ตอนที่แล้วChapter 1025 ยังมีชีวิตอยู่!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1027 นี่คืออสุรกาย

Chapter 1026 หลวงจีน


“ตูมมมม---”

บนเวทีการแข่งขัน เสียงระเบิดดังขึ้น คลื่นพลังที่น่าเกรงขามซัดสาดราวกับคลื่นทะเลแผ่กวาดม้วนออกไปรอบ ๆ.

ด้วยค่ายกลคุ้มภัยที่ติดตั้งอยู่รอบ ๆ ทำให้เหล่าผู้ชมไม่ได้รับผล หนำซ้ำยังสามารถมองเห็นการต่อสู้ของยอดฝีมือระดับปฐพีได้อย่างชัดเจน ถึงจะมองเห็นเพียงแค่ริ้วแสงเท่านั้นก็ตาม.

“แพ้ไปแล้ว!”

“เร็วอะไรปานนั้น?”

สองยอดฝีมือระดับปฐพีที่ปะทะกัน พลังที่สาดซัดล้นกระจายไปทั่ว ดูเหมือนกับจะสูสีกัน แต่กับจบลงอย่างง่าย ๆ.

ต่อสู้กันเพียงสิบกว่ากระบวนท่า? ก็จบแล้วอย่างงั้นรึ?

เหตุผลหลัก ๆ นั้นผู้ท้าประลองมีมาก จุนซ่างเซียวต้องการเร่งให้เร็ว ดังนั้นจึงเอาจริงเร่งรีบจบการต่อสู้.

ยอดฝีมือปฐพีแซ่ซ่งที่ยืนอยู่บนเวทีอย่างเศร้าโศก ยกมือประสานไปด้านหน้า “ขอบคุณเจ้านิกายจุนที่ออมมือ ซ่งโหมวยอมแพ้อย่างแท้จริง!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “จะจ่ายเป็น 10,000 ศิลาวิญญาณ หรือว่าแร่?”

“แร่!”

เขาที่นำแร่ชนิดหนึ่งในรายงาน หากเทียบกับราคาในทวีปของเขามีมูลค่าเพียง 3,000-4,000 ท่านั้น ดังนั้นย่อมถูกกว่าการจ่ายเป็นศิลาวิญญาณอย่างแน่นอน.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เช่นนั้นก็จ่ายตามราคาแร่ที่ได้ลงระเอียดบนประกาศ ว่าจะต้องใช้กี่จิน.”

“เฮ้อ.”

ยอดฝีมือระดับปฐพีคนดังกล่าวได้แต่ส่ายหน้าไปมา.

ขณะที่เขาเดินลงมายังโต๊ะด้านข้างเวที พร้อมกับนำแร่หลายจินออกมา.

เมื่อกล้าเดิมพัน ก็ต้องกล้าจ่ายออกมาด้วย!

ไม่กล้าชักดาบอย่างแน่นอน.

เพราะว่า ราชาสัตว์จื่อหลินที่ยืนคุมอยู่ จับจ้องมองทำให้ทุกคนต้องสั่นสะท้าน.

“ตรงตามเงื่อนไข.”

เหล่าติงที่ยืนยันแร่ได้แล้ว เอ่ยออกไปว่า“ผู้ยอดเยี่ยมเชิญ.”

ยอดฝีมือปฐพีแซ่ซ่งที่เผยยิ้มขมขื่นก้าวออกไป.

เขาที่คิดจะเอาชนะจุนซ่างเซียว เพื่อรับรางวัลหนึ่งแสนศิลาวิญญาณดาราหกแฉก ท้ายที่สุดก็ต้องเสียแร่ให้อีกฝ่ายหลายสิบจิน นับเป็นเรื่องที่บัดซบเล็กน้อย.

ก็จริงอยู่ว่าแร่ไม่ได้มากมายนัก ทว่าต่อหน้าผู้ชมมากมาย ทำให้เขารู้สึกอับอายอยู่เหมือนกัน.

“ฟิ้ว!”

ยอดฝีมือระดับปฐพีอีกคนที่ร่อนลงที่เวที.

กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้น เห็นชัดเจนว่าแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก.

“เชิญ!”

“เชิญ!”

“ครืนนนน!”

“แก๊ก ๆ!”

การต่อสู้ที่รุนแรงได้เกิดขึ้นอีกครั้ง.

พลังวิญญาณบนเวทีที่ทำให้ห้วงมิติรอบ ๆ สั่นไปมา.

เหล่าผู้ชมที่จ้องมองโลหิตสูบฉีดพลุ้งพ่าน ต้องไม่ลืมว่าการได้เห็นกระต่อสู้ของยอดฝีมือใกล้ขนาดนี้ แร่ที่จ่ายไป ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!

“ตูมมมม--”

ผ่านไปหนึ่งนาที ยอดฝีมือปฐพีคนที่สองก็พ่ายแพ้ไป.

เขาที่กุมอก เอ่ยชื่นมชม“ความแข็งแกร่งของเจ้านิกายจุนนั้นไม่ธรรมดา เหล่าฟู่ไม่สามารถเทียบได้!”

