บทที่ 58 - บทที่ 59 แม่ม่ายกับคนบ้า
บทที่ 58 - บทที่ 59 แม่ม่ายกับคนบ้า
(เนื่องจากบทที่ 58 เป็นผู้แต่งเรื่องนี้บ่นบางอย่างนะครับ ขออนุญาตไม่แปลลง เราข้ามไปเนื้อหาบทที่ 59 เลยละกัน)
ชายขอบของหมู่บ้านชาวประมง กระท่อมไม้ไผ่เก่าๆ
ชายร่างกำยำ สวมเสื้อไม่มีแขนสีเทา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะ กางแขนออกเหมือนเหยี่ยวกางปีกจับลูกไก่ คอยปิดกั้นหญิงสาวตัวเล็กในชุดกระโปรงลายดอกไม้ไว้
“แม้แต่แม่หม้ายก็ยังคลอดลูกได้ ช่างเป็นการทำให้พี่ชายแซ่หยางของเจ้าได้อับอายจริงๆ”
“ไอ้สารเลว! ใครเป็นพี่ชายแซ่หยางของข้า? เจ้ากับไอ้เฒ่าผู้นำหมู่บ้านล้วนเป็นคอกเดียวกัน ไอ้สัตว์นรกที่ควรตายสักพันครั้ง! เอามือสกปรกของเจ้าออกไปจากข้าซะ!”
หญิงม่ายสาวโอบอุ้มเด็กน้อยวัยไม่ถึงสองขวบไว้ นางกัดฟันแน่นแววตาวาวโรจน์ดุจดั่งสิงโตตัวเมีย
"เฮอะ!" ชายหยาบคายผู้นี้ไม่โกรธแม้แต่น้อย หลังจากถูกนางด่า แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ แทน"ทำไมคนอื่นนอนด้วยได้ แต่ข้าเมิ่งเสียนถึงจับไม่ได้ วันนี้ข้าจะบอกอะไรให้ ถึงเจ้าจะถอดจนหมดข้าก็ไม่สนใจของสกปรก! เอามันมาให้ข้า!"
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปคว้าเด็กจากมือของหญิงสาว
ใบหน้าของแม่ม่ายสาวบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ นางไม่คิดอะไรมาก อ้าปากกัดไปที่แขนของชายหนุ่ม
ท่ามกลางความวุ่นวาย ชายหนุ่มหน้าเปื้อนโคลนคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นดิน ภายนอกรั้วสานไม้ไผ่ เสื้อผ้าของเขาเต็มไปด้วยรูและรอยปะ รองเท้าที่สึกจนเป็นรูโหว่ เล็บของเขาคล้ำและเต็มไปด้วยโคลนสกปรก แม้แต่ขาของเขาก็ยังมีคราบดำน่าขยะแขยง
เสียงหัวเราะแหบแห้งดังขึ้น "ฮ่าๆๆ...ตีกันแล้ว...ตีกันแล้ว..."
เขาจ้องมองทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันด้วยใบหน้าที่ว่างเปล่า พลางตบพื้นดินอย่างแรงและหัวเราะเสียงดัง เห็นได้ชัดว่าสติเขาไม่สมประกอบ
"แม่ง!"
สีหน้าของเมิ่งเสียนเปลี่ยนไป เขาถอนแขนกลับ มองรอยเขี้ยวที่ลึกบนข้อมือ เลือดสีแดงสดไหลออกมา
เขาโกรธจัด ทิ้งความคิดที่จะเล่นสนุกกับอีกฝ่ายไป ทุ่มมือตบไปที่ใบหน้าของแม่ม่ายสาว ทำให้นางเซไปด้านหลังหลายก้าว ล้มลงนั่งบนพื้นด้วยความมึนงง
"ดี! ตีกัน! ตีกัน!"
ชายหนุ่มสกปรกยิ้มกว้าง ปรบมือให้กับพวกเขา
"ไอ้โง่ตัวเหม็น หุบปากไปซะ!"
เมิ่งเสียนจ้องมองชายบ้าอย่างโกรธแค้น ก้าวสองก้าวไปข้างหน้า จับเด็กน้อยที่ร้องไห้ไว้ในมือ พูดด้วยรอยยิ้มเย็นชาว่า "ไอ้เด็กโชคร้าย เจ้าต้องไปอยู่ในน้ำแล้ว วันหลังเจ้าจะได้เหยียบย่ำคลื่นแม่น้ำกลับมาเพื่อรับมารดาเจ้าไปเสวยสุข"
"มารดาเจ้าต่างหากที่ต้องลงน้ำ..."
แม่ม่ายผมเผ้ายุ่งเหยิง พุ่งเข้าชนเมิ่งเสียนด้วยศีรษะ เมิ่งเสียนกระตุกตากำลังจะเตะอีกฝ่ายให้ล้ม แต่เขาถูกคนดึงแขนไว้
เขาหันขวับกลับไปด้วยความหงุดหงิด แต่หลังจากนั้นแววตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ "ท่านพ่อ?"
ผู้นำหมู่บ้านหน้าตึง ไม่พูดอะไร เพียงแต่ตบหน้าเขาอย่างแรง ชิงเด็กกลับมาและวางไว้ในอ้อมแขนของแม่ม่ายก่อนจะพูดว่า "รีบกลับบ้านกับข้า!"
เมิ่งเสียนกุมหน้าด้วยความอับอาย เขายังอยากพูดอะไรอีก แต่เมื่อหันขวับกลับไป ทั้งตัวก็สั่นเทา รีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับก่นด่า "บัดซบ! ไอ้พวกใส้เสื้อหนังสุนัข"
ชายหนุ่มรูปงามในชุดสีดำสนิท เดินตามเสียงมา มือวางบนด้ามดาบที่เอว ดวงตาใสบนใบหน้าที่หล่อเหลามีประกายความโกรธอยู่
เสินอี้เดินผ่านอาคารประมงหลายแห่ง จนกระทั่งพบที่มาของเสียง
เขายืนนิ่งอยู่หน้าประตูรั้วสานไม้ไผ่ มองไปข้างหน้าที่ว่างเปล่า หลับตาฟังเสียงรอบตัว ก่อนที่จะก้าวต่อไปอีกครั้ง
แม่ม่ายสาวปลอบโยนบุตรชายของนาง แล้วเดินออกจากลาน จัดการผมที่ยุ่งเหยิง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ริมฝีปากแตก นางพูดว่า "ข้าก็ว่า ทำไมไอ้สุนัขป่าเถื่อนมันถึงหยุดมือ ที่แท้ท่านเสี่ยวเว่ยมาแล้ว เชิญเจ้าค่ะ"
นางพูดพลางทำเป็นหยุดขวางหน้าเสินอี้โดยไม่ได้ตั้งใจ เหมือนกับนางไม่อยากให้เขาตามเมิ่งเสียนไป
“…”
เสินอี้มองนางอย่างเงียบๆ พูดเสียงเรียบว่า "ไม่เจ็บใจงั้นเหรอ?"
ถ้าเจ็บ ถ้าโกรธ ทำไมถึงขัดขวางเขา? หรือว่าเทพเจ้าแห่งแม่น้ำสำคัญกว่าบุตรชายแท้ๆ?
แม่ม่ายสาวตกตะลึงเล็กน้อย นางคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะถามคำถามนี้ นางจึงก้มหน้าลง จากนั้นก็บีบรอยยิ้มออกมา "ท่านเพิ่งเข้าแผนกปราบปีศาจได้ไม่นานใช่หรือไม่?"
"ทำไมถึงถามแบบนั้น?" เสินอี้หันไปมองนาง
"งั้นเชิญท่านเข้ามานั่ง" หญิงม่ายอุ้มลูกชายเข้าไปในลาน ลากเก้าอี้ไม้ไผ่มาตัวหนึ่งด้วยมือเดียว "เพราะทั้งอำเภอหลินเจียงรู้ดีว่า แผนกปราบปีศาจ ปราบปรามความชั่วร้าย ปกป้องผู้คน พวกท่านเป็นคนดีในหมู่คนดี"
เสินอี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ นั่งลงตามคำเชิญ
แม่ม่ายเงยหน้าขึ้น ดวงตาเป็นประกาย "แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ พวกเขาคือคนธรรมดา"
จากนั้นนางหัวเราะเยาะตัวเอง "สามีที่ตายไปแล้วและข้า... เราเป็นคนชั่วร้าย"
เมื่อได้ยินคำว่า "สามีที่ตายไปแล้ว"
เสินอี้เผลอมองไปที่เด็กในมือของอีกฝ่าย รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย กำลังจะละสายตา
แต่แม่ม่ายกลับไม่สนใจ ถ่มน้ำลาย "บุตรของสุนัขบ้าตัวนั้น"
นางวางเด็กลง ไปที่บ่อน้ำ ใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำ เดินไปที่นอกบ้าน เตะคนบ้าอย่างหงุดหงิด มองไปที่แผลสีแดงสดที่ปกคลุมไปด้วยโคลนบนแขนและขาของอีกฝ่าย นางหมอบลงและเริ่มเช็ดตัวให้เขา
นางพูดจาด่าทอไปพลางเช็ดไปพลาง
"ไอ้เวร! เวลามีเรื่องต้องใช้เจ้า หายหัวไปไหนมาตั้งเจ็ดแปดวัน ตายข้างนอกซะก็ดี จะได้ไม่ต้องมาสร้างปัญหา! ไม่รู้เป็นบ้าอะไร ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง!"
"ไปล้างมือเตรียมกินข้าวได้แล้ว"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เสินอี้ก็มองไปด้วยความครุ่นคิด
แม่ม่ายอธิบายอย่างสั้นๆ ว่า "เขาเคยเป็นคนธรรมดาเหมือนกัน แต่งงานตอนอายุสิบสี่หรือสิบห้าปี พอดีเป็นคราวที่ครอบครัวของเขาต้องส่งเด็กไปลงน้ำ เขาทำได้เพียงบังคับภรรยาให้มีลูกเท่านั้น หลังจากนั้นอาจเพราะเขายังเด็กอยู่ เด็กจึงคลอดออกมาลำบาก แต่โชคดีที่ภรรยาของเขายังรอดชีวิตอยู่ แม้จะเหลือแค่ครึ่งชีวิตก็ตาม"
“ภรรยาเขาถูกผู้นำหมู่บ้านจับตัวไป นางไม่ถือว่าเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว เพราะอายุยังน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงส่งนางไปที่แม่น้ำหยางชุนในฐานะเด็กผู้หญิง หลังจากนั้นเขาก็เลยเสียสติไป”
แม่ม่ายเตะใส่เขาอีกครั้งอย่างดูถูก
จากนั้นจึงอธิบายด้วยความเศร้า "ไม่มีใครอยากทำ แต่เมื่อคนอื่นโดนแล้ว ทุกคนก็ไม่อยากเสียเปรียบ เรื่องแบบนี้มันถูกสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น แทนที่จะเป็นการบูชาเทพเจ้า มันกลับกลายเป็นการแก้แค้นคนที่ฆ่าลูกหลานของพวกเขาในแม่น้ำต่างหาก"
"อย่างสามีที่ตายไปแล้วของข้า เราไม่มีลูกกันเลย วันหนึ่งเขาถูกคลื่นแม่น้ำซัดจนตาย นั่นคือกรรมตามสนองกรรม"
“ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมแผนกปราบปีศาจไม่จัดการ มันก็เพราะคนพวกนี้เป็นคนน่าสงสาร แต่พวกเขาทำเรื่องน่ารังเกียจ! ความแค้นยาวนานกว่าสี่ร้อยปี แม้เทพเจ้าแห่งแม่น้ำจะไม่อยู่แล้ว แต่พวกเขายังคงต้องทำบูชายัญใหญ่อยู่ดี”
“บูชายัญใหญ่! ฆ่า ฆ่า ฆ่า!” คนบ้ายิ้มกว้าง ตาแดงก่ำ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฆ่าข้าก่อน! ฆ่าข้าก่อนเถอะ!”
เขาตะโกนลั่น กลิ้งไปบนพื้น มาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม ยื่นมือไปจับดาบที่เอว
เสินอี้ไม่ได้หลบ มองดูมือสกปรกของอีกฝ่ายจับด้ามดาบสีดำสนิท ทิ้งคราบสกปรกไว้บนฝักดาบที่เงางาม
เขาเอื้อมมือออก นิ้วเรียวสอดผ่านเส้นผมที่ยุ่งเหยิงของคนบ้า ก่อนจะกุมมันไว้เบาๆ
แม่ม่ายกำลังจะหันหลังไปต้มน้ำซุปปลาในบ้าน เมื่อเห็นเช่นนั้น สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ดวงตามีความหวาดกลัวเพิ่มขึ้น "ท่าน... ใต้เท้า เขา... เขาเป็นบ้าไปแล้ว... เป็นคนก็ไม่ได้ เป็นสัตว์ก็ไม่ได้... ขอใต้เท้าไว้ชีวิตเขาเถอะ ให้เขาเป็นสุนัขบ้าต่อไปเถอะ..."
"ฆ่า!" คนบ้าเบิกตากว้าง ลูกตาแทบจะถลนออกจากเบ้า ตะโกนสุดเสียง น้ำลายไหลยืด มองดูคล้ายปีศาจ
เสินอี้จ้องมองใบหน้าของเขาอย่างเงียบๆ แรงกดที่นิ้วมือค่อยๆ เบาลง ลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ ราวกับกำลังปลอบโยนลูกสุนัขที่กำลังคลั่ง
คนบ้าตัวสั่นสะท้าน จากนั้นค่อยๆ สงบลง
ทันใดนั้น เสียงอันเงียบสงบก็ดังขึ้น ราวกับสายฟ้าฟาด ฟังแล้วสะเทือนใจ
"ขอบคุณสำหรับคำเตือน"
ริมฝีปากบางของเสินอี้เผยรอยยิ้ม บนใบหน้าขาวซีดของเขาปรากฏรังสีความโกรธ แต่ดวงตาของเขายังคงใสกระจ่าง เสียงของเขายังสงบเหมือนเคย "ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง"
คนบ้าหายตัวไปเจ็ดแปดวัน!
ป้ายประจำตัวที่เปื้อนเลือดถูกส่งมายังจวนเจ้าเมืองหลินเจียงโดยไม่ทราบสาเหตุ?
คำตอบคือ... อีกฝ่ายต้องการส่งสารเพียงประโยคเดียวไปยังชิงโจว
ที่นี่มีปีศาจ มีปีศาจตัวใหญ่!
มันอยู่ที่หมู่บ้านนี้!!