Chapter 1010 โอกาสในสนามรบถูกขโมยไปหมดแล้ว
แม้นว่าหอพิษจะก่อตั้งขึ้นมาแล้ว ทว่าก็มีเพียงแค่เมียวไซเฟิงคนเดียว การให้ไปอยู่ที่หอฝนพรำชั่วคราว ย่อมไม่มีปัญหา.
ส่วนยอดเขาพิษนั้นกำลังเริ่มก่อสร้าง เมื่อเสร็จแล้วก็สามารถที่จะรับศิษย์วิถีพิษเข้ามาได้ด้วยเช่นกัน.
ส่วนตำราพระสูตรพิษร้อยชีวิตนั้น เขายังไม่ได้มอบให้เมี่ยวไวเฟิง เพราะว่าจะต้องดูผลงานของนางก่อน.
“เฮ้อ.”
ในห้องหนังสือ จุนซ่างเซียวพูดไม่ออก “เพื่อที่จะรับยอดฝีมือผู้ใช้พิษ เปิ่นจั้วจะต้องใช้ตำรายุทธ์บ่มเพาะหลายร้อยเล่มออกไปเลยทีเดียว.”
“มีอะไรเสียหาย.”
ระบบเอ่ย “ไม่เห็นจำเป็นต้องถอนหายใจเลย.”
“ก็ใช่.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา กล่าวออกมาว่า“จากนี้คงต้องขยายฐานที่มั่นต่อ และหาพิภพที่จะประกาศสงครามเข้าสู่ดินแดนสังหารอาชูร่า.”
แม้นว่าเขาจะสงสัยเกี่ยวกับเรื่องปรมาจารย์ฟ่าน ที่เอ่ยเกี่ยวกับแผนการใหญ่ ทว่าตอนนี้เขาต้องใส่ใจภารกิจมหาพากย์มากกว่า ต้องไม่ลืมว่ามันจำเป็นที่จะทำให้เขาตัดผ่านระดับเป็นปราชญ์สองวิถียุทธ์และกระบี่ได้.
เช้าวันถัดมา.
จุนซ่างเซียวที่มายังหอยา พร้อมกับส่งรายการสมุนไพรบูรณะร่างกายระดับสูงออกมา “ช่วยบ่มเมล็ด ปลูกสมุนไพรเหล่านี้ด้วย.”
เม็ดยาที่ยกระดับร่างกาย หากว่าสามารถปรุงออกมาได้เป็นจำนวนมาก จะทำให้นิกายของเขายกระดับขึ้นอีกขั้น.
เหล่าเหว่ยรับมา เพ่งพิศ เอ่ยออกมาว่า.“แม้นว่าจะมีอยู่มากมาย ทว่าระดับไม่ได้สูงสัก ด้วยสวนสมุนไพรใหม่นี้ บางทีหนึ่งเดือนคงจะเติบโตพอ.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่ออกจากหอยา และเข้าไปในพิภพสงคราม.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม ---”
บนภูเขาเปล่าที่ปรากฏพื้นที่กว้างขวาง เปปป้าที่ใช้ทักษะธาตุปฐพีเตรียมพื้นที่ ทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้นมากกว่าเดิมอีก.
เมื่อสวรรค์คิดจะมอบภาระกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับคนผู้หนึ่ง อย่างแรกคนผู้นั้นจะต้องผ่านความทุกข์ใจแสนสาหัส เหนื่อยล้าเข้าไปถึงเอ็นและกระดูกถึงจะผ่านการทดสอบ.
เกี่ยวกับการดูแล เปปป้านั้นไม่ได้ถูกปฏิบัติอย่างดีเท่ากับเสี่ยวหลง ทว่าอย่างน้อยมันก็เป็นหนึ่งในสัตว์พันธะสัญญาของจุนซ่างเซียวเช่นกัน.
“ดูแลตัวเองให้ดี.”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบา“วันที่เปิ่นจั้วก้าวไปถึงจุดยอด จะต้องมีเจ้าอยู่ด้วยอย่างแน่นอน.”
......
ภารกิจมหากาพย์ที่เก้าขั้นต้นถือว่าสำเร็จแล้ว แต่เพราะว่าเขาต้องการทำให้เกินมาตรฐาน ดังนั้นจึงต้องขยายพื้นที่ต่อ ให้กลายเป็นนครระดับกลางหรือใหญ่ไปเลย.
ดังนั้น เขาจึงได้ออกหาสมบัติต่อทันที.
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่บินออกจากฐานที่มั่น นำของวิเศษล่าสมบัติออกมา.
ท้ายที่สุดพบว่าแสงที่ปรากฏ แตกซ่าน มีเพียงแค่ 4-5 จุด ดังนั้นมุมปากของเขาที่กระตุกไปมา!“จวนจะหมดแล้ว!”
ระบบเอ่ย “ฝีมือโฮสน์ทั้งนั้น!”
เพียงแค่เวลาไม่นาน จุนซ่างเซียวแทบจะตระเวนขุดสมบัติทั่วพิภพสงครามออกไปหมด.
ขณะกลับฐานที่มั่น เขาที่บังเอิญได้ยินเสียงของยอดฝีมือพูดกัน“ได้ยินมาว่าทวีปถูเติ้ง ได้ประกาศสงครามกับทวีปซิงเยว่!”
“ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน!”
“วึ้ง วึง พวกเขาทั้งสองเป็นพิภพระดับห้า หากเข้าไปยังเขตแดนสังหารอาชูร่า จะต้องน่าดูอย่างแน่นอน.”
“การต่อสู้สามวันหลังจากนี้ พวกเราจะต้องไปอย่างแน่นอน.”
“การต่อสู้ในดินแดนสังหารอาชูร่า นานทีปีหน แน่นอนว่าไม่พลาดแน่.”
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น.
ชายหนุ่มชุดขาวที่บินผ่านมา.
เวลานั้นใบหน้าของทุกคนที่ใบหน้าเปลี่ยนสี กล่าวสะดุ้งด้วยความตกใจ“จุน....จุนซ่างเซียว! หนี!”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
พริบตาเดียว พวกเขาที่ราวกับหนูที่วิ่งหนีแมว.
“......”
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.
เขาต้องการสอบถามข้อมูลสักหน่อย ทว่าคนเหล่านั้นเพียงแค่เห็นเขาก็วิ่งหนีตายกันแล้ว.
“ทวีปถูเติ้ง และทวีปซิงเยว่อย่างงั้นรึ?”
“สามวันหลังจากนี้ ต่อสู้ในเขตแดนสังหารอาชูร่ารึ?”
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา เอ่ยออกมาว่า”คงต้องไปชมสักหน่อย.
ในเมื่อทวีปชิงหยุนก็วางแผนที่จะนำคนเข้าสู่เขตแดนสังหารอาชูร่า ดังนั้นจำต้องศึกษาทำความเข้าใจสักหน่อย ดินแดนแห่งนั้นมีความพิเศษอันใด.
......
จุนซ่างเซียวที่นำสมบัติกลับฐานที่มั่น.
พื้นที่ที่ขยายขึ้นอีก ทว่าก็ยังอีกไกลกว่าจะไปถึงขั้นกลาง.
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “หากว่าอสุรกายสงครามระดับสวรรค์มาทุกวัน ก็คงไม่ต้องกังวลว่าจะขยายฐานที่มั่นได้มากมาขนาดใหน.”
สมบัติในพิภพสงคราม เวลานี้แทบจะเกลี้ยงด้วยฝีมือของเขา เพื่อขยายพื้นที่ให้ไปถึงระดับนคร ตอนนี้จึงได้คาดหวังกับอสุรกายสงครามแทน.
น่าเสียดาย.
อสุรกายสงครามระดับสวรรค์ปรากฏออกมาครั้งเดียว ก็ไม่ปรากฏออกมาอีกเลย.
“จูเหริน.”
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอย่างหนัก เปปป้าที่ร่างกายโซกไปด้วยเหงื่อก็วิ่งเข้ามาใกล้“ข้าสัมผัสได้ห่างออกไปจากฐานที่มั่นร้อยลี้ ใต้ดินมีพลังบางอย่าง ดูเหมือนว่าจะเป็นสมบัติที่ซ่อนอยู่!”
“หืม?”
จุนซ่างเซียวที่ใบหน้าเผยความประหลาดใจออกมา.
......
ห่างออกไปร้อยกว่าลี้นั่นเป็นเพียงหุบเขาที่ว่างเปล่า.
จุนซ่างเซียวที่นำของวิเศษล่าสัมผัสออกมา พบว่าไม่มีสัญญาณใด ๆ ดังนั้นจึงสงสัย “เจ้ามั่นใจนะ ว่าที่นั่นมีสมบัติ?”
เปปป้าที่ก้าวมาถึงพื้นที่เปิด หลับตา ร่างกายของมันที่ราวกับผสานเข้าไปในผืนปฐพี.
ในเวลาต่อมา.
มันลืมตาขึ้น “กล่าวออกมาว่าที่นี่อย่างแน่นอน!”
“ที่ตรงนี้จริง ๆ.”
“อยู่ใต้เท้าของข้านี่เอง!”
“งั้นรออะไรเล่า ขุดเร็ว.”
“รับทราบ!”
