ตอนที่แล้วChapter 1012 พลังของรูปปั้นหิน ปะทะอสุรกายสงครามระดับสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1014 ยินดีที่ได้ร่วมมือ

Chapter 1013 เขตแดนสังหารอาชูร่า


จุนซ่างเซียวที่ได้รับสมบัติระดับสวรรค์มาหลายชิ้น ทำให้ปรากฏอสุรกายสงครามระดับสองตนมาเยือน เห็นชัดเจนว่ายังทรงพลังกว่าเดิม.

อย่างไรก็ตาม.

หลังจากที่เขาใช้พลังจากสมบัติระดับสวรรค์ รูปปั้นปิศาจทำให้เขาจัดการอีกฝ่ายได้อย่างไม่ยากเย็น ทว่า.

ในสภาพนั้น จุนซ่างเซียวที่เสียสติไปอย่างชัดเจน โชคดีที่ถางจู่จื่อทนมือทนเท้า หากเป็นเหล่าติงหรือคนอื่น ๆ บางทีคงไม่รอดแน่.

“ข้าทำร้ายเจ้านะรึ?”

“ใช่.”

“เป็นข้าจริง ๆ รึ?”

“ใช่!”

“......”

....

หลังจากได้รับการยืนยันอย่างชัดเจน จัดการทุกอย่างแล้ว จุนซ่างเซียวก็กลับมานั่งที่ห้องโถงนำรูปปั้นปิศาจออกมาดู พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความตกใจ“สิ่งนี้มันอันตรายจริง ๆ!”

เขาจำได้ว่ามีอสุรกายสงครามระดับสวรรค์สองตนที่พ่ายแพ้ไป เรื่องหลังจากนั้นเขาก็จำไม่ได้แล้ว.

ระบบเอ่ย “ในเวลานั้นมีพลังจากภายนอกทะลวงจิตสำนึกของโฮสน์แล้วควบคุมร่างกายเอาไว้.”

“......”

จุนซ่างเซียวถึงกับยิ้มฝืนออกมา.

แม้นว่ารูปปั้นชิ้นนี้จะมอบพลังให้กับเขาในเวลาสั้น ๆ ทว่ากับควบคุมจิตใจและร่างกายของเขา ทำให้เขาทำร้ายฝั่งเดียวกัน นี่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน.

“ไม่ได้การ แย่เลย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “สิ่งนี้แปลกไปแล้ว ไม่สามารถใช้ได้อีกครั้งแล้ว!”

การเพิ่มพลังแข็งแกร่งขึ้นมา แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่สุดยอด ทว่าการที่เสียสติควบคุมตัวเองไม่ได้นี่มัน ไม่สามารถยอมรับได้.

หากว่าศิษย์ของเขาได้รับผลจะต้องแย่อย่างแน่นอน.

เพียงแค่คิดก็ทำให้เขาขนลุกแล้ว.

ระบบเอ่ย “ดังนั้น สมบัติจากระบบจึงเชื่อถือได้ มากกว่าสิ่งของจากพิภพเบื้องบน ถึงจะทรงพลัง แต่ผลข้างเคียงกับไม่สามารถควบคุมได้.”

นี่ถือว่าเป็นการยกยอสินค้าระบบและลดค่าของสินค้าจากเบื้องบน.

เหมาะสมจะเป็นพ่อค้าจริง ๆ.

“ก็ใช่.”

จุนซ่างเซียวที่จ้องมองรูปปั้น กล่าวออกมว่า“ทำให้ข้าเสียสติ ถึงจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่เหมาะจะใช้อีก.”

“ฟิ้ว!”

เขาที่ส่งไปเก็บในแหวนมิติ เอาไว้ที่มุมสุดทันที.

เขาไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ เพราะว่าอาจจะทำให้เกิดอันตราย สร้างปัญหา หรือทำให้ศิษย์ของเขาได้รับภัยไปด้วย.

......

“กึก ซี่!”

ประตูหอยาเปิดออก จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้าไป.

ก่อนหน้านี้ถางจู่จื่อที่นอนร้องเพลงกระดิกเท้าอยู่ ทันใดนั้นก็เปลี่ยนมากุมหลัง ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดทันที“โอ้ย...อ๊าก....หลังของข้า อ๊าก.....”

แม้นว่าการแสดงจะน่าอายเล็กน้อย ทว่ากลับได้ผลชัดเจน.

“ถางจู่จื่อ.”

จุนซ่างเซียวกล่าวขอโทษ“ทำผิดต่อเจ้าแล้ว.”

ราชาสัตว์จื่อหลินที่กล่าวอย่างบูดบึ้ง “กระดูกข้าแทบแตกเป็นเสี่ยง ๆ....เจ้านิกายหมายความว่าอย่างไร.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เดือนนี้มอบเม็ดยาสัตว์เป็นสองเท่า.”

ราชาสัตว์จื่อหลินดวงตาเป็นประกายทันที ลอบคิดในใจ“เยี่ยม ไม่ได้เจ็บตัวเปล่า!”

องค์ราชา.

ท่านเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ.

เพื่อทรัพยากรของเผ่าพันธุ์ ถึงกับต้องทำทุกวิธี.

ในอดีต ถึงแม้นว่าเขาจะถูกทุบตี ถึงจะขยับได้แค่นิ้ว เขาก็ยังแข็งขืนตอบโต้กลับ.

“เจ้านิกาย.”

ราชาสัตว์จื่อหลินที่หยุดแสดง และเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง “ทักษะเทวะที่ท่านใช้เมื่อวาน แม้ว่าจะแข็งแกร่ง ทว่ากับทำให้เสียสติ หลังจากนี้อย่าใช้เลยดีกว่า ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ศิษย์นิกายถูกลูกหลงได้.”

แม้นว่าเขาจะเชื่อว่าตัวเองถูกบังคับให้เข้าร่วมนิกายนิรันดร ทว่าเวลานี้ก็ดูจะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน.

เพียงคำพูดของเขาเมื่อครู่ ก็พิสูจน์ได้แล้ว.

ถางจู่จื่อ ที่ดูโอหังเหมือนกับเย่ซิงเฉิน.

ถึงทั้งสองจะปากแข็ง แต่ด้วยการอาศัยในนิกาย จิตใจที่เริ่มปรับเข้าหาคนในนิกายช้า ๆ.

ในเวลานี้ตั้งแต่เห็นจุนซ่างเซียวจัดการอสุรกายสงครามระดับสวรรค์ได้ ถึงจะมืดแล้ว เย่อาหนิวก็ยังคงเข้าร่วมการก่อสร้าง ทำงานเพื่อนิกายอย่างจริงจัง.

“ศิษย์พี่รอง.”

เซียวจุ้ยจื่อเอ่ย “ดูเหมือนว่า ศิษย์น้องเย่จะปรับตัวเข้านิกายได้อย่างแท้จริงแล้ว.”

“ใช่.”หลี่ชิงหยางที่กล่าวอย่างพึงพอใจ.

เขาที่สามารถมองเห็นได้ ว่าก่อนหน้านี้เย่ซิงเฉินที่อหังการเป็นอย่างมาก ไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมของนิกายนัก ตอนนี้อีกฝ่ายที่เข้าร่วมก่อสร้างนิกายอย่างสุดจิตสุดใจ อธิบายได้ว่าอีกฝ่ายปรับเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับนิกายอย่างแท้จริงแล้ว.”

หลี่ชิงหยางที่เงยหน้าจ้องมองไปยังยอดเขา สตรีชุดขาวลู่เชียนเชียนที่ยืนอยู่ พร้อมกับกล่าวเสียงเบา“ดูเหมือนว่ายังมีสตรีน้ำแข็งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนไปเลย.”

เซียวจุ้ยจื่อส่ายหน้าไปมา “ศิษย์พี่หญิงใหญ่นั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ธาตุน้ำแข็ง บางทีคงเป็นเรื่องยากมากจริง ๆ.”

......

หลังจากจัดการอสุรกายสงคราม ฐานที่มั่นที่ขยายออกไปเป็นอย่างมาก ตอนนี้ใกล้จะเท่ากับนครขนาดใหญ่แล้ว.

“ได้สมบัติสวรรค์สัก 2-3 ชิ้น น่าจะสำเร็จ.”

บนยอดเขา จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม.

ภารกิจมหากาพย์ที่เก้าเหลืออีกสองเดือน สร้างฐานที่มั่นให้ได้ระดับนคนขนาดใหญ่ กล่าวได้ว่าเป็นการพัฒนาที่เร็วมาก.

ส่วนภารกิจมหากาพย์ที่สิบ.....

“ใช่แล้ว!”

จุนซ่างเซียวที่ตบกบาลตัวเอง “ทวีปถูเต้งและทวีปซิงเย่จะปะทะกันวันนี้ คงต้องไปดูสักหน่อย.”

“ฟิ้ว!”

กล่าวจบ เขาก็ออกจากฐานที่มั่นทันที.

เขตแดนสังหารอาชูร่านั้นอยู่ใจกลางของพิภพสงคราม พื้นที่รอบ ๆ นั้นมีม่านพลังปกคลุม ดูเหมือนกับสนามสู้วัวกระทิง.

ขณะหาสมบัติ จุนซ่างเซียวที่เวะเวียนมาหลายครั้ง แต่เพราะว่าด้านในไม่มีใคร ไม่มีการต่อสู้ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรให้ดู.

ตอนนี้ เมื่อเขามา ม่านพลังที่โปร่งใส สามารถมองเห็นคนของสองพิภพอยู่ด้านใน จำนวนน่าจะราว ๆ 4,000-5,000 คนได้เลย.

“ที่จริง.”

จุนซ่างเซียวที่คิดในใจ”ความแข็งแกร่งของสองพิภพนี้ใกล้เคียงกัน.

การต่อสู้ใหญ่ ยากจะเห็นในพิภพสงคราม มีเพียงเหตุการณ์แย่งชิงสมบัติเท่านั้น ที่พอจะเห็นบ้าง.

เขตแดนสังหารอาชูร่านั้นมีพื้นที่รัศมีสิบลี้ ม่านพลังที่ปกคลุมทุกคนให้เข้าไปด้านในสังหารกันและกัน.

แน่นอน.

มียอดฝีมือมาถึงที่ก่อนจุนซ่างเซียวแล้ว.

ขณะเห็นเขาปรากฏ คนอื่น ๆ ที่ขยับออกห่าง รักษาระยะเอาไว้.

......

ยอดฝีมือที่มามากขึ้นและก็มากขึ้น อยู่ในจุดที่แตกต่างกัน เป็นพื้นที่รับชมที่แตกต่างกัน สายตาของทุกคนที่จ้องมองอย่างคาดหวัง.

จุนซ่างเซียวที่อยู่อีกพื้นที่แห่งหนึ่ง ยืนกอดอกจ้องมองคนทั้งสองกลุ่มอยู่.

พวกเขาที่ยังไม่เริ่มทันที ทว่าพวกเขาที่กำลังเหมือนว่าจะเจรจากันอยู่.

เหล่ายอดฝีมือด้านนอกสามารถมองเห็นภาพด้านใน แต่ไม่สามารถได้ยินเสียง ดังนั้นจึงไม่รู้ว่า ทั้งสองพิภพนั้นได้พูดคุยอะไรกันอยู่?

“ฮาว......”

หลังจากรอมาครึ่งชั่วโมง จุนซ่างเซียวที่เริ่มง่วงเหงาหาวนอน.

มารดาเถอะ!

จะให้ข้าไปนอนกลางวันก่อนรึอย่างไร?

ในเวลานั้น ทั้งสองก็เริ่มต่อสู้กัน พวกเขาที่บินขึ้นไป ร่างกายที่ปะทุพลังวับวาว พุ่งเข้าปะทะต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง!

“ท้ายที่สุดก็เริ่มสักที!”

“แม้นว่าจะไม่ได้ยินเสียง ทว่าจากภาพก็บอกได้ว่าเป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วงอย่างแน่นอน!”

“ที่บินอยู่นั่น บางทีคงจะมีระดับปฐพี!”

ภาพที่ทั้งสองพิภพเข้าต่อสู้กันอย่างรุนแรง เหล่ายอดฝีมือผู้ชม ทีกำลังวิพากษ์วิจารณ์กัน.

จุนซ่างเซียวกำลังดูอยู่เช่นกัน.

ซึ่งตั้งใจมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ.

ในเวลานั้น เขาพบว่ายอดฝีมือหลายคนที่อยู่ในสภาพไม่ดี.

“เรียนผู้เข้าร่วม เมื่อเข้าสู่ดินแดนสังหารอาชูร่า มีเพียงรอดและตายเท่านั้น.”เสียงของระบบสตรีเอ่ย.

“โหดร้ายมาก!”

จุนซ่างเซียวที่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา.

แม้นว่าจะไม่ได้ยินเสียง ทว่าภาพการต่อสู้ที่เฉิดฉายรุนแรงมาก.

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม.

การปะทะกันของคนสองพิภพอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้มีคนเพียงพันกว่าคนที่ยังสู้กันอยู่ ส่วนคนอื่น ๆ ที่นอนกองบนพื้น ไม่ขยับเรียบร้อยแล้ว.

จุนซ่างเซียวที่ถอนหายใจ“หากไร้ซึ่งพลัง ก็มีเพียงแค่ความตายที่รออยู่.”

พิภพเบื้องบน.

สิ่งมีชีวิตในพิภพอื่นล้วนแต่ไร้ค่า!

เห็นยอดฝีมือที่ต้องมาห้ำหั่นให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ทำให้จุนซ่างเซียวโกรธเกรี้ยวขึ้นมาเช่นกัน ความโกรธที่ลุกโชนแทบทะลวงสวรรค์.

การที่ทุกคนต้องการเข้ามาสังหารกันในพิภพสงครามที่ไม่ต่างจากอารีนา พวกเขาที่เป็นหมากใช้แล้วทิ้งเป็นเหมือนกับนักแสดงให้พิภพบเบื้องบนได้ชมการแสดงเพื่อความสนุกเท่านั้น!

แย่!

แย่จริง ๆ!

กับภาพเหตุการณ์ทำให้เขาแทบอยากตะโกน“ข้าจะต้องต่อต้านเจตจำนงสวรรค์!”

ทว่าในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่ราวกับนึกอะไรได้ ลอบคิดในใจ“หากว่าหาพิภพอื่นเข้าไปแสดงแกล้งตาย โดยใช้เม็ดยาน้ำพุเหลือง พิภพเบื้องบนก็ไม่น่าจะพบใช่หรือไม่?”

ระบบเอ่ย “ความคิดของโฮสน์ช่างร้ายแรงนัก!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด