ตอนที่แล้วบทที่ 56 ข้าเก่งเรื่องฆ่าปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 58 - บทที่ 59 แม่ม่ายกับคนบ้า

บทที่ 57 เทพเจ้าแห่งแม่น้ำ


บทที่ 57 เทพเจ้าแห่งแม่น้ำ

อำเภอหลินเจียง เมืองสุ่ยอวิ๋น

ที่นี่พึ่งพาภูเขา พึ่งพาน้ำ ตลาดปลาริมแม่น้ำล้วนคึกคัก

ในตอนนี้ รถม้าเข้ามาจอดอย่างช้าๆ  หลี่เสี่ยวเอ้อลงจากรถ เดินจูงม้า แล้วมุ่งหน้าไปที่ศาลาว่าการท้องถิ่น

เสินอี้ยืนอยู่ท่ามกลางกองปลาสด สูดหายใจเข้าลึกเพื่อรับกลิ่นคาวปลา ข้างๆ ตัวเขาเต็มไปด้วยชาวประมงที่พับขากางเกง ทั้งหมดพูดคุยหัวเราะร่า ไม่มีใครสนใจเสี่ยวเว่ยจากแผนกปราบปีศาจสองสามคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เลย

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ บางครั้งก็มีคนเหลือบมองมา แววตาพวกเขาเต็มไปด้วยความเป็นศัตรู

"ที่นี่เป็นแบบนี้แหละ ไม่ต้องเสียเวลาปลอมตัว"  หลิวซิวเจี๋ยยิ้มกล่าวออกมา  "คนที่อื่นเวลาพบเจอปีศาจ อันดับแรกคือไปที่ศาลาว่าการ แต่คนท่ี่นี่ กลับมุ่งไปกราบไหว้เทพเจ้าแห่งแม่น้ำ"

"กราบไหว้เทพเจ้า?"  เสินอี้นึกถึงรูปปั้นเทพเจ้าที่เก่าและชำรุดในหมู่บ้านวัดหลิวลี้

หลี่มู่จิงหาววอด นางพูดอย่างขำขันว่า "ปีศาจมักไม่อยากขึ้นบัญชีปีศาจของราชสำนัก แต่ก็ไม่อยากซ่อนตัวอยู่ในภูเขา พวกมันย่อมต้องตั้งชื่อให้กับตัวเอง"

"สี่ร้อยปีก่อน เมื่อเมืองสุ่ยอวิ๋นยังเป็นหมู่บ้านชาวประมงทั่วไป พวกเขาก็พึ่งพาเทพเจ้าแห่งแม่น้ำในการดำรงชีวิต"

หลิวซิวเจี๋ยพูดเสริมอย่างช่วยไม่ได้ "มีการบูชายัญเล็กทุกๆ หกเดือน มีการบูชายัญใหญ่ทุกๆ สามปี เรื่องนี้กลายเป็นประเพณีไปแล้ว บูชายัญเล็ก พวกเขาจะถวายสัตว์และข้าวปลา ส่วนบูชายัญใหญ่ พวกเขาถวายเด็กชายและเด็กหญิง และเรื่องนี้พวกเขาทำมาตลอดไม่เคยหยุด"

เมื่อได้ยิน  เสินอี้คิ้วขมวดเล็กน้อย ถามเบาๆ ว่า "ไม่มีใครจัดการ?"

แม้จะแสดงท่าทีสงบ แต่ในใจของเขาก็รู้สึกอึดอัด

"จะจัดการยังไงได้ ถ้าเจ้ากล้าพูดจาไม่ดี พรุ่งนี้ชาวบ้านทั้งหมดก็กล้าแบกฉมวกสามง่ามเข้าโจมตีเมืองชิงโจวตอนกลางคืน แล้วเจ้าจะฆ่าพวกเขาให้หมดได้หรือไม่ล่ะ?"

หลิวซิวเจี๋ยยักไหล่ "ทำได้แค่ส่งเสี่ยวเว่ยมาช่วยดูแลตอนบูชายัญใหญ่ เท่านั้น ถือว่าเป็นการข่มขู่เทพเจ้าแห่งแม่น้ำ บอกให้มันรู้ว่าแผนกปราบปีศาจยังจับตาดูมันอยู่ เจ้าอย่าเหลิง"

"เราก็ทำได้แค่นั้นแหละ แถมยังถูกพวกชาวบ้านป้องกันเหมือนกับพวกเราเป็นปีศาจเองเสียอีก"

ภายใต้การนำของหลี่ซินฮั่น ทุกคนออกจากตลาดปลา ไปถึงหมู่บ้ายสุ่ยอวิ๋นอย่างรวดเร็ว

แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่กลับคึกคักกว่าตลาดปลาเมื่อกี้ ผ้าไหมราคาแพงถูกตัดเป็นท่อนๆ แขวนไว้บนราว รูปปั้นเทพเจ้าแห่งแม่น้ำที่สานด้วยไม้ไผ่แขวนอยู่ตามชายคาของบ้านทุกหลัง บางทีก็ได้ยินเสียงประทัดถูกจุดดังเป็นครั้งคราว เหมือนวันขึ้นปีใหม่

เมื่อทุกคนเพิ่งเดินเข้ามา

ชายชราสวมเสื้อคลุมสีขาว ยืนถือไม้เท้าอยู่ที่ปากทางหมู่บ้าน เผยยิ้มอย่างเสแสร้งออกมา "ใต้เท้ามาเพื่อดูงานเทศกาลใช่หรือไม่?"

"นี่คือหัวหน้าหมู่บ้านที่รับผิดชอบงานเทศกาลนี้ เวลาเขาพูด แม้แต่ศาลาที่ว่าการหมู่บ้านสุ่ยอวิ๋นก็ต้องเกรงใจ"  หม่าเถาแนะนำชายชราด้วยเสียงเบาๆ

หลี่ซินฮั่นมองไปรอบๆ หมู่บ้าน เก็บสายตากลับมาอย่างช้าๆ และถามว่า"คนที่แผนกปราบปีศาจส่งมาเมื่อก่อน ตอนนี้อยู่ที่ไหน?"

เมื่อได้ยินคำถามนี้ หัวหน้าหมู่บ้านหันกลับมามองอย่างตกตะลึง "ปีนี้ไม่ใช่พวกท่านที่มาดูงานเทศกาลเป็นพวกแรกหรอกเหรอ ข้ายังคิดอยู่เลยว่าทำไมมาช้ากันจัง"

เมื่อเห็นท่าทางของเขา แววตาของหลี่มู่จิงก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขึ้น

นางก้าวไปข้างหน้า ยิ้มถามอย่างเย็นชา "ข้าขอเตือนเจ้าสักหน่อยนะ เจ้าจะเคารพบูชาอะไรก็ได้ ข้าไม่สน! แต่ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องเสี่ยวเว่ยแห่งแผนกปราบปีศาจละก็... เจ้าควรจะรู้ผลลัพธ์ที่ตามมา"

"ใต้เท้า ท่านล้อข้าเล่นแล้ว"

หัวหน้าหมู่บ้านก้มหน้าพิงไม้เท้า และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "พวกเรามีความกล้าซะที่ไหน ยิ่งไปกว่านั้น พวกข้าน้อยจะพึ่งพาฉมวกสามง่ามหักๆ เพียงสองสามอันได้อย่างไร ใช่ไหมใต้เท้า?"

หลี่มู่จิงไม่ได้ตอบ เพียงแต่เดินเข้าหมู่บ้านอย่างเงียบ ๆ

ชายฉกรรจ์สองข้างทางถือฉมวกสามง่าม จ้องมองรูปร่างอวบอิ่มของนางพลางเลียริมฝีปาก

“…”

เสินอี้เก็บภาพตรงหน้าไว้ในใจอย่างเฉยเมย

ยากที่จะเชื่อจริงๆ ว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะต่างกับชาวบ้านหน้าตาชืดชาที่ชานเมืองไป๋อวิ๋น

ในหมู่บ้านวัดหลิวลี้ ผู้คนล้วนสิ้นหวัง นั่งกอดร่างกายตนเองด้วยความหวาดกลัว แม้แต่ความคิดที่จะหนียังไม่มี

แต่ที่นี่ คนธรรมดาเหล่านี้กลับสามารถจ้องมองเจ้าหน้าที่ของแผนกปราบปรามปีศาจ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายได้

ความแตกต่างที่ช่างเหลวไหลนี้ มันได้มาจาก "เทพเจ้า" ที่ให้ความกล้าหาญแก่พวกเขาหรือเปล่า?

เรื่องนี้ทำให้เสินอี้รู้สึกจิตใจสั่นคลอนชั่วขณะ

หรือว่าสำหรับชาวบ้านแล้ว ปีศาจนั้นชั่วร้ายน้อยกว่าแผนกปราบปีศาจ?

……

ศาลเทพเจ้าแห่งแม่น้ำตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน

ภายในห้องโถงอันกว้างขวาง มีรูปปั้นทองคำตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง รูปปั้นนี้ปั้นเป็นหญิงสาววัยประมาณสามสิบถึงสี่สิบปี ใบหน้างดงาม สวมชุดยาวลายคลื่นน้ำพริ้วไหว มือประสานกันอยู่ที่หน้าอก

ด้านซ้ายและขวาเป็นรูปเด็กชายและเด็กหญิงไว้ผมจุก เด็กชายถือตะกร้าปลา เด็กหญิงถือตะกร้าดอกไม้ ทั้งสองยิ้มอย่างร่าเริงแจ่มใส

"รูปปั้นนี้ไม่ถูกต้อง"

หม่าเถาส่ายหน้า พูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา ท่ามกลางสายตาที่จ้องมองของคนอื่นๆ "สามปีส่งหนึ่งคู่ แล้วสี่ร้อยปีจะมีกี่คู่? ทำไมถึงมีแค่เด็กน้อยสองคน จริงๆ มันควรจะเรียงรายออกไปจนถึงนอกหมู่บ้านโน่นแล้ว"

หลี่ซินฮั่นละสายตา "เจ้าคิดว่าคนพวกนั้นโง่จริงๆ หรือไง เชื่อจริงๆ เหรอว่าพวกเขาได้ส่งลูกหลานให้เป็นศิษย์ของเทพเจ้าแห่งแม่น้ำ? เฮอะ! พวกเขารู้ดีกว่าเจ้าเยอะ พวกมันมองแต่ผลประโยชน์เท่านั้นต่างหาก"

หลี่มู่จิงนั่งขัดสมาธิ หลับตาทำท่าเหมือนกำลังหลับ

เสี่ยวเอ้อกลับมาจากศาลาว่าการ ใบหน้าซีดเผือด "ไม่มีข่าวคราวเลย คนพวกนั้นบอกไม่เคยพบเห็นพวกเขาเลย ป้ายประจำตัวก็ไม่ใช่พวกเขาที่เป็นคนส่งไปที่ตัวเมืองหลินเจียง หรือว่าเสี่ยวเว่ยเหล่านั้นจะถูกปีศาจดักทำร้ายระหว่างทาง?"

"คนจากเมืองหลินเจียงบอกว่า เมื่อตอนฟ้าสาง ป้ายประจำตัวก็ถูกวางไว้หน้าประตูจวนเจ้าเมืองแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ปีศาจจะส่งมาเพื่อยั่วยุ" หลี่ซินฮั่นขมวดคิ้วแน่น

หลี่มู่จิงลืมตา มองไปที่เสินอี้ที่ยืนนิ่งอยู่หน้ารูปปั้น นางพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ ว่า "แม่น้ำหยางชุนเชี่ยวกรากมาก หากเจ้าสามารถรวมฝูงปลาไว้ด้านล่างได้ เพียงแค่โยนแหลงไป ก็จะได้ปลาเต็มอวน พวกเขาจะเคารพบูชาเจ้าดั่งเทพเจ้า"

"บางเรื่อง เราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับมันมากเกินไป"

นางสังเกตเห็นถึงความไม่พอใจแฝงอยู่ภายใต้ท่าทางเฉยชาของชายหนุ่ม

เพียงแต่นางรู้สึกสงสัย อีกฝ่ายไม่ได้เติบโตมาในสภาพที่ยากลำบากงั้นเหรอ? เขาน่าจะเคยเห็นจนชินแล้วสิ ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องแบบนี้อีก?

เวลาล่วงเลยอย่างรวดเร็ว

พลบค่ำแล้ว

ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ตามธรรมเนียมแล้ว เมื่อแผนกปราบปีศาจมาที่นี่ เทพเจ้าแห่งแม่น้ำจะปรากฏตัวให้เห็น

แต่จนถึงตอนนี้ อีกฝ่ายกลับไร้ร่องรอย

"หรือว่ามันถูกปีศาจตัวอื่นสังหารแล้ว?" หลี่ซินฮั่นเงยหน้าขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว ปีศาจแต่ละตัวจะมีจิตสำนึกในอาณาเขตของตัวเองสูงมาก หากมีเทพเจ้าแห่งแม่น้ำอยู่ที่นี่ ตราบใดที่มันไม่อยากขึ้นบัญชีปีศาจของราชสำนัก มันก็ไม่กล้าก่อกวนอย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกัน ยังสามารถข่มขู่ปีศาจที่ผ่านไปมาได้

"หรือว่า มันน่าจะจากไปแล้ว?" หลี่มู่จิงยิ้ม "ไม่เช่นนั้น พวกเราจะอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจงั้นเหรอ?"

จากบันทึกเมื่อสามร้อยปีก่อน เทพเจ้าแห่งแม่น้ำเป็นปีศาจขอบเขตวารีหยกขั้นต้น ปัจจุบันเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ แม้ว่าความเร็วในการฝึกฝนของปีศาจจะช้ากว่าปรมาจารย์ยุทธมาก แต่มันน่าจะอยู่ขอบเขตวารีหยกขั้นปลายเป็นอย่างน้อย

ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นปีศาจที่อาศัยอยู่ในน้ำ แม่น้ำหยางชุนกว้างใหญ่ขนาดนี้ อีกฝ่ายเพียงแค่ดำดิ่งลงไปในแม่น้ำ แม้แต่ผู้ที่มีขอบเขตบ่มเพาะสูงกว่าก็ไม่มีทางเอาชนะมันได้

"ใต้เท้าทั้งหลาย"

หัวหน้าบ้านเดินมาที่ประตูพร้อมกับไม้เท้า "ช่วงนี้พวกเรากำลังเตรียมงานฉลองใหญ่ ทำให้โรงเตี๊ยมไม่มีห้องว่าง แต่พวกท่านสามารถเลือกห้องจากชาวบ้านเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัยได้"

หลิวซิวเจี๋ยพลิกตาด้วยความเบื่อหน่าย

บรรยากาศแบบนี้ เจ้าถึงกลับกล้าให้คนจากแผนกปราบปีศาจไปนอนรวมกับคนอื่น

โชคดีที่ทุกคนไม่ได้ใส่ใจเรื่องจุกจิกเหล่านี้ ทั้งหมดลุกขึ้นแล้วเดินออกไป จับคู่กันเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านของชาวบ้าน

หลี่เสี่ยวเอ้อเป็นข้ารับใช้ส่วนตัวของหลี่ซินฮั่นมาตั้งแต่เด็ก ส่วนเฒ่าหลิวกับหม่าเถาเป็นพี่น้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายปี

หลี่มู่จิงก็ถูกหญิงคนหนึ่งต้อนรับเข้าไปพร้อมกับโบกมือเรียก "อยู่ข้างนอกไม่ต้องมีพิธีรีตอง ข้าไม่ถือ เจ้าเข้ามาเถอะ"

"ข้าขอเดินเล่นสักหน่อย"

เสินอี้จงใจตามหลัง เดินช้าๆ ผ่านหมู่บ้าน

เขาไม่ได้เหนื่อยอะไรมาก แค่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

จะว่าโกรธก็ไม่เชิง เพราะมันเป็นแค่คำพูดเรื่องเล่าผ่านหู เรื่องราวที่น่าขยะแขยงยิ่งกว่านั้น เขาเคยฟังมาจนชินชาแล้ว

ในยุคสมัยแห่งความอดอยาก มีแม้กระทั่งข่าวลือเรื่องกินลูกแลกเนื้อ ในยุคสมัยที่ปีศาจครองเมือง แค่การมีชีวิตอยู่ก็ยากลำบากมากแล้ว การเรียกร้องศีลธรรมจากคนธรรมดาสูงเกินไป มันก็เป็นแค่การหาเรื่องใส่ตัวเท่านั้น

แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดก็ไม่รู้?

ทันใดนั้น เสียงทะเลาะวิวาทเบาๆ ก็ดังขึ้น

"ไอ้สารเลว เจ้าล้วงอะไรของเจ้า!? ถ้าเจ้ากล้าแตะอีกที ข้าจะสังหารเจ้าแน่ๆ!"

เสินอี้เงยหน้าขึ้น มองไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด