ตอนที่ 53 มันหายไปไหน ขออภัยข้าเผลอหลับ (อ่านฟรี 28/05/2567)
“บัดซบ! ไอ้สารเลวนั่น ข้าจะต้องหาตัวมันให้เจอให้ได้ !!” ภายในห้องพักแห่งหนึ่ง มีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังสนั่นออกมา
“ผู้อาวุโส ให้ข้าส่งคนไปตามสืบดีไหม ?” ลูกศิษย์ที่มาด้วยของเขากล่าวถามออกมา
“อืม ส่งคนไปสืบมา แต่เราต้องเดินทางไปงานประมูลแห่งที่สองได้แล้ว อย่างน้อยถ้ามันหมายตาที่แห่งนั้นไว้เราก็ต้องดันราคาให้มันเสียผลึกให้ได้มากที่สุด!” โจวชือกล่าวจบเขาก็พาลูกศิษย์เดินออกจากห้องพักไป
“แล้วเราจะเอาผลึกที่ไหนมาดันประมูลแข่งกับมันล่ะท่านผู้อาวุโส” ลูกศิษย์ยังคงถามต่อ
“ข้าพอมีสิ่งล้ำค่าอยู่บ้าง ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็เอาไปขายได้ อีกอย่างที่ดินแห่งที่สองพวกดินแดนมายาต้วนหลี่ก็หมายตาเอาไว้แล้ว ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะยอมปล่อยไปหรอก” ชายชรากล่าวออกมาพลางครุ่นคิดบางอย่างในใจ
เขายังไม่ทราบเบื้องหลังที่แท้จริงของอีกฝ่าย คงจะทำอะไรบุ่มบ่ามไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องขัดขวางไม่ให้มันได้ที่ดินไปในราคาถูก ! การจะครอบครองที่ดินในเมืองหลวงเพื่อก่อตั้งฐานของตระกูลขึ้นมานับว่าเป็นเป้าหมายสำคัญของการมาเยือนครั้งนี้ แต่การโดนลูบคมก็ไม่อาจปล่อยผ่านได้ เขาจะต้องลงมืออย่างระวัง !
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเวลาเอาได้” โจวชือออกมาแล้วเดินนำลูกศิษย์ของเขาไปด้วย
...
“ชายหนุ่มคนนั้นน่าสนใจจริง ๆ” เสียงอันอ่อนหวานชวนลุ่มหลงได้ดังขึ้นภายในลานไม้ร่ม ซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานปราณภายในลาน
“ท่านอาจารย์หมายถึงผู้ใดรึ ?” หญิงสาวในชุดคลุมสีเขียวอ่อน หน้าตาสะสวย เหมือนดั่งนางฟ้าแห่งพรไพรกล่าวออกมา เธอคือลูกศิษย์ของดินแดนมายาที่ติดตามอาจารย์มาดูโลกภายนอกในครั้งนี้
“หรือหมายถึงชายที่แข่งราคากับตระกูลโจว ?” หญิงสาวครุ่นคิดก่อนจะกล่าวออกมา เธอรู้สึกประทับใจในตัวชายคนนั้นอยู่ไม่น้อย เขาอายุน่าจะเท่า ๆ กับเธอแต่กลับกล้าต่อต้านตระกูลโจวอย่างออกหน้า
“ใช่แล้ว แม้แต่ตัวข้าเอง ก็มองระดับการฝึกตนของเขาไม่ออก” อาจารย์ของนางกล่าวออกมา
หญิงสาวรู้สึกตกใจไม่น้อยพลางนึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นตัวนางเองก็ไม่อาจสัมผัสระดับการฝึกตนของเขาได้เช่นกัน แต่ก็คิดว่าคงจะเป็นอัจฉริยะที่มีระดับการฝึกตนเท่า ๆ กันทำให้มองระดับของแต่ละฝ่ายไม่ออก ถ้าจะมองออกได้ก็ต้องให้อีกฝ่ายแสดงปราณออกมา หรือมีเคล็ดวิชาในการตรวจสอบเท่านั้น
แต่ถ้าหากอีกฝ่ายมีระดับพลังฝึกตนที่ต่ำกว่า ฝ่ายที่มีระดับการฝึกตนสูงกว่าจะสามารถตรวจสอบระดับการฝึกตนของอีกฝ่ายได้ไม่ยากนัก ยกเว้นมีของวิเศษ หรือเคล็ดวิชาในการปกปิดระดับการฝึกตน
“ท่านอาจารย์ ท่านคิดว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นคนของขุมกำลังไหน ?” หญิงสาวกล่าวถามอาจารย์ของนางถึงสิ่งที่นางสงสัย
“ข้าก็ดูไม่ออกเช่นกัน แต่ถ้าหากทำได้ก็พยายามผูกมิตรกับเขาเอาไว้อาจจะเป็นการดี” อาจารย์ของนางกล่าวออกมา ทำให้นางขบคิดถึงสิ่งที่อาจารย์ของนางกล่าว
“ท่านอาจารย์คิดว่าเขาหรือกองกำลังของเขา จะต่อสู้กับตระกูลโจวได้รึ ?” หญิงสาวกล่าวถามต่อ
“บางที ข้าแค่มีลางสังหรณ์ก็เท่านั้น” หลังจากที่นางกล่าวจบ นางก็ได้ยื่นมือที่เรียวบางออกไปก่อนที่จะมีผีเสื้อตัวน้อยบินมาเกาะอย่างแผ่วเบา
“พวกเราก็เตรียมตัวกันได้แล้ว การประมูลที่ดินแห่งที่สองพวกเราจะต้องชิงมาให้ได้” นางขยับมือเล็กน้อยทำให้ผีเสื้อตัวน้อยบินจากไป
...
ครึ่งหลัง
ณ ใจกลางสถานที่ประมูลของที่ดินแห่งที่สอง
“เจ้านั่นมันไปไหนกัน ?” โจวชือกล่าวออกมาด้วยความหงุดหงิด เพราะตอนนี้มันจวนจะครบเวลาอยู่แล้วแต่กลับยังไม่เห็นหน้าของคนที่กล้ายั่วโมโหเขาโผล่มาสักที
“มันอาจจะแค่มาช้าก็ได้ ท่านอาจารย์” ลูกศิษย์ที่อยู่ด้านข้างกล่าวออกมาให้อาจารย์ของเขาสงบลง
“ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ” โจวชือกล่าวจบก็นั่งรออย่างเงียบ ๆ เขาจะต้องขวางเจ้าหนุ่มนั่นจากการเป็นผู้ชนะการประมูลให้ได้
ผ่านไปอีกหนึ่งก้านธูป
พิธีกรคนเดิมก็ได้เดินขึ้นไปบนเวที เขาหยิบศิลาขยายเสียงออกมาก่อนจะเริ่มกล่าวบางอย่าง เพราะตอนนี้มีผู้คนเกือบจะครบแล้ว ขาดไปแค่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่มา
“ตอนนี้ผู้เข้าร่วมประมูลทุกคนได้เดินทางมาถึงแล้ว ข้าจะเริ่มการประมูลที่ดินแห่งนี้เลยก็แล้วกัน” เขากล่าวออกมาพร้อมหยิบเอกสารที่ดินแห่งที่สองออกมา
“เดี๋ยวก่อน! แล้วเจ้าหนุ่มนั่นล่ะ ?” โจวชือเห็นว่าแปลก ๆ เลยทักท้วงไป
“ไม่น่าเชื่อ หรือท่านโจวชือจะคิดถึงชายหนุ่มคนนั้นรึ ?” สตรีชุดเขียวแห่งแดนมายาต้วนหลี่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
“เฮอะ! ข้าก็แค่สงสัยเท่านั้น” โจวชือตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ เจ้านั่นมันทำอะไรกันแน่ อย่าบอกนะว่ามันไม่มา ??
“ข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน เอาล่ะ เริ่มการประมูลกันได้เลย !” พิธีกรกล่าวตอบกลับมาก่อนจะเปิดการประมูลครั้งที่สอง
“200,000 ผลึก!” ชายชราชุดขาวคนหนึ่งกล่าวเปิดราคา
“220,000!” มีคนให้ราคาต่อทันที
“300,000! ผลึก”
สุดท้ายการประมูลก็จบไปที่ 550,000 ผลึก ซึ่งนับว่าถูกกว่าราคาที่ควรจะเป็นอยู่บ้าง แต่เพราะผู้ที่เสนอราคาสุดท้ายเป็นแดนมายาต้วนหลี่ ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปขัดแย้งด้วย อีกอย่างตระกูลโจวก็ไม่ได้ต้องการที่ดินเพิ่มรวมถึงไม่ได้มีข้อบาดหมางอะไรกับแดนมายาต้วนหลี่ การประมูลจึงได้จบลงเพียงเท่านี้
“ไอ้บัดซบ! มันไม่มาจริง ๆ !” โจวชือสบถออกมาอย่างหัวเสีย เพราะจนจบการประมูลแล้วก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกฝ่าย
“ท่านผู้อาวุโส เรายังจะไปงานประมูลที่ดินแห่งที่สามหรือไม่ ?” ลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ด้านข้างกล่าวถามขึ้นมา เพียงมองดูเขาก็บอกได้ว่าตอนนี้อารมณ์ของผู้อาวุโสนั้นคงใกล้ถึงขีดสุดแล้ว
“ไป! เผื่อมันจะโผล่หัวออกมา ว่าแต่เรื่องที่ให้คนไปสืบเป็นยังไงบ้าง ?” โจวชือกล่าวตอบศิษย์อัจฉริยะที่เขาพามาด้วยก่อนจะถามเรื่องที่ให้ไปทำ
“ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะเวลามันน้อยเกินไป คงต้องรอสักสองสามวันขอรับ” ลูกศิษย์กล่าวตอบตามที่รู้มา ทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เย็นลงบ้าง อย่างน้อย ๆ ถ้าได้รู้เบื้องหลังของอีกฝ่ายก็คงทำอะไรได้ง่ายขึ้น
ในตอนที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ก็ได้มีร่างของสตรีในชุดสีเขียวสองนางเดินเข้ามาหา ท่าทางการเดินอันงดงามประกอบกับความรู้สึกบางอย่างที่ออกมาจากร่างของพวกนาง ทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกประหลาด เหมือนพวกนางมีตัวตน แต่ก็ไม่มี สมชื่อแดนมายาเสียจริง
“ท่านโจวชือ ขอบคุณท่านมากที่หลีกทางให้พวกเรา” ผู้เป็นอาจารย์ของแดนมายาต้วนหลี่กล่าวออกมา ไม่อ่อนน้อมแต่ก็ไม่แข็งกร้าว
“ท่านไม่ต้องกล่าวขอบคุณอันใด ยังไงพวกข้าก็ไม่ได้ต้องการที่ดินเพิ่มเติมแล้ว ว่าแต่พวกท่านยังจะไปงานประมูลที่ดินแห่งสุดท้ายหรือไม่ ?” โจวชือพยักหน้ารับคำแล้วกล่าวถามออกมา
“ย่อมต้องไป ข้ารู้สึกว่าน่าจะมีเรื่องสนุกเกิดขึ้น..” นางกล่าวตอบด้วยเสียงอันนุ่มนวล
“ถ้าอย่างนั้นไว้เราค่อยพบกันที่นั่น พวกข้าขอตัวก่อน” โจวชือกล่าวจบ ทั้งสองฝั่งก็กล่าวอำลาซึ่งกันและกัน ก่อนจะแยกย้ายกันไป
...
“นายท่าน นายท่าน!” เสียงตะโกนดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง ทำให้ร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งกำลังหลับไหลอยู่บนเตียงอันหรูหรา ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น
“มีอะไร ?” เขาส่งเสียงตอบกลับไป
“อีกหนึ่งชั่วยามการประมูลแห่งสุดท้ายจะเริ่มแล้ว หานจุนหมิงให้ข้ามาแจ้งท่านให้ทราบ” ฟิชตะโกนตอบกลับ
“ข้าทราบแล้ว เจ้าไปบอกให้เขาเตรียมรถม้าไว้ได้เลย” ชายหนุ่มกล่าวจบก็เดินเข้าห้องน้ำไปแช่น้ำ ล้างตัว ถึงเขาจะสามารถใช้พลังปราณขับสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้ แต่การได้อาบน้ำจริง ๆ ย่อมให้ความรู้สึกที่ดีกว่า
และนี่ก็คือชายหนุ่มที่โจวชือเฝ้ารอตลอดการประมูลครั้งที่สอง
ที่แท้เขาก็มานอนหลับอยู่นั่นเอง !