Chapter 1004 ดอกเบญจมาศร่วงโรย ความเศร้าโศกโปรยปราย รอยยิ้มเธอค่อยๆ มลายสิ้น
ขณะจุนซ่างเซียวนำ ไม้เท้าแม่น้ำและขุนเขานำทางออกมา เจ้านิกายราชันย์มารและคนอื่น ๆ ที่ได้แต่เพ่งพิศ.
ภาพรวมของมัน พอจะบอกได้ว่ามันเป็นอาวุธ ทว่าที่ปลายของมัน รูปร่างชูนิ้วชี้และกลาง ประกบกันนั่น ทำให้ทุกคนมุมปากกระตุก.
อาวุธแบบนี้ ยังมีในโลกด้วยรึ?!
หากหลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและบรรดาศิษย์ของเขา เห็นเจ้านิกายนำอาวุธชิ้นนี้ออกมา พวกเขาคงยกมือปิดก้นของตัวเองไปแล้ว.
“เจ้านิกายจุน.”
ซีจิงเสวียนเอ่ยเสียงเบา“มันคือที่เกาหลังอย่างงั้นรึ?”
“......”
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกเจ็บจี๊ด.
หากไม่เพราะว่ามันมีทักษะจิตสังหารพิฆาต เขาไม่นำมันออกมาแน่นอน เพราะว่ามันน่าขายหน้าสุด ๆ!
“เจ้าวังซี ไม่ใช่ที่เกาหลัง.”
จุนซ่างเซียวที่ถือไว้ด้านหน้า กล่าวอย่างภาคภูมิ “นี่คืออาวุธพิเศษที่จะทำให้คนที่โดนโจมตีจะไม่ลืมมันชั่วนิรันดร.”
“ไม่ลืมชั่วนิรันดร?”
แววตาของซีจิงเสวียนที่เผยความคาดหวังขึ้นมาทันที.
แม้นว่ารูปลักษณ์ของ ไม้เท้าแม่น้ำและขุนเขานำทาง จะดูน่าอาย ทว่าในเมื่อนำมันมาใช้แล้ว ก็ต้องกล่าวยกย่องมันสักหน่อย!
“เจ้าวังซี.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ถอยไปสักหน่อย ขยะเหล่านี้ให้เป็นหน้าที่ของเปิ่นจั้วเอง!”
“อืม.”
ซีจิงเสวียนที่ถอยหลังออกไปสองสามก้าว.
นางมีพลังบ่มเพาะไม่สูง ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้ ทำได้แค่มายืนอยู่ด้านหลัง คอยเชียร์ในใจ.
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ชี้ไม้เท้าแม่น้ำและขุนเขานำทาง ไปยังเจ้านิกายราชันย์มาร พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“แน่จริง ก็เข้ามา.”
เขาที่กวาดตามองเหล่าคนระดับต่ำสูงของนิกายราชันย์มารทั้งหมด เตรียมใช้ทักษะจิตสังหารพิฆาต!
“จุนซ่างเซียว.”
เจ้านิกายราชันย์มารกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เจ้าไถเงินและทรัพยากรของนิกายราชันย์มารของข้าไปก่อนหน้านี้ ส่งมันคืนมาซะแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป.”
เขาเองก็ไม่ต้องการจะตัดสินเป็นตายกับอีกฝ่ายเช่นกัน ต้องไม่ลืมว่านิกายนิรันดรที่เติบโตได้รวดเร็วมาก บางทีคงจะมีอะไรซ่อนอยู่ก็เป็นได้.
“โทษที.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เงินอยู่ในกระเป๋าจุนโหมวแล้ว ไม่มีทางที่จะกลับออกไปอีก.”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็อย่าไปใหนเลย.”เจ้านิกายราชันย์มารที่ชูมือขึ้น.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมม-”
เหล่าปราชญ์ยุทธ์สองสามคนและครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์หลายสิบคนที่ปะทุพลังออกมา แววตาทีเปี่ยมล้นด้วยจิตสังหารที่รุนแรง.
เขาที่ต้องคอยระวังราชาสัตว์จื่อหลิน แน่นอนว่าไม่สามารถขยับได้ ทว่าคนอื่น ๆ นั้น ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัวแม้แต่น้อย!
“เจ้านิกาย!”
นายน้อยหยวนที่ใบหน้าอัปลักษณ์ “ผู้ใต้บังคับบัญชา เชื่อว่า เรื่องสวนมากเป็นเรื่องเข้าใจผิด นิกายราชันย์มารของพวกเราควรจะเจรจาโดยดีกับนิกายนิรันดร.....”
“หยวนเฟิง.”
เจ้านิกายราชันย์มารที่กล่าวขัดเขาทันที “เจ้าที่ปล่อยให้นิกายนิรันดรข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้แต่ไม่ลังเลยอมมอบทรัพยากรมากมายให้อีกฝ่าย เจ้าทำให้เปิ่นจั้วผิดหวัง.”
คำพูดดังกล่าว ทำให้อาวุโสหลายคนเผยความดีใจ.
พวกเขาไม่พอใจหยวนเฟิงมานานแล้ว เพราะว่าอีกฝ่ายสั่งห้ามไม่ให้พวกเขาล่วงเกินจุนซ่างเซียว ตอนนี้เจ้านิกายตำหนิอีกฝ่าย ทำให้พวกเขาสะใจเป็นอย่างมาก.
“เจ้านิกาย.....”
“เรื่องนี้จบแค่นี้ ต่อไปเจ้ากลับไปทำหน้าที่เก็บตำราก็พอแล้ว.”
นายน้อยหยวนที่ต้องยืนชะงักงันทำอะไรไม่ได้อีกต่อไป.
อาวุโสหลายคนที่เผยความตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที.
เจ้านิกายให้อีกฝ่ายไปเก็บตำรา เห็นชัดเจนว่ากำลังทอดทิ้งอีกฝ่าย!
“เจ้านิกาย!”
ชายชราชุดดำเอ่ย “นายน้อยหยวนทำเพื่อนิกายราชันย์มารมากมาย รับผิดชอบงานหนักเบาไม่เคยหยุดพัก แทบไม่ได้กิน.....”
“เจ้าเอง ก็ตามเขาไปด้วย.”เจ้านิกายราชันย์มารเอ่ย.
“ปูด!”
นายน้อยหยวนที่พ่นโลหิต ร่างกายหมดเรี่ยวแรง.
นับตั้งแต่เขาถูกแต่งตั้งเป็นรองเจ้านิกาย เขาก็ทำทุกอย่างเพื่อนิกาย ไม่เคยหยุดพักเลยแม้แต่น้อย ถึงจะเป็นแผนการเล็กแผนการน้อย เขาก็เป็นคนวางแผนครุ่นคิดทั้งวันทั้งคืน เพื่อที่จะให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด เขาทำงานสุดจิตสุดใจ ทว่าผล......กับกลายเป็นว่าเขาถูกสั่งให้กลายเป็นคนรวบรวมตำราในตำหนัก!
“นายน้อยหยวน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย.“ดูเหมือนว่าท่านถูกไล่ออกแล้วสินะ?”
“ปูดดด!”
นายน้อยหยวนที่กระอักโลหิตซ้ำอีกครั้ง.
ข้าหยวนเฟิงต้องพบกับสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเจ้าหรอกรึ?!
“งานเก็บตำรา นั่นไม่ต่างงานคนรับใช้ เจ้าไม่รู้สึกอายอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย “มาเข้าร่วมนิกายนิรันดรสิ เปิ่นจั้วยินดีที่จะมอบตำแหน่งที่จะให้เจ้าได้ใช้ความสามารถอันยอดเยี่ยมนั่นออกมาอยู่!”
เจ้านิกายราชันย์มารมุมปากกระตุก.
ตัวเขายังอยู่ ไม่เห็นหัวเลยรึ? ถึงกล้าเอ่ยเช่นนั้นออกมา?
“ขออภัย.”
นายน้อยหยวนที่ตั้งหลัก แววตายังคงหนักแน่นเอ่ยออกมาว่า“ข้าหยวนเฟิงเป็นคนของนิกายราชันย์มาร สาบานที่จะต่อสู้เป็นตายเพื่อท่านราชันย์มารตลอดไป!”
จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา ชี้ไปยังราชาพยัคฆ์ ชี้ไปยังราชากวาง ตลอดจนเจ้านิกายราชันย์มารและกลุ่มอาวุโส เอ่ยออกมาว่า“กลุ่มเพื่อนร่วมทีมสมองหมู คงจะสังหารท่านในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน.”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร.”
“คนเราทะเยอทะยานได้ แต่ต้องมีความซื่อสัตย์ แน่นอนว่าข้าไม่มีทางที่จะแบกชื่อเสียงคนทรยศเอาไว้อย่างแน่นอน.”
“งั้นก็ หลบไปซะ!”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยเสียงดัง“เปิ่นจั้วจะแสดงความสามารถ!”
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นเหล่าติง กงซุนเหาไห่และคนอื่น ๆ ถอยอย่างรวดเร็ว มาอยู่ด้านหลัง.
ในเวลานี้.
พวกเขาไม่มีใครกล้าเข้าใกล้จุนซ่างเซียวในรัศมีร้อยจั้ง ปล่อยให้อีกฝ่ายได้แสดงความสามารถคนเดียว.
“ฟิ้ว!”
เขาที่ถือแม่น้ำและขุนเขานำทาง.
“เจ้านิกายนิรันดร จุนซ่างเซียว ขอคำชี้แนะด้วย!”
“......”
ทุกคนที่มุมปากกระตุก.
เจ้านิกายราชันย์มารกล่าวด้วยความสนใจ“เจ้านิกายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาถอยออกไป คิดจะต่อสู้กับคนมากมายคนเดียวอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“แปะ แปะ แปะ!”
เจ้านิกายราชันย์มารที่ประมือเสียงดัง“ควรค่าแล้วที่ที่เป็นเจ้านิกายนิรันดรที่สร้างชื่อเสียงเป็นที่เลืองลือ โอหังยิ่งนัก!”
“ฟรึบ!”
เขาที่สะบัดมือลง.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
ยอดฝีมือนิกายราชันย์มารที่บินออกไปทันที.
ทั้งเหล่าจักรพรรดิยุทธ์ กษัตริย์ยุทธ์ที่ออกมาจากหน้าประตูเข้าล้อมจุนซ่างเซียว.
สำหรับนิกายมารที่ซ่อนลอบโจมตีผู้คนไม่เลือกวิธี แน่นอนว่าย่อมไม่ใส่ใจวิธีการหมาหมู่ หนำซ้ำ อีกฝ่ายยังต้องการลงมือคนเดียวอีกด้วย พวกเขาย่อมต้องสนองอย่างไม่มีปัญหา.
“บุก.”
เจ้านิกายราชันย์มารที่สั่งการเสียงเบา.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
ยอดฝีมือนิกายราชันย์มารที่ปลดปล่อยพลังออกมา พลังที่มากล้นแผ่ออกไปทั่ว.
ด้วยพลังผสานรวมกันนี้ แม้แต่ราชาสัตว์จื่อหลินยังยากจะทน ทว่าจุนซ่างเซียวกับยังคงสงบ.
“แม้นว่าจะมีเพียงพันคนทว่า....”เขาที่กดลงในช่องทันที แววตาที่แหลมคมเอ่ยออกมาว่า“นี่ก็คุ้มค่าให้ใช้ทักษะจิตสังหารพิฆาตแล้ว!”
“แก๊ก!”
เสียงกดปุ่มที่ดังขึ้น.
“ติ๊ง! ลายมือถูกต้อง ผู้ใช้เจ้านิกายนิรันดร ตรงตามเงื่อนไข โหลดทักษะจิตสังหารพิฆาต 1%...... 10%...... 100%......โหลดพลังเสร็จสิ้น ทักษะจิตสังหารพิฆาตเริ่มใช้งาน!”
“ซูมมมมมมมมม -----”
แม่น้ำและขุนเขานำทางที่ระเบิดพลังสีเทาออกมาทันที แผ่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า ก่อรูปกลายเป็นรูปเมฆสองก้อน ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับฝ่ามือที่ชูนิ้ว ขณะเคลื่อนเข้าประกบกัน.
“นี่มันคืออะไร?”
เหล่าศิษย์นิกายราชันย์มารถึงกับตะลึงงัน.
เจ้านิกายราชันย์มารที่ใบหน้าเผยความประหลาดใจ.
ทว่าเวลานั้นเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แผ่ออกมากดทับลงมาจากบนท้องฟ้า เริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา แม้แต่เสียวที่ด้านหลังขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล.
จุนซ่างเซียวที่เริ่มขยับไม้เท้าชี้ไปยังร่างกายของพวกเขากวาดไปยังทิศทางของเหล่าศิษย์นิกายราชันย์มาร ไม่มีทางที่จะหลบได้เลย!
“ฟู่ ฟู่!”
เมฆรูปมือชี้นิ้วเคลื่อนที่ปะทับกันอย่างสมบูรณ์.
เหล่ายอดฝีมือของนิกายราชันย์มารที่เตรียมจะลงมือ จู่ ๆก็ปรากฏพลังที่มองไม่เห็นพุ่งทะยานทะลวงมายังด้านหลัง.
หนังหัวของทุกคนที่ชาหนึบ เสียวไปถึงก้น พร้อมกับความเจ็บปวดที่รุนแรงปะทุขึ้นมา ได้ยินเพียงเสียงร้องเพลงดังก้องหู ดอกเบญจมาศร่วงโรย ความเศร้าโศกโปรยปราย รอยยิ้มเธอค่อยๆ มลายสิ้น
“อ๊าก!”
“อ๊ากกกก--”
“อ๊ากก อ๊ากก ------”
“พรึด โครม!”
“พรึด โครม!”
พริบตานั้น ทันทีที่จุนซ่างเซียวกวาดตามอง ไม่ว่าจะมีพลังบ่มเพาะใด ต่างก็ต้องร้องโอดโอย คุกเข่าลงกับพื้น แหงนก้นชูขึ้น.
ที่น่าอนาถที่สุดคงจะเป็นระดับจักรพรรดิยุทธ์และกษัตริย์ยุทธ์ เพราะพลังที่มองไม่เห็นนั้นรุนแรงมาก พวกเขาถึงกับน้ำลายฟูมปากตาเหลือกค้างหมดสติทันที.
“โครมมม!”
เจ้านิกายราชันย์มารที่ลอยบนอากาศร่อนลงพื้นเสียงดัง ขาทั้งสองข้างที่หนีบเบียดกันชิด ใบหน้าที่เดี๋ยวเขียวเดี๋ยวดำ.
เขาที่มีพลังระดับปราชญ์ยุทธ์ขั้นสมบูรณ์ แม้นว่าจะสามารถอดทนไว้ได้ ทว่าก็ไม่สามารถระงับความเจ็บปวดได้ ที่รูก้นของเขาร้อนผ่าวราวกับไฟเผา เหมือนกับก้นได้หนีบก้อนถ่านเอาไว้ก็ไม่ปาน!
คนหลายพันคน ที่นอนชูก้นซบหราบนพื้นหมดสติ เป็นภาพที่น่าตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก!
เหล่าติง กงซุนเหาไห่และคนอื่น ๆ ที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
เจ้านิกายไม่ได้ทำอะไร พวกเขาที่ราวกับถูกโจมตีเข้าจุดอ่อน นอนเจ็บปวดบนพื้นไปเลยอย่างงั้นรึ?
ซีจิงเสวียนที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ “นี่....เกิดอะไรขึ้น?”
ทว่านายน้อยหยวนคนเดียวที่เผยความสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะว่า ทุกคนของนิกายราชันย์มาร ไม่สามารถยืนได้ และเขาเองก็ไม่สามารถมองเห็นการโจมตีได้อีกด้วย!
“นายน้อยหยวน.”
จุนซ่างเซียวเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เอ่ยออกมาว่า“ยินดีที่ได้ร่วมมือ.”