ตอนที่แล้วบทที่ 54 ใครว่าคนเก่งคืออัจฉริยะ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 56 ข้าเก่งเรื่องฆ่าปีศาจ

บทที่ 55 ตำราหลอมสุริยาสายฟ้าวายุ


บทที่ 55 ตำราหลอมสุริยาสายฟ้าวายุ

“…”

เสินอี้มองอย่างใจเย็น เขายื่นนิ้วชี้ขึ้น “ข้อแรก นั่นคือศิษย์พี่หลินของเจ้า ไม่เกี่ยวข้องกับข้า ถึงแม้ว่าข้าจะได้เปรียบ แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันคือการแลกเปลี่ยนที่ทั้งสองฝ่ายต่างยินยอม”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟางเหิงเบิกตากว้าง

“ข้อสอง” เสินอี้ยกนิ้วขึ้นมาอีกนิ้ว น้ำเสียงของเขาต่ำลงเล็กน้อย  “เจ้าให้ศิษย์พี่หลินของเจ้ามาที่นี่สิ ข้าอยากดูว่านางสามารถขีดเส้นห้ามที่ประตูบ้านได้หรือไม่?”

หลังจากจบสองประโยค ฟางเหิงก็ยืนตกตะลึง

แต่คนอื่น ยกเว้นหลี่มู่จิง ต่างก็เบ้ปาก พวกเขาต่างรู้สึกหดหู่

ความทรงจำอันน่าอับอาย กลับมาสู่ความคิดของพวกเขาอีกครั้ง

ในกระท่อมโทรมๆ  ที่เมืองไป๋อวิ๋น ศิษย์พี่หลินของฟางเหิงสวมเสื้อผ้าของชายผู้นี้ ยุ่งอยู่กับงานบ้านต่างๆ ในขณะที่ชายผู้นี้ยืนอยู่ข้างโต๊ะ รอกินข้าวกับนางอยู่

จากสถานการณ์นั้น สิ่งที่เสินอี้พูดก็ไม่น่าจะผิด

เพียงแต่ เขาไม่ได้พึ่งพาความแข็งแกร่ง แต่ใช้วิธีอื่นที่อธิบายไม่ได้

“สุดท้าย”

เสินอี้มองไปที่คุณยายที่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดัง เห็นหญิงชราค้ำประตูด้วยท่าทางขี้ขลาด เขาจึงยิ้มอย่างขำขัน น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนลงโดยไม่รู้ตัว “เขาเป็นคนลงมือก่อน”

หญิงชราพยักหน้า นางพูดเบาๆ  “ข้าเห็นมันทั้งหมด เด็กแซ่เหิงมันเป็นเด็กไม่ดี ส่วนเจ้าเป็นเด็กดี แค่สอนมันเล็กน้อยให้มันจำไว้ ดีกว่าไปให้คนอื่นสอนข้างนอก”

เมื่อได้ยิน หลี่ซินฮั่นและคนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า

คุณยายคิดว่า การต่อสู้ของปรมาจารย์ยุทธเหมือนเด็กเล่นกัน อาจเพราะทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว

นี่เป็นเพราะพวกเขายังไม่ได้เริ่มลงมือต่างหาก!

แต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นฟางเหิงพ่ายแพ้มาก่อน

“ขอบคุณสำหรับการดูแลในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ข้าขอลา...”

เสินอี้โค้งคำนับเล็กน้อย หันหลังออกจากสวน

เมื่อเห็นฟางเหิงยังยืนนิ่งอยู่ หลี่ซินฮั่นจึงรู้สึกโล่งใจ เขาพาคนอื่นๆ เดินตามไป

เมื่อเดินมาสักพัก เขายังคงสงสัย “เมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น?  ทำไมเขาถึงถอนตัวกลับไป?”

หลี่มู่จิงเดินตามมาอย่างช้าๆ  นางเก็บกริชสั้น แล้วพูดว่า “ใครจะไปรู้ อาจจะเป็นเพราะเขาวิ่งเร็วเกินไป เลยธาตุไฟเข้าแทรกละมั๊ง?”

ระหว่างที่พูด นางมองเสินอี้ด้วยความสงสัย

แม้นางจะไม่เคยเห็น แต่นงเคยได้ยินเกี่ยวกับห้าวิชาพิเศษของท่านแม่ทัพตอนที่เขายังหนุ่ม  และวิชาที่ดูเรียบง่ายที่สุดคือ "วิชาตัดชีพจรจับมังกร"

เมื่อคิดถึงท่าทางและการกระทำของฟางเฮ้งเมื่อกี้

นางมองไปที่มือของเขาที่วางบนด้ามดาบอย่างเงียบๆ อืม ขาว เรียวยาว ช่างสวยงามจริงๆ!

“พี่สาว แบบนี้มันจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ของท่านกับเขาหรือเปล่า?” หลี่ซินฮั่นรู้สึกปวดหัว เขาขยี้คิ้วแล้วกล่าวต่อ  “ท่านพ่อเป็นคนเลือกลูกเขยด้วยตัวเอง ท่านพ่อส่งพี่สาวเข้าแผนกปราบปีศาจ มันก็เพื่อให้ท่านคุ้นเคยกับเขาล่วงหน้า”

“ลูกเขยบ้าอะไร? ไร้สาระน่า!”

หลี่มู่จิงเก็บสายตา นางพูดอย่างไม่สนใจ “เจออะไรก็ชอบอ้างชื่อพี่สาว เจ้าเด็กขี้แย”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ คนอื่นๆ มองมาด้วยท่าทางประหลาด หลี่ซินฮั่นเปลี่ยนสีหน้า “ข้าไม่ได้เรียกท่านพี่มานี่ ถ้าคนของข้าไม่อยู่ที่อื่น ข้าก็คงไม่ขอความช่วยเหลือจากท่านหรอก!”

เขาพูดพลางมองไปที่เสิ่นอี้ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่ความเฉยเมยของเขาเมื่อเผชิญหน้ากับฟางเหิง เสินอี้ก็เหนือกว่าเขาแล้ว

คนที่มีจิตใจแบบนี้ แต่มาจากเมืองเล็ก ๆ อย่างไป๋อวิ๋น มันยากที่จะเข้าใจจริงๆ...

“เรากำลังจะออกเดินทาง เจ้ามีอะไรต้องการอีกไหม?”

เสินอี้พยักหน้า  “ข้าต้องการตำราบ่มเพาะขอบเขตวารีหยก”

“ไม่ใช่... หัวหน้าหลี่หมายถึงว่า เจ้าต้องการสิ่งของที่ใช้งานได้ทันที อย่างเช่น อาวุธหรือชุดเกราะป้องกันไหม?” หลิวซิวเจี๋ยทำปากจู๋ เขาคิดอะไรอยู่เนี่ย กำลังจะออกไปปราบปีศาจ ดันอยากพกตำราไป มันจะมีประโยชน์อะไร?

“ถ้าเจ้ามีความสัมพันธ์กับตระกูลหลี่แห่งชิงโจว ข้าให้เจ้าได้เลยตอนนี้เลย”

หลี่ซินฮั่นหยุดเดิน พูดประโยคที่ทำให้คนอื่นๆ ตกตะลึง “มาเป็นผู้พิทักษ์ตระกูลของข้า หรือแต่งงานกับหญิงสาวในตระกูลของข้าก็ได้ หญิงสาวที่สืบเชื้อสายตรงจากตระกูลอาจจะยากหน่อย แต่สายรองย่อมไม่มีปัญหา ถ้าเจ้าถูกใจ ข้าสามารถจัดการให้ได้ทันที”

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ไม่ว่ายังไง เสี่ยวเว่ยแห่งแผนกปราบปีศาจคนหนึ่งสามารถที่จะแต่งงานกับหญิงสาวจากตระกูลหลี่ได้ มันไม่ได้ถือว่าเป็นการแต่งงานที่สูงเกินเอื้อม

แต่กับผู้พิทักษ์ตระกูลนั้นแตกต่าง

เมื่อเทียบกับคนที่จ้างมาด้วยเงิน การใช้คำว่า "ผู้พิทักษ์" หมายความว่าพวกเขาเข้าร่วมตระกูลหลี่ คอยปกป้องตระกูลตลอดชีวิต แม้แต่ความสัมพันธ์ก็ยังใกล้ชิดกว่าญาติฝ่ายมารดา

ประเด็นคือ ไม่ว่าเสินอี้จะมีอนาคตสดใสแค่ไหน พรสวรรค์ในการต่อสู้ของเขาจะสูงมากแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาก็เป็นแค่ผู้ฝึกฝนขอบเขตเริ่มต้นขั้นสมบูรณ์แบบเท่านั้น

แม้ว่าเขาจะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดจนถึงขอบเขตวารีหยกได้พรุ่งนี้ แต่ตราบใดที่วันนี้เขายังไม่ก้าวข้าม เก้าส่วนล้วนไม่มีความหมาย

เส้นทางแห่งการต่อสู้ ดูเหมือนจะถึงได้เพียงครึ่งก้าว แต่บางทีอาจจะรอจนกลายเป็นเถ้าธุลี เท้าก็ยังลอยอยู่กลางอากาศ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ

“ทำไมหญิงสาวสายตรงถึงไม่ได้?” หลี่มู่จิงถามพลางเอียงคอมองด้วยความสงสัย

หลี่ซินฮั่นกระตุกมุมปากสองครั้ง “เรื่องของนาง ข้าตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องได้รับการยินยอมจากท่านพ่อก่อน”

“ฮ่าๆๆ”  หลี่มู่จิงวางมือบนไหล่ของเสินอี้ นางหัวเราะร่า “ล้อเล่นน่ะ หนุ่มน้อย เจ้าอย่าตึงเครียดนักเลย”

เสินอี้ปัดมือนางออก มองไปที่หลี่ซินฮั่นอย่างใจเย็น “วิชาของแผนกปราบปีศาจล่ะ?”

“…”

หลี่ซินฮั่น รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย  ที่แท้การให้เกียรติขนาดนี้ก็ไม่สามารถทำให้เขาตกใจได้

แต่เขายังคงอธิบายอย่างอดทน "ถึงแม้ว่าเจ้าจะสวมชุดลายเมฆ แต่เจ้าก็ยังไม่ใช่คนของแผนกปราบปีศาจ ที่นี่ไม่เหมือนกับตระกูลหรือสำนักภายนอก  ข้างนอก ศิษย์ที่มีพรสวรรค์และความสามารถ มักจะได้รับการดูแลเอาใจใส่เหมือนสมบัติล้ำค่า"

"เพราะว่าเมื่อเจ้าเข้าร่วมสำนัก เจ้าก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน เจ้ายิ่งแข็งแกร่ง สำนักก็ยิ่งแข็งแกร่ง พวกเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน"

"แล้วแผนกปราบปีศาจล่ะ มันไม่เหมือนกันเหรอ?"  เสินอี้เพิ่งเคยได้ยินมุมมองนี้

"แน่นอนว่ามันไม่เหมือนกัน"

หลี่มู่จิงเบ้ปาก โบกมือไปมา "แผนกปราบปีศาจอยู่ภายใต้ราชสำนักจักรพรรดิ ไม่จำเป็นต้องขยายอำนาจ มันต้องการแค่ความสงบสุขในชิงโจว ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือปรมาจารย์ยุทธผู้เก่งกล้า ล้วนเป็นสิ่งที่ทำลายความสงบสุขของชิงโจว"

"แน่นอน มันต้องการพลังที่เพียงพอเพื่อยับยั้งทุกฝ่าย"

"แต่มันขึ้นอยู่กับว่า เจ้าต้องแสดงให้เห็นว่าเจ้าเป็นดาบที่ใช้ปราบปีศาจ ไม่ใช่ตัวที่เอาแต่กินยาล้ำค่าแต่ไร้ประโยชน์ต่อชิงโจว"

ขอทานเดินเข้ามารับช่วงต่อ "พูดตรงๆ ก็คือ ทำงานก่อน กินข้าวทีหลัง... อย่างน้อยตอนที่เจ้าโชว์ลายเมฆบนแขนเสื้อ เจ้าควรมีผลงานรองรับ"

"รางวัลของแผนกปราบปีศาจนั้นเหนือกว่ารางวัลใดๆ ที่สำนักภายนอกมอบให้"

"อาทิเช่น 'ตำราหลอมสุริยาสายฟ้าวายุ'  สำหรับการก้าวข้ามขีดจำกัดขอบเขตวารีหยก วิชานี้สามารถเชื่อมต่อกับวายุและอัสนีได้อย่างราบรื่น ทั่วทั้งชิงโจว ตำราขอบเขตวารีหยกที่ใช้บ่มเพาะปราณแก่นแท้ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่านี้ แม้จะรวมกับตำราในตำนาน มันก็หาได้ไม่ถึงสามเล่ม"

เขาพูดพลางมองไปที่พี่น้องตระกูลหลี่ข้างๆ เขาพยายามเรียบเรียงถ้อยคำ  "ตระกูลหลี่เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงมากในชิงโจว ตำราบ่มเพาะปราณแก่นแท้ที่สืบทอดกันมา มันสามารถเชื่อมต่อกับจุดเฉียวได้เพียงหนึ่งร้อยยี่สิบหกจุด แต่ตำราบ่มเพาะของแผนกปราบปีศาจ มันสามารถกระตุ้นจุดเฉียวได้ถึงสองร้อยเจ็ดสิบจุด  ประสิทธิภาพในการฝึกฝนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า"

"เฮ้ย!"

หลี่ซินฮั่นอดไม่ได้ที่จะเตะเขา  "เจ้ารู้มากเกินไปแล้ว"

"......"

เสิ่นอี้ละสายตาไปทางอื่น มือที่จับด้ามดาบก็กำแน่นขึ้นเล็กน้อย...

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด