บทที่ 138
หลินอันหลานที่หลังจากความจำเสื่อม ไม่ได้มีความรู้สึกชอบหรือเกลียดต่อคนส่วนใหญ่ แม้แต่ตัวเขา เขาก็ยินดีที่จะชอบ แต่ว่าเขากลับไม่ชอบคนคนนี้
เธอเคยทำอะไรให้เขาไม่พอใจงั้นเหรอ หรือว่าเป็นเพราะเจี่ยงซวี่
เฉิงอวี้คิดไม่ตก แต่เขารู้สึกดีอย่างหนึ่งคือ จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าก่อนที่หลินอันหลานจะสูญเสียความทรงจำ ก็ไม่ได้เกลียดเขามาก ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่ยินดีชอบเขาหลังจากสูญเสียความทรงจำหรอก
กว่าเขาจะหยอดคำหวานใส่ตัวเองสักครั้งได้ ก็เลยยิ้มเบาๆ อย่างมีความสุข
หลินอันหลานมองดูรูปถ่ายทั้งคืน และเก็บอัลบั้มรูปอย่างอารมณ์ดี
แม้ว่าเขาจะจำความรู้สึกของตัวเองตอนที่ถ่ายรูปไม่ได้ และก็จำไม่ได้ว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง เกิดอะไรขึ้นบ้างในวันที่ถ่ายรูป
แต่ถึงอย่างไรเขาก็มีความสุขมาก
เขาดีใจที่ตัวเองมีครอบครัวที่มีความสุขแบบนี้ และก็ดีใจที่เขาได้เจอกับพ่อแม่ของเขา
เขาปิดอัลบั้มรูปและหลับไปท่ามกลางความอบอุ่น
หลินอันหลานฝันอีกแล้ว
ในความฝัน ลักษณะของเขายังดูเป็นเด็กน้อย เขาถูกคนจูงมือแล้วเดินเข้าไปในชุมชนหนึ่งที่ไม่รู้จัก
หลินอันหลานกลัวมากและจับมือของคนที่จูงเขาไว้แน่น
พวกเขากลับถึงบ้าน หลินอันหลานอยู่ในบ้านอย่างเชื่อฟัง และเขียนอ่านหนังสือกับพ่อของตัวเอง
อากาศหนาวมากในฤดูหนาว เครื่องทำความร้อนในบ้านก็อบอุ่นเพียงพอ หลินอันหลานนั่งเขียนหนังสืออยู่บนโต๊ะ ทันใดนั้น พ่อของเขาก็ถามเขาว่า "หิมะตกแล้ว อันอัน ลูกอยากจะลงจากตึกไปเล่นปาลูกบอลหิมะปั้นตุ๊กตาหิมะกับเพื่อนๆ ไหม”
หลินอันหลานอยาก แต่เขาก็เกรงใจ
ในวันที่เขาออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า คุณครูได้พูดกับเขามากมาย
เธอบอกว่า "ลูกเอ๋ย ต่อไปหนูต้องเชื่อฟังพ่อแม่นะ เป็นเด็กดี อย่าขอสิ่งนี้สิ่งนั้นจากพวกเขา และอย่าไปเปรียบเทียบตัวเองกับเด็กคนอื่นๆ หนูรู้ไหมว่าการเปรียบเทียบหมายถึงอะไร ก็คือการที่เพื่อนๆ คนอื่นมีสิ่งใดแล้วหนูก็อยากจะมีตาม พ่อแม่ของหนูในตอนนี้เป็นคนดีมาก เพราะงั้นหนูต้องรักษาพวกท่านไว้ ต้องทำให้พวกท่านรู้สึกว่าหนูเชื่อฟัง เอ็นดูหนู และอยากดูแลหนูตลอดไป”
คุณครูก็มีเจตนาดี เธอเห็นมาเยอะที่ผู้ที่มารับอุปการะเด็กไปเลี้ยงด้วยความใจร้อนชั่วครู่ขณะ จากนั้นก็ส่งเด็กกลับคืนมาในภายหลัง แล้วบอกว่าเข้ากันไม่ได้
และก็เคยเห็นที่ไม่ได้ส่งกลับมาเหมือนกัน แต่ด้วยอีกฝ่ายที่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ลูกชายลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง ดังนั้นจึงเริ่มหมดความอดทน และต้องการที่จะส่งเด็กกลับมา
——"ฉันอยากจะมีลูกจริงๆ แต่เด็กคนนี้ช่างดื้อเหลือเกิน มิน่าพ่อแม่แท้ๆ ของเขาถึงไม่ต้องการเขา"
คำพูดรุนแรงมาก แต่ก็เป็นความจริง แม้แต่พ่อแม่แท้ๆ บางคนก็ยังทอดทิ้งลูก นับประสาอะไรกับพ่อแม่บุญธรรมที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดล่ะ
ทุกคนก็ต่างคาดหวังลูกที่รับมาอุปการะจะเป็นเด็กดี ไม่ใช่ตัวก่อปัญหา
คุณครูในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าหวังว่าเด็กทุกคนที่ออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไป จะมีความสุขกับครอบครัวใหม่ ดังนั้นพวกเขาจะกำชับกับเด็กทุกคนที่ออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าว่าจงเป็นเด็กดีและจงเชื่อฟัง
หลินอันหลานจำขึ้นใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงเป็นเด็กดีและเชื่อฟังอย่างมาก เขากล่าว "ผมแล้วแต่คุณพ่อครับ"
พ่อหลินหัวเราะ ลูบศีรษะของหลินอันหลาน "ไปเล่นเถอะ พ่อจะไปกับลูกด้วย"
เขาสวมเสื้อนวมกันหนาวขนเป็ดหนาๆ สวมรองเท้าและถุงมือให้กับหลินอันหลาน ก่อนจะลงไปข้างล่างตึกพร้อมกับเขา
พ่อหลินที่ซึ่งอายุมากแล้ว บวกกับความโศกเศร้าจากการสูญเสียลูกชาย ผมของเขาจึงหงอกขาวโพลน เด็กๆ ในชุมชนเรียกเขาว่า "คุณปู่"
พ่อหลินก็ไม่ได้ถือสาอะไรและปล่อยให้พวกเขาเล่นกับหลินอันหลานอย่างอารมณ์ดี
ทุกคนเล่นปาหิมะกันอย่างสนุกเฮฮา หลินอันหลานมีความตื่นเต้นเล็กน้อย เขาไม่รู้จักใครเลย จึงไม่กล้าปาใส่ใครสักคน
บรรดาเด็กสาวเห็นเขาหน้าตาดี จึงปั้นหิมะเป็นก้อนแล้วก็ปาใส่เขา
หลินอันหลานโดนไปสองสามที แล้วถึงได้เริ่มปาสู้กลับ
แต่เขาตัวคนเดียวจึงถูกกำหนดให้ปาสู้บรรดาเด็กสาวไม่ได้ ในช่วงเวลาสำคัญ ก็มีเด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งโผล่ออกมาจากด้านหลังของเขา และช่วยเขาปาสู้ใส่อีกฝ่าย
ทุกคนหัวเราะเฮฮา เมื่อได้ยินพ่อแม่เรียกชื่อตัวเองก็วิ่งเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม
ครู่เดียว ในสนามก็เหลือเพียงหลินอันหลานและเด็กชายตัวเล็กๆ ที่ช่วยเขาปาหิมะคนนั้น
หลินอันหลานอยากจะปั้นตุ๊กตาหิมะ เขาเคยเห็นในหนังสือ ยังไม่เคยปั้นเองเลย
เขาสวมถุงมือกำลังปั้นตุ๊กตาหิมะอยู่ ก็เห็นเด็กที่ช่วยเขาปาหิมะเมื่อครู่เดินเข้ามาหาอีกครั้ง
เด็กน้อยคนนั้นไม่กลัวความแปลกหน้า นั่งลงยองๆ ข้างๆ เขา และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า "ฉันชื่อเจี่ยงซวี่ นายล่ะชื่ออะไร"
หลินอันหลานหันไปมองพ่อของตัวเองครู่หนึ่ง เห็นเขากำลังมองตัวเองด้วยรอยยิ้ม
แล้วถึงได้กล่าวขึ้นว่า "ฉันชื่อหลินอันหลาน"
เจี่ยงซวี่เป็นกันเองมาก "เสี่ยวหลานเหรอ"
เขากล่าวถาม "นายอยากจะปั้นตุ๊กตาหิมะเหรอ ฉันช่วยนายนะ"
หลินอันหลานหันไปมองพ่อของตัวเองอีกครั้ง เห็นเขาไม่ได้ห้าม ถึงได้กล่าวขึ้น "อืม"
เขากับเจี่ยงซวี่จึงปั้นตุ๊กตาหิมะด้วยกัน พ่อหลินก็เดินเข้ามาหาและช่วยพวกเขาปั้นด้วย
พวกเขานำกิ่งไม้มาทำเป็นแขนให้กับตุ๊กตาหิมะ ใช้องุ่นทำดวงตา จากนั้นก็ปักแครอทเล็กๆ ลงไปหนึ่งหัว
หลินอันหลานรู้สึกว่าน่ารักมาก พิงพ่อของตัวเองและก็หัวเราะขึ้น
พ่อหลินถามเขาว่า "หนาวไหม จะกลับบ้านไหม"
หลินอันหลานเล่นสนุกพอแล้วจึงพยักหน้า
เจี่ยงซวี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย มองพวกเขาอย่างคิ้วตกหดหู่
พ่อหลินเคยเป็นครูมาก่อน จึงเป็นธรรมดาที่จะมีความรู้สึกไวต่ออารมณ์ของเด็ก จึงได้ถามขึ้น "เสี่ยวซวี่ไม่กลับบ้านเหรอ"
"บ้านผมไม่มีคนอยู่ครับ" เจี่ยงซวี่บ่น "แม่ของผมออกไปแล้ว"
“งั้นหนูอยากจะมานั่งเล่นที่บ้านลุงก่อนไหม มาเล่นด้วยกันกับอันอัน”
เจี่ยงซวี่พยักหน้าอย่างตื่นเต้น "ดีครับๆ ขอบคุณครับคุณลุง"
“ไม่ต้องเกรงใจ” พ่อหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขาจูงหลินอันหลานกับเจี่ยงซวี่กลับบ้านด้วยมือคนละข้าง
เจี่ยงซวี่เชื่อฟังมาก เข้าบ้านแล้วก็ไม่ส่งเสียงดังเอะอะ คู่ดวงตากลมกวาดมองตัวบ้านไปรอบๆ
พ่อหลินนำโยเกิร์ตมาให้เขากับหลินอันหลานคนละขวด และปล่อยให้พวกเขานั่งดูการ์ตูน ในขณะที่ตัวเองเข้าครัวเพื่อทำอาหาร
เจี่ยงซวี่กัดหลอดโยเกิร์ตแล้วถามเขาว่า "เสี่ยวหลาน นายอายุเท่าไรแล้ว"
“เจ็ดขวบแล้ว” หลินอันหลานกล่าว
เจี่ยงซวี่รู้สึกประหลาดใจ "ฉันก็เหมือนกัน!"
เขาถามขึ้นอีก "นายเรียนโรงเรียนประถมที่ไหน"
หลินอันหลานไม่ได้เรียนชั้นประถม ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้
เจี่ยงซวี่ก็ไม่ได้เค้นถามเพิ่มเติมอีก และเลี่ยงไปถามเขาคำถามอื่น
เมื่อเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง เจี่ยงซวี่ได้ลุกยืนขึ้นและกล่าวกับพ่อหลินว่า "แม่ของผมใกล้จะกลับมาแล้ว ผมต้องกลับแล้วครับ"
"จ้ะ" พ่อหลินกล่าวอย่างอ่อนโยน "งั้นต่อไปหนูมีเวลาก็มาเที่ยวหาอันอันนะ"
เจี่ยงซวี่รีบพยักหน้าและโบกมือให้กับหลินอันหลาน "เจอกันพรุ่งนี้"
หลินอันหลานก็โบกมือด้วย “เจอกันพรุ่งนี้”
หลังจากที่เขาจากไปแล้ว พ่อหลินก็อุ้มหลินอันหลานไว้ในอ้อมแขนและถามเขาว่า "ชอบเพื่อนคนนี้ไหม"
หลินอันหลานไม่ได้รู้สึกชอบหรือไม่ชอบแต่อย่างใด แต่ว่าเขามีความสุขมากที่มีคนเล่นด้วย
เขากอดพ่อหลินและฉอเลาะใส่เขา “ผมชอบพ่อครับ”
พ่อหลินหัวเราะลั่น "เด็กดีจริงๆ พ่อก็ชอบลูกเหมือนกัน แต่ว่าพ่อไม่สามารถไปโรงเรียนกับลูกได้ รอผ่านฤดูหนาวนี้ไปแล้ว ให้เพื่อนคนนี้ไปโรงเรียนเป็นเพื่อนลูกนะ"
“ไปโรงเรียนประถมเหรอครับ” หลินอันหลานถามเขา
"ใช่ อันอันต้องตั้งใจเรียนนะ"
“ครับ” หลินอันหลานพยักหน้ารัวๆ