ตอนที่แล้วบทที่ 95 ดูดี (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 97 ดูดี (5)

บทที่ 96 ดูดี (4)


เด็กแต่ละคนถือผลงานของตนเองมาให้เสิ่นเยว่ดู คล้ายกับว่าต้องให้เสิ่นเยว่ดูก่อนจึงจะถือว่าทำดีแล้ว ตั้งแต่เดินเข้ามาในห้อง เสิ่นเยว่ก็อยู่กับเด็กๆ ตลอด ระหว่างนั้นเหลียงเย่จึงเดินไปหาจัวหย่วน ยกมือคารวะอย่างนอบน้อม "เหลียงเย่น้อมพบท่านอ๋อง!"

จัวหย่วนมองเขาครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบ "ออกไปคุยข้างนอกเถอะ"

เสิ่นเยว่ที่ได้ยินเสียงจึงมองไปทางเขา เขาเองก็มองมาที่นางพอดี นัยน์ตามีรอยยิ้ม ทว่าไม่ได้พูดสิ่งอื่นใด มีเพียงเดินออกไปข้างนอกกับเหลียงเย่

เสิ่นเยว่ดึงสติกลับมา ยกมือทัดผมข้างหูเล็กน้อย โน้มตัวลงมองอาซื่อ "อาซื่อ ให้ข้าดูผีเสื้อเจ้าหน่อย"

ในเรือนมีเด็ก ไม่สะดวกที่จะพูดคุย ทั้งสองจึงออกมานอกเรือน

"บุญคุณใหญ่หลวงของท่านอ๋องผิงหย่วน เหลียงเย่จะจดจำไว้ชั่วชีวิตขอรับ" เหลียงเย่ยกมือคารวะ

จัวหย่วนยื่นมือไปประคองเขา "เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"

เหลียงเย่ตอบกลับ "ท่านพ่อเคยสอนไว้ บุญคุณต้องทดแทน ดื่มน้ำต้องไม่ลืมแหล่งน้ำ [1] ก่อนหน้านี้เดินทางด้วยความเร่งรีบ จึงยังไม่ได้กล่าวขอบคุณท่านอ๋องด้วยตนเอง ตอนนี้เมื่ออยู่ที่เมืองตานเฉิงแล้ว เป็นธรรมดาที่จะต้องมาหาขอรับ"

เหลียงเย่จัดการกับคนขี้แพ้ของจวนเวยเต๋อโหวนั่น นับว่าเป็นคนที่มีความหยิ่งในศักดิ์ศรี จัวหย่วนจึงถาม "หลังจากนี้วางแผนไว้เช่นไร?"

"เอ่อ?"

เหลียงเย่คิดไม่ถึงว่าเขาจะถาม

เหลียงเย่ตอบกลับ "เส้นทางสู่ขุนนางดับลงแล้ว ข้าจึงคิดเข้าร่วมกองทัพ"

"เข้าร่วมกองทัพ?"

ถึงคราวที่จัวหย่วนประหลาดใจ แม้ประหลาดใจแต่ก็รู้สึกสงสัย

เหลียงเย่ตอบ "ผู้อื่นที่ไม่เคยฝึกฝนก็ยังสามารถฝึกฝนในค่ายทหารได้ ข้าเองก็เช่นกัน ในเมื่อจวนเวยเต๋อโหวมีอิทธิพลในเมืองหลวง เช่นนั้นข้าก็ทำได้เพียงหาสถานที่ที่เขาไม่มีอิทธิพล ประตูนี้ปิดไปแล้ว อย่างไรก็ต้องมีประตูอีกบานที่เปิดอยู่ ข้าจะค่อยๆ ตามหาขอรับ"

จัวหย่วนหัวเราะเล็กน้อย "เจ้ามีความหยิ่งในศักดิ์ศรีอยู่บ้าง"

เหลียงเย่เองก็หัวเราะ "เพราะสถานการณ์บังคับขอรับ"

จัวหย่วนยิ้ม "หากอยากเข้าร่วมกองทัพ ข้าสามารถเขียนจดหมายแนะนำให้เจ้าได้"

เหลียงเย่กลับกล่าว "ไม่จำเป็นขอรับ หากมีจดหมายแนะนำของอ๋องผิงหย่วน ข้าถึงสามารถเข้าร่วมกองทัพได้ เช่นนั้นการที่จวนเวยเต๋อโหวเป็นจวนเวยเต๋อโหว เหลียงเย่เป็นเหลียงเย่ก็คงไม่มีความแตกต่าง"

จัวหย่วนมองเขาอย่างจริงจัง "เจ้ามีความหยิ่งในศักดิ์ศรี!"

ในห้องชั้นนอก เด็กๆ ทำงานประดิษฐ์เสร็จแล้ว

เสิ่นเยว่พาเด็กๆ ไปล้างมือ หลังจากนั้นก็กลับไปนั่งที่โต๊ะร่วมรับประทานอาหารว่างด้วยกัน

หลังรับประทานอาหารว่างเสร็จก็เป็นช่วงกิจกรรมตามอัธยาศัย เด็กๆ แบ่งกลุ่มกันเล่นในเรือนอย่างอิสระสองคนบ้างสามคนบ้าง

เสิ่นเยว่อธิบายสิ่งที่อยู่ในสมุดให้ชงชิงฟังพลางคอยเฝ้าดูเด็กๆ ในเรือนจากที่ไกลๆ

แรกเริ่มยังปกติดี ผ่านไปสักพักเมื่อเสิ่นเยว่เงยหน้ามองก็เห็นเสี่ยวชีร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้คนเดียว

"รอเดี๋ยว" เสิ่นเยว่ลุกขึ้นพลางพูดกับชงชิง

ชงชิงรับคำ

เสิ่นเยว่รีบเดินไปหา เมื่อเสี่ยวชีเห็นนาง ความน้อยใจในดวงตาก็ยิ่งมีมากขึ้น

"เสี่ยวชี บอกอาเยว่ได้หรือไม่ว่าเป็นอะไร?" เสิ่นเยว่นั่งย่อตัวลงและจับมือเขาไว้ ปลอบประโลมเขา

เสี่ยวชีสะอึกสะอื้น "พี่สี่ไม่เล่นกับข้า"

เสิ่นเยว่มองด้านข้าง ที่จริงแล้วอาซื่อเองก็ไม่ได้อยู่กับเสี่ยวอู่ มีเพียงเล่นพับกระดาษอยู่คนเดียว...เสิ่นเยว่เข้าใจในทันที จึงเอ่ยถามอีกครั้ง "เช่นนั้นเมื่อครู่เจ้าได้ถามอาซื่อหรือไม่ว่าเจ้าขอเล่นกับเขาได้หรือไม่?"

เสี่ยวชีพยักหน้า "ข้าถามแล้ว แต่พี่สี่ปฏิเสธ"

เสิ่นเยว่พยักหน้า ยื่นมือไปลูบศีรษะเขาพลางพูดเสียงเบา "เช่นนั้นตอนนี้เจ้าคงเสียใจมากใช่หรือไม่?"

เสี่ยวชีพยักหน้า

เสิ่นเยว่พูดต่อ "เช่นนั้นอาเยว่จะคุยเป็นเพื่อนเจ้าสักพัก หรือไม่พวกเราไปนั่งทางนั้นด้วยกัน รอให้เราไม่รู้สึกเสียใจมาก แล้วค่อยคิดหาวิธีดีหรือไม่?"

"อืม" เสี่ยวชีพยักหน้า

เสิ่นเยว่จูงมือเขาลุกขึ้นแล้วไปที่ศาลาด้านข้าง

อาซื่อมองพวกเขาสองคนแล้วก้มหน้าเล่นพับกระดาษในมือต่อ ไม่ได้ส่งเสียง

ในศาลา เสิ่นเยว่นั่งเป็นเพื่อนเสี่ยวชีสักพักแล้วถาม "ยังเสียใจอยู่หรือไม่?" อารมณ์ของเด็กๆ ต้องถูกปลดปล่อย เมื่ออารมณ์ดีขึ้นจะทำให้สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสื่อสารได้ง่ายขึ้น

เสี่ยวชีส่ายหน้าเล็กน้อย "อาเยว่ ข้าไม่รู้สึกเสียใจขนาดนั้นแล้ว เพียงแต่ข้ายังรู้สึกว่าพี่สี่ไม่ชอบข้า..."

เสิ่นเยว่ยิ้ม ยื่นมือไปดึงเสี่ยวชีเข้ามากอด เอ่ยเสียงเบา "เสี่ยวชี จำได้หรือไม่ ก่อนหน้านี้ที่เราเคยคุยกัน เราทุกคนสามารถตัดสินใจเลือกเองได้ เสี่ยวชีเลือกที่จะให้คนอื่นเล่นด้วยหรือไม่ได้ และสามารถเลือกปฏิเสธไม่ให้คนอื่นเล่นกับเราได้ จริงหรือไม่?"

"อืม"

เสี่ยวชีตอบกลับ

เสิ่นเยว่กล่าวอีกครั้ง "ดังนั้น ในตอนที่เจ้าอยากเล่นกับอาซื่อ อาซื่อเองก็สามารถปฏิเสธเจ้าได้ใช่หรือไม่?"

"ใช่" เสี่ยวชีพยักหน้าอีก

เสิ่นเยว่พูดต่อ "ก่อนหน้านี้เจ้าเองก็เคยปฏิเสธเทียนเทียนใช่หรือไม่?"

ทันใดนั้นคล้ายกับเสี่ยวชีจะนึกขึ้นได้ รีบร้อนกล่าว "วันนั้นข้าอยากดูหนังสือภาพคนเดียว"

"ถูกต้อง แต่เทียนเทียนเองก็ไม่ได้ร้องไห้เพียงเพราะไม่ได้เล่นกับเจ้าครั้งนี้ ครั้งหน้าก็ยังเล่นกับเจ้าอีก"

เสิ่นเยว่ลูบศีรษะเขาอีกครั้ง "ดังนั้นเราทุกคนมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะเล่นกับคนอื่นหรือไม่ หรืออนุญาตให้คนอื่นเล่นกับเราหรือไม่ ครั้งนี้อาซื่อไม่ได้เล่นกับเจ้า แต่ก็ยังมีโอกาสครั้งหน้า คิดเช่นนี้แล้วเราก็ไม่รู้สึกเสียใจขนาดนั้นแล้วใช่หรือไม่?"

"อืม" ในที่สุดเสี่ยวชีก็ยิ้มออกมา

เสิ่นเยว่จึงยิ้มตาม "เสี่ยวชี ที่จริงแล้วไม่ได้มีเพียงอาซื่อ หลังจากนี้เราอาจจะได้เจอเพื่อนอีกมากมาย นิสัย ความชอบ และพื้นฐานของครอบครัวพวกเขาอาจไม่เหมือนเรา บางทีในตอนที่เราอยากเล่นกับพวกเขา พวกเขาอาจไม่ได้ตอบรับตั้งแต่ครั้งแรก ระหว่างเพื่อนกันจะต้องค่อยๆ ใช้เวลา พวกเขาอาจมีเรื่องคุยกัน อาจมีของที่ชอบเหมือนกัน หรืออาจเพราะต่างคนต่างแบ่งปันสิ่งที่ตนเองชอบให้กัน..."

เสี่ยวชีพูดในทันที "พี่สี่ชอบอ่านหนังสือ!"

เสิ่นเยว่พยักหน้า "อืม"

เสี่ยวชีท้อใจอีกครั้ง "แต่ข้าไม่รู้หนังสือ"

เสิ่นเยว่ค่อยๆ โน้มน้าว "เช่นนั้นเจ้าลองคิดดูให้ละเอียดสิว่ายังมีสิ่งอื่นอีกหรือไม่ที่พวกเจ้าชอบเหมือนกัน สามารถแบ่งปันกันได้?"

ทันใดนั้นเสี่ยวชีก็นึกขึ้นได้ "มี!"

เสิ่นเยว่ยิ้มพลางกล่าว "เช่นนั้น...ครั้งหน้าพวกเราลองดูอีกครั้ง แบ่งปันให้อาซื่อ ดูว่าเขายินดีที่จะเล่นกับเจ้าหรือไม่?"

"อืม" คล้ายกับเสี่ยวชีจะมั่นใจขึ้นมากกว่าเดิม

เสิ่นเยว่กล่าวอีกครั้ง "เช่นนั้นตอนนี้เจ้ายังต้องการให้อาเยว่อยู่ด้วยหรือไม่?"

เสี่ยวชีส่ายหน้า "ไม่แล้วขอรับ ข้าอยากไปเล่นกับพี่ห้า"

นิสัยของเด็กก็เป็นเช่นนี้ เสิ่นเยว่ยิ้ม "ไปเถอะ"

เสี่ยวชีวิ่งไปทันที

เสิ่นเยว่ลุกขึ้น สายตามองเห็นอาซื่อพอดี

แม้อาซื่อจะเล่นพับกระดาษอยู่ แต่แท้จริงแล้วกำลังมองพวกเขาอยู่ตลอดเวลา

--------------------

(1) ดื่มน้ำต้องไม่ลืมแหล่งน้ำ อุปมาว่าไม่ลืมที่มาของสิ่งที่ได้รับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด