Chapter 1006 หลังจากนี้ไม่ให้เจ้านิกายเล่านิทานแล้ว
เจ้านิกายราชันย์มารที่ถูกข่มเหงอย่างหนัก ตอนนี้เขาที่เห็นด้วยที่จะจ่ายเงิน ไม่เพียงแค่เห็นนายน้อยหยวนที่กระอักโลหิต ภายในใจของเขาที่เลือดออกซิบ ๆ รับรู้แล้วว่า เขาได้กระทำเรื่องผิดพลาดเข้าแล้ว!
“การกระทำของเจ้าเมื่อครู่นี้ทำให้เปิ่นจั้วไม่ค่อยพอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเจ้าจะต้องจ่ายศิลาวิญญาณเทียม 10 ล้าน และศิลาธรรมชาติ 1 ล้าน.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
นายน้อยหยวนที่มุมปากกระตุก.
ด้วยจำนวนนี้ หากนิกายราชันย์มารจ่ายออกไป เกรงว่าคงเจ็บไปถึงเลือดเนื้อและกระดูกอย่างแน่นอน!
“เจ้านิกายจุน มันมากเกินไป!”
“เปิ่นจั้วคร้านจะเอ่ยอะไรอีกแล้ว หากไม่รีบจ่ายล่ะก็ ไม่เช่นนั้น....”จุนซ่างเซียวนำดาบมังกรเขียวเสียบไว้บนพื้นข้าง ๆ คอของเจ้านิกายราชันย์มาร.
คมดาบที่แวววับทำให้เขาตกใจ เอ่ยออกมาทันที“ตกลง! อาวุโสใหญ่ รีบจ่ายเจ้านิกายจุนเร็วเข้า!”
ในเวลานั้น.
อาวุโสใหญ่ที่กุมตูดเดินเอียงเร่งรีบนำศิลาวิญญาณออกมาจ่ายจนหมด แทบจะไม่เหลืออะไรไว้.
หลังจากที่จุนซ่างเซียวรับมาแล้ว กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หลังจากนี้ อย่าให้เปิ่นจั้วได้ยินว่าพวกเจ้าได้ยุแย่นิกายนิรันดรของข้าอีก!”
“พวกเรากลับ.”
เหล่าติง ราชาสัตว์จื่อหลินและคนอื่น ๆ ก็จากไป นำราชาพยัคฆ์ ราชากวาง ตลอดจนหยวนเฟิงที่กระอักเลือดจนซีดเซียวไปด้วย.
“เจ้านิกาย.....”เหล่าคนระดับสูงของนิกายราชันย์มารที่กุมตูดยืนขึ้นอย่างยากลำบาก แววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด.
“หยวนเฟิง อ๊าก หยวนเฟิง!”เจ้านิกายราชันย์มารที่กลิ้งไปมาบนพื้น กำหมัดแน่น “เปิ่นจั้วผิดไปแล้วจริง ๆ! ที่ให้เจ้าดูแลธุรกิจทั้งหมดของนิกาย!”
ดวงตาของเหล่าอาวุโสที่เต็มไปด้วยเส้นเลือกฝอยที่ปูดออกมา.
ในเวลานั้น พวกเขาที่เอ่ยว่านายน้อยหยวนเป็นคนทรยศ หากอีกฝ่ายไม่ถูกจุนซ่างเซียวเอาตัวไป พวกเขาคงจะรู้สึกแย่เป็นแน่!
......
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
หุบเขาข้ามวิญญาณ เจียงเซี่ย เหล่าติงและคนอื่น ๆที่ตะเวนไปรอบ ๆ เก็บรวบรวมสมุนไพร แร่และทรัพยากรที่เป็นประโยชน์.
กล่าวได้ว่าพื้นที่แห่งนี้อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก.
โดยเฉพาะลึกเข้าไปด้านใน ที่ไม่มีคนกล้า กล้ำกลายเข้าไปมาหลายปีแล้ว.
นี่คือเขตแดนลับอันดับหนึ่งของทวีปชิงหยุน เมื่อปราศจากมนุษย์รบกวน ทรัพยากรมากมายทั้งสมุนไพรและแร่ก็มีอยู่เต็มไปหมด.
เหล่าสัตว์ร้ายหลายแสนตัวที่เป็นนักล่าตอนนี้ได้แต่ร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวซ่อนตัวอยู่ ไม่กล้าออกมาขวาง เพราะว่ามนุษย์กลุ่มนี้แข็งแกร่งมาก นอกจากนี้ยังจับราชาของพวกมันเอาไว้ด้วย.
เรื่องนี้ คงจะต้องโทษนิกายราชันย์มาร.
หากไม่เพราะพวกเขาย้ายเข้ามาในพื้นที่ลับแห่งนี้ คงไม่ดึงกลุ่มโจรร้ายเหล่านี้เข้ามา!
ในเวลานี้ ทั้งราชากวางและราชาพยัคฆ์ ภายในใจที่ได้แต่โทษนิกายราชันย์มารอย่างบ้าคลั่ง!
“ทั้งสอง.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่หน้าถ้ำ เอ่ยออกมาว่า“คิดดีแล้วหรือยัง?”
“เจ้านิกายจุน!”
ราชาพยัคฆ์เอ่ยออกมาว่า“พวกเราสองพี่น้องหากจำนนต่อท่าน ยังจะมีอิสระอยู่ใช่หรือไม่?”
“ไม่ผิด.”จุนซ่างเซียวเอ่ย “ขอเพียงเจ้าสาบานอย่างจริงใจ ไม่เพียงแค่สามารถไปใหนมาใหนได้แล้ว ยังจะได้รับการแต่งตั้งเป็นรองถางจู่สัตว์วิญญาณด้วย.”
หลังจากนั้น ราชาพยัคฆ์ที่เอ่ยกล่าวกุกกัก.“พวกเรายินดียอมจำนน!”
หากไม่ได้เห็นเจ้านิกายราชันย์มารถูกยำใหญ่ พวกเขาคงไม่ยินยอมแน่ ทว่าตอนนี้ทำได้แค่ยอมแพ้โดยสมบูรณ์ ไม่เช่นนั้นแล้ว คงยากจะหวังมีชีวิตได้.
“ถางจู่จื่อ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “สองพี่น้องนี้มอบให้ท่าน.”
“ชิ.”
ราชาสัตว์จื่อหลินแค่นเสียง.
เจ้าสองตัวนี่ในอดีตไม่ยอมติตตามเขา ตอนนี้กับยอมจำนนต่อมนุษย์ พวกเขาช่างทำขายหน้าต่อเผ่าสัตว์ ซะจริง!
......
ด้านนอกถ้ำ.
ซีจิงเสวียนที่นั่งอยู่บนศิลายักษ์อย่างสงบ สายลมที่พัดโกรกเบา ๆ ทำให้ใบหน้าของนางดูงดงามเป็นอย่างมาก.
“เจ้าวังซี.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมาจากในถ้ำ นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับส่งแหวนมิติสองวงให้ เอ่ยออกมาว่า“ในนี้มี 200,000 ศิลาวิญญาณธรรมชาติ นี่น่าจะชดเชยการตกตายไปของศิษย์ของท่านแล้ว.”
ซีจิงเสวียนเอ่ย “เจ้านิกายจุนนำข้ามาทวงความยุติธรรม ข้ารู้สึกซาบซึ้งนัก ศิลาวิญญาณนี้ย่อมไม่ต้องการ.”
“โปรดรับไว้.”
จุนซ่างเซียวที่วางมันลงมือของนางทันที.
“เอิ่ม...ตกลง.”ซีจิงเสวียนที่หัวใจเต้นเบา รับแหวนมิติมา ก้มหน้าลงเล็กน้อย ใบหน้าเผยสีแดงเรื่อ ๆ เพราะว่าสัมผัสกับนิ้วของอีกฝ่ายนั่นเอง.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ช่วงนี้โลกไม่ค่อยสงบ เจ้าวังซีควรเตือนศิษย์ ว่าอย่าเพิ่งลงเขามาหาประสบการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะพบอันตรายอีกครั้ง.”
“อืม.”
ซีจิงเสวียนพยักหน้ารับ.
ถึงนางจะเป็นเจ้าวังเมียวฮัวระดับสี่ ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจุนซ่างเซียว นางกับเชื่อฟังราวกับเป็นศิษย์ของเขาไปซะแล้ว.
“ดูนั่น.”
เจียงเซี่ยและคนอื่น ๆ กลับมากจากเก็บทรัพยากร จ้องมองจากพื้นทีไกลออกไป เอ่ยออกมว่า“เจ้านิกายและเจ้าวังซีช่างดูเหมาะสมกันมาก.”
“เจ้านิกายจุน.”ซีจิงเสวียนเอ่ยออกมาด้วยความสงสัย“เจ้านิกายราชันย์มารที่ถูกท่านทำร้ายบาดเจ็บ ทำไมไม่ใช้โอกาสนี้สังหารเขาเลย เพื่อขจัดภัยร้ายให้กับทวีปชิงหยุนล่ะ?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ยังคงใช้ประโยชน์ได้อยู่.”
“โอ้ว.”
ซีจิงเสวียนไม่ได้เอ่ยถามต่อไป นางที่เสยผมพลางเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“เจ้านิกายจุน พอมีเวลา เล่านิทานให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่?”
“แล้วต้องการฟังเรื่องอะไรรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ทรัพยากรในหุบเขาข้ามวิญญาณนั้นมีมากมาย เวลาสั้น ๆย่อมไม่สามารถเก็บเกี่ยวไปได้หมด ดังนั้นตอนนี้เขาจึงมีเวลา.
ซีจิงเสวียนที่เผยยิ้ม “ท่านเล่าเรื่องอะไร ข้าก็ฟังหมด.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งขัดสมาธิ มือที่วางไปที่น่อง เอ่ยออกมาว่า“เช่นนั้นก็เป็นเรื่องหนุ่มเลี้ยงวัวและสาวทอผ้าก็แล้วกัน.”
“ตกลง.”
“เรื่องนี้......”
จุนซ่างเซียวก็เริ่มเล่าเรื่องราวอย่างออกรส.
ซีจิงเสวียนที่ฟังเรื่องราวดังกล่าว อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลพราก ๆ “ไม่ใช่ว่าคนที่รักกัน จะต้องอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าหรอกรึ?”
ร้องไห้อีกแล้ว?”
ดูเหมือนว่าข้าจะมีทักษะการเล่าเรื่องที่ดี!
“เจ้าวังซี.”
จุนซ่างเซียวที่เงยขึ้นมองบรรยากาศ ดูเหมือนว่าจะยังไม่มืด ดังนั้นจึงได้เอ่ยออกมาอีก“ข้าจะเล่าเรื่องไททานิคให้ท่านฟังอีกครั้ง.”
ระบบ“.....”
ทั้งที่รู้ว่าสตรีผู้นี้ต่อมน้ำตาตื้น ก็ยังเล่าเรื่องเศร้าให้นางได้ฟังอีก โฮสน์ช่างอมหิตนัก!
“ไททานิค?”
“คือเรื่องที่มีเรือลำใหญ่ล่ม ผู้คนมากมายตกตายไป............”
เวลาที่เลยผ่านไป จนถึงเวลาค่ำ.
ซีจิงเสวียนที่ยังคงนั่งปาดน้ำตา ฟังเรื่องราวของอีกฝ่าย.
จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้นยืน เอ่ยออกมาว่า“ดูเหมือนว่าเวลาเล่านิทานจะหมดแล้ว.”
“เจ้านิกาย.”
เหล่าติงเอ่ย “จัดการกับนายน้อยหยวนอย่างไรดี?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไว้เป็นหน้าที่เปิ่นจั้วเอง.”
แม้นว่าจะไม่ได้สัมผัสกับนายน้อยหยวนมากนัก ทว่าคนผู้นี้ที่เป็นถึงรองเจ้านิกายราชันย์มาร การจัดการนิกายของเขาย่อมไม่ธรรมดา หากสามารถกำราบได้ คงจะช่วยเขาได้มาก อย่างน้อยก็จะมีมือขวาคอยช่วยงาน!
“เหล่าหยวน.”
จุนซ่างเซียวก้าวเข้ามาอีกถ้ำหนึ่งเอ่ยออกมาว่า“คิดดีแล้วรึยัง?”
นายน้อยหยวนที่เผ้าผมกระเซอะกระเซิง นั่งสมาธิอยู่ เงยหน้าขึ้น แววตาที่หนักแน่น “ข้าหยวนเฟิง เป็นผู้ฝึกตนมาร และได้สาบานที่จะภัคดีต่อราชันย์มารเท่านั้น ไม่มีทางที่จะภัคดีกับคนอื่น!”
“เปิ่นจั้วมีศิษย์ที่ได้รับสืบทอดจากราชันย์มาร เจ้าภัคดีต่อข้าก็เท่าภัคดีต่อนาง ดังนั้นไม่เห็นว่าจะตะบัดสัตย์ตรงไหน.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
นายน้อยหยวนเอ่ย “เด็กสาวคนนั้น แม้นว่าจะมีกายาต้นกำเนิดมาร แม้นว่าจะมีเนตรราชันย์มาร ทว่านางก็ไม่ใช่ผู้สืบทอดราชันย์มาร!”
“ต้องการจะเอ่ยอะไร?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“นั่นก็เพราะ....”
นายน้อยหยวนที่กำหมัดแน่น แววตาที่ต่อต้าน เอ่ยออกมาว่า“ท่านราชันย์มารนั้นต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์ไร้คู่เปรียบ ไม่ใช่คนที่จะยอมอยู่ใต้อำนาจของใคร!”
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวมาหยุดที่ด้านหน้าอีกฝ่าย คว้าอีกฝ่ายไว้ กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เมิ่งหยิงมีอายุเพียงสิบปี ยังไม่ได้มีพลังที่ไร้เทียมทาน เจ้าต้องการให้นางเป็นเหมือนกับราชันย์มาร เป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ไม่เท่ากับส่งนางไปหาความตายรึอย่างไร.”
“......”
นายน้อยหยวนที่ได้แต่เงียบ.
“แน่นอน.”
จุนซ่างเซียวที่ปล่อยอีกฝ่าย พร้อมกับเอ่ยว่า“นิกายนิรันดรของข้าไม่เคยฝืนใจใคร หากเจ้าไม่ต้องการเข้าร่วม ตอนนี้ก็ไปได้แล้ว.”