บทที่ 316 : เรื่องที่ต้องแจ้งให้ทราบ (2)
บทที่ 316 : เรื่องที่ต้องแจ้งให้ทราบ (2)
“ฉันจะออกจากปาร์ตี้ที่ 1 เอง”
“เธอพูดอะไรเนี่ย? จริงจังเหรอ?”
"จริงจังสิ"
เนเรสซ่าตอบเวคิสและมองมาที่ฉันอย่างไม่ลังเล
“อย่างที่รู้ ๆ กัน มันจะเป็นประโยชน์ที่ฉันจะออกมาจากปาร์ตี้มากกว่าเวคิส บทบาทของฉันไม่ได้จำกัดอยู่เพียงฉันเท่านั้น หากเป็นเพียงการลาดตระเวน เจนน่าและคุณสัตว์ป่าคนนี้ก็สามารถทำมันได้เช่นกัน ดังนั้นฉันจะออกไปเอง”
ฉันพูดขึ้นหลังจากถอนหายใจแรง ๆ
“ถ้าออกไปแบบนี้ เธอจะไม่มีวันได้กลับมาอีก ที่พูดมานี้รู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหม?”
“รู้สิ”
“ปาร์ตี้อื่นก็ไม่มีที่ว่างเช่นกัน”
“ข้อนี้ฉันก็รู้”
“เนเรสซ่า!”
เนเรสซ่าพูดต่อโดยไม่สนใจเวคิสเลย
“ฉันรู้ว่านายกำลังยุ่งเรื่องการจัดการห้องรอ ฉันคิดว่าฉันสามารถจัดการมันได้อย่างราบรื่นแน่ถ้านายปล่อยเป็นหน้าที่ของฉัน เพราะต้องมีคนอยู่จัดการงานที่นี่”
มันก็จริงอย่างที่เนเรสซ่าพูด
เพื่อให้ฉันมีสมาธิและมุ่งความสนใจไปที่การพิชิตหอคอยให้สำเร็จ จะต้องมีใครสักคนมาทำหน้าที่นี้ แต่ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้
“ฮาน ข้าออกจากตรงนี้ได้หรือยัง?”
คิชาช่ายืดตัวคลายกล้ามเนื้อ
ฉันยืนขึ้นแล้วพยักหน้าช้า ๆ
“ฉันตกใจมากจนพูดไม่ออก”
ขณะที่คิชาช่าเดินผ่านเวคิส เธอก็พูดขึ้น
“แล้วมาให้ผมเตรียมตัวทดสอบเนี่ยนะ? ว่าแต่นี่จบแล้วเหรอครับ? แค่นี้เหรอ?”
“อย่าเอาแต่ตัดสินใจทุกอย่างด้วยอารมณ์ของนายสิ ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของปาร์ตี้เป็นความสำคัญที่เราควรสนใจเป็นอันดับแรก ถ้าฉันจะออกไปและให้คุณคิชาช่าเขามาแทน มันย่อมดีกว่าอยู่แล้ว”
เนเรสซ่าพูดอย่างเย็นชา
ต่อไปเธอมองเจนน่าด้วยสายตาที่อ่อนโยน
“อีกอย่าง ฉันคิดว่าเจนน่าสามารถทำหน้าที่ของฉันได้ดีเลยล่ะ”
“ที่ก่อนหน้านี้สอนอะไรแปลก ๆ เพราะแบบนี้งั้นเหรอคะ?”
เจนน่าตกตะลึง
ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ ฉันกอดอกและใช้ความคิด
สิ่งที่แย่ที่สุดในการจัดตั้งปาร์ตี้คือการบังคับสมาชิกที่ไม่เต็มใจให้เข้าร่วม
“ฉันอยากคุยกับนายสองคน”
เนเรสซ่าพูดด้วยเสียงที่ดูสับสน
“มันไม่คุ้มค่าที่จะฟังเธอหรอกหัวหน้า ผู้หญิงคนนี้ในตอนนี้ดูเหมือนเป็นบ้าเลย”
เวคิสในตอนนี้กำลังหัวเสีย
“ทำตามที่เธอบอก”
ฉันเปิดปากด้วยเสียงทุ่มต่ำ
คิชาช่าเดินออกไปก่อน และเจนน่าที่เป็นกังวลก็เดินตามไป เวคิสที่จ้องมองไปที่เนเรสซ่าราวกับว่าเขากำลังจะฆ่าเธอ และจากนั้นเขาก็เดินออกจากสนามฝึกไป
“เหลือแค่เราสองคนแล้ว”
เนเรสซ่ายิ้มอย่างขมขื่น
“เธอคิดอะไรอยู่? เธอจะออกไปจากปาร์ตี้จริง ๆ เหรอ”
“มันไม่ได้เกิดขึ้นจากการตัดสินใจแบบสิ้นคิดเสียหน่อย แต่ฉันน่ะคิดเรื่องนี้มานานแล้ว”
“ก่อนหน้านี้เธอเข้ามาตอนที่เราอยู่ในช่วงวิกฤต พอผ่านอะไรมาหลายอย่าง เธออาจจะคิดว่าตัวเองทำไม่ได้หรือทำได้ไม่ดีพอ ฉันจะขอพูดอีกครั้ง การพ่ายแพ้ให้กับคนอื่นนั้นไม่ใช่จุดจบ เรามีโอกาสมากมาย ฉันเองก็จะช่วยให้เธอแข็งแกร่งขึ้นด้วย”
อย่างไรก็ตาม เนเรสซ่ากลับส่ายหัว
ดูเหมือนว่าเธอจะตัดสินใจแล้ว
“เพราะอะไร?”
“เมื่อฉันมาที่นี่ครั้งแรก ฉันไม่สามารถไว้ใจใครได้ ฉันรู้สึกเหมือนทุกคนเป็นศัตรูของฉัน”
เนเรสซ่าหรี่ตาลง
“แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”
“ฉันไม่ค่อยเข้าใจ”
“งั้นเหรอ?”
เนเรสซ่าถอยห่างจากฉันไปสองสามก้าว
ผมสีน้ำเงินเข้มของเธอปลิวไสวไปตามแรงลม
“ฉันคิดว่าคงจะไม่เป็นไรถ้าจะทิ้งเจ้าหญิง...ไว้กับนาย”
“……เจ้าหญิง เจ้าหญิงอะไร”
เนเรสซ่าหันหลังให้ฉัน
เสื้อของเธอค่อย ๆ หลุดลงมา เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าของร่างกายและเผยไหลขาว ๆ ของเธอชัดเจน
‘นั่นมัน...’
มีบางอย่างอยู่ตรงกลางของส่วนโค้งของเอวเธอ
มีลวดลายแปลก ๆ ถูกสักอยู่ตรงนั้น
ลวดลายที่มีลักษณะคล้ายดอกกุหลาบกำลังเรืองแสงเหมือนเป็นลางบอกเหตุ
“นี่คือความลับพิเศษของตระกูลฮาเกียนที่เรียกว่า ‘สัญลักษณ์แห่งจันทรา’ มันเป็นสัญลักษณ์เวทย์มนตร์ที่ทำให้เราเชื่อฟังเจ้านายของพวกเรา”
"......"
“มันยังมีความลับอื่น ๆ อีกมากมาย เสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายและปรับปรุงทักษะสมอง ทำให้อายุขัยสั้นลงและรักษาความเยาว์วัย และ…เสริมสร้างความจำ”
เนเรสซ่าพูดต่อ
“ด้วยเหตุผลบางอย่าง ตัวรอยสักยังคงอยู่กับฉันถึงจะมาที่นี่”
“อืม”
เธอบอกว่าเธอมาจากตระกูลฮาเกียน
แต่ฉันไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับฮาเกียนมากเท่าไหร่นัก
ฉันพูดขึ้นมาว่า
“เธอมีความทรงจำก่อนที่จะมาที่นี่เหลืออยู่บ้างไหม?”
“อืม ส่วนใหญ่เมื่อฉันได้รับการเลื่อนขั้น มันก็จะแล่นเข้ามาเอง”
เนเรสซ่าสวมเสื้อของเธอกลับ
ภาพรอยสักยังคงอยู่ในความทรงจำฉัน
คำอธิบายของเนเรสซ่าเริ่มต้นขึ้น
เดิมทีเธอเป็นขุนนางมาก่อน แต่ครอบครัวของเธอถูกโจมตีระหว่างการต่อสู้ และเธอก็ถูกขายให้เป็นทาส แต่หลังจากได้รับการดูแลจากตระกูลฮาเกียน เธอก็ถูกส่งไปเป็นของบรรณาการให้กับเจ้าหญิงคนที่สองของจักรวรรดิ
“เพรียซิส อัล รักนา เธอเป็นเจ้านายของฉัน เธอไม่เคยปฏิบัติต่อฉันเหมือนทาสเลยสักครั้ง...แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะจำฉันได้”
เนเรสซ่าพูดต่อ
“โลกนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อฟื้นฟูทาวน์เนีย ถูกต้องใช่ไหม?”
เธอบอกว่าเธอมีความทรงจำในอดีตก่อนมาที่นี่
ฉันพยักหน้า
“ฉันคิดว่านายก็คงจะรู้เรื่องพวกนี้มาบ้างแล้วใช่ไหม?”
เนเรสซ่ายิ้ม
“เมื่อไรคนอื่นจะจำเรื่องในอดีตได้?”
“หลังชั้นที่ 40 เป็นต้นไป”
ชั้นที่ 40
ข้อจำกัดของฮีโร่ระดับ 4 ดาวคงถูกยกเลิกไปแล้วสินะ
เพราะตอนนี้เนเรสซ่าฟื้นความทรงจำของเธอได้แล้ว
ที่จริง มันมีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างฮีโร่ระดับ 3 และระดับ 4 ดาว
ไม่ใช่ปัญหาด้านประสิทธิภาพการต่อสู้ แต่เป็นความคิดต่อภารกิจที่แตกต่างกันออกไปต่างหาก
‘ฉันรู้จักฮีโร่ระดับ 4 ดาวดี’
คิชาช่าและเชย์มีบางอย่างที่เหมือนกัน
พวกเธอรู้ว่าจุดประสงค์ของภารกิจที่ต้องทำคืออะไร
ไม่ใช่เหมือนกับฮีโร่ระดับ 3 ดาวในปัจจุบัน ที่คิดแต่จะเอาชีวิตรอดอย่างเดียว
ความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ฉันรู้สึกระหว่างพวกเขานอกเหนือจากในเกม อาจจะมาจากเรื่องความทรงจำ
‘คงจะถึงเวลาที่ฉันต้องเสาะหาความจริงของเรื่องราวต่าง ๆ แล้วสินะ’
แต่สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ คือพิสูจน์ว่าสิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เธอพูดมาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน
เมื่อตอนที่ฉันได้รับการเลื่อนระดับเป็นฮีโร่ระดับ 2 ดาวและฮีโร่ระดับ 3 ดาว ฉันเห็นแต่อะไรที่มันไม่มีประโยชน์เลย
อีกอย่างคือ ฉันแทบไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูดเลยสักนิด
แต่ฮีโร่ระดับ 4 ดาวจะแตกต่างออกไป เราจะได้รับคำใบ้ที่ชัดเจนถึงสาเหตุที่เราต้องทำภารกิจ
“แต่ความทรงจำนั้น มันเกี่ยวกับการที่เธอจะต้องออกจากปาร์ตี้สินะ?”
“อืม”
เนเรสซ่ากระแอมในลำคอ
“ที่จริง ถ้าเธอต้องการสู้ต่อ เธอแค่ต้องฝึกฝนให้หนักขึ้นเท่านั้นเองนะ”
“ฉันเองก็จะตั้งใจฝึกฝนให้หนักขึ้น แต่ฉันคิดว่าฉันถนัดรับผิดชอบงานทั่วไปบนมากกว่า”
“น่าสงสัยแฮะ”
“คือว่า ฉันอยากจะทำการตรวจสอบบางอย่างเป็นการส่วนตัว ถ้าฉันอยู่ในปาร์ตี้ที่ 1 ต่อไป ฉันไม่คิดว่าฉันจะมีเวลา”
“ตรวจสอบบางอย่างงั้นเหรอ?”
“มีหลายสิ่งที่แตกต่างจากสิ่งที่ฉันรู้ โดยเฉพาะ….”
เนเรสซ่าขมวดคิ้ว
“เอาไว้ฉันจะบอกนายเมื่อฉันแน่ใจแล้วกัน”
“……?”
“ยังไงก็เถอะ ฉันหวังว่านายจะอนุญาตนะ ตอนนี้เวคิสน่าจะมีประโยชน์มากกว่าฉัน”
“ถ้านั่นคือสิ่งที่เธอต้องการจริง ๆ ฉันก็ห้ามอะไรไม่ได้”
“ขอบคุณนะ”
เนเรสซ่ายิ้ม
“แล้วเธอไม่รู้สึกเห็นใจคนงี่เง่าคนนั้นเหรอ? เจ้าหมอนั้นใช้เวลาทั้งวันในการฝึก แต่กลับโดนไล่ออกจากสนามไปง่าย ๆ โดยไม่ได้ประลองเลย”
“ไม่หรอก...เพราะมันชัดเจนแล้วว่ายังไงเขาก็แพ้”
เนเรสซ่าพึมพำและออกจากสนามฝึกไป
ฉันถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง
‘มันคือความทรงจำของเหล่าฮีโร่สินะ’
ฉันไม่รู้อะไรเลยในตอนนี้
เหตุผลที่ฉันไม่ถามเนริสซาเกี่ยวกับรายละเอียดความทรงจำของเธอ ก็เพราะว่ามันไม่แน่นอน
แต่มันจะชัดเจนขึ้นเองก็ต่อเมื่อปีนหอคอยขึ้นไป
‘ชั้นที่ 40’
และเมื่อเลื่อนระดับเป็นฮีโร่ระดับ 4 ดาว ทัศนคติในการปฏิบัติภารกิจของฮีโร่จะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ฮีโร่ระดับ 4 ดาวสามารถใช้ความสามารถที่สามของฮีโร่ได้
‘แต่วาในตอนนี้...’
ฉันพบฮีโร่ที่จะทำหน้าที่เป็นรองนายท่ายแล้ว
เนเรสซ่าคงทำหน้าที่นี้ได้ดีมาก ๆ
เธอเป็นคนที่มีจิตใจแข็งแกร่งและปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่
‘และส่วนฉันเองก็จะต้องปีนหอคอยต่อไป’
คราวนี้ฉันจะปีนมันขึ้นไปอย่างรวดเร็วได้แน่