บทที่ 21 โชคชะตาของจินอัน
จินอันที่ยืนปะปนอยู่กับฝูงชนด้านนอก
กำลังเฝ้ามองคนหามโลงศพอยู่ไกลๆ
เขาและคนอีกหลายๆ คน เห็นเหตุการณ์ที่โลงศพหล่นลงพื้น
และในเวลาเดียวกัน ก็เห็นโลงศพขาวถูกหามกลับเข้าหลุมเหมือนเดิม
เหตุการณ์นี้ทำให้หลวงจีนจางเอ้อต้องเกาหัวด้วยความงุนงง เขาไม่รู้ว่าตระกูลหลิน กำลังทำอะไรอยู่ ที่พวกเขาเอาโลงศพออกมาแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่
"ทำไมพวกเขาหามไปหามมาแบบนั้นเล่า?"
"ท่านไม่รู้รึ? เมื่อคนในครอบครัวตาย เราไม่ควรให้โลงศพตกลงพื้นเมื่อยกโลงศพ" เมื่อกี้เชือกขาด แล้วโลงศพตกลงพื้นดิน มันไม่ใช่สัญญาณที่ดี"
“งั้นจะหามโลงใส่กลับเข้าไปอีกทำไมล่ะ?”
“ข้าว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ?”
จินอันฟังคำอธิบายของผู้คนรอบตัวเขา สายตาของเขากำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่างอยู่
ในตอนนี้ เกิดความวุ่นวายในฝูงชนขึ้นเล็กน้อย ที่จู่ๆ ครอบครัวของ หลินลู่ เดินตามนักพรตลัทธิเต๋าทีละก้าวๆ เข้าหาฝูงชนที่กำลังเฝ้าดูอยู่
ทุกคนพูดคุยกันด้วยความสังสัย ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาอะไร?
นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าเดินเข้ามาหาผู้คนที่มีอยู่สองสามร้อยคนเพื่อมาดูความตื่นเต้น และมองดูใบหน้าเหล่านั้นทีละคน
แต่ทุกครั้งที่เขามอง เขาก็ส่ายหัวทุกครั้ง
จนกระทั่งเมื่อนักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าได้เห็นใบหน้าจินอัน สีหน้าของเขาแสดงความประหลาดใจในตอนแรก จากนั้นเขาก็เกิดไม่แน่ใจขึ้นเล็กน้อยด้วยท่าทีที่ลังเล
“คิ้วยื่นออกมา หน้าคมเด็ดเดี่ยว สีหน้าอมม่วง ไม่ว่าจะเป็นวังแห่งชีวิต หรือ วังแห่งโชคลาภ ต่างก็สูงส่งกว่าที่เคยพบเคยเจอ ข้าไม่เคยเห็นโหงวเฮ้งเช่นนี้มาก่อน แปลก แปลกจริงๆ ...หรือว่าจู่ๆ เขาก็โผล่ออกมาจากรูปสลักหิน?”
“แต่คนจะโผล่ออกมาจากรูปสลักได้ยังไง ทำไมวังคู่ครองถึงสูงส่งขนาดนี้ สว่างไสวไร้ความมืดมน หินไม่สามารถแต่งงานแล้วมีลูกได้หรอก!”
นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋ามองดูโหงวเฮ้งทั้ง 12 วัง บนใบหน้าของจินอันแล้วพูดกับตัวเอง
"อ๊ะ ข้าลืมไปซะสนิทว่าทำไมข้าถึงมาที่นี่"
เมื่อจินอันถูกจ้องมองทุกอนุของใบหน้าของเขา เขาคิดว่าเขาต้องพูดว่า "มองหน้าหา...?"
แต่พอมาคิดดูอีกที คนที่นี่ไม่น่าจะรู้ว่ามุกนี้คืออะไร
จินอันคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดกับนักพรตเฒ่าลัทธิเต๋า: "ว่าไง?!"
นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋า: "?"
หลินลู่: "?"
พ่อแม่ของ หลินลู่: “?”
คนในตระกูลหลิน: "?"
ผู้เห็นเหตุการณ์: "?"
มีผู้อาวุโสผู้น่านับถือคนหนึ่งในตระกูลหลิน ตำหนิจินอันด้วยความโกรธทันที: "อย่าอวดดีนัก เอ็งเป็นใครถึงมาพูดสบถคำเช่นนี้?!"
หลังจากที่ได้ยินสิ่งนี้ จินอันก็ดูสับสนเล็กน้อย
“ข้าพูดสบถคำอะไร?”
“ก็ทันทีที่นักพรตลัทธิเต๋าผู้นี้มาถึง เขาก็จ้องหน้าข้าแล้วอ่านดวงชะตาของข้า แน่นอนว่าข้าต้องถามเขาสิว่า 'ว่าไง' การทำนายดวงชะตาเป็นไงบ้าง”
จินอันรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับเขา
นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋า: "!"
หลินลู่: "!"
