Chapter 893 ไถ่ตัวทาส?
หลังจากการต่อสู้เกิดขึ้นหลายครั้ง ฐานที่มั่นทวีปชิงหยุนที่ขยายออกไปเป็นอย่างมาก.
จุนซ่างเซียวที่ยังคงนั่งอยู่ด้านหน้าห้องโถง กล่าวเสียงเบา“พื้นที่ตอนนี้ใกล้จะเท่าขนาดเมืองแล้ว ดูเหมือนว่าจะทำให้เบาใจได้สักหน่อย.”
ระบบเอ่ย “ด้วยความแข็งแกร่งของราชาสัตว์จื่อหลินและคนอื่น ๆ ทำให้การขยายฐานที่มั่นเป็นเรื่องง่ายดาย ทว่าก็ได้ล่วงเกินพิภพอื่นมากมาย กลายเป็นเป้าหมายของคนอื่นด้วย.”
“จะให้ทำอย่างไร.”
จุนซ่างเซียวยักไหล่ “เป็นพวกเขาที่บังคับข้าเอง.”
ฐานที่มั่นเป็นสถานที่ปลอดภัย สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับดินแดนที่ใช้รับประกันชีวิตของเขานั่นเอง.
อีกอย่าง ถึงแม้นว่าเขาจะสู้ไม่ได้ ทว่าด้วยประตูเคลื่อนย้าย แย่สุดก็คือหนีจากที่นี่เท่านั้นเอง.
พิภพสงครามสำหรับจุนซ่างเซียวก็เหมือนกับสวนหลังบ้านให้เขามาเดินเล่นนั่นเอง สู้ไม่ได้ก็หนี ขอเพียงไม่จากไปเกินหนึ่งปี ก็สามารถกลับมาได้เสมอ.
เสียงของระบบสตรีที่ดังขึ้น“เรียนผู้เข้าร่วม หลังจากฐานที่มั่นยกระดับไปถึงขนาดพอสมควรแล้ว จะไม่สามารถปกป้องได้อย่างถาวร.”
“หมายความว่าอย่างไร?”จุนซ่างเซียวที่ตะลึงงัน.
เสียงระบบสตรีที่ดังขึ้น“เกี่ยวกับกฎเกณฑ์พิภพสงคราม เมื่อพิภพใดขยายฐานที่มั่นได้พอควรแล้ว จะถูกประกาศเป็นทางการ ในเวลานั้นสามารถประกาศสงครามกับพิภพอื่น ๆ ได้ หรือไม่ก็พิภพอื่นประกาศสงครามต่อฐานที่มั่นของพวกเราได้ กล่าวได้ว่าเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับขึ้นอยู่กับสถานการณ์.”
“แล้วหากประกาศสงครามแล้วพ่ายแพ้ล่ะ?”
“หากฐานที่มั่นแตกพ่าย ทุกอย่างก็จะสลายหายไป.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.
นี่ไม่ได้หมายความว่า เหมือนกับเกมชิงฐานหรอกรึ?
พิภพสงครามที่พิภพเบื้องบนเปิดขึ้น ที่จริงก็คือเกมอย่างหนึ่ง ที่ให้ยอดฝีมือจากพิภพเบื้องล่างเข้ามาเป็นหมาก ตามกฎเกณฑ์ที่พวกเขาสร้างขึ้น.
“น่าลำบากจริง ๆ!”จุนซ่างเซียวที่กำหมัด.
ตัวเขาที่ถูกคนใช้เป็นหมากในเกมเช่นนี้ ทำให้ไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก.
“แน่นอน.”
ระบบสตรีเอ่ย “เมื่อประกาศสงครามและทะลวงฐานที่มั่นของอีกฝายได้ ไม่เพียงจะขยายฐานที่มั่นตามขนาดของอีกฝ่ายมา ยังได้รับสินสงคราม และแต้มบุญจำนวนมากด้วย.”
ดวงตาของจุนซ่างเซียวที่เป็นประกาย.
แม้นว่าจะไม่รู้ว่าแต้มบุญจะแลกเปลี่ยนอะไรได้บ้าง ทว่าการที่เห็นยอดฝีมือเห็นร่างแดงก็บ้าคลั่ง ไล่ล่าเอาแต้มให้ได้ อธิบายได้ว่าจะต้องมีของสำคัญแน่!
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา “เมื่อข้าขยายฐานที่มั่นได้มั่นคงแล้ว จะสามารถประกาศสงครามกับพิภพอื่น เพื่อแย่งชิงทรัพยากรได้หรือไม่นะ?”
“......”ระบบถึงกับพูดไม่ออก.
เจ้าคนนี้เพิ่งสังหารคนของพิภพอื่น ๆ มากมาย สร้างศัตรูกับพิภพจิวเทียน ไม่คิดจะป้องกัน หากแต่คิดจะพัฒนาฐานที่มั่นเพื่อประกาศสงครามกับคนอื่นแล้วรึ?
“เป็นเช่นนั้น.”ระบบสตรีเอ่ย.
จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้ม เอ่ยออกมาว่า“ดูน่าสนใจขึ้นแล้ว.”
เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ ทว่าผ่านมาหลายปีแล้ว การประกาศสงครามนั้นแทบจะไม่มีเลย เพราะว่าการยกระดับฐานที่มั่นให้มั่นคงได้ จนเพียงพอจะประกาศสงครามได้นั้น จะต้องมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา.
สองพิภพประกาศสงครามกัน ถึงแม้นว่าจะได้รับชัย ทว่าต้นทุนที่ใช้ไปนั้นก็มหาศาล และยังเป็นการสร้างความแค้นโดยไร้ประโยชน์ ไม่คุ้มค่าที่จะประกาศสงคราม ดังนั้นการประกาศสงครามสำหรับพิภพต่าง ๆ นั้นมีแต่เสียกับเสีย จึงไม่ค่อยมีใครทำกัน.
......
ที่ด้านนอกฐานที่มั่นทวีปชิงหยุนห่างออกไป 2000 ลี้ ปรากฏฐานที่มั่นที่เป็นเมือง ๆ หนึ่ง พื้นที่รอบ ๆ นั้นมีกำแพงที่หนาแน่น บนป้อมปรากฏนั้นมีธวัชที่เขียนไว้ว่า“ทวีปฉีไห่.”
ใช่แล้ว.
นี่คือฐานที่มั่นของทวีปฉีไห่นั่นเอง.
พื้นที่ค่อนข้างกว้างและมีสิ่งก่อสร้างที่ซับซ้อน พิภพแห่งนี้ไม่ได้มีระดับต่ำอย่างแน่นอน.
ภายในห้องโถง.
ชายชราที่ขมวดคิ้วแน่น นั่งอยู่บัลลังก์ ดวงตาที่เผยความกังวลและโกรธเกรี้ยวออกมา.
ที่ด้านหน้าด้านข้างมีชายชราอีกสี่คนนั่งขนาบข้าง ใบหน้าเผยความเศร้าใจออกมาเช่นกัน.
“เจ้าวัง!”
ในเวลานั้น ชายชราอีกคนที่ก้าวเข้ามาพลางส่ายหน้าไปมา“เหล่าเช่อบาดเจ็บหนักมาก บางทีคงต้องใช้เวลาฟื้นฟูสองสามปีเลย.”
“โครม!”
ชายชราผู้นำที่ตบพนักพิง กล่าวคำรามด้วยความโกรธ “สังหารคนของตำหนักไป่ไห่ของข้า ทำลายเซิ่งซ่างอีก ไม่สามารถอภัยให้ได้เด็ดขาด!”
ชายผู้นี้มีนามว่าหงเหยา.
เป็นเจ้าวังตำหนักไป่ไห่ ทวีปฉีไห่นั่นเอง.
เพราะว่าในฐานที่มั่นของพิภพต่าง ๆ นั้น เป็นสถานที่รวมของกองกำลังต่าง ๆ จากทั่วทวีปของดินแดนนั้น ๆ พวกเขาจะส่งคนเข้ามาคุ้มกันทุก ๆ ห้าปีผลัดเปลี่ยนกันไปเช่นกัน.
นับเป็นเรื่องบังเอิญ ที่ครั้งนี้ฐานที่มั่นของทวีปฉีไห่ เป็นตำหนักไป่ไห่เป็นผู้คุ้มกันนั่นเอง.
นิกายแห่งนี้แน่นอนหากเทียบระดับในทวีปชิงหยุน จะต้องเป็นนิกายที่แข็งแกร่งไม่ด้อยกว่านิกายไท่เสวียนเซิ่ง นิกายระดับหนึ่งอย่างแน่นอน!
ทำไม?
เพราะว่าเจ้าวังหงเหยานั้นไม่ใช่แค่ระดับปฐพีคนเดียว อาวุโสทั้งสี่เองก็มีระดับไม่ได้ด้อยกว่าปราชญ์ยุทธ์เช่นกัน.
หากนับรวมเช่อหยวนซือที่บาดเจ็บหนัก นิกายแห่งนี้มีปราชญ์ยุทธ์อย่างน้อยหกคน แม้แต่นิกายในทวีปชิงหยุน นิกายระดับหนึ่งยังไม่สามารถเทียบได้เลย!
ไม่สงสัยว่าเจ้าเมืองหานและคนอื่น ๆ แทบสิ้นหวังเมื่อรู้ว่าจะต้องเข้ามาในพิภพสงคราม.
นิกายในทวีปฉีไห่นั้น ไม่ว่าจะเป็นนิกายใหน ๆ ล้วนแต่เหนือกว่านิกายในทวีปชิงหยุนอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถเทียบกันได้เลย.
“เจ้าวัง!”
“พวกเราต้องเตรียมกองกำลังไปสังหารคนเหล่านี้!”
ชายชราคนหนึ่งที่นั่งถัดออกไป เอ่ยกล่าวด้วยคำพูดที่เปี่ยมล้นด้วยความชอบธรรม.
เหล่าคนของทวีปฉีไห่ที่ถูกจุนซ่างเซียวสังหารไปกว่า 70% นั้นเป็นศิษย์วังไป่ไห่ ดังนั้นเขาย่อมไม่สามารถทนได้.
และอีกอย่าง ฐานที่มั่นของทวีปฉีไห่นั้นเข้ามาในพิภพสงครามอย่างน้อยก็ 500-600 ปีแล้ว แม้นว่าจะไม่ใช่พิภพชั้นยอด แต่ก็แข็งแกร่งพอที่จะข่มเหงคนอื่น ๆ แทบไม่เคยมีใครกล้าข่มเหงพวกเขา ทว่าตอนนี้กับอยู่ในสภาพน่าอดสู เป็นอย่างมาก!
“เหล่าฟู่ยินดีออกไปต่อสู้ เจ้าคนชื่อจุนซ่างเซียวนั่นจะต้องตกตายทั้งร่างกายและวิญญาณ.”อาวุโสวังไป่ไห่ที่คำรามด้วยความโกรธ.
เจ้าวังหงที่ยังคงใจเย็น“ได้ยินมาว่าคิ้วเมตตาซานเหรินและคิ้วปิศาจเอ้อเหรินของทวีปจิวเทียนบาดเจ็บหนักเช่นกัน บางทีพวกเราอาจจะไม่ต้องลงมือด้วยซ้ำ.”
ศิษย์และคนระดับสูงที่บาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก ทำให้ดินแดนของพวกเขาเสียหายไม่น้อย ถึงแม้นว่าจะโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ทว่าก็ไม่สูญเสียเหตุผล ตอนนี้พวกเขาที่ยังคงนิ่งงัน เฝ้ารอดูเรื่องสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้น.
“เรียนเจ้าวัง!”
ในเวลานั้น ใครบางคนที่เข้ามารายงาน “คนของทวีปจิวเทียนได้ส่งยอดฝีมือระดับปฐพีเก้าคนออกไปยังฐานที่มั่นทวีปชิงหยุนแล้ว.”
“.”
เจ้าวังหงและคนอื่น ๆ ที่เผยท่าทางประหลาดใจ“ลงมือเร็วขนาดนี้เชียว.”
......
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
บนท้องฟ้า ริ้วแสงเก้าเส้นที่เปี่ยมล้นด้วยพลังอำนาจ ที่ทำให้เหล่ายอดฝีมือพิภพต่าง ๆ ต้องดวงตาเบิกกว้างกลมโตด้วยความตกใจ.
“อาวุโสเก้าดารา ทวีปจิวเทียน!”
“ตำแหน่งที่พวกเขาพุ่งไปนั้นก็คือฐานที่มั่นของทวีปชิงหยุน!”
“มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว!”
“ไป!”
เหล่ายอดฝีมือมากมายที่เร่งรีบมุ่งหน้าไปยังฐานที่มั่นทวีปชิงหยุนจากทั่วทุกสารทิศทันที.
ระหว่างทางที่ครุ่นคิด ทวีปจิวเทียน ส่งยอดฝีมือระดับปฐพีเก้าคนออกไปยังพิภพใหม่ที่เข้ามา เป็นอะไรที่น่าเกรงขามจริง ๆ.
“หืม?”
จุนซ่างเซียวที่จิบชาอยู่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันเก้าจุดด้านนอก จึงได้ก้าวออกมาในทันที ขณะยืนอยู่ด้านนอกตำหนัก เห็นยอดฝีมือเก้าคนที่ลอยอยู่บนอากาศ.
เก้าร่างแต่ละคนที่มีอายุ 70 กว่าปี ชายชราที่สวมชุดคลุมสีฟ้าคราม บางคนที่ไว้หนวด ไว้เคราแม้แต่หัวล้านก็มี.
แม้นว่ารูปลักษณ์จะแตกต่างกันไป ทว่ากลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นดูทรงพลังเป็นอย่างมาก เพียงแค่ปรายตามองก็รู้แล้วว่าเป็นยอดฝีมือระดับ“ปฐพี”
“มีระดับปราชญ์มากมายขนาดนี้เลยรึ?”
ติงซิงหวังที่ภายในใจลอบตกใจขึ้นมาเช่นกัน.
ปรกติเห็นปราชญ์ยุทธ์สักสองคนในทวีปชิงหยุนก็นับว่าดีแล้ว ตอนนี้พิภพอื่นส่งออกมาถึงเก้าคน เรื่องเช่นนี้ดูน่าเกรงขามจริง ๆ.
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เท้าที่ยกขึ้นไขว่ห้าง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“พวกเจ้ามาไถ่ตัวนักโทษอย่างงั้นรึ?”