บทที่ 44 เผยความเก่งกาจ
บทที่ 44 เผยความเก่งกาจ
ร่างของนางปีศาจจิ้งจอกเคลื่อนไหวอย่างว่องไว นางนั่งพิงหัวเตียง
นางใช้มือข้างหนึ่งปิดแขนที่บาดเจ็บ เงยหน้าขึ้นมองด้วยความหวาดกลัว จากนั้นใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเยาะที่เต็มไปด้วยความอับอาย "ดี ดี ดีมาก ข้ายังคิดว่าคนตระกูลหลินหลอกข้าซะอีก ที่แท้เจ้าเป็นคนฆ่าอิ๋นหลางจริงๆ"
ทันใดนั้นนางปีศาจจิ้งจอกก็ดึงผ้าห่มออก
ในผ้าห่มปรากฏว่าหลินไป๋เว่ยที่สวมเพียงชุดชั้นในบางๆ เผยไหล่ขาวให้เห็น ใบหน้างดงามมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง คราบเลือดที่มุมปากแห้งเกรอะกรัง
ดวงตาของนางอยู่ในภวังค์ พยายามดิ้นรนเพื่อรักษาสติ
นางปีศาจจิ้งจอกเอามือกุมคอหลินไป๋เว่ย เล็บแหลมคมฝังลึกเข้าไปในเนื้อ เสียงของนางร้องแหลม "ข้าให้เจ้าข่มขืนนังหญิงเลวทรามผู้นี้ ให้เจ้าทรมานนังผู้นี้ ให้เจ้าจัดการสุนัขตัวเมียตัวนี้! แต่เจ้ากลับไปเรียนวิชาจากนางสารเลวนี่เนี้ยนะ!"
"เจ้าช่างสอนเก่งจริงๆ ขุนพลหลินของข้า! แถมยังหลอกสุนัขที่ข้าเลี้ยงให้หักหลังข้าอีก เจ้าคงให้ประโยชน์กับเขาไม่ใช่น้อยเลยสินะ?"
ใบหน้าของทั้งสองเหมือนกันเป๊ะๆ แต่ดวงตาของนางปีศาจจิ้งจอกกลับเต็มไปด้วยความหึงหวง ซึ่งมันดูน่ากลัวเล็กน้อย
ในวินาทีที่คำพูดนั้นถูกเอ่ยออกมา ดวงตาที่พร่ามัวของหลินไป๋เว่ยก็ฉายแววตื่นตระหนกเล็กน้อยจนแทบจะมองไม่เห็น
หลังจากนั้นไม่นาน แม้จะอ่อนแอ แต่นางก็ยังฝืนยิ้มออกมา "เจ้าพูดมากเสียจริง พอเถอะ ข้าหิวแล้ว..."
เมื่อนางปีศาจจิ้งจอกเห็นหลินไป๋เว่ยหลับตาลง สายตาของมันก็ค่อยๆ เย็นชา นางพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า "สมแล้วที่เป็นผู้ที่มีเบื้องหลัง ตกต่ำขนาดนี้เจ้ายังคงสงบนิ่งได้ ทำไมเจ้าต้องแกล้งทำท่าทางแบบนี้ ข้าสังหารเจ้าไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาทำไม่ได้ ใช่ไหม?"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลินไป๋เว่ยก็เริ่มรู้สึกสั่นคลอน นางกัดริมฝีปากอย่างเงียบๆ "..."
ปีศาจจิ้งจอกมองไปทางเสินอี้ด้วยความดูถูก "แค่ได้ความกรุณาเล็กๆ น้อยๆ ก็ถูกซื้อตัวได้ เจ้าคิดว่านางเป็นคนดีจริงๆ งั้นเหรอ? ช่างโง่เขลานัก! เจ้ารู้หรือไม่ว่าด้วยสถานะของอาจารย์ของนาง แค่เจ้าลงมือจับนางในวันนั้น มันก็ถือว่าเป็นความผิดที่อภัยไม่ได้แล้ว?"
เสินอี้จ้องมองระฆังตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ
จากต้นจนจบ ปีศาจจิ้งจอกไม่เคยสนใจมันเลย แต่สิ่งนี้กลับหมุนเองได้โดยไม่ต้องอาศัยลม
ดาบสีดำที่ขับเคลื่อนด้วยวิชาดาบโลหิตสังหารขั้นสมบูรณ์แบบ ไม่สามารถฟันลงไปได้แม้ครึ่งