ่วหลี่ก็ประกาศรายการวัสดุที่ต้องการในครั้งนี้
ในตอนนี้หลี่ฟานกำลังคุยกับคนของตึกเทียนเป่า ศึกษารายการนี้อยู่
"พูดง่ายๆ สำหรับสิ่งของอื่นในรายการนี้ มีเพียงทรายร่วงทะเลดาวนี่ล่ะที่เป็นของอะไรไม่รู้?" หลี่ฟานดูทีหนึ่งแล้วขมวดคิ้วถาม
ทำงานอยู่ที่ตึกเทียนเป่ามาหนึ่งปี หลี่ฟานก็ไม่ได้ไม่มีอะไรได้เลย
อย่างน้อยก็มีความเข้าใจคร่าวๆ เกี่ยวกับแร่ธาตุทั่วไป วัสดุหายากที่หมุนเวียนอยู่ในทะเลชงอวิ่นพวกนี้
ไม่เพียงซุนจางที่ทำหน้างุนงงไปหมด แม้แต่ผู้จัดการร้านตึกเทียนเป่าอวิ๋นหยูเจินก็ยังนิ่งเงียบไป
"วัสดุที่ต้องใช้ในครั้งนี้ล้วนแต่เป็นของธรรมดามากๆ มีเพียงทรายร่วงทะเลดาวนี้ที่ไม่เคยได้ยิน ดูเหมือนจุดสำคัญของการแย่งชิงโควตาในครั้งนี้
จะอยู่ที่ทรายร่วงทะเลดาวนี่เอง" ซุนจางกล่าว
"ข้าทำการค้ามาสิบกว่าปี ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องสิ่งนี้มาก่อน" อวิ๋นหยูเจินใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ "ดูท่าจะต้องไปถามคนของสมาคมการค้าหว่านหัวแล้วล่ะ"
"พวกนี้ล้วนแต่เป็นผีอดตายกลับชาติมาเกิดทั้งนั้น โลภมาก
กลัวว่าจะต้องเสียเลือดเนื้อไปเยอะเลย" ซุนจางถอนหายใจ
"ข้ามุ่งมั่นที่จะได้โควตาสระวิเศษ" หลี่ฟานกล่าวเสียงเข้ม
สมาคมการค้าหว่านหัวไม่ใช่สมาคมการค้าท้องถิ่นของทะเลชงอวิ่น
แต่มาจากทวีปที่ห่างออกไปนับหลายหมื่นลี้
ว่ากันว่าเบื้องหลังสมาคมมีการหนุนหลังของเซียน จึงสามารถข้ามทะเลไร้ขอบเขตได้อย่างง่ายดาย มาทำธุรกิจในทะเลชงอวิ่นอันห่างไกลแห่งนี้
นับตั้งแต่ที่อวิ๋นหยูเจินติดต่อกับสมาคมการค้าหว่านหัวได้เมื่อสิบกว่าปีก่อน ทั้งสองฝ่ายก็มีการค้าขายกันมาตลอดในช่วงหลายปีนี้
และก็เพราะอาศัยสมาคมการค้าหว่านหัวนี่เอง ตึกเทียนเป่าจึงสามารถเปลี่ยนสมบัติจำนวนมากที่หลี่ฟานกู้มาได้ให้เป็นรายได้ได้อย่างรวดเร็ว
"เรายังมีเวลาเตรียมตัวอีกหนึ่งปี คณะพาณิชย์เคลื่อนที่ของสมาคมการค้าหว่านหัวน่าจะผ่านทะเลชงอวิ่นในอีกสามเดือน ถึงตอนนั้นข้าน่าจะติดต่อกับพวกมันได้" อวิ๋นหยูเจินกล่าว
"แต่ก็ไม่ควรหวังให้สมาคมการค้าหว่านหัวช่วยไว้ทั้งหมด ช่วงปีที่ผ่านมาเกาะหลิ่วหลี่รวบรวมผู้ประสบภัยจากเกาะอื่นๆ ไว้ไม่น้อย ผู้ประสบภัยเหล่านี้มาจากทุกหนแห่งในทะเลชงอวิ่น ใครจะรู้ อาจจะมีคนรู้จักทรายร่วงทะเลดาวนี้ก็ได้ เราสามารถไปสอบถามพวกเขาได้ กำลังต่างๆ บนเกาะก็จำเป็นต้องหาทรายร่วงทะเลดาวนี้เช่นกัน ก็ต้องจับตาดูให้ดีด้วย
พอพวกเขามีความเคลื่อนไหวอะไร เราก็จะได้ตามไปมีปฏิกิริยาได้ทันที" หลี่ฟานตัดสินใจ