Chapter 900 อาหนิวตัดผ่านระดับ
หลังจากได้เงินค่าไถ่แล้วจุนซ่างเซียวก็นำคนของเขากลับนิกายนิรันดรทันที.
เขาที่เข้าและออกอย่างง่ายดาย.
โม่ซ่างเซิ่งและยอดฝีมือทวีปจิวเทียนที่จ้องมองฐานที่มั่นที่ว่างเปล่าอยู่นานเหมือนกัน กว่าจะได้สติคืนกลับมา.
นี่มัน....นี่มันเกิดบ้าอะไร?!
ประตูทางเข้าพิภพสงครามที่ซื้อจากระบบเป็นหนึ่งในการใช้ ข้อผิดพลาดของพิภพเข้ามา ทำให้จุนซ่างเซียวเข้า ๆออกได้อย่างง่าย ๆ สบาย ๆ.
มีเวลาจำกัดอยู่ในฐานอย่างงั้นรึ?
จะส่งคนมาล้อมรอบด้านนอกอย่างงั้นรึ?
อย่ามากดดันเปิ่นจั้ว เจ้าคิดว่าจะทำอะไรข้าได้?
“เจ้าเมือง.”
ยอดฝีมือคนหนึ่งเอ่ย “ตอนนี้ทำอย่างไรดี?”
โม่ซ่างเซิ่งที่เก็บงำความโกรธเกรี้ยวเอาไว้ “กลับฐานที่มั่น!”
ศิลาดาราหกแฉกที่ให้ไป เขาคิดมาอย่างดีแล้ว ว่าตัวเองจะสามารถหาวิธีเอาคืนมาได้!
ท้ายที่สุด!
กลับจมหาย ไม่สามารถตามคืนได้ อ๊าก!
“ไป.”
โม่ซ่างเซิ่งที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ทำได้แค่นำคนของตัวเองจากไปอย่างสลด และอับอายขายหน้ามาก.
เป็นความจริง.
เพียงแค่คืนเดียว เรื่องของคิ้วเมตตาซานเหรินและคิ้วปิศาจเอ้อเหริน ตลอดจนอาวุโสเก้าดารา ของทวีปจิวเทียน ถูกทวีปชิงหยุนจับตัว ได้กระจายไปทั่วพิภพสงครามอย่างบ้าคลั่ง.
ในเวลานั้น เหล่ายอดฝีมือพิภพต่าง ๆ แล้วแต่พูดคุยกัน แม้แต่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
ยอดฝีมือระดับปฐพีของพิภพชั้นหนึ่ง พ่ายแพ้อย่างคาดไม่ถึง นี่พวกเขาสู้ไม่ได้เลยอย่างงั้นรึ? เรื่องนี้เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
“ข่าวลือหรือไม่?”
“จริงอย่างแน่นอน!”
“นอกจากนี้ ทวีปชิงหยุน ยังมีคนหมายแดงถึงสามคนเมื่อวาน มีคนมากมายที่ถูกไล่ล่า เป็นพยานในครั้งนี้ได้!”
“เจ้าคนผมม่วงนั้นมีร่างกายที่น่าเกรงขามมาก สามารถรับมือกับห้ายอดฝีมือระดับปฐพีได้เลย!”
“พิภพชิงหยุน แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยอย่างงั้นรึ?”
“ได้ยินมาว่าพวกเขาสามารถเข้า ๆ ออก ๆ พิภพสงครามได้ด้วย.”
“ทวีปจิวเทียนคงเสียหายไม่น้อย ยอดฝีมือระดับปฐพีถูกจับมากขนาดนี้ เกรงว่าคงไม่ยอมจบเท่านั้น!”
การต่อสู้เมื่อวานมีผู้คนมากมายที่ต้องพูดถึง ส่วนเรื่องที่โม่ซ่างเซิ่งนำเงินไปจ่ายค่าไถ่ ไม่มีคนรู้ หากรู้เข้าจะทำหน้ากันอย่างไร.
ในเวลาเดียวกัน ทวีปฉีไห่ที่รู้สึกดีใจขึ้นมา ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาเตรียมไปแก้แค้นให้กับเช่อหยวนซือ ทว่ามีคนตัดหน้าก่อน จึงไม่ได้ลงมือ.
“เจ้าวัง.”
ในเวลานั้นภายในห้องโถง อาวุโสคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วไปมา “ทวีปชิงหยุนเอาชนะทวีปจิวเทียนได้ เรื่องนี้ไม่เกินจริงไปรึ?”
หงเหยาที่นั่งอยู่บนตำแหน่งแรก ขมวดคิ้วแน่น“โชคดีที่พวกเราไม่ได้เคลื่อนกำลังออกไป ไม่เช่นนั้นเกรงว่าชะตาคงจบอย่างอนาถแน่!”
แม้แต่ทวีปจิวเทียนยังไม่สามารถจัดการได้ แล้วพวกเขาจะมีปัญญาได้อย่างไร.
“แล้วพวกเราจะต้องเก็บความแค้นนี้ไว้เท่านั้นรึ?”อาวุโสคนหนึ่งทีเอ่ยกล่าวด้วยท่าทางขุ่นข้องใจ.
ศิษย์ของเขาตายไปมากมาย อาวุโสหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บหนัก เรื่องแบบนี้จะให้พวกเขากลืนความอัปยศได้อย่างไร.
หงเหยาแค่นเสียง เอ่ยออกไปว่า“อาวุโสเก้าดาราถูกจับ ทวีปจิวเทียนคงไม่ยอมแน่ ไม่ช้าก็เร็ว โม่ซ่างเซิ่งคงไปเอาคืนแน่.”
เขาเอ่ยเช่นนี้ เพราะว่าไม่เห็นเรื่องเมื่อวาน.
น่าเสียดายเรื่องค่าไถ่ 2 ล้านศิลาดาราหกแฉกที่ต้องนำไปไถ่ตัวประกันไม่มีคนรู้.
......
“สุดยอดจริง ๆ!”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในห้องหนังสือใบหน้าเต็มไปด้วยความยิ้มแย้ม.
การที่เขาถูกกดดันจนต้องหลบออกมา ทำให้เขาตื่นเต้นเล็กน้อย อ๊าก!
หากว่าศัตรูอยู่ในทวีปชิงหยุนด้วยกัน เขาย่อมกลัว เพราะว่าไม่มีพื้นที่ให้หนี ทว่าในพิภพสงครามย่อมต่างกัน.
แต่หากว่ามีความสามารถพอ.
พวกเขาย่อมต้องการสู้กลับไปอย่างแน่นอน!
“รอก่อนเถอะ ต้องได้เจอกันแน่!”จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบา.
ครั้งนี้เขาเข้าไปในพิภพสงคราม ไม่เพียงแค่ได้ล้างแค้น ยังขยายฐานออกไปได้ไม่น้อย ดังนั้นเขาตัดสินใจแล้ว เขาจะต้องกลับไปใหม่แน่.
“จูเหริน.”
เสี่ยวหลงที่เอ่ยกล่าวด้วยความสงสัย“แสงสีแดงบนร่างข้าไม่มีแล้ว!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “แสงนั่นมีอยู่เฉพาะในพิภพสงคราม หลังจากออกมา ย่อมหายไป.”
“เป็นแบบนี้นี่เอง.”
เสี่ยวหลงที่เข้าใจทันที.
แน่นอน ที่บอกว่าหายไป ไม่ได้หายไปจริง ๆ.
หากกลับเข้าไปในพิภพสงครามอีกครั้ง ย่อมปรากฏแสงแดงเหมือนเดิม อย่างน้อยต้องผ่านไประยะหนึ่งถึงจะค่อย ๆ หายไป.
“พวกชิงหยางที่ได้ประสบการณ์เสี่ยงตายที่พิภพสงคราม ตอนนี้ควรจะตัดผ่านไปยังระดับจักรพรรดิยุทธ์ได้ง่ายกว่าเดิม.”จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ.
กล่าวให้ถูก คุณค่าของพิภพสงครามนั้น เป็นสถานที่เพิ่มประสบการณ์ให้กับศิษย์ในนิกาย แม้นว่าด้านในจะอันตรายอย่างมากก็ตาม.
“ฟู่ ฟู่!”
เพียงไม่นานหลังจากนั้น ที่ลานด้านในตึกของศิษย์ กลิ่นอายที่ทรงพลังก็แผ่พุ่งระเบิดออกมาในทันที.
“หืม?”
จิตสัมผัสของจุนซ่างเซียวที่แผ่ออกไป “เป็นอาหนิวตัดผ่านระดับอย่างงั้นรึ?”
“ฟู่ ฟู่ ---”
กลิ่นอายที่กวาดม้วนออกไปรอบ ๆ ลานด้านใน ทำให้ศิษย์หลายคนต่างอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน.
“ศิษย์พี่เย่ตัดผ่านระดับแล้ว!”
หลังจากกลับมาจากพิภพสงครามก็ตัดผ่านระดับได้ นี่เร็วไปหรือไม่?!”
ในเวลานั้นหลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและอีกหลายคนที่สัมผัสได้ ก่อนหน้านี้ได้รับประโยชน์มากจากยันต์ทะยานสวรรค์ ตอนนี้กลิ่นอายการตัดผ่านระดับส่งผลต่อพวกเขาไม่น้อยเลย.
ผลของการตัดผ่านระดับที่ส่งผลต่อคนอื่น ๆ ด้วย แน่นอนว่าเป็นประโยชน์ในการตัดผ่านระดับในวันข้างหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม.
กลิ่นอายจากการตัดผ่านระดับที่ค่อย ๆอ่อนลง และคืนกลับสู่สภาพปรกติ.
เย่ซิงเฉินที่นั่งสมาธิในห้อง ดวงตาที่ค่อย ๆ ลืมขึ้น ท่าทางไร้อารมณ์เอ่ยออกมาว่า“ตัดผ่านระดับแล้ว.”
นับตั้งแต่ยึดครองร่างนี้จนก้าวมาถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ ใช้เวลาเพียง 4-5 ปีเท่านั้น ความเร็วนี้เหนือกว่าเมื่อชาติที่แล้วมากมายนัก เรื่องนี้ย่อมทำให้เขาดีใจเป็นอย่างมาก.
การที่เขาได้เข้าไปยังพิภพสงคราม ทำให้เย่ซิงเฉินเข้าใจได้ แม้แต่ในอดีตจะก้าวไปถึงระดับราชันย์ยุทธ์ได้ ทว่าก็ยังอยู่ในดินแดนที่แร้นแค้น นอกโลกใบนี้นั้นกว้างใหญ่นัก ยังมียอดฝีมืออยู่อีกมากมายนับไม่ถ้วน.
ในชาติที่แล้วเขาอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของทวีปชิงหยุนได้ หากแต่ในชาตินี้เขาจะต้องก้าวไปยืนสูงให้สูงกว่าเดิม!
......
เย่ซิงเฉินที่ตัดผ่านระดับ จุนซ่างเซียวคิดไว้แล้วจึงไม่ได้ประหลาดใจ ตอนนี้เริ่มครุ่นคิดเรื่องหลังจากนี้.
ห้าปีหลังจากนี้ ทวีปชิงหยุนจะต้องเข้าสู่พิภพสงคราม ดังนั้นเขาจะต้องใส่ใจในการขยายอาณาเขต จะต้องพยายามขยายฐานที่มั่นไปจนถึงพัฒนาดินแดนไปจนถึงระดับเมืองให้ได้.
แน่นอน.
หลังจากที่ขยายฐานที่มั่นไปจนระดับนั้นได้ ก็จะเปิดร้านสมนาคุณได้นั่นเอง.
ตอนนี้จุนซ่างเซียวที่สงสัยเป็นอย่างมาก ด้านในนั้นมีสินค้าใดกันแน่ให้แลกเปลี่ยน.
ซูเซียวโม่.
แม้นว่าจะแฝงตัวอยู่ในนิกายไท่เสวียนเซิ่งได้อย่างปลอดภัย ทว่าตอนนี้ก็ยังเป็นเพียงศิษย์สายนอก เขาจะต้องหาวิธีช่วยในการยกระดับอีกฝ่ายให้กลายเป็นศิษย์สายในให้ได้คงจะเป็นการดี.
ดูเหมือนว่าควรจะหาโอกาสใช้สถานะตาเฒ่าจุนเทียนได้แล้ว.
“ดูเหมือนว่ามีสองเรื่องที่ต้องจัดการ”
จุนซ่างเซียวที่กำลังครุ่นคิด รออีกครึ่งเดือนหลังจากนี้ เขาจะนำถางจู่จื่อและราชาไป่จิวและคนอื่น ๆ เข้าสู่พิภพสงครามอีกครั้ง ไว้ไปหาเรื่องทวีปฉีไห่และหลิงหยุนดีกว่า จะได้ขยายฐานที่มั่นอีก.
ส่วนเรื่องของซูเซียวโม่ เรื่องนี้จำเป็นต้องรอคอยโอกาส ซึ่งยังไม่พบเหตุการณ์ที่เหมาะสมนั่นเอง.
นี่คือแผนการชั่วคราว ทว่าอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคิด คือเขาจะต้องหาวิธีในการตัดผ่านระดับไปยังระดับปราชญ์ให้เร็วที่สุด.
ที่จริง ภารกิจมหากาพย์ทั้งสองเพิ่งประมวลผลไป เขาคิดว่าครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์และจักรพรรดิยุทธ์นั้นอยู่ในระดับเดียวกัน นั่นก็คือระดับสุดยอดของระดับจักรพรรดิยุทธ์เท่านั้น มันควรจะเป็นเขตแดนแยกย่อย ที่แตกต่างจากดินแดนยุทธ์ปรกติ แล้วเขาจะยกระดับอย่างไร?
และอีกอย่าง.
และระบบในร่างของเขา การตัดผ่านระดับปราชญ์ยุทธ์ถือว่าเป็นเขตแดนใหญ่ จะต้องเปิดภารกิจมหากาพย์ แล้วทำให้สำเร็จแล้วค่อยยกระดับหรือไม่?
ระบบเอ่ย “ทุกระดับในการตัดผ่านระดับ แน่นอนว่าจะต้องทำภารกิจมหากาพย์.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไม่ใช่ว่าครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์คือขั้นสุดยอดของระดับจักรพรรดิยุทธ์หรอกรึ?แล้วทำไมต้องมีภารกิจมหากาพย์อีก หรือว่าครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ยังมีขั้นปลายอีก พอไปถึงได้ก่อน ค่อยกระตุ้นภารกิจมหากาพย์?”
“เมื่อไหร่ที่โฮสน์รู้สึกว่าตัวเองใกล้จะก้าวไปถึงระดับปราชญ์ยุทธ์ เมื่อนั้นภารกิจมหากาพย์ก็จะเปิด.”ระบบกล่าว.
“มันจะไม่บัดซบไปหน่อยรึ?!”
จุนซ่างเซียวรับรู้ว่าการจะตัดผ่านแต่ละครั้ง จะต้องเปิดภารกิจมหากาพย์ก่อน ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่ยกระดับไปทีละขั้น ทว่าต้องสัมผัสได้ถึงความรู้สึกใกล้จะตัดผ่านไปยังระดับปราชญ์ยุทธ์ถึงจะเปิดภารกิจมหากาพย์ได้.
สัมผัสของการบ่มเพาะอย่างงั้นรึ?
ไม่ได้การ ต้องไม่ลืมว่าเขามีกายาห้าธาตุและมีพลังบ่มเพาะที่หลากหลาย เลยทำให้กระบวนการนี้ช้าไปหรือไม่?
ระบบเอ่ย “วิถียุทธ์นั้นต้องค่อยเป็นค่อยไป โฮสน์คิดว่ากินเพียงคำเพียงจะทำให้อ้วนได้รึ? กลับไปนอนและฝันเอาเถอะ.”