เล่มที่ 1: ถิ่นทุรกันดาร – บทที่ 17: ไปต่อ [อ่านฟรี]
เหมือนร่างกายอเล็กซ์กำลังลุกเป็นไฟ แต่นี่เป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดจากผลไม้เท่านั้น ทันทีที่เขากลืนคำแรกลงไปก็รู้สึกเหมือนกับว่ากล้ามเนื้อเริ่มจะลุกเป็นไฟ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ความรู้สึกนี้มันไม่ได้เจ็บปวดเสียทีเดียว คือก็เจ็บอยู่บ้าง แต่มันกลับผสมความตื่นเต้นเข้าไปด้วย กระสับกระส่าย และมีพลังแฝงมาด้วย
อเล็กซ์ไม่เคยใช้สเตียรอยด์มาก่อนในชีวิตที่แล้วเพราะนั่นจะทำลายอาชีพของเขา แต่จินตนาการว่าสเตียรอยด์คงจะให้ความรู้สึกที่คล้ายกันนี้ ลบความเจ็บปวดไปได้เล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน อเล็กซ์ก็สังเกตเห็นบางอย่าง ‘มันเหมือนกับตอนกำลังดูดซับมานาเลย แต่มันแบบเข้มข้นมากกว่าปกติ’ เขาคิดด้วยความตื่นเต้น
ด้วยความเข้มข้น จากประสบการณ์ดังกล่าว อเล็กซ์ก็สังเกตเห็นอย่างอื่นด้วย เขามองดูร่างกายและจับศีรษะ ‘ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยเพราะมานาอ่อนโยนอยู่เสมอ แต่ไม่รู้สึกถึงมานาที่หัวเลย ส่วนอื่น ๆ บนตัวเหมือนกำลังไฟลุก มีแค่หัวที่เย็น เหมือนกับหัวจะไม่ได้รับผลกระทบจากมานาเลย’
อเล็กซ์นิ่วหน้า ‘พระเจ้าบอกว่าฉันคงใช้เวทมนตร์ไม่ได้ นั่นเป็นสาเหตุหรือเปล่า?’
‘ตามหลักเหตุผลแล้ว จอมเวทย์ควรได้รับความสามารถในการร่ายคาถาด้วยการเพิ่มพลังแห่งจิตวิญญาณและจิต อย่างน้อยนั่นก็เป็นวิธีที่เจอในเกมอาร์พีจีมาตลอด เดาว่าคงเหมือนกับที่นี่ ท้ายที่สุดแล้ว คนประเภทนี้ถูกเรียกว่าจอมเวทย์ พวกเขาควบคุมพลังจากรอบตัวเพื่อสร้างการโจมตีอันทรงพลัง’
‘พระเจ้าบอกว่ามานาเป็นเหตุผลหลักที่ในโลกของเขาผู้คนต่างมีพลังมากมาย ซึ่งหมายความว่าพลังทั้งหมกของผู้คนขึ้นกับการใช้มานา ในร่างกายฉันน่าจะมีอะไรที่ช่วยให้ดูดซับและควบคุมมันได้สิ’
‘เดาว่าพวกจอมเวทย์ดูดซับมานาด้วยจิตวิญญาณและจิต ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ได้อย่างต้องเสียอย่างสิ ไม่งั้นก็ไม่สนุก ถึงจะไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่เขาสร้างโลกขึ้นมาแบบนี้ก็เถอะแล้วทำมันถึงมาอยู่นี่ล่ะ?’
‘ปกติแล้วจอมเวทย์ไม่น่าจะดูดซับมานาผ่านร่างกาย แต่ใช้จิต ถ้ากินผลไม้นี่เข้าไปคงรู้สึกเจ็บที่หัว ในขณะที่ฉันเจ็บไปทั่วตัว’
‘สิ่งที่กักเก็บและกระจายมานาไปทั่วร่างกายฉันอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับหัวเลยก็ได้ มานาเลยขึ้นไปไม่ถึง นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมมานาถูกจำกัดอยู่แค่ร่างกายเพราะไม่มีที่อื่นให้ไหลไปแล้ว’
‘นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่?’ อเล็กซ์คิดขณะกัดฟันแน่น ‘ตอนนี้ตัวฉันเปี่ยมล้นด้วยมานา แต่เอาแต่คิดเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึง?! ตั้งสติหน่อย ชาง!’
อเล็กซ์ลุกพรวดและปีนขึ้นไปบนต้นไม้ทันที จากนั้นก็กระโดดลงมาอย่างเต็มกำลังและเตรียมรับแรงกระแทกมหาศาล
ตึ้ง!
ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วแขนและเข่าทันทีที่เขากระแทกกับพื้น จากนั้นก็รีบยืนขึ้นและวิ่งไปที่ต้นไม้อีกครั้ง เมื่อเขาปีนขึ้นไปก็สังเกตเห็นบางอย่างทำให้เขาต้องหันไปสนใจมันทันที
‘ทำไมแขนขาไม่เจ็บเลย! คือไม่ต้องพักฟื้นแล้วงั้นเหรอ! จังหวะนี้แหละ!’
อเล็กซ์ปีนขึ้นไปสูงขึ้นกว่าเดิมและมองลงมา มันสูงมาก! อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกร้อนผ่าวขับเคลื่อนเขาไปยังปลายกิ่งไม้และเขาก็กระโดดลงมา
อเล็กซ์ไม่เคยมีโอกาสดี ๆ ที่ได้เห็นว่าคุณสมบัติในการฟื้นฟูของมานาได้ผลกับกระดูกของเขาด้วยหรือไม่ ตามหลักเหตุผลแล้ว มันควรจะเป็นอย่างนั้น เพียงแต่เขายังไม่แน่ใจเท่านั้นเอง
อเล็กซ์รู้สึกเหมือนกับเวลาหยุดเดินเมื่อตกลงถึงพื้น
แกร่ก!
มันเป็นไปอย่างที่เขาปรารถนา อเล็กซ์ไม่ต้องการทดลองกับขาเพราะมันสำคัญกว่าแขน ด้วยเหตุนี้ ในตอนแรกเขาจึงร่วงลงมาด้วยขาทั้งสองและต่อมาก็เอาหน้าลงเพื่อส่งแรงจากการตกลงมาที่แขน
ปลายแขนขวาเขาหัก เขากัดฟันแน่นเมื่อคลื่นความเจ็บปวดนั้นแล่นเข้ามาที่แขนอย่างฉับพลัน การหักแขนตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย เขาใช้มือซ้ายจับแขนขวาแล้วรู้สึกว่ากระดูกยื่นออกมา
‘เยี่ยม กระดูกหักแบบเปิด*’ เขาคิด เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกร้อนผ่าวทั่วร่างกายดูเหมือนจะลดลงกว่าเดิมและเพ่งสมาธิไปที่แขนขวา
แกร่ก! แกร่ก!
เสียงกระดูกดังลั่นเมื่อกระดูกแขนขวาของอเล็กซ์ค่อย ๆ เคลื่อนกลับมายังตำแหน่งเดิมของมัน
กึก!
เสียงเนื้อและเลือดเคลื่อนที่แบบรู้สึกได้ แต่อเล็กซ์ยังคงเพ่งสมาธิไปที่แขน กระดูกกลับเข้าที่แล้ว ผิวหนังและเนื้อที่เสียหายด้านบนเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัด
สองนาทีต่อมา ความรู้สึกร้อนผ่าวก็หายไปจากร่างกายอเล็กซ์โดยสิ้นเชิง เขาแตะแขนขวาและรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ
‘ยังไม่หายสนิท แต่มานาถูกใช้ไปจนเกลี้ยง’ เขาคิด ‘ชัดเจนว่ามานาเร่งการฟื้นฟูกระดูกได้ แต่ไม่รู้ว่าต้องใช้เยอะแค่ไหน จากความรุนแรงที่กัดผลไม้นั่นไปแค่คำเดียวอาจทำให้ฉันมีมานามากกว่าที่ได้รับจากการนั่งสมาธิหลายชั่วโมง ใช้มานาเท่ากันแต่ฟื้นฟูทั้งร่างกายได้เร็วกว่าสองเท่า’
อเล็กซ์มองแขนขวาด้วยดวงตาที่เป็นประกาย ‘ถ้ามานาเสริมสร้างกล้ามเนื้อฉันได้ งั้นมันก็อาจทำให้กระดูกฉันแข็งแรงขึ้นได้ด้วยสิ’ เขาสรุป
‘ถ้าความแข็งแกร่งของฉันไปถึงระดับที่แค่ใช้กล้ามเนื้อก็ทำให้กระดูกหักได้ นั่นคงเป็นเรื่องเศร้าน่าดู จะทำเรื่องพลาดโง่ ๆ แบบนั้นไม่ได้’
อเล็กซ์กัดฟัน ‘การฝึกของฉันมีแต่จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ชอบเลย! มันไมมันต้องแลกพลังกับความเจ็บปวดมากขนาดนั้นด้วย?!’
