ตอนที่แล้วบทที่ 67 ฝึกฝนวิชาหลอมสุริยาสายฟ้าวายุ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 69 ผู้มาเยือน

บทที่ 68 วารีหยกขั้นสมบูรณ์ 


บทที่ 68 วารีหยกขั้นสมบูรณ์

【ปีที่ยี่สิบเอ็ด โฮสต์กลืนแก่นแท้ปีศาจจิ้งจอก ช่วยประหยัดเวลาบ่มเพาะ ทำให้ ประสิทธิภาพการฝึกฝนเพิ่มขึ้น】

【ปีที่ยี่สิบสาม โฮสต์กลืนแก่นแท้เจียวอีกครั้ง เติมเต็มปราณแก่นแท้ที่หมดลง】

【ปีที่ยี่สิบสี่ โฮสต์เข้าใจ 'วารีหยก.พลังปีศาจเจียว'】

【ปีที่ยี่สิบเจ็ด วารีหยกทั้งสิบสองจุดเฉียวไหลออกมา แล้วรวมตัวกันในทะเลแห่งปราณ มันเหมือนกับน้ำยาสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม... โฮสต์ก้าวเข้าสู่ 'ขอบเขตวารีหยก' ขั้นเริ่มต้น วิชาหลอมสุริยาสายฟ้าวายุโฮสต์ทำความเข้าใจได้แล้ว】

【อายุขัยโฮสต์ที่เหลือ: หนึ่งร้อยสี่สิบหกปี】

【อายุขัยปีศาจที่เหลือ: หนึ่งพันสี่ร้อยเจ็ดสิบสามปี】

แน่นอน เพียงแค่ใช้แก่นแท้ปีศาจที่ยังไม่ผ่านการขัดเกลา มันก็ทำให้เวลาที่ต้องการลดลงครึ่งหนึ่ง

ความคิดของเสินอี้ล่องลอยเล็กน้อย

เขาถอนหายใจออก ชำระล้างจิตใจ ปิดเปลือกตา ทะเลสาบวารีหยกสีทองปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาโดยตรง

มันจับตัวกันเป็นก้อนหนืดๆ เปล่งประกายระยิบระยับ

เหมือนน้ำหวานชั้นเลิศที่สุดในโลก กลิ่นของมันชวนให้น้ำลายสอ

เหนือทะเลสาบวารีหยก มีเส้นเลือดสีแดงเข้มนับไม่ถ้วนสานกันเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ ปกคลุมพื้นที่ทั้งหมด

ออร่าร้อนแรงแผ่ขยายออกไปอย่างช้าๆ หนักหน่วง อึดอัด ราวกับอยู่ในนรก!

“…”

จุดเฉียวหลักทั้งสิบสองดูดกลืนปราณแก่นแท้ของสวรรค์และปฐพีอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งไปยังตาข่ายยักษ์นั้น แล้วเปลี่ยนเป็นวารีหยกค่อยๆ หยดลงมา

เสินอี้ลืมตาขึ้น

เขาพยายามควบคุมวารีหยก และรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

ระดับความหนาแน่นเหนือกว่าก่อนหน้านี้มาก

หมายความว่าในวิชาเดียวกัน เขาสามารถควบคุมพลังได้มากกว่าสิบเท่าของก่อนหน้า

เมื่อใช้กับท่าไม้ตาย หมายถึงพลังการโจมตีที่แท้จริง

“อันนี้เกี่ยวข้องกับ 'วิชาวารีหยก' ด้วยงั้นเหรอ?”

เสินอี้ยื่นมือไปหยิบแก่นแท้ปีศาจเม็ดสุดท้ายออกมา แต่เขากลับมีสีหน้าตะลึงงัน

เขามองดูฝ่ามืออย่างงุนงง

ครั้งล่าสุดที่ข้ารู้สึกแบบนี้... คือตอนที่ร่างกายมนุษย์ของข้าสมบูรณ์แบบ ตอนนั้นต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงเลย กว่าจะปรับสภาพร่างกายให้กลับมาเป็นปกติได้

เขาหวนนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจึงรีบเปิดดูแผงระบบทันที

[วารีหยก.พลังปีศาจเจียว: ด้วยร่างกายเป็นมนุษย์ แต่สามารถควบคุมพลังของมังกรเจียวได้]

คำอธิบายสั้นๆ แต่กลับทำให้ลมหายใจของเสินอี้หอบขึ้นมา

ลำตัวของมังกรเจียวที่ยาวสิบกว่าจั้งนั้น ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งสักเพียงใด ถึงแม้จะอยู่ในสภาพบาดเจ็บ แต่มันก็สามารถต้านทานวิชาเทียนกังโลหิตจนตาย

ถึงจะพูดว่าพลิกผันฟ้าดิน อาจจะดูเวอร์ไป แต่ตอนนั้น มันฉีกกระชากร่างกายแปดขุมทรัพย์สุริยันทองคำของเขาได้อย่างง่ายดาย โดยที่สีหน้ามันไม่เปลี่ยนเลย

แต่ตอนนี้ พลังอันมหาศาลเช่นนี้ มันกลับแฝงอยู่ในร่างกายมนุษย์ของเขา

นิกายวัชระฝึกฝนร่างกายด้วยพลังปราณ พวกเขาทำให้ร่างกายแข็งแกร่งที่สุดในระดับเดียวกัน แต่เมื่อเทียบกับปีศาจที่เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษโดยธรรมชาติแล้ว มันดูด้อยลงไปทันที

"ช่างน่าทึ่งจริงๆ"

เสินนอี้ขยับนิ้วมือ หยิบแก่นแท้ปีศาจปลาแม่น้ำชิ้นสุดท้ายขึ้นมา ด้วยมือที่สั่นเทา สีหน้าของเขาเหมือนกำลังใช้ตะเกียบคีบถั่วลิสงอย่างระมัดระวัง

การจะควบคุมพลังนี้ให้สมบูรณ์ มันคงต้องใช้เวลาอีกหลายวัน

เขาค่อยๆ กลืนแก่นแท้ปีศาจลงท้อง จากนั้นใช้อายุขัยปีศาจเทใส่วิชาหลอมสุริยาสายฟ้าวายุอีกครั้ง

เตาหลอมเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เหลือเพียงรอเวลาเท่านั้น

[ปีแรก โฮสต์กลืนแก่นแท้ปีศาจปลาแม่น้ำ ทำให้การฝึกฝนของโฮสต์พัฒนาขึ้น]

[ปีที่สี่ ทะเลปราณเต็มเปี่ยม จนเกือบจะล้นออกมา ปราณจากแก่นแท้ปีศาจหมดลง โฮสต์ไม่สามารถเข้าใจทักษะพิเศษ แต่ได้รับอิทธิพลจากปราณปีศาจ ทักษะการเกี่ยวกับน้ำของโฮสต์พัฒนาขึ้น]

[ปีที่หก วารีหยกเริ่มหล่อเลี้ยงเส้นลมปราณ เส้นลมปราณของโฮสต์สามารถรองรับวารีหยกได้หลายเท่า โฮสต์ทะลวงผ่านขั้นกลางขอบเขตวารีหยก]

...

ข้อความที่ปรากฏขึ้นหลังจากข้อความแจ้งเตือนนี้

ทำให้เสินอี้อดไม่ได้ที่จะเม้มปากเล็กน้อย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

เมื่อเทียบกับปีศาจและสมบัติล้ำค่า โลกนี้ช่างยุติธรรมจริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นพืชวิเศษ ปีศาจ หรือแม้แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ ล้วนได้รับพลังจากโลกนี้อย่างเท่าเทียมกัน

[ปีที่เจ็ดสิบเก้า โฮสต์ขอพลังจากโลกนี้อย่างไม่สิ้นสุด หวังว่าจะมีวารีหยกมากขึ้นเพื่อหล่อเลี้ยงกระดูก]

[ปีที่สองร้อยสาม กระดูกของโฮสต์ได้รับการหล่อเลี้ยงจากวารีหยก มันกลายเป็นสีใสเหมือนหยกโดยธรรมชาติ โฮสต์ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นปลายขอบเขตวารีหยกแล้ว วิชาหลอมสุริยาสายฟ้าวายุสำเร็จขั้นสูง]

[ปีที่สามร้อยยี่สิบหก วารีหยกเริ่มไหลเวียนไปยังอวัยวะภายใน รากฐานของโฮสต์แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ร่างกายของโฮสต์เปรียบเสมือนโอสถอันล้ำค่า ที่เปล่งความหอมหวานอันเย้ายวนใจ]

[ปีที่ห้าร้อยแปดสิบสอง ในที่สุดเลือดของโฮสต์ก็เปล่งประกายเป็นสีทอง ในดวงตาของโฮสต์เปล่งแสงสว่างวาบ ก่อนที่จะมืดลงอีกครั้ง ในที่สุดโฮสต์ก็สามารถควบคุมออร่าของโฮสต์ และป้องกันสายตาที่สอดส่องของปีศาจได้ ตัวโฮสต์ไม่ใช่โอสถล้ำค่าอีกต่อไป แต่เป็นดาบที่เก็บไว้ในฝัก]

[ขอบเขตวารีหยก บรรลุขั้นสมบูรณ์]

[อายุขัยโฮสต์ที่เหลือ: สองร้อยเก้าสิบหกปี]

[อายุขัยปีศาจที่เหลือ: แปดร้อยเก้าสิบเอ็ดปี]

...

เสินอี้กำหมัดแน่น และปิดตาลงอีกครั้ง

เขาจมดิ่งสู่การมองเข้าไปภายใน

ในตาข่ายที่ถักทอด้วยเส้นเลือดสีแดงเข้มนับไม่ถ้วน แสงสีทองสว่างไสวได้กลืนกินทุกสายตา

พวกมันไม่ได้ถูกกักขังอยู่ที่นี่อีกต่อไป แต่กลับวิ่งพล่านไปทั่วร่างกาย

กระดูกหยกเหมือนสร้างมาจากสวรรค์ อวัยวะภายในเปล่งประกาย เลือดสีทอง ไหลเหมือนแม่น้ำที่เชี่ยวกราก มันส่งเสียงคำรามดังก้องไม่มีที่สิ้นสุด!

ภายใต้ภาพอันทรงพลังนี้

เสินอี้ถึงกับตกตะลึงจนลืมหายใจไปชั่วขณะ

จนกระทั่งลืมตาขึ้น เขายังคงจมอยู่กับแสงสีทองนั้น ไม่สามารถดึงตัวเองออกมาได้

“ซู้ด……”

เขาหายใจเข้าลึกๆ บังคับให้จิตใจสงบลง

การยกระดับที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จิตใจจะไม่หวั่นไหว

เขาฆ่าปีศาจมากมาย แถมยังดิ้นรนเพื่อมาที่แผนกปราบปีศาจ

ในที่สุด... เขาก็ได้รับผลตอบแทน

และระดับของผลตอบแทนนี้ ก็ไร้ที่ติ!

ร่างกายใหม่นี้ เปรียบเสมือนคนละคนกับเมื่อกี้

ที่สำคัญ อายุขัยของเขาเกือบสามร้อยปี แทบจะใกล้เคียงกับปีศาจ

เขาหลุบตาลงเล็กน้อย

อย่าพูดถึงการมีชีวิตใหม่เลย แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเขาที่จะมีชีวิตใหม่ถึงสามครั้งแล้ว

แม้ว่าจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ แค่หาที่อยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร เขาก็สามารถมีชีวิตอยู่จนเบื่อตายได้

แต่หลังจากได้เห็นภาพทะเลเลือดสีทองเมื่อกี้..

เขาจะยอมทนอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร?

เขาอยากลองปีนให้สูงขึ้น อยากมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น และถ้าต้องการทั้งสองอย่างนี้ เขาย่อมต้องมีวิธีป้องกันชีวิต

เสินอี้มองไปที่แผงระบบด้านบนสุด

【ศาสตร์การต่อสู้ปัจจุบัน】

ทักษะการโจมตีด้วยมือเปล่า (ขั้นสูง)

เริ่มต้น. วิชาวานรขาวหยอกอสรพิษ (สมบูรณ์แบบ)

วารีหยก. เทียนกังโลหิต (สมบูรณ์แบบ)

วารีหยก. วิชาตัดชีพจรจับมังกร (สมบูรณ์แบบ)

วารีหยก. ถานหลางสังหารปีศาจ (สมบูรณ์แบบ)

วารีหยก. ร่างแปดขุมทรัพย์สุริยันทองคำ เล่มต้น (สมบูรณ์แบบ)

เขาดูศาสตร์การต่อสู้ทั้งหมด

จากนั้นเสินอี้เริ่มครุ่นคิด

จากการเดินทางไปยังหมู่บ้านสุ่ยอวิ๋นครั้งนี้ เขาได้วิเคราะห์วิชาทั้งหมดได้ดีขึ้น

ดาบสีดำนั้นคมกริบ สามารถเจาะทะลุหนังเนื้อของปีศาจได้อย่างง่ายดาย แถมยังช่วยฟื้นฟูพลังกายและรักษาบาดแผลได้อีกด้วย แต่ก็ยังยากลำบากอยู่บ้างเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีขนาดใหญ่

วิชาตัดชีพจรจับมังกรสามารถทำให้ศัตรูสูญเสียพลังต่อต้านได้อย่างรวดเร็ว แต่ข้อเสียคือต้องต่อสู้ในระยะประชิด มันค่อนข้างเสี่ยงมาก

เทียนกังโลหิตนั้นดีอยู่ แต่มันสิ้นเปลืองปราณมากเกินไป

คิดไปคิดมา

สายตาของเสินอี้ก็จับจ้องไปที่วิชาหลอมสุริยาสายฟ้าวายุ และร่างแปดขุมทรัพย์สุริยันทองคำ

วิชาหลอมสุริยาสายฟ้าวายุมีโอกาสพัฒนาวิชาระดับขอบเขตควบแน่นตัน(หนิงตัน)... น่าจะนะ!

(ตันหรือ丹 ถ้าแปลตรงๆ จะแปลว่ายา ในความเชื่อลัทธิเต๋า ร่างกายของคนเราเมื่อบรรลุถึงระดับหนึ่ง ในร่างกายจะควบแน่นปราณอยู่ในร่างกาย)

เมื่อนึกถึงความเฉลียวฉลาดของตัวเอง เสินอี้ก็ไม่แน่ใจ

ร่างแปดขุมทรัพย์สุริยันทองคำนั้นมาจากจางถูหู หลังจากฝึกฝนจนสำเร็จ ร่างกายก็แค่แตะขอบเขตวารีหยกเท่านั้น ถ้าเขายังอยู่ในขอบเขตเริ่มต้นมันจะมีค่ามาก แต่สำหรับเสินอี้ในตอนนี้ มันแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย

เดิมทีเขาไม่เต็มใจที่จะใช้แายุขัยปีศาจไปกับมัน

แต่หลังจากได้รับพลังปีศาจเจียวมาแล้ว เสินอี้ก็เริ่มลังเล

หากต้องการต่อสู้กับปีศาจในระยะประชิด ร่างกายที่แข็งแกร่งนั้นสำคัญมากจริงๆ…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด