ตอนที่ 90 บริษัทเกม
“ฮ่าฮ่า ถ้าแค่ไปเดินเที่ยวเล่น มันจะไปมีปัญหาอะไร?”
“ประจวบเหมาะที่ว่าวันมะรืนเป็นสุดสัปดาห์พอดี เสี่ยวเหยา ก็ไม่มีเรียน ฉันขอให้เธอไปเดินเที่ยวเล่นรอบเมืองม่อกับคุณได้”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำขอของ ซุน จ่านอี้
น่าแปลกใจที่ เซี่ย เฉิงตง ตอบตกลงอย่างตรงไปตรงมาทันที
ท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลซุน เดินทางหลายพันลี้มาจากเมืองเผิงมาที่เมืองม่อ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือ หาก ตระกูลเซี่ย ของพวกเขาไม่สามารถให้ตามคำขอนี้ได้ มันก็ออกจะดูไม่มีมารยาทไม่ให้เกียรติอีกฝ่ายเกินไป
อย่างไรก็ตาม คิดว่าคนระดับ บิ๊กบอส ..อย่างเขาอ่านความคิด ความเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มคนนี้ไม่ออกหรืออย่างไร?
เขาทำเพียงยิ้มหัวเราะ ‘เฮอเฮอ’ แล้วพูดว่า : “แต่ลูกสาวของฉัน เธอขับรถไม่เป็น”
“เป็นอย่างไรถ้าหากฉันจะขอให้ เสี่ยวเหวิน ที่มีรถพอดี และเขาก็ขับรถเป็น ให้เขา กับเสี่ยวเหยา พาคุณไปเดินเที่ยวเล่นด้วยกัน!”
เซี่ย เฉิงตง ตอบด้วยรอยยิ้ม
สิ่งที่เขาพูดออกมาฟังเหมือนจะสมเหตุสมผล..
“เอ่อ...โอเคครับ!”
เมื่อเผชิญหน้ากับคําแนะนําของ เซี่ย เฉิงตง ใบหน้าของ ซุน จ่านอี้ พลันแข็งค้างไปเล็กน้อย
แม้ในใจจะไม่เต็มใจ แต่มันก็ยากจะเอ่ยปากบอก
ซึ่งสุดท้าย.. เขาก็ทำเพียงพยักหน้าตอบตกลงอย่างเห็นด้วย
ไม่มีทาง เขาไม่สามารถฝืนบังคับปฏิเสธอีกฝ่ายได้
เมื่อปฏิเสธ มันจะยิ่งทำให้คนอื่นรู้สึกว่าตนเองจงใจทำเพื่อบางสิ่งบางอย่าง
เมื่อเห็นเขาตอบตกลงแล้ว เซี่ย เฉิงตง ก็มองไปที่ ซูเหวิน อีกครั้ง ตบไหล่เขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “เสี่ยวเหวิน สองวันนี้ฝากพาลูกสาวของฉันไปเดินเที่ยวเล่น กับคุณชายซุน ได้หรือเปล่า ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
โดยไม่รู้ตัว เซี่ย เฉิงตง ก็ถือ ซูเหวิน เป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวแล้ว
ซูเหวิน ที่กำลังจะพูด
แต่ในเวลานี้เอง ระบบก็ได้ส่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในใจ(หัว)ของเขาอีกครั้ง
“ติ๊ง!”
“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่กระตุ้นภารกิจสำเร็จ”
“ภารกิจระบบ : ตอบรับคําขอของ เซี่ย เฉิงตง ไปเดินเที่ยวเล่นกับ เซี่ย ซินเหยา กับซุน จ่านอี้”
“รางวัลภารกิจ : หุ้น 67% ของบริษัทเกม Blizzard”
อ่า.. มีรางวัลให้ด้วย?
แต่ให้ตายเถอะ บริษัทเกม Blizzard?
