Chapter 159 : วังวนทมิฬ - การสมรู้ร่วมคิดครั้งใหญ่
ยามาโมโตะเป็นคนระมัดระวังตัวมากคนนึง
เพื่อยกระดับความสามารถของ [มุกเวทย์มนตร์ผีดิบ] เขาจึงได้สังหารนักสู้ขอบเขตที่6มาแล้วกว่า25คน ที่ผ่านมาเขามักจะลอบสังหารอย่างลับๆและสังหารเพียงครั้งละคนเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่เคยสังหารนักสู้ของหน่วยสืบราชการลับเลยดังนั้นเขาจึงไม่เคยทำให้หน่วยสืบราชการลับของเมืองโคซากะรู้ตัวเลยซักครั้ง
ตอนนี้เขาห่างจากเป้าหมายในการสังหารนักสู้ขอบเขตที่6 30คนเพียง5คนเท่านั้น
ดังนั้นครานี้เขาจึงวางแผนจะใช้โอกาสที่หมู่บ้านผีหิวโหยนั้นเกิดความวุ่นวายเพื่อสังหารนักสู้ขอบเขตที่6อีก5คนที่เหลือในคราวเดียวและเสริมพลังให้กับ [มุกเวทย์มนตร์ผีดิบ] ให้สมบูรณ์
เขาเป็นนักสู้ขอบเขตที่7และสามารถเทมผีหิวโหยให้มาช่วยสู้ได้ การจะสังหารนักสู้ขอบเขตที่6ทั้งหมดที่นี่นั้นก็เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
ยังไงซะเขาก็สามารถโยนความผิดทั้งหมดให้กับผีหิวโหยได้อยู่แล้ว หลังจากสังหารนักสู้ขอบเขตที่6เหล่านี้แล้วและทำลายศพของพวกเขา ทางหน่วยสืบราชการลับเองก็คงไม่อาจหาเบาะแสใดได้
นักสู้สตรีที่หลบซ่อนอยู่ในชั้นใต้ดินนั้นคือคนสุดท้ายแล้ว
ในเมื่อคนผู้นั้นได้เห็นทุกอย่างไปแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่ยามาโมโตะจะปล่อยเธอไป
อย่างไรก็ตามเจ้าหมอนี่ที่จู่ๆก็โผล่มามันโผล่มาจากไหนกัน?!
ศีรษะของยามาโมโตะอื้ออึงยิ่งนัก
ความคิดของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“อย่าฆ่าฉันเลย ฉันจะให้ทุกอย่างที่นายต้องการเลยขอแค่ไว้ชีวิตฉันก็พอ”
ยามาโมโตะสูดลมหายใจเข้าลึกและเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
ดาบพิษหัวเราะ “นายจะให้อะไรฉันบ้างล่ะ?”
ยามาโมโตะซึบาสกัดฟันเอ่ย “แก่นแท้2ล้าน อุปกรณ์เกรดสีทอง1ชิ้นและไข่มุกแดนลับ80เม็ด”
หลินเซวียนเบ้ปาก
เจ้าหมอนี่ยากจนจริงๆ
“เอาพวกมันทั้งหมดออกมาสิ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ยามาโมโตะเอ่ยเสียงต่ำ “แต่ถ้านายยังคิดจะฆ่าฉันอยู่อีกล่ะ?”
ดาบพิษยิ้มอ่อน “ชีวิตของนายอยู่ในมือฉัน ฉันคือคนที่ตัดสินใจไม่ใช่นาย”
ยามาโมโตะเงียบไปซักพักก่อนจะเหยียดมือไปยังอุปกรณ์เก็บของอย่างช้าๆ
ดวงตาของดาบพิษเองก็จ้องเขม็งมาที่มือของเขาเช่นกัน
พริบตาต่อมาระเบิดควันก็พลันระเบิดออก
ดาบพิษพลันรู้สึกได้ว่าคนที่เขาจับเอาไว้นั้นหลุดมือออกไป
พริบตาต่อมายามาโฒโตะก็หลบหนีออกไปจากเขาได้ไกลกว่า10เมตร
ในเวลาเดียวกันเขาก็สั่งให้ผีหิวโหยทั้งสามตัวกระโจนเข้าไปหยุดดาบพิษเอาไว้
“คิดจะฆ่าฉันงั้นหรอ? ไว้ชาติหน้าเถอะ!”
ยามาโมโตะแค่นเสียงและหลบหนีไปโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง
ปัง!
พริบตาต่อมาใบหน้าของเขากลับกระแทกเข้าใส่แผงอกแข็งกล้า
“นายนี่มีวิธีเอาตัวรอดเยอะดีนะ” ดาบพิษแสยะยิ้มเหี้ยม
มือของเขายกชูขึ้นก่อนจะเหวี่ยงดาบลงมา!
เลือดสาดกระเซ็น!
ติดสถานะพิษ ติดสถานะเลือดออก การโจมตีติดคริติคอล!
ดวงตาของยามาโมโตะเบิกกว้างด้วยความโกรธาขณะที่มือของเขาเองก็ยกขึ้นมากุมลำคอเอาไว้ก่อนจะล้มลงแน่นิ่งบนพื้น
ก่อนที่เขาจะตายเขายังไม่ทันได้เข้าใจด้วยซ้ำ
เพื่อรักษาชีวิต เขาถึงขั้นหาชุดเซ็ตที่เพิ่มพลังชีวิตเป็นพิเศษเลยทีเดียว
พลังชีวิตของเขาจึงสูงกว่าจอมเวทย์ทั่วๆไปถึงหนึ่งในสาม
กระนั้นแล้วเขาก็ยังถูกบุคคลเบื้องหน้าผู้นี้สังหารในพริบตา!
เจ้าหมอนี่มันเป็นสัตว์ประหลาดแบบไหนกันแน่...
หากแต่ในตอนที่ความคิดนี้แล่นขึ้นมาในหัว ความมืดก็ได้ปกคลุมทัศนวิศัยน์ของเขาแล้ว
ไอเทมสามชนิดหล่นลงมาจากร่างกายของเขา
แก่นแท้300000 ไข่มุกแดนลับ20เม็ดและมุกเวทย์มนตร์ที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์
“นี่คือมุกเวทย์มนตร์ผีดิบงั้นหรอ? หลังจากสังหารนักสู้ขอบเขตที่6จำนวน30คนความสามารถที่4ก็จะถูกปลดล็อค ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าหมอนี่พยายามจะไล่ฆ่าคนนัก”
ดาบพิษส่ายหัวและยัดของเหล่านี้ลงกระเป๋า
แม้มันจะไม่มากแต่ก็ถือว่าเป็นกำไร เขาไม่ยี่หระกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
“ออกมาเถอะเธอปลอดภัยแล้ว”
ดาบพิษตะโกน
หลังจากนั้นสาวน้อยผู้หนึ่งก็คลานออกมาจากชั้นใต้ดินของบ้านด้วยร่างกายอันสั่นเทา
ใบหน้าของเจ้าหล่อนซีดเผือดและริมฝีปากเองก็ซีดไม่ต่างกัน
บนแขนและขาเองก็มีบาดแผลเกลื่อนกลาดดูเหมือนจะเกิดจากฝีมือของผีหิวโหย กล้ามเนื้อบริเวณใกล้เคียงกับบาดแผลเองก็เริ่มเน่าและส่งกลิ่นไม่ค่อยดีนัก
“ขอบ...ขอบคุณมากค่ะ!”
สาวน้อยสะอื้นออกมาเบาๆ
ดาบพิษปรายตามองและพบว่าสาวน้อยผู้นี้ดูดีไม่เบา
ถ้าไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างยุ่งเหยิงเพราะพึ่งจะผ่านสถานการณ์เลวร้ายมาและบาดแผลบนร่าง เธอผู้นี้ก็น่าจะงดงามยิ่งกว่านี้
เธอไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนกับนางฟ้าจากสวรรค์ เครื่องหน้าของเธอนั้นสามารถเรียกได้ว่าปราณีตหากแต่เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้เมื่อมองดูเธอแล้วเกิดความรู้สึกสบายตาและให้ความรู้สึกเหมือนกับน้องสาวข้างห้องเสียมากกว่า
ดาบพิษเองก็ใช้สกิลตรวจสอบดูแล้ว
เทียนอวี้หลาน นักสู้เลเวล1ขอบเขตที่6
‘เทียนอวี้? อย่าบอกนะว่าเป็นบุตรีที่สูญหายของเทียนอวี้ ฟอร์เจอร์?’ หัวใจของหลินเซวียนปั่นป่วนขึ้นมา
ไม่มีทางน่า ร่างแยกของเขาที่พึ่งจะมาถึงทุ่งราบมหาสวรรค์และมาที่นี่เพื่อหาแต้มบุญแต่กลับพบกับบุตรีของรองหัวหน้าสาขาของทุ่งราบมหาสวรรค์เข้าเนี่ยนะ
หรือครานี้เขาจะได้ความดีความชอบจากรองหัวหน้ากันนะ?
