ตอนที่แล้วบทที่ 31 : ทะลวงสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วง, เจตนาดาบขั้นห้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33 : สยบอาณาจักรพระราชวังสีม่วงด้วยคมดาบธรรมดา

บทที่ 32 : เเรงกดดันอันน่าสยดสยอง


บทที่ 32 : เเรงกดดันอันน่าสยดสยอง

องค์หญิงเซี่ยจือซวน บุตรสาวคนโตของฮ่องเต้คนปัจจุบัน

ตั้งแต่เธอยังวัยเยาว์ องค์หญิงองค์นี้ไม่ได้มีความสนใจในเรื่องวรรณกรรม ใดๆ…..แต่กลับมีความสนใจอย่างมากในเรื่องกลยุทธ์ทางการทหาร

ถึงขนาดที่เธอมักจะไปยังเขตชายแดนเพื่อลาดตระเวน​เเละยังได้ก่อตั้งกองทัพสตรี​ที่แข็งแกร่งกว่า 100,000 คนด้วยตัวเองอีกด้วย

ว่ากันว่ากองทัพสตรีนี้ มีรูปแบบการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์และมีความสามารถในการต่อสู้ที่เหนือกว่ากองทัพระดับสูงทั่วๆไปมาก

เเละยังมีข่าวลือว่าเธอปกครองด้วยหมัดเหล็ก ดังนั้น​ระเบียบทหารในกองทัพของเธอถือว่าสมบูรณ์แบบที่สุดในประวัติศาสตร์ของต้าเซี่ย

เป็นผลให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ราชวงศ์หลายแห่งได้มาพยายามสอดแนมเเละระมัดระวังเธอเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม, ใน​ขณะที่เหล่าองค์ชายแห่งต้าเซี่ยเริ่มเปิดศึก​เพื่อชิงบัลลังก์……องค์หญิงองค์นี้กลับไปที่บริเวณชายแดน ซึ่งมันดูเหมือนเธอไม่มีความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์​

แต่ในยามนี้, อีกฝ่ายกลับมาปรากฏตัวที่นี่โดยไม่คาดฝัน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เย่หวู่ชางไม่ทันได้ตั้งตัว

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เย่หวู่ชางก็เดินมาถึงห้องโถงในที่สุด​

ตรงหน้าเขามีสตรีสองนางและบุรุษหนึ่งคนนั่งอยู่, ด้านบุรุษ​ดูเหมือนจะมีอายุสามสิบหรือสี่สิบ…..แต่ลักษณะท่าทางของเขาบ่งบอกว่าเขามีอายุอย่างน้อยหนึ่งร้อยปี

ในทางกลับกัน แม้ว่าหญิงสาวทั้งสองจะแต่งกายด้วยชุดทหาร หากแต่ความงามของพวกนางก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลยสักนิด​

แต่ละคนมีความงาม​อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง, หญิงสาวนางหนึ่งมีความเป็นผู้นำ ครอบครองรูปร่างสูง แสดงความรู้สึกถึงอำนาจ…..ส่งผลให้เกิดรัศมีที่โดดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัย

การแสดงออกทางสีหน้าของเธอค่อนข้างเข้มงวดมากและสีผิวของเธอไม่ขาวเท่ากับเย่ว์รู่ชวง หากแต่เป็นสีของข้าวสาลี

หญิงสาวอีกนางเตี้ยกว่าอีกคนเล็กน้อย นางเป็นเจ้าของใบหน้ากลมและน่ารัก

ในมือของเธอ ถือหอกยาวที่แสดงถึงจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ

หญิงสาวทั้งสองยืนเคียงคู่กัน เเละนั่นทำให้ดวงตาของเย่หวู่ชางเปล่งประกายอย่างแท้จริง

[ติ๊ง! ตรวจพบคู่ครองที่เข้ากันได้ โฮสต์ต้องการเริ่มต้นการตรวจสอบหรือไม่?]

[ติ๊ง! ตรวจพบคู่ครองที่เข้ากันได้ โฮสต์ต้องการเริ่มต้นการตรวจสอบหรือไม่?]

การแจ้งเตือนสองครั้งติดต่อกันนั่นทำให้เย่หวู่ชางตกตะลึง

แต่ไม่นานเขาก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ทั้งยังรู้สึกประหลาดใจอย่างเงียบๆ

เขาไม่ได้คาดหวังว่าหญิงสาวทั้งสองนางนี้……จะสามารถเป็นคู่ครองของเขาได้ทั้งคู่​เลย

ชั่วขณะหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยและตัดสินใจดูข้อมูลของพวกนาง

[เซี่ยจือซวน การประเมินโชค: สีทองอ่อน, คุณสมบัติ: ขั้นสูงสุด, การประเมินพรสวรรค์: หัวใจของจักรพรรดินี, ขอบเขต: อาณาจักรปราการสวรรค์ในขั้นที่หก!]

[หัวใจของจักรพรรดินี: เกิดมาเป็นผู้ปกครองโดยธรรมชาติ ผู้ที่มีพรสวรรค์นี้จะสามารถตื่นขึ้นมาได้อย่างเต็มที่โดยการขึ้นครองบัลลังก์……เมื่อนั้นเธอจะทะยานสู่ท้องฟ้า และกลายเป็นจักรพรรดินีแห่งรัชสมัยของตนเอง!]

[สีคงหมิงเยว่: การประเมินโชค: สีแดง, คุณสมบัติ: ขั้นสูงสุด, การประเมินพรสวรรค์: การกลับชาติมาเกิดของเทพเจ้า​แห่งหอก, ขอบเขต​: อาณาจักรปราการสวรรค์ขั้นแรก!]

[การกลับชาติมาเกิดของเทพเจ้า​แห่งหอก: รวมเข้ากันของเศษวิญญาณดึกดำบรรพ์ของเทพเจ้าแห่งหอกโบราณ, ในแต่ละความก้าวหน้าในอาณาจักร จะสามารถรับส่วนหนึ่งในความทรงจำของหอกเทพเจ้า​ได้!]

เย่หวู่ชางอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดหวังว่าผู้หญิงสองคนนี้จะมีภูมิหลังที่น่าประทับใจเช่นนี้ได้

หลังจากนั้น เขาไม่รีรอและก้าวออกมาทันที

“ข้าน้อยไม่ทราบว่าองค์หญิงจะเสด็จมา…..ข้าน้อยจึงขออภัยหากไม่ได้มาต้อนรับท่านอย่างเหมาะสม!”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ พวกเขาทั้งสามก็หันศีรษะและมองไปที่เย่หวู่ชาง

ยามเมื่อพวกเขาเห็นเย่หวู่ชาง พวกเขาต่างก็แสดงความประหลาดใจในดวงตา

ในความทรงจำ​ของพวกเขา ผู้ฝึกดาบมักจะขึ้น​ชื่อ​ในเรื่องความเยือกเย็น เฉยชา และทรงอำนาจ

เเต่เย่หวู่ชางคนนี้กลับมีรอยยิ้มเหมือนนายน้อยผู้สูงศักดิ์, ให้ความรู้สึกสดชื่นแก่ผู้คน…..เเละไม่เหมือนกับผู้ฝึกดาบแต่อย่างใด

โชคดีที่พวกเขาสามารถตระหนักตัวได้อย่างรวดเร็ว

เซี่ยจือซวน เป็นคนเเรกที่ฉีกยิ้มอย่างใจกว้างและพูดว่า

"ไม่ต้องกังวล พวกข้าต่างหากที่มารบกวน!"

“ผู้นำตระกูลเย่ช่างไม่ธรรมดา ข้าขอชื่นชมท่านจากใจจริง ข้าจือซวนและคนอื่นๆเพียงแค่ผ่านมาเท่านั้นหาได้มีประสงค์ที่จำพำนักแต่อย่างใด”

“อย่างไรก็ตาม, ที่พวกข้ามาที่นี่เพราะพวกข้าสัมผัส​ได้ถึงพลังลมปราณอันแข็งแกร่งที่ปะทุขึ้นมา…..ดังนั้นพวกข้าจึงมาตรวจสอบเท่านั้น!”

เมื่อมาถึงจุดนี้ เธอยิ้มให้เย่หวู่ชาง และกล่าวว่า

"ขอแสดงความยินดีกับผู้นำตระกูลเย่…..ในอดีตผู้คนคิดว่าการบ่มเพาะของท่านคงจะไม่เกินขั้นที่หกของอาณาจักรปราการสวรรค์”

“แต่ใครเล่าจะล่วงรู้ว่าในยามนี้ท่านได้ทะลวงไปสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วงได้เเล้ว!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้, คิ้วของเย่หวู่ชางก็กระตุกเบาๆ

แม้ว่าการพัฒนาของเขาจะค่อนข้างส่งผลกระทบ​ค่อนข้าง​ใหญ่, แต่เขาก็สามารถผนึกออร่าของเขาได้ทันโดยการใช้ค่ายกลรวบรวม​วิญญาณ…..ดังนั้น​มันจึงไม่ควรมีใครสังเกตเห็น