อเล็กซ์วิ่งไปที่ต้นไม้และหยิบผลไม้ขึ้นมา เมื่อเห็นผลจากการกัดครั้งแรก ครั้งนี้จึงเล็กลง เขายังเหลือผลไม้อีกเป็นตัน เขากัดมันและปีนขึ้นไปบนต้นไม้ ความรู้สึกอันทรงพลังครอบงำร่างกายมากกว่าเดิมและกระโดดลงมาอีกครั้ง
แกร่ก!
กระดูกหักมากกว่าเดิม แต่ครั้งนี้ อเล็กซ์มีมานาข้างในเพียงพอเพื่อรักษาทุกอย่าง ใช้เวลาเพียงแค่สามสิบวินาทีทั้งร่างกายก็ฟื้นฟูสมบูรณ์
แกร่ก!
เขาทำวนซ้ำอยู่เช่นนั้น และกัดผลไม้อีกคำเข้าไป
แกร่ก!
แกร่ก!
แกร่ก!
ราวสิบห้านาทีต่อมา ผลไม้ก็หมดเกลี้ยง เขาหยิบผลต่อไปทันที แต่เขากลับลังเล พลางกัดฟันแน่น ถ้าเขามีพลังมากขึ้นแต่โดนเล่นงานที่ท้องแทนล่ะ? อวัยวะภายในจะรับแรงไหวเหรอ? ตามหลักแล้วก็คงไม่ แต่จะต้องมีวิธีแก้ปัญหานี้ได้แน่ เพราะพระเจ้าบอกว่าในอดีตมีเส้นทางสู่พลังมากมายนับไม่ถ้วน เขาปฏิเสธที่จะเชื่อว่าเส้นทางเหล่านั้นจะเดินไปได้อย่างราบรื่น
‘จะหยุดไม่ได้!’
กร่อบ! กร่อบ!
อเล็กซ์กินผลไม้เข้าไปทั้งลูกในคำเดียว ความรู้สึกเหมือนร่างกายจะระเบิดก็เล่นขึ้นมาทันที เขาได้รับมานาปริมาณมาก! มันไม่ใช่สถานการณ์ที่อ่อนโยนอีกต่อไป
ไม่ อเล็กซ์รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกเผาอยู่จริง ๆ! เขาปีนขึ้นไปบนต้นไม้แต่ลังเล นี่ต่างออกไปจากการกระโดดทุกครั้ง ถ้าเขาคิดผิด เขาอาจตายได้ แต่เขาไม่เหลือเส้นทางให้หันหลังกลับแล้ว ถ้าเขาไม่สามารถหาทางเอามานาทั้งหมดนี่ออกได้ เหลือทางเดียวก็คือตาย
อเล็กซ์กระโดดไปข้างหน้าและเอามือป้องกันศีรษะไว้ด้วยแขน ไม่กี่อึดใจร่างกายก็กระแทกพื้น หน้าอกและท้องถึงพื้นก่อน
ขณะเดียวกันนั้นเอง พระเจ้ากำลังมองดูอเล็กซ์ด้วยรอยยิ้มวิกลจริต ใช่นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเลือกเขา! ความวิกลจริตเช่นนี้แหละที่ทำให้เขาเลือกชาง!
* * * * *
*กระดูกหักแบบเปิด (Open fracture) – ภาวะที่มีการบาดเจ็บของผิวหนังเป็นแผลลึกต่อเนื่องถึง