ฟังเสียงแจ้งเตือนภารกิจจากระบบ ซูเหวิน ในตอนแรกก็รู้สึกดีใจ
แต่ต่อมา เขาก็ตระหนักได้
จากความดีใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความตกใจ ..ไปทันที
รางวัลครั้งนี้คือ บริษัทเกม.. จริงๆ
แถมมันยังเป็นหนึ่งในบริษัทเกมออนไลน์ที่โด่งดัง และใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย, นี่มัน.. เจ๋งเกินไปแล้วใช่ไหม?
Blizzard.. พวกเขาเป็นผู้บุกเบิกการวิจัย และพัฒนาเกมออนไลน์ เรียกได้ว่าแทบไม่มีใครไม่รู้จัก และเกมของพวกเขาก็ไม่มีเกมไหนเลยที่ไม่สนุก
ซึ่งมันมีอิทธิพลต่อรุ่นสู่รุ่น
กับบริษัทเกมนี้ นี่ไม่ใช่เขาโจมตีเดียวก็สร้างความเสียหายได้ 999 ดาเมจ? (*一刀999 : ประมาณ [ของ ‘Full’,‘Buffs’ แน่น] เดินตีฟันธรรมดาดาเมจเกิน 2000+, ตบบอสทีเดียวดิ้น / ลูกเพ่Gm)
ไม่เลว ไม่เลวเลยจริงๆ..
เดิมทีเขาต้องการจะรับปากกับ ลุงเซี่ย อยู่ก่อนแล้ว
แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีเรื่องเซอร์ไพรส์เกิดขึ้น
ภารกิจนี้ถือว่า ..คุ้มมากๆ
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซูเหวิน ได้เงยหน้าขึ้นมามองไปที่ เซี่ย เฉิงตง แล้วกล่าวว่า : “ไม่มีปัญหา เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นครับ”
เขาตอบตกลงไปโดยแทบไม่ต้องคิด
“ฉันก็จะไปด้วย ฉันจะไปด้วย พาฉันไปด้วยคนนะ”
“อืม น้องสาวฉันพูดถูก ในเมื่อเป็นการเดินเที่ยวเล่น งั้นเราก็ไปด้วยกันเถอะ พอดีเลยวันหยุดสุดสัปดาห์เราเองอยากจะไปเดินเที่ยวเล่นพักผ่อนอยู่ด้วย”
ทันใดนั้น เซี่ย ชิวเยี่ยน และเซี่ย เคอหมิง ก็หันมายิ้มหัวเราะพูดคุยกัน
พอได้ยินว่าจะไปเดินเที่ยวเล่น พวกเขาก็ดูตื่นเต้นมาก
“ไปเที่ยวเล่นด้วยกันย่อมไม่มีปัญหา แต่แค่ว่ารถผม.. คนเยอะขนาดนี้คงไม่สามารถนั่งได้”
ซูเหวิน ยิ้มหัวเราะอย่างจนใจ
“ไม่เป็นไร ฉันขับรถเป็น ฉัน กับน้องสาวจะขับรถกันไปเอง”
เซี่ย เคอหมิง ตอบกลับทันที
“ดี งั้นพรุ่งนี้ทุกคนไปด้วยกัน”
“ไม่ว่าจะเที่ยวเล่นอะไรก็ตาม เดี๋ยวเรื่องค่าใช้จ่ายผมรับผิดชอบให้เองทั้งหมด”
เนื่องจากอีกฝ่ายมีรถ งั้นเรื่องนี้ก็จัดการได้ง่ายขึ้นแล้ว
ซูเหวิน ยิ้ม และพูดกล่าวออกไป
หลังจากเมื่อวานนี้ที่เขาได้รับเงินปันผลจาก โรงแรม ฮิลส์
ในเวลานี้เขามีเงินมากมายจนไม่รู้จะใช้มันยังไง!
ถึงเวลากระเป๋าฉีกแล้ว… (*出血 - เลือดออก : ใช้จ่ายเงินมากๆ)
วันรุ่งขึ้น…
เพราะตกลงกันว่าจะพา คุณชายซุน ไปเดินเที่ยวเล่นในเมืองม่อ
ซูเหวิน จึงตื่นแต่เช้า
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็ขับรถ Koenigsegg Gemera ไปยังเขตคฤหาสน์ หม่านถิงซาน
เพราะเขาต้องพาคนไปด้วย วันนี้จึงเลือกรถแบบสี่ที่นั่งมาเป็นพิเศษ
และเมื่อเขามาถึงบริเวณหน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ หม่านถิงซาน ก็พบว่ามีคนยืนอยู่ตรงหน้าประตูหลายคน
ก็คือ เซี่ย ซินเหยา และสองพี่น้องอย่าง เซี่ย เคอหมิง และเซี่ย ชิวเยี่ยน
ขณะเดียวกันยังพบว่ามีรถ Ferrari SF90 จอดอยู่ข้างๆ
ซูเหวิน เดาว่าน่าจะเป็นรถของ เซี่ย เคอหมิง
“ไปกันเถอะ!”
พอ ซูเหวิน มาจอดอยู่ตรงหน้าพวกเขา
เขาก็เปิดกระจกรถ เปิดประตูรถ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มออกไป
“พี่เขย ซู ฉันขอนั่งรถคุณไปด้วยได้ไหม?”
ในขณะที่ ซูเหวิน ที่เพิ่งเปิดประตูรถแล้วเดินลงมา เซี่ย ชิวเยี่ยน ยิ้มหัวเราะวิ่งเข้ามาหาเขาทันทีไปพลางพูดประจบ พลันจ้องมาทีเขาด้วยสายตาคาดหวัง
“อะไร รถฉันมันมีหนอนแมลงหรือไง? ถึงนั่งไม่ได้?”
เซี่ย เคอหมิง ที่อยู่ด้านข้าง รู้สึกพูดไม่ออก
“นั่งรถคันเดียวกันกับพี่ไปมันน่าสนใจอะไร?”
เซี่ย ชิวเยี่ยน กล่าวอย่างรังเกียจทันที
“อยากนั่งก็นั่ง ไม่อยากก็เชิญเลย ฉันไม่ใช้คนคอยรับใช้เธอสักหน่อย”
เซี่ย เคอหมิง เองก็ใช่ว่าชอบเธอเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงขึ้นรถ Ferrari ของตัวเองโดยตรงที่ซึ่งมันก็ค่อนข้างดูเท่ โดดเด่นไม่น้อยจริงๆ
เมื่อเห็นการเผชิญหน้าของทั้งคู่ที่ดูเหมือนจะทะเลาะกัน
เซี่ย ซินเหยา กลับส่ายหน้าเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย
ซูเหวิน โดยปกติเขาไม่คิดจะปฏิเสธคําขอของ เซี่ย ชิวเยี่ยน อยู่แล้ว
เขาปล่อยให้เธอขึ้นรถไปพร้อมกับ เซี่ย ซินเหยา
ทันใดนั้นรถทั้งสองคันก็ขับออกจากเขตคฤหาสน์
ภายใต้คำแนะนำของ เซี่ย ซินเหยา รถได้มุ่งหน้าตรงไปยังโรงแรม ฮั่วถิง แกรนด์
เป็นเพราะผู้คนจาก เซี่ยซิ่น กรุ๊ป ในสองวันนี้พวกเขายังคงอาศัยอยู่ที่นั่น!
บนถนนที่คึกคัก
รถ Koenigsegg, และ Ferrari
ทั้งสองคันได้กลายเป็นเหมือนจุดทิวทัศน์ที่สวยงามขณะวิ่งไปบนท้องถนน
สักพักพวกเขาก็ได้มาถึงประตูทางเข้า โรงแรม ฮั่วถิง
ในขณะเดียวกัน ซุน จ่านอี้ ก็ปรากฏตัวที่นี่ตรงเวลาเช่นกัน
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบ ซูเหวิน แต่เขาก็ไม่คิดที่จะจงใจถ่วงเวลา หรือใช้ท่าทีเสแสร้งเพื่อต่อสู้กับอีกฝ่าย
เพราะวิธีการเหล่านี้.. มันระดับต่ำเกินไป
“คุณชายซุน ขึ้นรถเถอะ!”
รถขับมาหยุดจอดอยู่ตรงหน้า ซุน จ่านอี้
ซูเหวิน ยิ้ม และทักทายอีกฝ่ายโดยตรง
จนถึงตอนนี้ เขายังคงมองว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแขกคนหนึ่งเท่านั้น
เขายังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองได้กลายเป็นศัตรูคู่แข่งด้านความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสายตาคนอื่น ..เสียแล้ว
ซุน จ่านอี้ มีสีหน้าดูน่าเกลียดเล็กน้อยขึ้นมาทันที
อย่างไรเขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงพยักหน้า และเตรียมจะขึ้นรถ
ในจังหวะนี้เขากลับสังเกตเห็นว่ามีรถอยู่ด้านหลังเขาอีกคันหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ขับรถยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของ เซี่ย ซินเหยา ดังนั้นเขาจึงคิดบางอย่างในใจ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ผมนั่งรถคันหลังดีกว่า พอดีรถคันนั้นไม่มีใครอยู่ ..ในรถ”
พูดพลาง เขาก็มาถึงรถคันหลังอีกครั้ง มองไปที่ เซี่ย เคอหมิง แล้วพูดว่า : “น้องเซี่ย รถคันข้างหน้ามีคนมากเกินไป คุณจะรังเกียจไหมถ้าผมจะขอนั่งรถของคุณ?”
“อืม ขึ้นรถเถอะ!”
เซี่ย เคอหมิง พยักหน้า และไม่คิดจะปฏิเสธอีกฝ่ายอยู่แล้ว
“ขอบคุณมาก”
พูดพลาง ซุน จ้านอี้ ก็ก้าวขึ้นรถไป
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากนั่งรถคันเดียวกับ เซี่ย ซินเหยา
เพียงแต่เขาไม่อยากนั่งรถของ ซูเหวิน ก็เท่านั้น
ทั้งนี้ ซูเหวิน ทำได้เพียงส่ายศีรษะ และจากนั้นเขาจึงขับรถออกจากโรงแรมไปโดยไม่พูดอะไร
ส่วน Ferrari ก็ขับตามมาติดๆ
ต้องบอกว่าการมีรถนั้นมันสะดวกสบายจริงๆ
ซึ่งในเมืองใหญ่ที่หรูหราแห่งนี้ คุณสามารถไปได้ทุกที่ที่ต้องการได้
อย่างไรก็ตาม เมืองม่อนั้นใหญ่เกินไป
และการที่คุณจะใช้เวลาหนึ่ง หรือสองวัน เดินเล่นเที่ยวชมที่นี่ให้ทั่วทุกทีนั้น ..มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ
ดังนั้น ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา จึงเลือกพาเขาไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทีละแห่ง
แน่นอนว่าในระหว่างการเดินเที่ยวเล่นนั้น อาหาร และเครื่องดื่มเขาก็ได้ใช้เงินไปไม่น้อยเลย
แต่อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่ถึงเวลาจ่ายเงิน ซุน จ่านอี้ จะจ่ายเงินเพื่อรับผิดชอบในส่วนของตัวเอง หรือจ่ายบิลทั้งหมดเพื่อแสดงความเอื้อเฟื้อ ความมีน้ำใจของเขา
ซูเหวิน ยิ้มอย่างจนใจ และปล่อยให้เขาทำตามต้องการ
ในที่สุดระหว่างการเดินเที่ยวเล่นกันครั้งนี้ เขาก็ได้ทำตามความต้องการของ ซุน จ่านอี้
โดย ซูเหวิน ได้พาทุกคนมาที่พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองม่อ