พ่อแม่ของหลินลู่: “!”
คนในตระกูลหลิน: "!"
ผู้เห็นเหตุการณ์: "!"
"!!!"
ว่าไงเห็นอะไร?
ทันใดนั้น ก็มีคนที่รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นเขามาก่อน
“ข้าจำเขาได้ เขาไม่ใช่คุณชายจินอันที่ไขคดีแปลกๆ มาหลายครั้ง รวมถึง 'คดีสังหารของเซียนอัศนี' และ 'คดีจมน้ำ' หรอกหรือ?”
มีคนในตระกูลหลิน ชี้ไปที่ จินอัน แล้วพูดอุทานขึ้นมา
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ คนอื่นๆ ก็เข้ามาดูใกล้ๆ และในที่สุดก็เข้าใจ ว่าคนๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคุณชายจินอันซึ่งตอนนี้เขาเป็นคนมีชื่อเสียงในเทศมณฑลฉาง
แม้แต่เด็กผู้หญิงอายุห้าขวบในเทศมณฑลฉางก็รู้เกี่ยวกับชื่อเสียงของจินอันและตะโกนว่าจะแต่งงานกับเขา
“น้องชาย เจ้าไปคุยกับข้าสักครู่ได้ไหม?”
“ข้ามีเรื่องจะขอ”
เมื่อจินอันได้รู้ว่าตัวเองเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาเป็นนักพรตลัทธิเต๋าที่มีความสามารถจริงๆ หรือว่าเป็นไอ้นักมายากลเฒ่าที่กำลังหลอกหลวงผู้คนกันแน่ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเขาถูกขอให้ไปแบกศพ!
เมื่อคุณถูกขอให้ต้องไปแบกคนตายในโลงศพขาว!
ก็ต้องปฎิเสธโดยไม่ได้คิดอะไรเลยอยู่แล้ว
ดูสิ่งที่ไอ้นักมายากลเฒ่าคนนี้พูดสิ มันรู้ภาษาคนอยู่ป่าวเนี่ย
มีข้อห้าม 5 ประการในการแบกศพ:
1. เตรียมเทียนสีแดงและธูปสามดอก
2. ต้องแบกศพในเวลาเที่ยงคืนเท่านั้น เมื่อหยินและหยางสลับกัน
3. จะต้องกระทำโดยคนๆ เดียว โดยไม่มีผู้อื่น ต้องแงะเปิดโลงศพขาวให้ตรงเวลาเที่ยงคืน สวมชุดสีแดง และแบกศพโดยหันหลังออกจากโลงศพขาว
4. ถึงตอนนี้จะต้องไม่หันกลับไปมองศพในโลงขาว
เพราะเมื่อคนเราตายหยินและหยางจะแยกจากกัน จึงป้องกันไม่ให้ไอระเหยจากศพที่้น่าเปื่อยในโลงศพ ทำให้เกิดภาพหลอนหรือถูกดูดพลังงานหยางไป
5. ระหว่างทางที่แบกศพไม่ว่าจะได้ยินเสียงเคลื่อนไหวหรือได้ยินคนเรียกชื่อจากด้านหลังก็ตาม ห้ามหันกลับไปมองเด็ดขาด
เนี่ยนะภาษาที่คนพูดกัน?
นี่หน่ะเรอะงาน?
ไม่น่าแปลกใจเลยที่จินอันจะตราหน้านักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าที่อยู่เบื้องหน้าเขาโดยตรงว่า "ไอ้นักมายากลเฒ่า"
นี่มันการทดความความกล้าไม่ใช่รึไง?
ใครจะไปแบกศพกลางดึก แล้วห้ามมองกลับไปดูว่าแบกอะไรอยู่? ใครจะรู้ว่าอะไรนอนอยู่บนหลัง?
ไม่ว่าคนตระกูลหลิน จะขอร้องหนักแค่ไหน จินอันก็ทำหน้าขมวดคิ้วแล้วปฏิเสธที่จะเห็นด้วยกับเรื่องนี้
นี่ไม่ใช่คำถามของคนดีคนเลว
เว้นแต่ว่าเขาจะมีเมล็ดงาอยู่ในหัว เขาก็คงทำสิ่งที่ไร้สาระเช่นนี้ได้
“ไอ้นัก...”
จินอันตระหนักได้ว่า ไอ้นักมายากลเฒ่า เบื้องหน้าเขานี้มีสถานะที่สูงส่งต่อคนของตระกูลหลิน โชคดีที่เขาหยุดสิ่งที่กำลังจะพูดได้ทันเวลา
หากเขาแสดงท่าทีหมิ่นประมาทไอ้นักมายากลเฒ่าคนนี้ คนจากตระกูลหลินหลายสิบคนที่ยืนอยู่ที่นี่คงฆ่าเขาด้วยการถ่มน้ำลาย
“ท่านนักพรตลัทธิเต๋า ช่างแบกศพที่ท่านพูดถึงเมื่อกี้คืออะไรงั้นหรือ? ทำไมต้องเป็นเขาถึงสามารถแบกศพได้?”
"ข้าเข้าใจความหมายของคำว่าช่าง แต่โดยทั่วไปมันหมายถึงช่างฝีมือต่างๆ ไม่ใช่หรือ"
“ช่างแบกศพหมายถึงคนที่หาเลี้ยงชีพด้วยการขนศพให้คนอื่นงั้นเรอะ?”
นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าไม่ตอบอะไรแล้วถามจินอันว่า: "ข้าขอถามนะน้องชาย เจ้ารู้ไหมว่ามีบทลงโทษและการทรมานผู้คนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงตอนนี้กี่แบบ"
จินอัน: "แยกร่างด้วยม้าห้าตัว, ฝังทั้งเป็น, ผ่าท้อง, ต้มจนตาย, ถลกหนัง, แยกส่วน, เลื่อย, ผ่าครึ่ง, ขี่ลาไม้สวนทวาร, แช่กรงหมู, เผาทั้งเป็น, อ่างอสรพิษ, สับจนละเอียด, โทษ 5 ประการ, ยัดในโกศ, ตัดเท้า, ตอน..."
"?"
"!"
นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋า หลินลู่ และคนอื่นๆ จากตระกูลหลิน รู้สึกหวาดกลัวต่อสิ่งที่ จินอัน พูด พวกเขาถอยห่างออกจาก จินอัน ด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว
เพราะพวกเขาได้พบกับคนบ้าซึ่งเป็นฆาตกรโรคจิตที่หลบหนีมายังเทศมณฑลฉางโดยการปกปิดตนเองเข้าให้แล้ว
มีการทรมานมากมายที่แม้แต่พวกเขาก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน
“อะแฮ่ม” นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋ามีสีหน้าเขินอายเล็กน้อย
เพราะเขาเป็นคนที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน
ในทางกลับกัน เขากลับเป็นคนที่กลัวจินอันเสียเอง
ภายนอกเขารู้สึกกังวลเล็กน้อยเสมอ และเขาก็กลัว จินอัน มากอยู่พักหนึ่ง โดยกลัวว่าจินอันจะเป็นปีศาจจริงๆ ที่ฆ่าคนโดยไม่แม้แต่กระพริบตา
“หากคนตายอย่างน่าเวทนาหรือมีทุกข์โศก เจ็บปวดจนเกินไป และไม่สามารถกลืนความขุ่นเคืองภายหลังความตายได้ สิ่งแปลกๆ ก็ย่อมเกิดขึ้นแก่กาย นอกจากนี้ เมื่อการตายนั้นน่าเศร้าเกินไป หรือแม้แต่สภาพศพที่สภาพไม่สมบูรณ์ ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ศพเหล่านี้แล้ว ดังนั้นจึงมีอาชีพ ช่างแบกศพ ที่เชี่ยวชาญเรื่องคนตายไงล่ะ”
“ช่างแบกศพมีวิธีการเฉพาะของตนเองในการแบกศพ ทั้ง ปราบปรามศพ สยบวิญญาณชั่วร้าย หรือการช่วยเหลือ พวกเขายังรู้ภาษาศพ สามารถจัดการกับศพและสื่อสารกันได้ เพื่อให้ศพตกลงที่จะให้พวกเขาทำการเคลื่อนย้ายศพ
จินอันตกจเมื่อได้ยินสิ่งนี้
จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด
ยังมีอาชีพที่แปลกประหลาดมากมายในโลกนี้อีกงั้นเหรอ?
“ในเมื่อน้องชายไม่อยากแบกศพ ข้าก็จะไม่บังคับใครให้ทำ เรื่องนี้มันยากเกินไปสำหรับคนธรรมดาแน่นอนอยู่แล้ว”
“บางทีอาจมีวิธีใดวิธีหนึ่งที่จะช่วยตระกูลหลินได้…”
“งั้นข้าขอแค่น้องชายช่วยหามโลงศพให้กับตระกูลหลินแล้วกัน น้องชายมีโชคชะตาที่แข็งแกร่งซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตนี้ แม้แต่ข้าก็ไม่อาจเข้าใจชะตากรรมของน้องชายได้ บางทีหากเป็นน้องชายอาจจะสามาถหามโลงศพลงเนินเขาสำเร็จก็ได้”
“เรื่องนี้ไม่มีอันตรายอะไรหรอก หากมีอันตรายก็ให้หยุดทันทีและหากขนย้ายโลงศพสำเร็จ ก็ถือได้ว่าเป็นการขจัดภัยอันตรายที่ซ่อนอยู่ให้กับชาวเมืองฉาง แล้วการที่ผู้ตายที่เดิมได้ไปสู่สุขคตินั้นก็เป็นบุญอันใหญ่หลวงด้วย”
"ตกลงขอรับ!"
จินอันตกลงที่จะหามโลงศพด้วยกันในครั้งนี้ทันที
(จบบทนี้)