เปปป้าที่ถอยหลังออกมาสองสามก้าว ก่อนที่ร่างของมันจะซุกลงบนพื้น พลังธาตุปฐพีที่แผ่ออกมารอบ ๆ เปลี่ยนเป็นอุโมงค์ให้ลึกยาวเข้าไป ขุดดินแยกดินอย่างบ้าคลั่ง.
ในเวลานั้น หลังจากขุดลงไปร้อยจั้ง!
ก็พบกับเป้าหมาย!
“จูเหริน!”
หลังจากนั้นไม่นาน เปปป้าที่ส่งเสียงดังผ่านออกมา“พบกับประตูศิลาล่ะ!”
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่กระโดดลงไปในอุโมงค์ทันที.
ลึกลงไปในก้นหลุมกลิ่นอายโบราณที่แผ่ออกมาจากประตูศิลา บนนั้นมีอักขณะที่เขียนเอาไว้ว่า เพียงแค่ใส่หยกกระจ่างลงไป ก็สามารถปลดค่ายกลได้.
“เหมือนกับประตูศิลาครั้งที่แล้วที่ใส่แผนที่หนังแกะลงไปก็จะปลดค่ายกล ด้านในนั้นมีสมบัติสวรรค์ซ่อนอยู่อีกอย่างงั้นรึ?”
“จูเหริน.”
เปปป้าเอ่ย “ประตูศิลานี้แข็งมาก ข้าไม่สามารถเปิดได้.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้าไปใกล้ ตรวจสอบอย่างระมัดระวัง พบว่าที่อักษรหยกนั้นมีสีที่แตกต่างกับคำอื่น ดังนั้นจึงใช้นิ้วกดลงไปเบา ๆ.
“กึก ครืนนนนน!”
ประตูศิลาที่สั่นไปมา ก่อนที่จะค่อย ๆ เลื่อนเปิดออกมาช้า ๆ!
เปปป้าที่เอ่ยเสียงดัง“จูเหรินร้ายกาจมาก!”
“เรื่องหมู ๆ.”จุนซ่างเซียวที่กล่าวอย่างสงบ.
หากเหล่าติงไม่พบความลับนี้ ครั้งที่แล้ว เขาก็คงทำไม่ได้เช่นกัน!
“จูเหริน เข้าไปด้านใหนหรือไม่?”
“เจ้านำทางไป.”
“รับทราบ!”
วูซซซ-
เปปป้าที่ก้าวนำหน้า จุนซ่างเซียวก้าวตาม.
ด้านในนั้นเป็นอุโมงค์ลึกเข้าไป ก้าวเข้าไปหลายร้อยก้าว หนึ่งคนหนึ่งสัตว์ที่มาปรากฏที่อุโมงค์ใหญ่.
แน่นอน.
ด้านในนั้นมีกับดักมากมาย.
น่าสงสารเปปป้าที่ก้าวนำหน้าไป ทั่วร่างของมันเต็มไปด้วยลูกศร จนแทบจะกลายเป็นเม่นไปแล้ว.
“อย่าขยับ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ข้าจะช่วยเจ้าถอนลูกศรออกมาเอง.”
จูเหรินช่วยข้าถอนลูกศรด้วยตัวเอง! โอ้วสวรรค์ จูเหรินเป็นห่วงข้า เรื่องนี้ทำให้เปปป้ารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่โบกมือ ถอนลูกศรออกไปทั้งหมด.
“ซี่!”
โลหิตที่พุ่งปุด ๆออกมา.
“จูเหริน....”เปปป้าที่เดินเซ ดวงตาที่เหลือกขาว “ข้ากำลังจะเป็นลม....”
เสียเลือดมากเกินไปจนกำลังจะหมดสติ!
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่นำบอลเจ้าสำนักออกมา ก่อนที่จะเก็บมันเข้าไป จากนั้นได้เพ่งพิศภายในหลุมช้า ๆ พบว่ามีแท่นหิน ที่ตรงกลางนั้น ไม่มีอะไรพิเศษ.
“สมบัติสวรรค์และปฐพีอย่างงั้นรึ?”
ขณะคุ่นคิด โกวเซิ่งที่ก้าวเดินเข้าไป.
ที่แท่นศิลานั้นไม่มีดินใด ๆ ไม่ได้ปลูกสมบัติสวรรค์และปฐพี ที่ในนั้นมีรูปปั้นของสัตว์ร้ายอยู่ รูปลักษณ์ของมันนั้นกำลังนั่งอยู่ ขาหน้าข้างหนึ่งยกขึ้นด้านหน้าแนบหู.
“นี่มัน.....”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยกลับตัวเอง “รูปปั้นแมวนำโชครึ?”
……