Chapter 1009 รับเมียวไซเฟิง
จุนซ่างเซียวที่อยู่ในฤทธิ์ยา ถูกสาดด้วยน้ำเย็นเปียกโชกไปทั่วร่าง.
ดังนั้น เรื่องที่ซีจิงเสวียนร้องไห้ซบอกก่อนหน้านี้ จึงเป็นเพียงฝันที่ไม่เป็นจริง.
“ตอนนี้เก็บกระบี่ได้ยัง?”เมียวไซเฟิงเอ่ย.
การสาดด้วยเป็นความคิดของนาง ยิ่งความเย็นจากพลังกายาของนางยิ่งเย็นพิเศษ.
เป็นความจริง!
หลังจากถูกสาดด้วยน้ำเย็น จุนซ่างเซียวก็ตื่นจากความฝัน!
“เคร้ง!”
ลู่เชียนเชียนที่เก็บกระบี่ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“กลับไปยังห้องขัง.”
เมียวไซเฟิงไม่เอ่ยอะไรอีก นางที่กลับไปห้องขังกับลู่เชียนเชียน ขณะหลับนั้น นางที่ลอบคิดในใจ“ในโลกนี้มีพิษที่ทำให้อยู่ในสภาวะแกล้งตายด้วย เหลือเชื่อจริง ๆ.”
จุนซ่างเซียวยังไม่ตาย ความเศร้าทั่วนิกายนิรันดร ถูกปัดเป่าหายในทันที.
“ความตายก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในห้องโถง สีคางไปมา.
เดี๋ยวนะ!
ภารกิจสนับสนุน?
ในเวลานั้นเขาที่เปิดคอนโซนภารกิจ พบว่าไม่มีภารกิจแล้ว และแต้มสนับสนุนเพิ่มขึ้นมา 10,000 แต้ม ดังนั้นเขาที่กล่าวเสียงเบา“ดูเหมือนว่าการแกล้งตาย จะสมบูรณ์.”
ภารกิจนี้มอบแต้มให้หนึ่งหมื่นแต้ม ไม่มีรางวัลอะไรเพิ่ม ทว่าจุนซ่างเซียวก็พึงพอใจ จะดีจะร้ายก็ตั้งหนึ่งหมื่น ถือว่าไม่ขาดทุน.
“เจ้านิกาย.”
เหล่าเหว่ยเอ่ย “นี้หมายความว่าอย่างไร?”
หากไม่เพราะเมียวไซเฟิง เขาก็คิดว่าเจ้านิกายตายแล้ว สุดท้ายเพียงแค่น้ำเย็นถังหนึ่งก็ทำให้ฟื้นกลับมา เรื่องแบบนี้เหลือเชื่อจริง ๆ!
จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้ปกปิดความจริง เล่าเรื่องเม็ดยาน้ำพุเหลืองออกมาทันที.
เหล่าเหว่ย เหล่าติงและคนอื่น ๆ ที่ได้รู้เรื่องนี้ หลังจากกินเม็ดยาดังกล่าวเข้าไป ก็เข้าสู่สภาวะแกล้งตาย ทำให้ตื่นตกใจขึ้นมาทันที.
“ใช่แล้ว.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าวังซีล่ะ?”
ในเวลานั้นสถานการณ์เร่งด่วน ไม่มีเวลาอธิบาย เขาที่กินเม็ดยาดังกล่าวเข้าไป โดยที่นางยืนอยู่ด้านข้าง บางทีอาจทำให้นางหวาดกลัวหรือไม่?
เหล่าเหว่ยเอ่ย “เจ้าวังซีพักอยู่เรือนพักแขกเพียงลำพัง.”
......
บนยอดเขาไท่กู่นั้นนอกจากมีห้องให้ศิษย์ใช้แล้ว ยังแบ่งแยกโซนที่พักสำหรับแขกด้วย.
จุนซ่างเซียวก้าวเข้าไป.
หลังจากซีจิงเสวียนเห็นเขา นางที่ตกใจ ถึงกับถอดแว่นตาพร้อมกับสีตาไปมา “เจ้านิกายจุน ท่านยังมีชีวิต?”
“อืม.”โกวเซิ่งที่เผยยิ้ม.
“ท่านทำให้ข้ากลัวแทบตาย!”
ซีจิงเสวียนที่ยกมือขึ้นกุมอก ใบหน้าเผยยิ้มพราย ทว่าดวงตานั้นยังคงมีสีแดงเรื่อ ๆ.
“ขอโทษด้วย.”
จุนซ่างเซียวกล่าวขออภัย “ทำให้เจ้าวังซีเป็นกังวลแล้ว.”
ซีจิงเสวียนที่ยังคงเผยยิ้มกว้าง “ขอเพียงเจ้านิกายจุนไม่เป็นไรก็ดีแล้ว.”
“หากไม่มีเรื่องยุ่ง ก็อยู่ที่นี่ก่อนสักสองสามวันสิ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ซีจิงเสวียนส่ายหน้าไปมา “ข้าออกมาหลายวันแล้ว ภายในนิกายมีเรื่องมากมายรอให้ข้าไปจัดการ.”
นางต้องการพักที่นิกายนิรันดรสักพักเช่นกัน ทว่านางก็เป็นเจ้านิกายคนหนึ่ง มีงานที่ต้องรับผิดชอบ.
ในวันนั้น.
ซีจิงเสวียนก็นำเหลิ่งซิงเยว่จากไป.
จุนซ่างเซียวที่จ้องมองนางจากไปช้า ๆ ก่อนที่จะหันหลังกลับ.
ลู่เชียนเชียนที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตอนใหน เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เจ้านิกายตาย คงทำให้เจ้าวังซีแทบหัวใจสลาย หากแต่นิกายยังไม่สงบเลยด้วยซ้ำ กลับรีบไปกล่าวขอโทษเจ้าวังซีก่อนใครเลย.”
“เอิ่ม.....”
โกวเซิ่งที่เผยท่าทางอักอ่วนขึ้นมาในทันที.
ลู่เชียนเชียนเอ่ย “ต่อไปหากจะแกล้งตายก็บอกคนอื่น ๆด้วย จะได้ไม่ทำให้คนอื่น ๆ เป็นกังวล.”
เป็นความจริง.
การตายของจุนซ่างเซียว แม้แต่เหล่าเหว่ยยังวุ่นไปหมด แล้วเหล่าศิษย์ล่ะ.
“ในเวลานั้นสถานการณ์เร่งด่วนมาก.”
“เปิ่นจั้วไม่ได้คิดให้ดี เลยกินเม็ดยาน้ำพุเหลืองเข้าไป.”
“ครั้งหน้าจะไม่ทำเรื่องบ้าบิ่นแบบนี้อีก!”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงอ่อน.
ลู่เชียนเชียนเอ่ย “เมียวไซเฟิงที่มีความสามารถวิถีพิษเป็นอย่างมาก เจ้านิกายควรจะพิจารณารับนางเข้ามา.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่พยักหน้า.
สามารถบอกได้ว่าร่างกายของเขามีพิษอยู่ แม้แต่คิดวิธีสาดเขาด้วยน้ำเย็น แน่นอนว่านางย่อมมีความสามารถ.
วิถีพิษ แม้นว่าจะถือเป็นที่รังเกียจต่อผู้คนในทวีปชิงหยุน ทว่าก็เป็นหนึ่งในเส้นทางที่น่าเกรงขาม โดยเฉพาะครึ่งก้าวปราชญ์พิษ กระทั่งปราชย์ยุทธ์ยังหวาดกลัว.
นิกายนิรันดรยังคงขาดสาขาพิษอยู่ ขาดหอพิษ หากว่าเมียวไซเฟิงยอมจำนน ย่อมเป็นผลดีกับนิกายของเขา.
......
“กึก ซี่.”
ห้องขังเปิดออก แสงสว่างส่องเข้ามา.
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นแมงมุมแมงป่องที่วิ่งผ่านไปทั่วทุกทิศ.
จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้ามาจากด้านนอก จ้องมองเมียวไซเฟิงที่นั่งสมาธิอยู่บนเตียง “ที่ผ่านมา อยู่ที่นี่คุ้นเคยแล้วหรือยัง?”
“หากข้าบอกว่าไม่คุ้นเคย แล้วท่านจะปล่อยข้าไปรึ?”
“ไม่.”
“......”
เมียวไซเฟิงที่ไม่เอ่ยอะไรต่อ.
จุนซ่างเซียวที่โบกมือเล็กน้อย แมงมุมตัวเล็กในมือของเขาก็ถูกบี้ตายไปในทันที“พิษในโลกนี้มีมากมาย ที่เจ้าวังเมียวรู้เป็นเพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น.”
“ยกตัวอย่าง.....”เมียวไซเฟิงเอ่ย “เช่นพิษที่ทำให้ท่านแกล้งตายได้อย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวไม่ได้ยอมรับและปฎิเสธ เอ่ยออกมาว่า“ที่จริงนิกายนิรันดรของข้า บรรพชนรุ่นเก่าได้ศึกษาวิถีพิษมาเช่นกัน ครั้งหนึ่งได้สร้างวิชาบ่มเพาะ พระสูตรพิษร้อยชีวิตขึ้นมา น่าเสียดายที่ไม่มีคนที่มีพรสวรรค์ด้านพิษ จนกระทั่งตอนนี้มันยังถูกทิ้งไว้ในหอตำรา.”
“พระสูตรพิษร้อยชีวิต?”
เมียวไซเฟิงที่ขมวดคิ้วไปมา แต่ก็ผ่อนลงอย่างรวดเร็ว.
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่โบกมือ นำตำราออกมาพร้อมกับส่งมันออกไป ตำราที่มีอักขณะด้านหน้า พิษร้อยชีวิต“เจ้ามีทักษะใช้พิษที่ไม่ธรรมดา น่าจะเข้าใจมัน.”
เมียวไซเฟิงที่ดวงตาเป็นประกาย เจตจำนงที่รับตำราดังกล่าวมา ขณะเปิดไปสองสามหน้า นางถึงกับยืนจ้องมองนิ่งแทบไม่วางตา.
นี่คือวิชาบ่มเพาะวิถีพิษที่ลึกล้ำมาก.
หากว่านางได้บ่มเพาะ ไม่เพียงจะทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ยังทำให้วิชาพิษของนางยกระดับไปอีกขั้นได้ด้วย!
“ฟิ้ว!”จุนซ่างเซียวที่โบกมือ นำตำราดังกล่าวลอยกลับมา “ยอมจำนนต่อเปิ่นจั้ว ตำราวิถีพิษนี้จะเป็นของเจ้า.”
“แน่นอน.”
“นิกายนิรันดรของข้านั้นยังขาดถางจู่หอพิษอยู่.”
เมียวไซเฟิงที่เผยยิ้ม.
ไม่สงสัยเลยว่าเขามาหานางพร้อมกับนำตำราออกมาให้เห็น แท้จริงแล้วมีเป้าหมายนี่เอง.
จุนซ่างเซียวเอ่ย“นิกายเปิ่นจั้วยกระดับเป็นระดับสามแล้ว การให้ประมุขนิกายระดับห้ามาเป็นถางจู่ ย่อมไม่ถือว่าดูแคลนเจ้าแต่อย่างใด.”
“ข้าขอเวลาคิด.”
“ข้าให้เวลาเจ้าสามวัน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย พร้อมกับหันหลังกลับเตรียมจากไป.
อย่างไรก็ตาม ขณะจะก้าวออกจากคุก ก็ได้ยินเสียงของเมียวไซเฟิงเอ่ยออกมาว่า“ข้าตกลง.”
“......”
ในอดีต ลี่ลั่วฉิว นางที่บอกว่าขอเวลาคิด แต่ก็ตอบตกลงทันทีเช่นกัน.
ดูเหมือนว่าเวลาคิดของเหล่าสตรีนี้ช่างรวดเร็วเช่นนี้ทุกคนเลยอย่างงั้นรึ?
“เจ้าวังเมี่ยว.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “โปรดส่งต้นกำเนิดวิญญาณมา.”
สตรีผู้นี้คือผู้ใช้พิษ จำเป็นต้องควบคุมให้ได้โดยสมบูรณ์ ไม่สามารถที่จะประมาทได้.
เมียวไซเฟิงที่ถูกพระสูตรพิษร้อยชีวิตดึงดูด ดังนั้นทำให้หัวใจนางหวั่นไหว และยินดีส่งมอบต้นกำเนิดวิญญาณออกไป.
......
ในวันนั้น.
จุนซ่างเซียวก็ประกาศ ก่อตั้งหอพิษขึ้นมา โดยมีเมียวไซเฟิงเป็นถางจู่.
ตอนนี้นางยังไม่มียอดเขาส่วนตัว ดังนั้นหอพิษจึงได้ตั้งอยู่กับหอฝนพรำเป็นการชั่วคราว.
ยอดเขาแห่งนี้ หนึ่งเป็นสตรีที่เคยเป็นมือสังหารและอีกหนึ่งคือสตรีที่เป็นผู้ใช้พิษ ตามหลักแล้วสตรีทั้งสองน่าจะเข้ากันได้ดี.