บทที่ 32 : เเรงกดดันอันน่าสยดสยอง
บทที่ 32 : เเรงกดดันอันน่าสยดสยอง
องค์หญิงเซี่ยจือซวน บุตรสาวคนโตของฮ่องเต้คนปัจจุบัน
ตั้งแต่เธอยังวัยเยาว์ องค์หญิงองค์นี้ไม่ได้มีความสนใจในเรื่องวรรณกรรม ใดๆ…..แต่กลับมีความสนใจอย่างมากในเรื่องกลยุทธ์ทางการทหาร
ถึงขนาดที่เธอมักจะไปยังเขตชายแดนเพื่อลาดตระเวนเเละยังได้ก่อตั้งกองทัพสตรีที่แข็งแกร่งกว่า 100,000 คนด้วยตัวเองอีกด้วย
ว่ากันว่ากองทัพสตรีนี้ มีรูปแบบการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์และมีความสามารถในการต่อสู้ที่เหนือกว่ากองทัพระดับสูงทั่วๆไปมาก
เเละยังมีข่าวลือว่าเธอปกครองด้วยหมัดเหล็ก ดังนั้นระเบียบทหารในกองทัพของเธอถือว่าสมบูรณ์แบบที่สุดในประวัติศาสตร์ของต้าเซี่ย
เป็นผลให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ราชวงศ์หลายแห่งได้มาพยายามสอดแนมเเละระมัดระวังเธอเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม, ในขณะที่เหล่าองค์ชายแห่งต้าเซี่ยเริ่มเปิดศึกเพื่อชิงบัลลังก์……องค์หญิงองค์นี้กลับไปที่บริเวณชายแดน ซึ่งมันดูเหมือนเธอไม่มีความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์
แต่ในยามนี้, อีกฝ่ายกลับมาปรากฏตัวที่นี่โดยไม่คาดฝัน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เย่หวู่ชางไม่ทันได้ตั้งตัว
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เย่หวู่ชางก็เดินมาถึงห้องโถงในที่สุด
ตรงหน้าเขามีสตรีสองนางและบุรุษหนึ่งคนนั่งอยู่, ด้านบุรุษดูเหมือนจะมีอายุสามสิบหรือสี่สิบ…..แต่ลักษณะท่าทางของเขาบ่งบอกว่าเขามีอายุอย่างน้อยหนึ่งร้อยปี
ในทางกลับกัน แม้ว่าหญิงสาวทั้งสองจะแต่งกายด้วยชุดทหาร หากแต่ความงามของพวกนางก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลยสักนิด
แต่ละคนมีความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง, หญิงสาวนางหนึ่งมีความเป็นผู้นำ ครอบครองรูปร่างสูง แสดงความรู้สึกถึงอำนาจ…..ส่งผลให้เกิดรัศมีที่โดดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัย
การแสดงออกทางสีหน้าของเธอค่อนข้างเข้มงวดมากและสีผิวของเธอไม่ขาวเท่ากับเย่ว์รู่ชวง หากแต่เป็นสีของข้าวสาลี
หญิงสาวอีกนางเตี้ยกว่าอีกคนเล็กน้อย นางเป็นเจ้าของใบหน้ากลมและน่ารัก
ในมือของเธอ ถือหอกยาวที่แสดงถึงจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ
หญิงสาวทั้งสองยืนเคียงคู่กัน เเละนั่นทำให้ดวงตาของเย่หวู่ชางเปล่งประกายอย่างแท้จริง
[ติ๊ง! ตรวจพบคู่ครองที่เข้ากันได้ โฮสต์ต้องการเริ่มต้นการตรวจสอบหรือไม่?]
[ติ๊ง! ตรวจพบคู่ครองที่เข้ากันได้ โฮสต์ต้องการเริ่มต้นการตรวจสอบหรือไม่?]
การแจ้งเตือนสองครั้งติดต่อกันนั่นทำให้เย่หวู่ชางตกตะลึง
แต่ไม่นานเขาก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ทั้งยังรู้สึกประหลาดใจอย่างเงียบๆ
เขาไม่ได้คาดหวังว่าหญิงสาวทั้งสองนางนี้……จะสามารถเป็นคู่ครองของเขาได้ทั้งคู่เลย
ชั่วขณะหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยและตัดสินใจดูข้อมูลของพวกนาง
[เซี่ยจือซวน การประเมินโชค: สีทองอ่อน, คุณสมบัติ: ขั้นสูงสุด, การประเมินพรสวรรค์: หัวใจของจักรพรรดินี, ขอบเขต: อาณาจักรปราการสวรรค์ในขั้นที่หก!]
[หัวใจของจักรพรรดินี: เกิดมาเป็นผู้ปกครองโดยธรรมชาติ ผู้ที่มีพรสวรรค์นี้จะสามารถตื่นขึ้นมาได้อย่างเต็มที่โดยการขึ้นครองบัลลังก์……เมื่อนั้นเธอจะทะยานสู่ท้องฟ้า และกลายเป็นจักรพรรดินีแห่งรัชสมัยของตนเอง!]
[สีคงหมิงเยว่: การประเมินโชค: สีแดง, คุณสมบัติ: ขั้นสูงสุด, การประเมินพรสวรรค์: การกลับชาติมาเกิดของเทพเจ้าแห่งหอก, ขอบเขต: อาณาจักรปราการสวรรค์ขั้นแรก!]
[การกลับชาติมาเกิดของเทพเจ้าแห่งหอก: รวมเข้ากันของเศษวิญญาณดึกดำบรรพ์ของเทพเจ้าแห่งหอกโบราณ, ในแต่ละความก้าวหน้าในอาณาจักร จะสามารถรับส่วนหนึ่งในความทรงจำของหอกเทพเจ้าได้!]
เย่หวู่ชางอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดหวังว่าผู้หญิงสองคนนี้จะมีภูมิหลังที่น่าประทับใจเช่นนี้ได้
หลังจากนั้น เขาไม่รีรอและก้าวออกมาทันที
“ข้าน้อยไม่ทราบว่าองค์หญิงจะเสด็จมา…..ข้าน้อยจึงขออภัยหากไม่ได้มาต้อนรับท่านอย่างเหมาะสม!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ พวกเขาทั้งสามก็หันศีรษะและมองไปที่เย่หวู่ชาง
ยามเมื่อพวกเขาเห็นเย่หวู่ชาง พวกเขาต่างก็แสดงความประหลาดใจในดวงตา
ในความทรงจำของพวกเขา ผู้ฝึกดาบมักจะขึ้นชื่อในเรื่องความเยือกเย็น เฉยชา และทรงอำนาจ
เเต่เย่หวู่ชางคนนี้กลับมีรอยยิ้มเหมือนนายน้อยผู้สูงศักดิ์, ให้ความรู้สึกสดชื่นแก่ผู้คน…..เเละไม่เหมือนกับผู้ฝึกดาบแต่อย่างใด
โชคดีที่พวกเขาสามารถตระหนักตัวได้อย่างรวดเร็ว
เซี่ยจือซวน เป็นคนเเรกที่ฉีกยิ้มอย่างใจกว้างและพูดว่า
"ไม่ต้องกังวล พวกข้าต่างหากที่มารบกวน!"
“ผู้นำตระกูลเย่ช่างไม่ธรรมดา ข้าขอชื่นชมท่านจากใจจริง ข้าจือซวนและคนอื่นๆเพียงแค่ผ่านมาเท่านั้นหาได้มีประสงค์ที่จำพำนักแต่อย่างใด”
“อย่างไรก็ตาม, ที่พวกข้ามาที่นี่เพราะพวกข้าสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณอันแข็งแกร่งที่ปะทุขึ้นมา…..ดังนั้นพวกข้าจึงมาตรวจสอบเท่านั้น!”
เมื่อมาถึงจุดนี้ เธอยิ้มให้เย่หวู่ชาง และกล่าวว่า
"ขอแสดงความยินดีกับผู้นำตระกูลเย่…..ในอดีตผู้คนคิดว่าการบ่มเพาะของท่านคงจะไม่เกินขั้นที่หกของอาณาจักรปราการสวรรค์”
“แต่ใครเล่าจะล่วงรู้ว่าในยามนี้ท่านได้ทะลวงไปสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วงได้เเล้ว!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้, คิ้วของเย่หวู่ชางก็กระตุกเบาๆ
แม้ว่าการพัฒนาของเขาจะค่อนข้างส่งผลกระทบค่อนข้างใหญ่, แต่เขาก็สามารถผนึกออร่าของเขาได้ทันโดยการใช้ค่ายกลรวบรวมวิญญาณ…..ดังนั้นมันจึงไม่ควรมีใครสังเกตเห็น
ไม่คาดว่า เซี่ยจือซวนกลับสวามารถตรวจพบมันได้…..เเละนั่นก็เพียงพอเเล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าองค์หญิงผู้นี้ไม่ธรรมดา
เขายกยิ้มเบาๆและกล่าวว่า
"ข้าก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าองค์หญิงผู้ถูกกล่าวขานกันว่าไร้พรสวรรค์ในการฝึกตน, แท้จริงแล้วเป็นปรมาจารย์ในขั้นที่หกของอาณาจักรปราการสวรรค์!"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้เซี่ยจือซวนและอีกสองคนก็ตกตะลึงทันที
ชายผู้เงียบมาตลอดจ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง…..เเถมยังเผลอปล่อยเจตนาฆ่าอันน่าสะพรึงกลัวตรงไปยังเย่หวู่ชาง
ทันใดนั้น ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวของผู้ฝึกตนขอบเขตพระราชวังสีม่วงก็กดลงบนร่างกายของเย่หวู่ชางโดยตรง
ออร่านี้น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง, เห็นได้ชัดว่าอยู่เขาที่ขั้นที่หกของอาณาจักรพระราชวังสีม่วง
อย่างไรก็ตาม เมื่อรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวนี้เข้ามาใกล้ในระยะสามเมตร…..มันก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่อาจทำร้ายเย่หวู่ชางได้แต่อย่างใด
ฉากนี้ทำให้ทั้งสามตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เพราะพวกเขาล้วรตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของชายคนนี้
แม้แต่ผู้ฝึกตนขอบเขตพระราชวังสีม่วงธรรมดาๆ…..ก็มิอาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
ยามนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จะต่อสู้กัน
แต่ออร่าของเขากลับไม่อาจสร้างความเสียหายใดๆต่อผู้ฝึกตนซึ่งเพิ่งบุกทะลวงเข้าสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วงได้
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจเลย
ในคนทั้งสาม เซี่ยจือซวนสงบลงก่อนคนอื่นและพูดว่า
“ท่านผู้นำตระกูลเย่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม ข้าขอชื่นชมด้วยใจจริง”
“เเละข้าขอบอกอย่างไม่ปิดบัง……เหตุผลที่ที่ข้ามาในวันนี้คือขอเชิญท่านให้มาร่วมมือในเรื่องสำคัญ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่หวู่ชางก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบแล้วพูดช้าๆว่า
“องค์หญิงน้อย, ท่านคิดว่ามีเหตุผลอันใดที่ข้าต้องให้ความร่วมมือกับท่าน”
ก่อนที่เซี่ยจือซวนจะได้ตอบ ชายที่อยู่ข้างๆเธอก็พูดขึ้นว่า
"คำพูดขององค์หญิง เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธงั้นรึ"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่หวู่ชางก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มและมองไปที่ชายคนนั้น
“นี่เจ้ากำลังขู่ข้างั้นหรือ?”
ชายคนนั้นยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง….เขาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยและพูดกับเย่หวู่ชางด้วยความเฉยเมย
"ใช่ ข้าข่มขู่…..แล้วเจ้าจะทำไม"
แม้ว่าเย่หวู่ชางจะสามารถสกัดกั้นออร่าของเขาได้, แต่เขาไม่คิดว่าคนที่เพิ่งก้าวเข้าสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วงจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้แต่อย่างใด!
ในขณะนี้ เย่หวู่ชางเข้าใจทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่ชายตรงหน้าพร่าม…..ทั้งยังสังเกตเห็นความเฉยเมยของเซี่ยจือซวน
เวลาต่อมา, เขาจึงค่อยๆวางถ้วยชาลงและเงยหน้าขึ้นมองทันที
บูม!
ทันใดนั้น ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุขึ้นถึงขีดสุด
ห้องโถงต้อนรับทั้งหมดถูกครอบคลุมโดยเจตนาดาบอันน่าสะพรึงกลัว
พวกเขาทั้งสามต่างรู้สึกชาวาบที่หนังศีรษะ…..ราวกับว่าพวกเขาทั้งหมดกำลังถูกคมดาบจำนวนนับไม่ถ้วนจ่ออยู่ที่คอ
…………………….