Chapter 1021 ตัดผ่านระดับ
เดิมทีบนภูเขาลอยฟ้าที่ดูคึกคัก ทว่าเมื่อเจ้าเมืองหานและคนอื่น ๆ จากไปก็กลายเป็นเงียบเหงาทันที.
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ด้านหน้าห้องโถง จิตสัมผัสกวาดออกไปรอบ ๆ ฐานที่มั่นของตัวเอง พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“ท้ายที่สุดก็เสร็จสิ้นสักที.”
ทวีปชิงหยุนที่สำเร็จภารกิจตามที่พิภพเบื้องบนได้มอบหมาย.
ภารกิจมหากาพย์สองอย่างก็เสร็จสิ้นเช่นกัน.
เรื่องเกี่ยวกับพิภพสงครามก็จบแล้ว สถานที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่ให้ศิษย์ของเขามาหาประสบการณ์.
“ต่อไปก็ต้องตั้งเป้าไปที่พัฒนานิกายแล้วสินะ.”
“ใช่แล้ว.”
“เรื่องจังหวัดตงไห่ยวี.”
เขาที่ได้รับการยืนยันจากลี่ลั่วฉิวแล้วว่าข้อความขอความช่วยเหลือนั้นเป็นของปรมาจารย์ฟ่านจริง.
แผนการใหญ่.
ที่จะคุกคามสิ่งมีชีวิตของทวีปชิงหยุนอย่างงั้นรึ?
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิด กล่าวออกมาว่า“ไม่ใช่ว่าเกี่ยวข้องกับเผ่าวิญญาณหรอกรึ?”
กล่าวให้ถูก สิ่งที่จะคุกคามทุกสิ่งมีชีวิต เรื่องเผ่าวิญญาณมีความเป็นไปได้สูงทีเดียว.
“ข้ามีเรือรบตงกู่ น่าจะเดินทางไปได้ง่าย ๆ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไว้เสร็จสิ้นธุระที่นี่ ค่อยหาเวลาไปดูหน่อยก็แล้วกัน.”
ในเมื่อได้รับมรดกกายามาจากราชันย์ค่ายกลและเหล่าบรรพชนรุ่นก่อน ก็ควรจะทำอะไรเพื่อทวีปชิงหยุนบ้าง.
......
“ฟู่ ฟู่!”
สายลมที่พัดโบกอย่างรุนแรง สายฟ้าที่ฟาดลงมาเป็นระยะ ๆ.
เรือใบลำหนึ่งที่แล่นไปบนผืนน้ำที่กว้างใหญ่ คลื่นทะเลที่สาดซัดเป็นระลอก ทำให้เรือโครงเครงไปมาไม่หยุด.
ชายชราผู้ถือหางเสือเอ่ยออกมาว่า”พายุที่รุนแรงแบบนี้ มีเป็นประจำ เหล่าฟู่เดินทางมาหลายร้อยครั้งแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล.
นายน้อยหยวน และเหล่าหลินนั่งอยู่ในห้องโดยสารยึดราวเอาไว้แน่น.
แม้นว่าทั้งสองคล้ายจะดูสงบ แต่ในใจที่ได้แต่ภาวนา หวังให้ข้ามฝั่งไปถึงจังหวัดตงไห่ยวีให้ได้โดยปลอดภัย.
“ขอเพียงหนีห่างจากจุนซ่างเซียวได้ ถึงจะมีหนทางเดียวก็ต้องเสี่ยง!”นายน้อยหยวนที่เอ่ยในใจ.
......
“ติ๊ง! โฮสน์ประกาศสงครามกับทวีปหลิงหยวนเป็นไปตามเวลา เข้าข่ายเงื่อนไขขั้นต่ำ ภารกิจสำเร็จ 100% โฮสน์ได้รับ 20,000 แต้ม!”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนนิกาย : 90,000 / 70,000.”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนเกินขีดจำกัด....”
ขณะจุนซ่างเซียวเดินเข้ามาให้ห้องโถง ได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา“เป็นความจริง ที่มีคนบาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก ทำให้สำเร็จเพียงแค่ 100% เท่านั้น.”
เขาที่ถูมือไปมา นั่งลงบนเก้าอี้.
ในเวลานี้เขากำลังรอ ของรางวัลจากภารกิจมหากาพย์ทั้งสองที่จะมอบให้!
“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสน์สำเร็จภารกิจมหากาพย์ที่เก้า ได้รับน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์ 5 น้ำยาพรสวรรค์กระบี่ระดับศักดิ์สิทธิ์ 1 สูตรดาบเขี้ยวมังกรระดับสุดยอด 1 สูตรลูกศรเขี้ยวมังกรระดับสุดยอด 1 สูตรตีหอกเขี้ยวมังกรระดับสุดยอด 1 ยันต์เปิดผนึกแบบใหม่ 1.”
“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสน์ที่สำเร็จภารกิจที่สิบ ได้รับน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์ 2 พรสวรรค์กระบี่ระดับศักดิ์สิทธิ์ 1 สิทธิ์การซื้อวิชาแสงเจ็ดสีทำลายล้างส่วนที่สาม 1.”
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันที.
รางวัลสองภารกิจมหากาพย์สองอัน ได้รับ 7 น้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์ถึงเจ็ดขวด และยังมีน้ำยาพรสวรรค์กระบี่อีกสองขวดด้วย เป็นอะไรที่สุดยอดเป็นอย่างมาก.
นอกจากนี้ยังมีสูตรยุทโธปกรณ์เขี้ยวมังกรอีกสาม ระดับสุดยอดอีกด้วย แน่นอนว่าจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าเซ็ตเจิ้นหยางที่มีเพียงระดับสูง
และยังมีส่วนของตำราแสงเจ็ดสีทำล้ายล้างส่วนที่สามอีกด้วย! กล่าวได้ว่าเขาได้มาสองส่วนแล้ว การได้ส่วนที่สามมา หลังจากบ่มเพาะ จะทำให้ทักษะนี้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก.
ส่วนยันต์เปิดผนึกไม่ต้องเอ่ยถึงเลย.
นี่คือไพ่ไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา เท่ากับว่าเขามีโอกาสไล่ล่าสังหารผู้คนอย่างบ้าคลั่งได้อีกครั้งแล้ว!
“ยอดเยี่ยม!”
“สมบูรณ์แบบ!”
จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มพลาย.
“ฟู่ ๆ-----”
ในเวลานั้น พลังวิญญาณจากแกนวิญญาณที่กำลังปะทุ พร้อมกับกลั่นตัวกลายเป็นบริสุทธ์มากขึ้นและก็มากขึ้น.
จุนซ่างเซียวที่นั่งสมาธิ เอ่ยออกมาว่า“กำลังจะตัดผ่านไปยังระดับปราชญ์สองวิถียุทธ์และกระบี่แล้ว.”
ด้วยการตัดผ่านระดับจากการสำเร็จภารกิจมหากาพย์ ดังนั้นจึงทำให้เขาคุ้นชิน แม้นว่าจะตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่พอให้เขากระโดดโลดเต้น.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่!”
ภายในแกนพลังวิญญาณ ที่กำลังโคจรพลังไปมา มันกำลังหมุนวนปรับเปลี่ยนให้กลั่นพลังวิญญาณให้พลังบริสุทธิ์มากขึ้นเรื่อย ๆ.
เพียงไม่นาน.
การกลั่นพลังก็เสร็จสิ้น.
จุนซ่างเซียวที่สัมผัสได้ถึงพลัง...การยกระดับที่เห็นไม่ชัดเจน ดังนั้นจึงได้เอ่ยกล่าวได้ความประหลาดใจ“สถานการณ์นี้คืออะไร?”
“ติ๊ง! พบว่าวิถีกระบี่ของโฮสน์ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ยังไม่สามารถยกระดับได้.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้รีบเร่ง ก่อนจะนำน้ำยาพรสวรรค์กระบี่ระดับสูงออกมา ก่อนที่จะดื่มลงไป รสชาติของมันที่แผดเผาราวกับเป็นสุรารสจัด.
“ฟู่ ฟู่!”
หลังจากยกระดับวิถีกระบี่ แกนพลังงานคุณสมบัติกระบี่ก็เริ่มเปลี่ยน หลังจากไปถึงขั้นสุด กลิ่นอายของยุทธและกระบี่ก็ระเบิดออกมา ส่งกลิ่นอายแผ่ออกไปรอบ ๆ ทันที.
“หืม?”
เย่ซิงเฉินที่กลับที่พัก สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจากยอดเขาลอยฟ้าปรากฏขึ้น ทำให้เขาเผยความประหลาดใจ“นี่เขา....ตัดผ่านระดับอย่างงั้นรึ?”
“เจ้านิกายตัดผ่านระดับ!”
เหล่าติงและคนอื่น ๆ สัมผัสได้ว่ากลิ่นอายที่น่าเกรงขามกำลังถูกยกระดับขึ้น แววตาของพวกเขาที่เผยความประหลาดใจและดีใจออกมา.
ลู่เชียนเชียนที่ยืนอยู่นอกสวน จ้องมองไปยังห้องโถงที่มีพลังแผ่ระเบิดหมุนวนออกมารอบ ๆ ลอบคิดในใจ“นี่เขาสำเร็จระดับปราชญ์ยุทธ์งั้นรึ?”
หลายปีมานี้ นางที่เห็นจุนซ่างเซียวตัดผ่านระดับเร็วมาก ๆ จนทำให้นางสงสัยว่าเขานั้นจงใจระงับพลังบ่มเพาะของตัวเองเอาไว้หรือไม่ คลายสะกดตามเงื่อนเวลา เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ก็จะถูกปลดออกมา คล้ายกับทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเขากำลังตัดผ่านระดับ.
“ฟู่ ฟู่!”
พลังสองแกนยุทธ์และกระบี่ที่ปะทุเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม ถึงจะค่อย ๆถูกเก็บไป.
“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสน์สำเร็จเป็นปราชญ์ยุทธ์.”
“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสน์ที่สำเร็จเป็นปราชญ์กระบี่.”
ขณะที่ทุกอย่างกลายเป็นเงียบงัน จุนซ่างเซียวในห้องโถงก็หายไปในทันที.
“เฮ้อ.”
ในเวลานั้น เขาที่ไปถอนหายใจอยู่บนหลังคา.
ร่างของเขายืนเด่น สายลมพัดโกรก ดูราวกับยอดฝีมือไร้คู่เปรียบเอ่ยออกมาอย่างมาดมั่น“โปรดเรียกข้าว่าปราชญ์สองวิถียุทธ์และกระบี่ ขอบคุณ.”
ระบบ“.....”
เพียงแค่ระดับปราชญ์ยุทธ์ก็น่าหงุดหงิดถึงเพียงนี้ หากสำเร็จระดับราชันย์ยุทธ์จะน่าหงุดหงิดขนาดใหน?
“วูซซซซ-”
ห้วงมิติที่สั่นไหว จุนซ่างเซียวที่หายไปอีกครั้ง.
เขาที่มุดลอดผ่านห้วงมิติ ไปโผล่ที่นอกฐานที่มั่น แววตาที่เปี่ยมล้นด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ”หลังจากตัดผ่านระดับแล้ว ก็มีพลังเข้าใจในห้วงมิติได้ ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้ในทันที.
ครึ่งก้าวปราชญ์เพียงแค่เข้าใจห้วงมิติระดับต้นเท่นั้น ทว่าเมื่อก้าวถึงระดับปราชญ์จะสามารถเข้าใจในพลังมิติอย่างสมบูรณ์ ทำให้สามารถเคลื่อนที่ลอดผ่านมิติได้หลายร้อยลี้หรือไกลกว่านั้นได้.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ลอดผ่านห้วงมิติออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า.
ครั้งแรกได้ไกลสิบลี้ ครั้งต่อไปก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนได้ร้อยกว่าลี้ในที่สุด...จนกระทั่งเวลานี้เขาที่กำลังนอนหอบ หมดแรงอยู่ที่ห้องโถง.
“ฟู่ ฟู่!”
“แฮก ๆ-”
โกวเซิ่งที่นอนหมดเรี่ยวแรง หายใจแรงเร็ว “เหนื่อยจัด!”
“ไร้สาระ!”
ระบบเอ่ย “ใช่พลังไปขนาดนั้นไม่เหนื่อยก็แปลกแล้ว.”
การเคลื่อนที่ผ่านมิติ ทำให้เขาใช้พลังไปอย่างบ้าคลั่ง.
“ความแข็งแกร่งของข้าเป็นอย่างไรตอนนี้?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ระบบที่กล่าวประมาณการ“ด้วยความแข็งแกร่งโฮสน์ตอนนี้เป็นปราชญ์ยุทธ์ขั้นแรก เทียบได้กับ ขั้นสองและสามได้.”
“เพียงแค่ระดับสอง-สามเท่านั้นรึ?”จุนซ่างเซียวที่รู้สึกไม่พอใจนัก.
ระบบเอ่ย “เทียบกับระยะทางในการลอดผ่านมิติระดับปราชญ์ยุทธ์คนอื่น ๆ ก็ได้เท่านี้.”
“แน่นอน.”
“นี่ก็แค่ประมาณการ ส่วนพลังต่อสู้เท่าใดนั้นต่อสู้จริงก่อนถึงจะประเมินได้.”
ระบบที่ไม่กล้ายืนยัน ด้วยเกรงว่าโฮสน์จะเอาชนะปราชญ์ระดับสี่หรือห้าได้ ไม่เท่ากับว่ามันถูกตบหน้าอีกครั้งหรอกรึ?