ตอนที่ 87 ครอบครัวซุนต้องการแต่งงาน

ไม่นานก็เห็นประตูโรงแรม

ทันใดนั้นรถยนต์หรู ‘มายบัค’ (Maybach, Maybach-Motorenbau) สีดำหลายคันขับเข้ามา

หลังจากนั้น เห็นคนเดินออกมาจากรถ 7-8 คน

คนเหล่านี้มีทั้งชาย และหญิง

ผู้ชายมีบุคลิกสง่างามน่าเกรงขาม ผู้หญิงมีความงามเป็นเลิศ

เห็นได้ทันทีว่าพวกเขา ..ไม่ใช่คนธรรมดา

ผู้ชายที่เดินนําหน้ามานั้นยิ่งทำให้เห็นถึงบรรยากาศที่ไม่ธรรมดาที่แผ่รัศมีของอำนาจ

เขาเป็นผู้นำของคนกลุ่มนี้

และเขาคือ ซุน เหว่ยถิง ประธานของ เซี่ยซิ่น กรุ๊ป

“เฮอเฮอ ประธานเซี่ย รองประธานหยาง พวกคุณเกรงใจเกินไปแล้ว”

“ถึงกับจัดงานต้อนรับเราอย่างเอิกเกริกใหญ่โตแบบนี้ ทำฉันปลื้มใจจริงๆ”

เมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเดินมาถึงล็อบบี้ของโรงแรม

พอเห็น เซี่ย เฉิงตง และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ รออยู่

ซุน เหว่ยถิง จึงรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

เขาทักทาย และจับมือกับอีกฝ่าย

“ฮ่าฮ่า มันไม่ควรจะเป็นเช่นนี้เหรอ?”

“เซี่ยซิ่น กรุ๊ป ร่วมมือกับบริษัทของเรามาหลายปีแล้ว หากไม่มีการจัดงานเลี้ยงให้เอิกเกริกสักหน่อย นั่นไม่ใช่ว่าไม่ให้เกียรติฝั่งคุณหรือไร?”

เซี่ย เฉิงตง ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

ทันทีที่พบกันทั้งสองฝ่ายก็เริ่มพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้น

“อาเซี่ย สวัสดีครับ”

ในจังหวะนี้ได้มีชายหนุ่มอีกคนพูดขึ้น

ชายหนุ่มคนนี้อายุประมาณ 20 ปี รูปร่างหน้าตาดี

ในระหว่างสนทนา เขามีกิริยาท่าทางสง่างาม และสุภาพมาก

“ฮ่าฮ่า นี่ ซุน จ่านอี้!”

“เด็กดี ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี โตขึ้นมาก และยังหล่อมาก ไม่เลวๆ”

เซี่ย เฉิงตง มองไปทางผู้ที่กำลังพูด และเมื่อเห็นว่าเป็น ซุน จ่านอี้ ลูกชายของ ซุน เหว่ยถิง เขาจึงมองขึ้นๆ ลงๆ

แล้วพยักหน้าพลางชื่นชมอีกฝ่าย

แต่เมื่อเทียบกับ ซูเหวิน แล้ว มันยังรู้สึกแย่กว่าอยู่นิดหน่อย

เซี่ย เฉิงตง แค่แสดงความคิดเห็นในใจ

“ฮ่าฮ่า ขอบคุณคุณอาสำหรับคำชม”

ชายหนุ่มคนนี้ย่อมไม่รู้ความคิดภายในใจของ เซี่ย เฉิงตง

เมื่อเขาได้ยินคําชมจากอีกฝ่าย เขาก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มทันที

ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย ..ในใจ

ในขณะที่ เซี่ย เฉิงตง ได้พูดคุยกับแขกกลุ่มนี้ไปพลาง

ขณะพาพวกเขาเข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรม

ต่อจากนั้น คนกลุ่มหนึ่งก็ขึ้นไปที่ชั้น 30 ของโรงแรม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่โดยเฉพาะ

ต้องบอกว่า โรงแรมระดับ 7 ดาวนั้นมัน ..หรูหรามาก

เมื่อ เซี่ย เฉิงตง พา ซุน เหว่ยถิง และคนกลุ่มหนึ่งขึ้นลิฟต์มายังชั้น 30

สิ่งที่มองเห็นตรงหน้าคือ ห้องโถงหรูหราขนาดใหญ่

คาดว่าน่าจะมีพื้นที่หลายพันตารางเมตร

ข้างในมีโต๊ะกลมหลายสิบโต๊ะ ตรงกลางโต๊ะกลมแต่ละโต๊ะยังเต็มไปด้วยดอกไม้

มองไปรอบๆ ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเพลิดเพลินตา

ขณะที่ภายในห้องโถงมีแขกเหรื่อมากมาย

นับรวมทั้งหมดแล้วเกรงว่าจะมีผู้คนไม่น้อยกว่าหลายร้อยคน

แขกเหล่านี้ล้วนสวมชุดสูท และผูกเน็คไท ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมาก

ในหมู่พวกเขายังมีผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ฮั่วซิน กรุ๊ป

แน่นอนว่ายังมีนักธุรกิจใหญ่คนอื่นๆ ที่ทางบริษัทได้เชิญมาด้วย

แม้แต่บรรดาคนในตระกูลเซี่ย ก็อยู่ในหมู่พวกเขา

เช่น สวี่หยุน ภรรยาของ เซี่ย เฉิงตง น้องรอง และน้อง(สาว)สาม

ในขณะเดียวกันย่อมขาด เซี่ย ชิวเยี่ยน เซี่ย เคอหมิง ไปไม่ได้ รวมไปถึงสมาชิกรุ่นเยาว์อีกหลายคน

สําหรับ เซี่ย ซินเหยา เธอกับ ซูเหวิน กําลังเดินทางมา!

ในขณะนี้ ภายในห้องโถง

ทุกคนที่เห็น เซี่ย เฉิงตง มาที่นี่พร้อมกับแขกกลุ่มหนึ่ง

ก็พากันทราบได้ทันทีว่านี่ต้องเป็นหุ้นส่วนของ ฮั่วซิน กรุ๊ป ซึ่งเป็นคนจาก เซี่ยซิ่น กรุ๊ป อย่างแน่นอน

สักพักทุกคนต่างหันมามองอย่างสนใจ

มีคนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มกระเหี้ยนกระหือรือ อยากขึ้นไปกล่าวทักทาย

คุณต้องรู้ก่อนว่า เซี่ยซิ่น กรุ๊ป ก็เหมือนกับ ฮั่วซิน กรุ๊ป

นอกจากนี้พวกเขายังเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำท็อปร้อยของโลกอีกด้วย

การติดต่อกับผู้นําของบริษัทประเภทนี้นั่นเป็นประโยชน์ และไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน!

และก็เป็นไปตามคาด

ไม่นานหลังจากที่ เซี่ย เฉิงตง พา ซุน เหว่ยถิง และคนอื่นๆ มาถึงห้องโถง

แขกเหรื่อก็พากันมาล้อมวง และอดไม่ได้ที่จะพูดคุยกัน

“ฮ่าฮ่า คุณต้องเป็น ประธานซุน เป็นแน่ คุณโดดเด่นไม่ธรรมดาจริงๆ ฉันได้ยินชื่อของคุณมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสพบกัน วันนี้สุดท้ายก็ได้เห็นหน้าจริงๆ แล้ว”

“ใช่แล้ว! การได้พบเห็นตัวจริงๆ ของคุณ แถมยังได้เห็นคุณ กับประธานเซี่ย ซึ่งเป็นนายใหญ่ทั้งสองคนปรากฏตัวพร้อมกัน นี่ถือเป็นเกีรยติ เป็นความโชคดีของผมอย่างยิ่งแล้ว”

“ประธานซุน ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินข่าวมาว่า เซี่ยซิ่น กรุ๊ป ของคุณได้ลงทุนไปกับบริษัทหนึ่งในจำนวนมากกว่าหนึ่งหมื่นล้าน ซึ่งตอนนั้นฉันไม่อยากจะเชื่อเลย เพราะนั่นมันยิ่งใหญ่มากๆ จริงๆ!”

แขกเหรื่อพูดคุย และหัวเราะด้วยกัน

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะประจบสอพลอ ซุน เหว่ยถิง

ทำให้ ซุน เหว่ยถิง หัวเราะออกมาเป็นครั้งคราว

ในเวลานี้ มีคนพบว่าข้างๆ ประธานซุน ยังมีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งยืนอยู่ จึงถามอยากรู้อยากเห็นว่า : “ประธานซุน ฉันดูแล้วชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้มีหน้าตาคล้ายคุณมาก เขาเป็นลูกชายของคุณหรือเปล่า?”

“ฮ่าฮ่า! ไม่ผิดๆ เขาคือ ซุน จ้านอี้ ลูกชายของฉันเอง”

“เขาจบปริญญาโทมาเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้เพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทของฉัน และกำลังเรียนรู้การบริหารอยู่”

“เมื่อเขาขึ้นมาก็คงถึงเวลาที่ฉันจะเกษียณตัวเอง และฝากบริษัทนี้ไว้ให้กับเขาดูแลต่อ”

ครั้นเห็นคนสังเกตเห็นลูกตัวเอง

ซุน เหว่ยถิง ไม่เลี่ยง เขาแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาทันที

ดูเหมือนเขาจะมีความสุขมากขึ้นเมื่อมีคนพูดถึงลูกชายของเขา

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

และทันทีที่ทุกคนทราบว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกชายของ ประธานซุน

แต่ละคนอดไม่ได้ที่ดวงตาจะเป็นประกายสว่างไสว

“ปรากฏว่าเขาเป็นลูกชายของคุณ ไม่แปลกใจเลยที่มีความสามารถมากขนาดนี้”

“ใช่แล้ว ลูกชายของคุณไม่เพียงแต่ หล่อเหลา และมีบุคลิกดีเท่านั้น แต่ยังเป็นนักศึกษาดีเด่นอีกด้วย ซึ่งน่ายกย่องจริงๆ”

“ฮ่าฮ่า ในความเห็นของฉัน ประธานซุน มีลูกชายที่หล่อเหลา และมีความสามารถมากมาย และในขณะเดียวกัน ประธานเซี่ย มีลูกสาวที่สง่างามอยู่คนหนึ่งพอดี ถ้าหากพวกเขาทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ก็คงเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก และนี่สวรรค์บันดาลให้เป็นคู่ครองกันเลยไม่ใช่เหรอไง?”

“ถูกถูกถูก สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง ลูกสาวของ ประธานเซี่ย สวยงดงามราวกับนางฟ้า และลูกชายของ ประธานซุน ก็หล่อเหลาปานเทพบุตร แถมยังเป็นบุคคลที่มีความสามารถมาก ถ้าพวกเขารวมใจเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ทั้งคู่คงจะกลายเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบมาก”

ทุกคนพากันยิ้มแย้มหัวเราะกันอีกครั้ง

พวกเขาพากันยกย่องประจบทั้งประธานซุน และประธานเซี่ย

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความคิดที่เกิดขึ้นจริงๆ ภายในใจของพวกเขา

ท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลเซี่ย และตระกูลซุน ต่างก็เป็นบริษัทชั้นนําใน 100 อันดับแรกของโลก

มันยากที่จะพบคู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้

และมันถือเป็นโอกาสอันดีในการสานสัมพันธ์เสริมสร้างความเข้มแข็งด้วยกัน

แม้จะเปลี่ยนเป็นพวกเขาเองก็จะไม่พลาดโอกาสนี้แน่นอน

ซุน เหว่ยถิง ในเวลานี้ เขามีความสุขมาก

เขาฟังทุกคนคุณพูดทีละคํา ยกย่องความเป็นเลิศของลูกชายของเขา และไม่ลืมที่จะผูกดายแดง ซึ่งมันทำให้เขาอดหัวเราะไม่ได้ โดยพูดไปว่า : “พวกคุณ อย่าพูดแบบนี้เลยดีกว่า”

“ท้ายที่สุด ทัศนคติของ ประธานเซี่ย เป็นอย่างไรเราก็ยังไม่รู้ จะมาพูดล้อเล่นแบบนี้ได้อย่างไร?”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปากของเขาจะพูดไปแบบนี้

แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ไม่สามารถปกปิดได้มิด

ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่คนเหล่านี้พูดไปเมื่อกี้ มันตรงกับความคิดของเขา

สาเหตุที่เข้าพาลูกชายมาที่นี่ในครั้งนี้

ที่จริงแล้วไม่มากก็น้อย มันมีความหมายถึงการแต่งงาน

แน่นอนว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่มีความสุขในขณะนี้

เมื่อเห็นทุกคนกำลังจับคู่ตนกับ ลูกสาวของ ประธานเซี่ย

ซุน จ่านอี้ ย่อมมีความสุขในใจมากเช่นกัน

ลูกสาวของ เซี่ย เฉิงตง เธอเป็นผู้หญิงที่เขาเคยพบเห็นมาก่อน

เธอนั้นเป็นผู้หญิงที่สวย และสง่าที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาจริงๆ

ทั้งเธอยังทำให้เขาเฝ้าฝันถึงอยู่หลายครั้ง

การมาครั้งนี้เขาตั้งเป้าหมายสำหรับตัวเองไว้แล้ว

โดยหวังว่าด้วยโอกาสมาเยือนเมืองม่อในครั้งนี้ เขา กับเซี่ย ซินเหยา บุตรสาวของ ประธานเซี่ย จะได้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นไป ..อีกก้าวหนึ่ง