“จ่ายด้วยศิลาวิญญาณหรือแร่?”

“แร่!”

“ส่งมอบ.”

เหล่าติงรับหน้าที่ตรวจสอบแร่ เทียบราคาอยู่ข้างเวที.

“ตูมมมม! ตูมมมม! ตูมมมม!”

การต่อสู้ที่รุนแรง เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า.

“นี่เขาแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

เหล่าผู้ชมที่เวลานี้มุมปากกระตุกไปมา.

การต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งชนะ พวกเขายังพอยอมรับได้.

ทว่าจุนซ่างเซียวต่อสู้กับยอดฝีมือหนึ่งต่อหนึ่งสามคู่ติด ไม่พักเลย แถมยังชนะขาดอีกด้วย!

อีกคนแล้วที่ฝ่ายตรงข้ามล่วงหล่นเวที ได้แต่ส่ายหน้าไปมา แววตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง!

ไม่ใช่ว่าไม่ยอมรับว่าพ่ายแพ้!

แต่พวกเขารู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ง่ายเกินไป!

“ความแข็งแกร่งเจ้าเด็กคนนี้ ถึงจะไม่เท่ากับระดับสวรรค์ อย่างน้อยก็เป็นระดับปฐพีชั้นยอด แต่การต่อสู้ติด ๆ กันเช่นนี้อีกไม่นานก็ต้องพ่ายแพ้.”มีบางคนที่ทำการคาดเดา.

หลายยอดฝีมือต่างก็คิดเหมือน ๆ กัน.

อย่างไรก็ตาม พวกเขาคงคาดไม่ถึง.

ความแข็งแกร่งของจุนซ่างเซียวตอนนี้ ถึงจะรับมือกับยอดฝีมือปฐพีนับร้อยก็ไม่ใช่ปัญหา ยิ่งต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งยิ่งสบายเข้าไปอีก.

ความแข็งแกร่งของคน ๆ เดียวย่อมต้องมีจำกัด การที่เห็นจุนซ่างเซียวต่อสู้กับคนไปหลายคนแล้ว ทำให้คนอื่น ๆมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น.

“ทุกท่าน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “จุนโหมวลืมบอก ขอเพียงมีใครสามารถทุบข้าได้สักครั้ง ก็สามารถรับหนึ่งแสนศิลาดาราหกแฉกได้!”

คำพูดดังกล่าว ทำให้ยอดฝีมือปฐพีมากมายดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที.

การเอาชนะอีกฝ่าย อาจจะเป็นเรื่องยาก ทว่าการทุบอีกฝ่ายสักครั้งก็ได้หนึ่งแสนศิลาดาราหกแฉกแล้ว พวกเขาย่อมมีโอกาสอย่างแน่นอน.

......

“ตูมมมม!”

“ตูมมมม!”

“ตูมมมม!”

การต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรง พลังวิญญาณอันบ้าคลั่งที่สาดซัดไปทั่ว.

หนึ่งชั่วยามต่อมา ยอดฝีมือปฐพีอีกหกคนที่ขึ้นไปคนแล้วคนเล่า ท้ายที่สุดก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบ.

แม้นว่าพวกเขาจะไม่ใช่ยอดฝีมือปฐพีระดับสูง ทว่าเทียบระดับปราชญ์ยุทธ์ระดับสามและสี่ของทวีปชิงหยุนได้เลย แต่แล้วก็ไม่มีใครรับมือได้เกินห้าสิบกระบวนท่าด้วยซ้ำ.

“ตูมมมม!”

บนเวทีเสียงระเบิดดังกึกก้องก็ยังคงดังขึ้น เงาร่างหนึ่งที่กระเด็นล่วงหล่นจากบนเวที.

“แพ้แล้ว.”

ผู้ท้าทายคนที่สิบแล้วที่หล่นลงเวที เหล่าผู้ชายที่ใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลงหรือตกใจอะไร เพราะว่า....คุ้นชินไปเสียแล้ว.

“ตูมมมม!”

ในเวลานั้น บนเวทีที่สั่นไปมา.

เวลานั้น ปรากฏบุรุษที่เปลือยท่อนบน เผยกล้ามเนื้อที่แน่นจนล้นออกมา ขณะกล่าวออกมาเสียงดัง“ข้าต้องการรับการชี้แนะจากประสกจุน!”

“เชิญ.”

จุนซ่างเซียวที่ยกมือประสานที่หน้าอก รับรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นแผ่กลิ่นอายพุทธะออกมา “คนผู้นี้คงเป็นผู้บำเพ็ญพุทธสินะ ดูเหมือนว่าจะฝึกฝนกายมาจนแข็งแกร่ง.”

“หลวงจีนทวีปมหา!”

“ได้ยินมาว่านี่คือผู้บ่มเพาะกายเนื้อจนสำเร็จถึงระดับปฐพีอย่างเดียวเลย!”

“ร้ายกาจขนาดนั้นเลยรึ?”

ทุกคนที่เผยความประหลาดใจออกมา.

เหล่ายอดฝีมือพิภพต่าง ๆ ทุกคนไม่มีใครที่จะละทิ้งพลังฟ้าดิน.

การที่มีคนบ่มเพาะเพียงกายเนื้อ จนมีพลังเทียบเท่าระดับปฐพี ต้องยอมรับว่าน่าเกรงขามอย่างแน่นอน.

เซียวจุ้ยจื่อที่แววตาร้อนรุ่มขึ้นจ้องมองอยู่พื้นที่ไกลออกมา.

แม้นว่าพลังของเขาจะเทียบไม่ได้กับหลวงจีนคนดังกล่าว ทว่าการที่เห็นฝ่ายตรงข้าม ฝึกกายเนื้อจนมีระดับปฐพี ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันได้กลายเป็นเป้าหมายของเขาไปในทันที.

เขาจะต้องมีระดับนั้นให้ได้.

เขาจะต้องแข็งแกร่งเช่นนั้นให้ได้.

จิตวิญญาณที่ลุกโชน เป้าหมายของเขาก็หนักแน่นขึ้นเช่นกัน.

“จุ้ยจื่อ.”

จุนซ่างเซียวที่ส่งเสียงผ่านวิญญาณ “คนผู้นี้ก้าวไปยังวิถียุทธ์เส้นเดียวกับเจ้า เปิ่นจั้วหวังที่จะให้อนาคตเจ้านั้นโดดเด่นยิ่งกว่าเขา!”

เซียวจุ้ยจื่อที่เงยหน้า ยืดอกเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น “ศิษย์จะไม่ทำให้เจ้านิกายผิดหวัง!”

“ตึง ตึง ตึง!”

ในเวลานั้น หลวงจีนคนดังกล่าวที่ก้าวไปบนเวที ทุก ๆก้าวเปี่ยมล้นด้วยพลังทำให้เวทีส่ายไปมา.

“ฟู่ ฟู่ ---”

ร่างกายสีทองที่แผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามออกไปรอบ ๆ ห้วงมิติที่สั่นไปมาแม้แต่บิดเบี้ยวเสียรูป.

อำนาจพุทธะ ดูทรงพลังน่าเกรงขามมาก.

เห็นกลิ่นอายของอีกฝ่ายแผ่กดดันออกมา ภายในใจจุนซ่างเซียวก็รู้สึกนับถืออยู่เหมือนกัน.

ในเวลานั้น เขาก้าวไปด้านหน้า รวมพลังไปที่หมัดขวา ก่อนที่จะต่อยออกไปทันที.

ทักษะของผู้บำเพ็ญพุทธนั้นทรงพลังน่าเกรงขาม.

ข้าจุนซ่างเซียวขอเปิดหูเปิดตาสักหน่อย!

“ตูมมมม!”

หมัดของทั้งสองที่กระแทกกัน ก่อนที่จะกระเด็นออกมาคนล่ะหนึ่งจั้ง แม้นว่าจะไม่สามารถทำอะไรกันได้ ทว่าเสียงระเบิดดังกึกก้องนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก.

“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม-”

พลังลมอันบ้าคลั่ง ที่กวาดม้วนออกมาราวกับพายุใหญ่.

กลิ่นอายของทั้งสอง ที่ไม่มีใครแพ้ใคร จนทำให้อยู่ในสภาวะติดตายในเวลาสั้น ๆ!

“กึก!”

หลวงจีนที่ขยับก่อน ขณะก้าวเท้าออกไปกระทืบเท้าลงบนพื้น.

“ซูมมมมม!”

ร่างกายของเขาที่เป็นสีทองส่องประกายสะท้อนแสงมือขวาของเขาที่ขยายใหญ่ ก่อนที่จะถูกต่อยออกไปด้านหน้า.

“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมมม-”

แรงหมัดที่แหวกอากาศพัดออกไปรอบ ๆ  หมัดที่ตรงไปด้านหน้า จุนซ่างเซียวแม้นว่าจะยังคงยืนไม่ขยับ ทว่าหมัดขวาของเขาก็รวมพลังขึ้นมาเช่นกัน.

ระบบเอ่ย “อีกฝ่ายฝึกฝนกายเนื้อเป็นหลัก โฮสน์แลกพลังกับอีกฝ่าย ถือเป็นเรื่องไม่ฉลาดนัก.”

“กายเนื้อของข้าก็ไม่ได้ด้อยกว่าเขา!”

จุนซ่างเซียวที่ง้างหมัด เท้าขวาที่ก้าวไปด้านหน้า พร้อมกับรวมพลังต่อยออกไปปะทะแลกหมัดกับอีกฝ่ายตรง ๆ.

“โอ้วสวรรค์!”

เห็นอีกฝ่ายแลกหมัดวัดความแข็งแกร่งกัน เหล่าผู้ชมที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.

ไม่มีใครคาดคิดเลยแม้แต่น้อย.

ทั้งจุนซ่างเซียวและหลวงจีนผู้นั้นไม่มีใครใช้พลังวิญญาณเลย พวกเขาที่ใช้พลังกายเนื้อล้วน ๆ

เข้าปะทะกันตรง ๆ ด้วยความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ.

ไม่มีประกายแสงของพลังวิญญาณที่ดูวับวาวฟุ่มเฟือย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด