บทที่ 99 เย้าเจ้าเล่น~ (2)
หลังอาหารเย็น เสิ่นเยว่ จัวหย่วน ชงชิง และจัวซินพาเด็กๆ เดินย่อยอาหารในเรือนที่อี้กว่าน
มีเสิ่นเยว่อยู่ คืนนี้เด็กๆ จึงรับประทานได้มากกว่าเมื่อวาน
ปริมาณอาหารของเด็กๆ ชงชิงได้จดบันทึกอย่างเรียบง่ายไว้แล้ว เพราะเด็กๆ จะมีช่วงวัยการเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าส่วนมากจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ต่างคนก็แตกต่างกันไป
เด็กบางคนอาจเติบโตเร็วในช่วงเดือนสิบสองและเดือนแรก และช่วงเวลานี้จะเห็นพัฒนาการการรับประทานอาหารที่มากขึ้นได้ชัดเจนมากที่สุด ในเวลานี้จึงต้องคอยสังเกตการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายของเด็กๆ ให้เด็กๆ เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาทอง
สิ่งเหล่านี้เสิ่นเยว่เคยมอบหมายตั้งแต่แรก ดังนั้นชงชิงจึงบันทึกตลอดระยะเวลาที่เดินทาง
"เหมือนกับว่าช่วงนี้คุณชายห้าจะเจริญอาหาร ประมาณสองสามวันแล้วเจ้าค่ะ" ชงชิงยืนยัน
เสิ่นเยว่ดูบันทึกของชงชิง บังเอิญที่จัวซินเองก็อยู่ด้านข้าง จึงหันไปพูดกับจัวซิน "เสี่ยวอู่น่าจะเข้าสู่ช่วงวัยการเติบโตอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลานี้ต้องให้เขาเล่นกีฬาเกี่ยวกับการกระโดด ตอนกลางคืนต้องรีบเข้านอน ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลังจากนี้ไม่นานก็จะสูงขึ้นอีกเท่าหนึ่ง"
จัวซินตาเป็นประกาย "เจ้าเด็กนี่จะสูงขึ้นจริงหรือ?"
เสิ่นเยว่ยิ้ม
จัวซินรู้สึกดีใจมาก
เมื่อเดินมาถึงศาลาที่สวนดอกไม้ในอี้กว่าน จึงได้นั่งพักพอดี เสิ่นเยว่ถึงได้บอกกับเด็กๆ ว่านางอาจไม่ได้ไปเมืองสวี่กับทุกคน นางต้องอยู่ฉลองปีใหม่ที่เมืองตานเฉิง รอหลังปีใหม่ถึงจะได้เจอกับเด็กๆ อีกครั้งที่เมืองหลวง
แม้ก่อนหน้าจะเตรียมใจไว้แล้วว่าเด็กๆ อาจเกิดความรู้สึกด้านลบ แต่ในตอนที่เถาเถาร้องไห้ "ฮือ" ออกมาเป็นคนแรก เสิ่นเยว่ก็ยังรู้สึกใจสลาย
จึงเดินเข้าไปหาแล้วกอดนางไว้ "เถาเถาเด็กดี ไม่นานอาเยว่ก็จะกลับเมืองหลวงแล้ว เดี๋ยวพวกเราก็ได้เจอกันแล้ว" เถาเถากลับร้องไห้จนหายใจไม่ทัน "แต่ว่า...แต่ว่าข้าขอพรแล้ว ข้าจะอยู่กับอาเยว่ตลอดไป...ฮือๆๆ...คำขอของพี่เจ็ดเป็นจริงแล้ว ทำไมคำขอของข้าถึงไม่เป็นจริง?"
เถาเถาถามจนเสิ่นเยว่พูดไม่ออก แต่ตอนนี้ทำได้เพียงปลอบใจ "เถาเถาเด็กดี พวกเจ้าตั้งใจฉลองปีใหม่ที่เมืองสวี่ให้ดี เมื่อพวกเจ้ากลับจวนแล้ว อาเยว่ก็จะอยู่ที่นั่น อาเยว่จะรอพวกเจ้าที่จวนก่อนดีไหม? เถาเถาไม่ร้องนะ" เป็นครั้งแรกที่เสิ่นเยว่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
ก่อนหน้าก็เคยต้องห่างจากเด็กที่อายุน้อยมาก่อน หลังจากที่ทะลุมิติมา กับถงถง เสี่ยวเค่อ และฮั่วฮั่วที่จวนเจ้าเมืองจิ้นโจวก็เคยจากกันมาก่อน แต่ไม่เหมือนกับเด็กเหล่านี้ที่จวนอ๋องผิงหย่วน—ที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่
เสิ่นเยว่รู้สึกราวกับถูกค้อนทุบลงมา
ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้ที่ไม่ไปเมืองสวี่จะเป็นเรื่องไม่ถูกต้องหรือไม่...กว่าเถาเถาจะหยุดร้องไห้แล้วเดินไปอยู่กับซุ่ยซุ่ย
เสี่ยวอู่กลับกอดอก พูดอย่างโกรธๆ "ฮึ! ข้าไม่สนท่านแล้ว" เสิ่นเยว่ก้มหน้าหัวเราะเล็กน้อย แล้วเดินไปหอมแก้มเขา
เสี่ยวอู่หน้าแดงในทันทีและรู้สึกว่าคงไม่ดีหากจะโกรธต่อ
เสี่ยวชียังคงพยายามลองอีกครั้ง "อาเยว่ ท่านไปด้วยกันได้หรือไม่? ข้าอยากให้ท่านไปมากๆ" เสิ่นเยว่อธิบายด้วยเสียงนุ่มนวล "ครั้งนี้ข้ารับปากกับครอบครัวแล้วว่าจะฉลองปีใหม่กับพวกเขา อาเยว่เชื่อว่าแม้อาเยว่จะไม่อยู่ พวกเจ้าก็จะเป็นเด็กดีใช่หรือไม่? เสี่ยวชีเองก็เชื่อฟังมากที่สุด" เสี่ยวชีพยักหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำ
เมื่อถึงคราวซุ่ยซุ่ย ซุ่ยซุ่ยไม่ร้องไห้ เพียงจมูกแดงเล็กน้อย ไม่รอให้เสิ่นเยว่เอ่ยปากก็พูดออกมาก่อน "ข้าจะดูแลพวกเขาให้ดี"
ในเด็กไม่กี่คนนี้ หนึ่งเดียวที่เสิ่นเยว่วางใจ "รู้แล้ว มีซุ่ยซุ่ยอยู่ อาเยว่ก็วางใจ"
สุดท้ายเมื่ออยู่กับอาซื่อ เสิ่นเยว่พูดเสียงเบา "เจ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อครู่ที่เถาเถาพูด คำขอของเสี่ยวชีคืออะไร?"
อาซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย
เสิ่นเยว่ยื่นมือไปลูบผมที่กระจัดกระจายบนหน้าผากของเขา พูดอย่างนุ่มนวล "คำขอของเสี่ยวชีคือหวังว่าพี่สี่ของเขาจะกลับมาในเร็ววัน เขาคิดถึงเจ้า" อาซื่อประหลาดใจจนอ้าปากค้าง
เสิ่นเยว่กอดเขา "อาซื่อ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดี เจ้าจะดูแลน้องได้ดี อาเยว่เชื่อเจ้า" เสิ่นเยว่พูดจบก็หอมแก้มของอาซื่อ อาซื่อกัดริมฝีปาก
"เสี่ยวชีไม่มีเจตนาร้ายกับเจ้า เจ้าเองก็คงไม่มีเจตนาร้ายต่อเสี่ยวชี เจ้าจะเห็นว่าคนที่เสี่ยวชีชอบมากที่สุดคือเจ้า" เสิ่นเยว่ยิ้ม
อาซื่อทำปากยื่น "ได้ยินบ่อยแล้ว..." เสิ่นเยว่ยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน
ในตอนที่มองไปยังจัวหย่วน จัวหย่วนกำลังก้มหน้าคล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง ไม่ได้มองมาที่นาง นางจึงละสายตาไป
...เมื่อกลับถึงเรือน เด็กๆ อาบน้ำเสร็จ เสิ่นเยว่จึงเล่านิทานก่อนนอนให้ฟังอีกสักพักใหญ่
สุดท้ายเสี่ยวอู่และคนอื่นหลับไปแล้ว มีเพียงเถาเถาที่กอดนางไว้ไม่ยอมหลับ
เสิ่นเยว่อุ้มอยู่นาน
เมื่อตอนใกล้จะวางลงจึงรู้สึกแขนชา
เวลาก็ดึกมากแล้ว เสิ่นเยว่มอบหมายงานอีกสักพักถึงกลับ จัวหย่วนยืนพิงรอนางที่ใต้ต้นเหมย "ดึกมากแล้ว ข้าจะไปส่งเจ้า" เสิ่นเยว่ประหลาดใจ
ที่จริงแล้วเมืองตานเฉิงไม่ใหญ่ จากอี้กว่านกลับเรือนก็ไม่ไกลนัก
ช่วงเช้านางเดินมาพร้อมเหลียงเย่ เมื่อครู่จัวหย่วนยื่นเตาผิงมือให้นาง เพราะครั้งก่อนที่ไม่ได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ถึงรู้ว่านางไม่ชอบอากาศหนาว
นางยิ้มแล้วรับไป
ทั้งสองเดินทอดน่องไปพร้อมกัน เวลาที่ใช้จึงมากกว่าการนั่งรถม้ากลับเล็กน้อย
เสิ่นเยว่พูดคุยกับจัวหย่วนตลอดทาง
เริ่มเล่าเช่นเดียวกับที่เล่าให้จัวซินฟัง พูดถึงว่าเสี่ยวอู่อยู่ในช่วงวัยการเติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว จะต้องเล่นกีฬาที่เกี่ยวกับการกระโดดให้มากและต้องเข้านอนให้เร็ว พูดถึงว่าหลายวันนี้เถาเถาอาจร้องไห้ จัวหย่วนอาจต้องใช้เวลาอยู่กับเถาเถาให้มาก พูดถึงว่าที่จริงแล้วอาซื่อเข้าใจในเหตุและผล การยอมรับเสี่ยวชีเป็นเรื่องของเวลา ส่วนซุ่ยซุ่ย แม้จะไม่พูดแต่คิดถึงท่านพ่อท่านแม่มาก ให้ดูว่าจะคิดหาวิธีติดต่อฮูหยินของท่านแม่ทัพได้หรือไม่ ส่งจดหมายมาก็ยังดี และจัวซิน วันนี้นางได้ยินจัวซินเรียกเขาว่าท่านอาหก แม้จะไม่รู้ว่าก่อนหน้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาทั้งสองจึงไม่ลงรอยกัน แต่วันนี้เหมือนจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี...ไม่ว่าอย่างไร ตลอดทางนางก็พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด จัวหย่วนก้มหน้าฟังตลอดเวลา นอกจากตอบ "อืม" เสียงเบาแล้ว ส่วนมากก็ไม่ได้พูดสิ่งใด
เสิ่นเยว่กำลังคิด ช่วงก่อนพลบค่ำก็เหมือนว่าเขาจะดูเหม่อลอย ตอนนี้ก็เช่นกัน อาจเป็นเรื่องในราชสำนัก...เสิ่นเยว่เงียบลง เหมือนว่าจะอยู่ไม่ไกลจากประตูเรือนแล้ว
จู่ๆ นางก็หยุดพูดลง จัวหย่วนกลับหยุดฝีเท้าแล้วมองนาง นางไม่ทันระวังจึงเหยียบเงาเขาอีกครั้ง
เสิ่นเยว่ขมวดคิ้ว นึกถึงครั้งก่อนที่นางเหยียบเงาเขา คล้ายกับจะเป็นเรื่องที่ต้องหลีกเลี่ยงสำหรับเขา หลังจากนั้นก็ป่วยติดต่อหลายวันจริงๆ เป็นเรื่องที่โชคร้ายมาก
เสิ่นเยว่รีบร้อนยื่นมือให้ ความหมายคือให้ตีนางสามครั้งเช่นครั้งก่อน รีบไล่ความโชคร้ายไป
ท่ามกลางแสงจันทร์ จัวหย่วนก้าวไปข้างหน้า ไม่ตีนาง แต่กลับจับมือนางไว้
นางมองเขาด้วยความตกตะลึง ช่องว่างระหว่างนิ้วมืออันอ่อนนุ่มของเขาสอดประสานกับนิ้วมือของนาง อุณหภูมิอุ่นจากปลายนิ้วของเขากระจายไปทั่วผิวหนังบริเวณข้อมือของนางจนถึงแขนขาอย่างชัดเจน
"เมื่อวานเย้าเจ้าเล่น คนงามกว่าปิ่น" น้ำเสียงของเขาหนักแน่นราวกับหยก ทั้งคล้ายสุราที่บ่มมานานนับปี ขณะที่โน้มตัวลงก็ประทับริมฝีปากลงบนแก้มนางโดยไม่บอกกล่าว "ไม่ได้หอมแทนเถาเถา..." นางรู้สึกหูอื้อ ทุกอย่างว่างเปล่า นางทำตัวไม่ถูก ลืมแม้กระทั่งจะขยับตัว
จัวหย่วนถึงค่อยๆ ถอนตัวกลับมา "กลับไปเถอะ หากช้าอีกนิดข้าจะรู้สึกเสียใจภายหลัง" พูดจบก็หันตัวกลับ เหลือเพียงเสิ่นเยว่ที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ตนเองกลับก้มหน้ายิ้ม ปลายหางตาบนใบหน้าที่งดงามราวกับรูปแกะสลักปรากฏรอยยิ้ม
กระต่ายชิงจือและกระต่ายอาเยว่เป็นคู่กัน เช่นนั้นชิงจือและอาเยว่เองก็ต้องเป็นคู่กันถึงจะถูก...
ทึ่มเสียจริง!