บทที่ 17 ดาบไม้
"อืมม~"
หลังจากที่แกะเลียยาต้มจนหมด
เขาก็รอประมาณครึ่งนาที
ติดตามดูผลอย่างใกล้ชิด
แกะโง่ตัวนี้กำลังใช้กีบเท้าของมันขุดดินอย่างบ้าคลั่ง
เพียงชั่วครู่เดียว แกะโง่ก็ขุดหลุมขนาดใหญ่ตรงขอบป่าไผ่เล็กๆ
"แบะ แบะ แบะ~"
"แบะ แบะ แบะ แบะ แบะ~"
แกะกลายเป็นบ้าและพยายามวิ่งไปรอบๆ อย่างบ้าคลั่ง "ปัง" และแล้วเชือกที่ผูกไว้ก็ขาดอย่างรุนแรง แล้วมันก็วิ่งวนเป็นวงกลมตรงลานบ้านพร้อมกับที่ลิ้นห้อยอยู่
ขณะที่วิ่งไปรอบๆ เป็นวงกลม พร้อมเสียงกรีดร้องในฤดูใบไม้ผลิอันหนาวเย็นของเดือนกุมภาพันธ์ ร่างกายของมันร้ออนอบอ้าวและเต็มไปด้วยควันสีขาว
เหมือนกับมันกำลังคำรามออกมาว่า “ร้อน ร้อนโว้ยยย ร้อนจริงๆ…”
จินอันตกตะลึงกับภาพตรงหน้าเขา เขาก้มศีรษะลง แล้วมองไปที่ชามยาเปล่าๆ บนพื้น ซึ่งแกะใช้ลิ้นของมันเลียจนสะอาด
"ฤทธิ์ยามันแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?"
ทันใดนั้น จินอันทุบฝ่ามือด้านขวาคิดบางอะไรอย่างออก: "ถ้าขายยานี้ให้กับชายวัยกลางคนที่มีความต้องการพิเศษและคนที่มีปัญหาเรื่องผมร่วงเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน ฉันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอย่างแน่นอน”
จินอันเห็นว่าแกะในสวนคงจะหมดแรงในอีกไม่ช้า เขาจึงหยิบชามยาบนพื้นแล้วกลับบ้าน
"เยี่ยม"
"ตราบใดที่มันไม่เป็นพิษ ก็ไม่เป็นไร"
จินอันกลับเข้าบ้านแล้วเทยาต้มหนึ่งในห้าจากขวดยาให้ตัวเอง
จินอันอยากรู้ว่าผลของยานั้นเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน เพื่อที่เขาจะได้ใช้เป็นประสบการณ์อ้างอิงในอนาคต เขาจึงจิบเล็กน้อยด้วยปลายลิ้นของเขา เหมือนแมลงปอสัมผัสน้ำแล้วจากไป
จากนั้นเขาก็นั่งนิ่งเกร็งกล้ามเนื้อหลัง รอให้ยาออกฤทธิ์
หลังจากรอประมาณครึ่งนาที เขาก็รู้สึกร้อน!
เสื้อผ้าบนหลังของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อร้อนอย่างรวดเร็ว!
"ยาได้ผล"...!
"มันมากเกินไปแล้ว
อุ๊ก! เหมือนถูกกระแทกอย่างรุนแรง จินอันเห็นตัวเองเลือดกำเดาไหลอย่างคาดไม่ถึง!
จินอัน ฝึกฝน "คัมภีร์อู๋ซัง" อย่างรวดเร็วด้วยการใช้ตำหนักแห่งอวัยวะภายในทั้งห้าเพื่อปรับการทำงานของร่างกาย พิษของยาที่เสริมมากเกินไปนั้นก็จางหายไป น่าเสียดายที่ผลของยานั้นต้องสูญเปล่า
"ถ้ากินยาเกินขนาดจะเป็นพิษทะลุลำไส้ได้"
…
แม้ว่าจะมีอุบัติเหตุเล็กน้อยในการทดสอบประสิทธิภาพของยา แต่ผลลัพธ์โดยรวมทำให้จินอันพอใจและภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อมองไปที่แกะที่ละโมบและโง่เขลา ที่วิ่งอย่างบ้าคลั่งนอกลานบ้าน จินอันก็ตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจะทำอย่างไรกับคุณธรรมหยินที่เหลืออีก 158 แต้ม และวิธีที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด
"มันต้องไม่เสียเปล่า!"
"น่าเสียดาย <ยาต้มร้อยปีเสินกุยต้าปู่>" จริงๆ"
จินอันรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเจ็บปวดยิ่งกว่าการเสียเงินสักหนึ่งเหวินเมื่อเขาออกไปข้างนอก
…
ต่อมา จินอันหันความสนใจไปที่ตำรายุทธที่อยู่บนโต๊ะ
ตัวหนังสือบนปกอ่านว่า "เคล็ดวิชาดาบโลหิต"
"เคล็ดวิชาดาบโลหิต" ไม่ใช่วรยุทธดาบที่เก่งกาจมากนัก มันแทบจะไม่สามารถเทียบได้กับวรยุทธดาบระดับสามอื่นๆ เลย
แต่อย่าได้คิดประมาทวรยุทธระดับสาม
ในโลกยุทธจักร แม้แต่วรยุทธระดับสามก็ยังถูกเก็บไว้ในหอเก็บคัมภีร์ของนิกายที่มีชื่อเสียง หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับมันไปตลอดชีวิต
หากสามารถบรรลุสำเร็จได้ผ่านการฝึกฝน แค่นั้นก็เพียงพอที่จะกลายเป็นที่น่าจับตามองในเทศมณฑลฉางได้
แม้แต่มือปราบทั้งสามคนในเทศมณฑลฉางต่างก็เรียนรู้วรยุทธระดับสาม
…
"เคล็ดวิชาดาบโลหิต" เน้นระเบิดพลังความรวดเร็ว แต่ไม่เก่งในการต่อสู้ที่ต้องใช้ความระยะเวลานาน
และวิธีการประสานจิต สามารถสร้างปราณโลหิตในร่างกายได้ทั้งหมดหกระดับ
เมื่อต้องต่อสู้กับใครบางคนปราณโลหิตที่ติดอยู่กับการโจมตีของดาบสามารถจับคู่ต่อสู้ได้โดยไม่รู้ตัว ทำให้เลือดของศัตรูเดือดพล่านจนไม่สามารถถืออาวุธที่ลุกไหม้ได้ จนศัตรูกลายเป็นเป้าหมายที่แน่นิ่งและถูกสังหาร
ยิ่งทักษะลึกซึ้งมากเท่าไหร่ ปราณโลหิตแดงในร่างกายก็จะพัฒนาได้มากขึ้นเท่านั้น
ปกติแล้วโดยปราณโลหิตแดงจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ และพลังอำนาจก็จะแหลมคมยิ่งขึ้น
ตำรา "เคล็ดวิชาดาบโลหิต" เป็นเคล็ดวิชาที่ จางหลิงหยุน กล่าวว่าเธอยึดได้จากการสังหารโจรอนาจาร
หลังจากที่ทั้งสองกลับถึงโรงเตี๊ยมด้วยกัน จางหลิงหยุน ก็หยิบตำราศิลปยุทธเล่มนี้ออกมามอบให้จินอัน
หลังจากจินอันศึกษา "เคล็ดวิชาดาบโลหิต" เสร็จแล้ว เขาก็หยิบดาบไม้ที่เขาซื้อไว้ก่อนหน้านี้ระหว่างทางกลับโรงเตี๊ยมของเขาออกมาและเดินไปที่สนามหญ้า
"ช่างเป็นดาบไม้ของเล่นที่เด็กจริงๆ"
"หงุดหงิดจริงๆ"
"เหมือนกับการเล่นขายของ ไม่ใช่ว่าเรากำลังเรียนรู้ทักษะการสังหารที่เลือดเย็นและโหดเหี้ยมหรอกหรอ"
"ศิลปะยุทธเป็นเทคนิคการสังหารนะ!"
"ไม่ใช่การเล่นจองเด็กซะหน่อย!"
แถมจินอันยังประท้วงอย่างจริงจังในตอนนั้น โดยเขารู้สึกว่า จางหลิงหยุน กำลังเลือกปฏิบัติทางเพศ ทำไมผู้ชายถึงด้อยกว่าผู้หญิง?
แต่ผลลัพธ์ที่ได้
จางหลิงหยุน ไม่ได้พูดอะไร แล้วพา จินอัน ไปที่ร้านตีเหล็ก และบอกให้ จินอัน เลือกดาบเหล็กขอบขาว สักเล่ม
และแล้ว...
จินอัน ก็เลือกซื้อดาบไม้ของเล่นเด็กนี้ด้วยความจริงใจ
อย่าให้พูดถึงเรื่องนี้เลย จินอันรู้สึกว่าเมื่อเร็วๆ นี้ เขาไม่มีความกล้าที่จะสู้หน้าและปรากฏตัวต่อหน้า จางหลิงหยุน เขายังคงไม่ลืมวันนั้น เมื่อเขาไม่สามารถเหวี่ยงดาบเหล็กหรือดาบในร้านช่างตีเหล็กได้ซักเล่ม ใบหน้าที่เย็นชาและสงบ ผิวพรรณที่ขาวนวล อ่อนนุ่มและชุ่มชื้นของ จางหลิงหยุน แม้ว่าเธอจะมองด้วยหางตาแต่ก็ยังคงแสร้งทำเป็นเย็นชาและโดดเดี่ยว
ดาบเหล็กที่มีน้ำหนักหนึ่งหรือสองกิโลกรัมที่ชายวันกลางคนก็สามารถถือมันได้ แต่ถ้าชวนเต้นรำ ไม่นานเขาจะเหนื่อยหอบและจะปวดหลังเป็นเวลาหลายวัน
นับประสาอะไรกับดาบเหล็กที่หนักมากกว่าดาบทั่วไปและได้รับการออกแบบมาให้มีพลังทำลายล้างสำหรับการสับ
นอกจากดาบดาบธรรมดาแล้ว ยังมีดาบสันหนาที่หนักกว่า ดาบซานหม่า ดาบเก้าห่วง และดาบหยานเยว่(ง้าว)
เขาเคยได้ยินมาว่ าลิโป้ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามองค์แรกในสามก๊กมีง้าวกรีดนภาในมือของเขา ซึ่งมีน้ำหนักถึง 24 กิโลกรัม ไม่น่าแปลกใจเลยที่ เตียวเสี้ยน หนึ่งในสี่สาวงามที่แสนวิเศษได้ตกอยู่ในอ้อมแขนของ ลิโป้ พร้อมกับกลิ่นอันแสนหวานเช่นนี้
การฝึกทักษะการใช้ดาบ
มือใหม่ทุกคนย่อมเริ่มต้นด้วยดาบไม้
ยิ่งไปกว่านั้น จินอัน ผู้ซึ่งเป็นไก่อ่อนจากยุคปัจจุบันที่มีร่างกายไม่แข็งแรง เมื่ออยู่ต่อหน้าคนโบราณ การใช้ดาบไม้นั้นเหมาะสมกับเขาแล้ว
มันทำร้ายความภาคภูมิใจของตนเองที่เป็นบุรุษจริงๆ
จินอันต้องใช้เวลานานในการศึกษาเคล็ดวิชาดาบ เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้าน พระอาทิตย์เหนือศีรษะของเขาก็ค่อยๆ ลับหายไปทางทิศตะวันตกหลังเที่ยงวัน...แกะละโมบที่วิ่งไปรอบสนามหญ้า ตอนนี้นอนอยู่บนพื้นด้วยความเหนื่อยล้าและแน่นิ่ง มันนอนอยู่ใต้ร่มเงาของป่าไผ่เล็กๆ ลิ้นของมันแลบออกมา น้ำลายฟูมปาก และมันได้แต่หายใจรวยริน
จินอันเพิกเฉยต่อแกะโง่ตัวนี้ เขายืนนิ่งๆ ทำจิตใจและลมหายใจให้สงบปลอดโปร่งจากความคิดที่ฟุ้งซ่าน และนึกถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของการโจมตีใน "เคล็ดวิชาดาบโลหิต" อยู่ในใจของเขาอย่างระมัดระวัง
จากนั้น ดาบไม้ในมือของเขาก็ปรับให้เข้ากับจังหวะการหายใจ การทำงานของร่างกายและเทคนิคการออกแรง เขาค่อยๆ ใช้กระบวนท่าดาบที่ท่องจำ ประสานกันทั้งภายในภายนอกและจับคู่เทคนิคทางความคิด
เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะการออกกำลังกายอย่างหนักหรือเปล่า
จินอันรู้สึกว่าเลือดในหลอดเลือดของเขาไหลเวียนและร้อนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการเคลื่อนไหวของดาบ เลือดก็ถูกชี้นำอย่างมั่นคงด้วย เคล็ดวิชาดาบโลหิต"
จินอันเริ่มดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ
ค่อยๆ ลืมตัวเอง
ลืมเรื่องเวลาที่ผ่านไป
กระจกแห่งจิตวิญญาณปราศจากสิ่งสกปรก
ฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
กระบวนท่าของดาบเป็นเหมือนกระแสน้ำ ดึงกำลังภายใน เลือด และปราณแท้ในร่างกาย
การจับคู่ทางความคิดจะขัดเกลาโลหิตและร่างกายครั้งแล้วครั้งเล่า
…
เมื่อจินอันเลิกฝึกฝน ข้างนอกก็เปลี่ยนไปจากเที่ยงวันสู่เที่ยงคืน
เมื่อมองดูจันทราที่ตระหงาดสูงอบู่บนท้องฟ้า จินอันก็ตกตะลึง
"นี่คือการหยั่งรู้แบบที่คนอื่นทำได้แค่หวังงั้นเหรอ"
“นี่เราบรรลุขั้นแรกของ ดาบโลหิต แล้วงั้นหรอ?”
ร่างกายของเขาต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในระหว่างการมาที่โลกนี้ การฝึก "คัมภีร์อู๋ซัง" เมื่อคืนนี้ก็บรรลุได้อย่างรวดเร็วด้วย
"ดูเหมือนว่าเราจะเข้าสู่สภาวะแห่งการบรรลุได้ง่ายเป็นพิเศษ"
"ดูเหมือนว่าจำนวนครั้งที่เราบรรลุนั้นบ่อยเกินไปรึเปล่า?"
แต่ก่อนที่จินอันจะตรวจสอบผลการฝึก เขาก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ไม่มีแรงอ่อนล้าไปทั่วร่างกาย
“อ๊ะ นี่เป็นเพราะอาณาจักรของเราพัฒนาเร็วเกินไปรึเปล่า ทำให้ขาดปราณและเลือดในร่างกายอย่างรุนแรง!”
"เรา……"
จินอัน รู้สึกเจ็บคอราวกับไฟไหม้ทุกครั้งที่เขาอ้าปาก ทำให้คอของเขาแหบแห้งและเจ็บปวด
เขาเดินทุลักทุเล เข้าไปในบ้านและไปดื่ม ""ยาต้มร้อยปีเสินกุยต้าปู่" เพื่อเติมพลังและเลือดที่หมดไป
(จบบทนี้)