“เธอชื่ออะไร? เดี๋ยวให้ฉันพาออกไปจากที่นี่แล้วกัน” ดาบพิษถาม
หญิงสาวกระซิบตอบ “ฉันชื่อ...หลาน รบกวนแค่ช่วยพาฉันออกไปก็พอค่ะ”
หลินเซวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สาวน้อยนางนี้กลับไม่ยอมบอกนามสกุลงั้นหรอ?
จะทำแบบนั้นได้ยังไง!
เขาอยากจะพาเธอกลับไปเพื่อเคลมผลงานนะ
ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมเผยชื่อแล้วเขาจะได้ผลงานได้ยังไง?!
คิดได้ดังนี้เขาก็ควบคุมดาบพิษให้อุทานออกมา “ทำไมเธอถึงดูคุ้นๆกัน? ฉันจำได้แล้วเธอคือ...”
หญิงสาวยิ้มขมและเอ่ยขึ้น “บุตรีคนโตของตระกูลเทียนอวี้มีชื่อว่าเทียนอวี้ไฉค่ะ ชื่อของฉันคือเทียนอวี้หลาน ฉันรับใช้ตระกูลเทียนอวี้มานานมากแล้วและเนื่องจากฉันทำผลงานได้ดีก็เลยได้สกุลเทียนอวี้มา”
หลินเซวียน “???”
สาวน้อยเผยสีหน้าน่าสังเวชออกมา “คุณหนูมักจะไม่ค่อยลงรอยกับท่านเจ้าตระกูลเทียนอวี้เท่าไหร่นัก หากมีโอกาสเธอก็มักจะหลบหนีออกไปและให้คนรับใช้อย่างพวกเรามาปลอมตัวเป็นเธอเพื่อเข้าสู่แดนลับต่างๆเพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้อื่น ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
กล่าวจบเทียนอวี้หลานก็ยิ้มแหยๆอีกครั้ง “ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมบุตรีคนโตของตระกูลเทียนอวี้ถึงได้อยากจะหลบหนีเสียทุกวัน ถ้าฉันเป็นเธอฉันคงจะอยากอยู่ในตระกูลตลอดไปมากกว่า”
ดาบพิษถอนหายใจ
เป็นเช่นนั้นจริง
บางคนก็เกิดในโรมและบางคนก็เกิดมาทรงพลัง
เทียนอวี้หลานคนนี้ต้องทำตามคำสั่งของบุตรีคนโตอยู่แล้วในฐานะของข้ารับใช้ เมื่อบุตรีคนโตหลบหนีออกมาอย่างลับๆเธอก็หมายให้คนรับใช้เหล่านี้แสร้งเป็นเธอและเข้าสู่แดนลับอันตรายๆหลายแห่งเพื่อคอยดึงดูดความสนใจจากคนของตระกูลเทียนอวี้
“ไปเถอะ ฉันจะส่งเธอออกไปจากที่นี่” ดาบพิษยื่นโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับอีกฝ่ายและแสดงท่าทีให้เธอตามเขาไป
เทียนอวี้หลานพยักหน้า
อย่างไรก็ตามหลังจากก้าวเท้าได้เพียงครึ่งก้าวดาบพิษกลับได้ยินเสียงต่อสู้ดังขึ้นเบื้องหน้า
ผีหิวโหยนั้นดูเหมือนจะถูกนักสู้ที่ทรงพลังบางคนสังหารอย่างรวดเร็วและไม่มีความสามารถมากพอจะตอบโต้ได้เลยด้วยซ้ำ
เมื่อมองผ่านสกิล [ตรวจจับขั้นสูง] เขาก็พบกับนักสู้ชุดดำสามคน
เขาขบคิดเล็กน้อยและพลันหนักใจขึ้นมา
เมื่อตอนที่มุราตะมอบภารกิจนี้ให้กับเขา อีกฝ่ายนั้นกระทั่งบอกว่านักสู้ขอบเขตที่7นั้นยุ่งมากและไม่มีเวลาจะมาที่หมู่บ้านผีหิวโหยแห่งนี้เพื่อช่วยคนหรอก
หากแต่คนที่อยู่เบื้องหน้าพวกนี้สามารถสังหารผีหิวโหยได้ในพริบตา พวกเขาน่าจะเป็นขอบเขตที่7ไม่ผิดแน่
ดาบพิษหันไปเอ่ยกับสาวน้อย “พวกนักสู้ของตระกูลเทียนอวี้แต่งตัวกันแบบไหน?”
เทียนอวี้หลานชะงักไปชั่วขณะ “ชุดสีขาวและมีลายปักษ์รูปนก”
ดวงตาของดาบพิษพลันสาดประกายคมกริบ “ไปซ่อนตัวที่ชั้นใต้ดินอีกรอบนึงก่อน พวกที่กำลังฆ่าผีหิวโหยอยู่ข้างหน้านี่ดูเหมือนจะไม่ใช่นักสู้จากตระกูลเทียนอวี้”
เทียนอวี้หลานพยักหน้าและรีบไปซ่อนตัวในทันที
ดาบพิษจัดการกับศพของยามาโมโตะอย่างรวดเร็วและรีบสวมใส่ผ้าคลุมแห่งเงาเพื่อเร้นกายในเงาในทันที
ไม่นานนักคนสามคนในชุดคลุมสีดำก็ฆ่าสังหารผีหิวโหยตลอดทางจนมาถึงกลางหมู่บ้าน
“แปลก ยามาโมโตะไปไหนแล้ว?”
“พวกเรานำเจ้าหมอนั่นเข้ามาในแดนลับแห่งนี้เพื่อสังหารทุกคนที่อาจจะเป็นเทียนอวี้ไฉแท้ๆ อย่าบอกนะว่าหมอนั่นมันไปแล้ว?”
“เป็นไปไม่ได้น่า สัญญาณที่ฉันทิ้งเอาไว้กับหมอนั่นบอกว่ามันยังอยู่ในแดนลับนี้แต่ไม่อาจระบุตำแหน่งได้นี่สิ”
“ตรวจสอบดูก่อนเถอะ เราต้องรีบปิดปากยามาโมโตะแล้วค่อยตามหาคนจากตระกูลเทียนอวี้นั่น”
คนชุดดำทั้งสามคนกระจัดกระจายกันออกค้นหาในทันที
เมื่อได้ยินบทสนทนาของพวกนั้นหลินเซวียนก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง
เทียนอวี้ไฉคือบุตรีคนโตของตระกูลเทียนอวี้ที่หลบหนีออกมา
คนชุดดำทั้งสามคนนี้หมายจะสังหารทุกคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นเธอ
หลินเซวียนตกตะลึงยิ่ง
ใครบางคนกลับกล้าแตะต้องบุตรีของรองหัวหน้าทุ่งราบมหาสวรรค์ด้วยรึนี่?
“ถึงฉันจะพึ่งมาถึงแต่ดูเหมือนจะเอาตัวเองเข้ามาเอี่ยวกับเรื่องสมคบคิดเข้าแล้วสิ”
หลังจากประหลาดใจอยู่ช่วงสั้นๆ หลินเซวียนก็ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
ยังไงซะที่นี่ก็คือทุ่งราบมหาสวรรค์ ไม่ว่าคนเหล่านี้จะวางแผนสังหารกันยังไงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
เขาจะทำสิ่งที่อยากจะทำ
สิ่งที่ทำให้หลินเซวียนมีความสุขก็คือดูเหมือนเขาจะสามารถเข้าไปกวนน้ำให้ขุ่นยิ่งกว่าเดิมได้!
“นักสู้ขอบเขตที่7ทั้งสามคนนี้มีระดับอยู่ที่เลเวล6ขอบเขตที่7 เลเวล5ขอบเขตที่7และเลเวล4ขอบเขตที่7ตามลำดับ”
“เลเวล6ขอบเขตที่7เป็นนักฆ่า”
“คนที่เป็นเลเวล5นั่นเป็นจอมเวทย์”
“และเลเวล4เป็นนักรบ”
หลินเซวียนคาดคำนวณและเริ่มขยับเข้าใกล้จอมเวทย์
จอมเวทย์สุดเปราะบางที่มาพร้อมกับพลังโจมตีมหาศาลหากแต่พลังชีวิตต่ำตมย่อมง่ายที่จะจัดการที่สุดแล้ว
คนชุดดำทั้งสามเหล่านี้ล้วนมีระดับสูงทั้งสิ้น ถ้าเขาเผชิญห้นกับอีกฝ่ายพร้อมๆกันระดับความอันตรายก็อาจจะสูงเกินไปหน่อย
ดังนั้นอย่างน้อยก็ต้องเก็บไปซักคนนึงก่อน
“แปลก...มีผีหิวโหยตกตายไปเป็นจำนวนมาก แล้วยามาโมโตะอยู่ที่ไหนกัน?”
จอมเวทย์โน้มตัวลงตรวจสอบโดยไม่รู้เลยว่ามีอันตรายใหญ่หลวงกำลังคืบคลานมาจากทางด้านหลัง
พริบตาต่อมาพลันปรากฏมือข้างหนึ่งยื่นมาปิดปากและจมูกของเขาเอาไว้
มีดสั้นอาบยาพิษอันคมกริบเล็งแทงเข้าใส่หัวใจอของเขาอย่างรุนแรง
คริติคอล! ติดสถานะเลือกออก! ติดพิษ! คริติคอล!
จอมเวทย์ผู้นี้มีเวลาพอแค่เบิกตากว้างเท่านั้นหากแต่กลับไม่มีโอกาสได้ส่งเสียงใดๆก็พลันถูกดาบพิษสังหารทิ้งไปในชั่วพริบตาเสียก่อน!
หลังจากสังหารคนผู้นี้แล้วดาบพิษก็หายตัวเข้าไปในความมืดแล้วค่อยๆย่องเข้าหานักรบ
เขาทำแบบเดียวกันและสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ในพริบตาเดียวเช่นเดียวกัน
หลังจากสังหารไปสองคนติด ดาบพิษก็พึงพอใจยิ่งและลอบเข้าหาคนสุดท้ายที่เป็นนักฆ่า
อย่างไรก็ตามหนนี้อะไรๆกลับไม่ราบลื่นเหมือนครั้งก่อน
อีกฝ่ายเองก็มีสกิล [ตรวจจับ] เหมือนกัน
เมื่อดาบพิษอยู่ห่างจากเขาได้ห้าเมตร นักฆ่าผู้นี้ก็พลันใช้สัญชาตญาณเหวี่ยงการโจมตีไปทางด้านหลัง!
ดาบพิษยกดาบสั้นของเขาขึ้นมาป้องกันเอาไว้ในทันที
เคร้ง!
เสียงโลหะปะทะกันดังกึกก้องไปทั่วทั้งหมู่บ้านผีหิวโหยที่ทั้งอึมครึมแลดูตายซากแห่งนี้
หากแต่กลับเป็นนักฆ่าผู้นี้ที่ต้องผงะถอยไปถึงเจ็ด-แปดก้าว
ดวงตาของเขาเบิกโพลงด้วยความตกตะลึง
คนผู้นี้แต่งตัวและมีลักษณะคล้ายกับนักฆ่าแท้ๆแต่ทำไมถึงได้ทรงพลังขนาดนี้?!
“หืม การรับรู้ไม่เลวเลยนี่ ถึงขั้นรู้ตัวว่าฉันกำลังย่อมาจากทางด้านหลังได้นี่ไม่ธรรมดาเลยนะ” ดาบพิษหัวเราะ
นักฆ่าผู้นั้นสูดลมหายใจเข้าลึก ในช่วงเวลาสั้นๆนี้เขาก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างเขากับอีกฝ่ายได้แล้ว
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจ...ตะโกนขอความช่วยเหลือ!
“รีบมากันเร็วเข้า! มีคนโจมตีฉัน!”
หากแต่หลังจากตะโกนไปสหายสองคนของเขากลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
นักฆ่าผู้นี้ตกตะลึงในคราแรกก่อนจะเริ่มหลั่งเหงื่อเย็นเยียบออกมา
ดาบพิษยิ้มและเอ่ยขึ้น “เอาเลยตะโกนเลย ต่อให้ตะโกนจนคอพังก็ไม่มีใครมาช่วยหรอก”
นักฆ่าคนนั้นกัดฟันแน่น
ต่อให้เขาเป็นคนงาก็ยังรู้อยู่ดีว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับสหายทั้งสองคนของเขาไปแล้วอย่างแน่นอน!
“ฉันจะฆ่าแก!”
นักฆ่าผู้นั้นหยิบเม็ดยาสีเลือดออกมาจากอุปกรณ์เก็บของและยัดเข้าไปในปาก
พริบตาต่อมากลิ่นอายของเขาก็พลันพุ่งทะยานขึ้นราวกับอสูรร้าย!