ไม่คาดว่า เซี่ยจือซวนกลับสวามารถตรวจพบมันได้…..เเละนั่นก็เพียงพอเเล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าองค์หญิงผู้นี้ไม่ธรรมดา

เขายกยิ้มเบาๆและกล่าวว่า

"ข้าก็ไม่คาดคิด​เช่นกันว่าองค์หญิงผู้ถูกกล่าวขานกันว่าไร้พรสวรรค์ในการฝึกตน, แท้จริงแล้วเป็นปรมาจารย์ในขั้นที่หกของอาณาจักรปราการสวรรค์!"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้เซี่ยจือซวนและอีกสองคนก็ตกตะลึง​ทันที​

ชายผู้เงียบมาตลอดจ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง…..เเถมยังเผลอปล่อยเจตนาฆ่าอันน่าสะพรึงกลัวตรงไปยังเย่หวู่ชาง

ทันใดนั้น ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวของผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​พระราชวังสีม่วงก็กดลงบนร่างกาย​ของเย่หวู่ชางโดยตรง

ออร่านี้น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง, เห็นได้ชัดว่าอยู่เขาที่ขั้นที่หกของอาณาจักรพระราชวังสีม่วง

อย่างไรก็ตาม เมื่อรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวนี้เข้ามาใกล้ในระยะสามเมตร…..มันก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่อาจทำร้ายเย่หวู่ชางได้แต่อย่างใด

ฉากนี้ทำให้ทั้งสามตกตะลึง​เป็นอย่างมาก

เพราะพวกเขาล้วรตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของชายคนนี้

แม้แต่ผู้ฝึกตนขอบเขต​พระราชวังสีม่วงธรรมดาๆ…..ก็มิอาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้

ยามนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จะต่อสู้กัน

แต่ออร่าของเขากลับไม่อาจสร้างความเสียหายใดๆต่อผู้ฝึก​ตน​ซึ่งเพิ่งบุกทะลวงเข้าสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วงได้

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจเลย

ในคนทั้งสาม เซี่ยจือซวนสงบลงก่อนคนอื่นและพูดว่า

“ท่านผู้นำ​ตระกูล​เย่มีพรสวรรค์​อันยอดเยี่ยม ข้าขอชื่นชมด้วยใจจริง”

“เเละข้าขอบอกอย่างไม่ปิดบัง……เหตุผลที่ที่ข้ามาในวันนี้คือขอเชิญท่านให้มาร่วมมือในเรื่องสำคัญ”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ เย่หวู่ชางก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบแล้วพูดช้าๆว่า

“องค์หญิงน้อย, ท่านคิดว่ามีเหตุผลอันใดที่ข้าต้องให้ความร่วมมือกับท่าน”

ก่อนที่เซี่ยจือซวนจะได้ตอบ ชายที่อยู่ข้างๆเธอก็พูดขึ้น​ว่า

"คำพูดขององค์หญิง เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธงั้นรึ"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่หวู่ชางก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มและมองไปที่ชายคนนั้น

“นี่เจ้ากำลังขู่ข้างั้นหรือ?”

ชายคนนั้นยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง….เขาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยและพูดกับเย่หวู่ชางด้วยความเฉยเมย

"ใช่ ข้าข่มขู่​…..แล้วเจ้าจะทำไม"

แม้ว่าเย่หวู่ชางจะสามารถ​สกัดกั้นออร่าของเขาได้, แต่เขาไม่คิดว่าคนที่เพิ่งก้าวเข้าสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วงจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้แต่อย่างใด!

ในขณะนี้ เย่หวู่ชางเข้าใจทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่ชายตรงหน้าพร่าม…..ทั้งยังสังเกตเห็นความเฉยเมยของเซี่ยจือซวน

เวลาต่อมา, เขาจึงค่อยๆวางถ้วยชาลงและเงยหน้าขึ้นมองทันที

บูม!

ทันใดนั้น ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุขึ้นถึงขีดสุด

ห้องโถงต้อนรับทั้งหมดถูกครอบคลุม​โดยเจตนาดาบอันน่าสะพรึงกลัว

พวกเขาทั้งสามต่างรู้สึกชาวาบที่หนังศีรษะ…..ราวกับว่าพวกเขาทั้งหมดกำลังถูกคมดาบจำนวนนับไม่ถ้วนจ่ออยู่ที่คอ

…………………….

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด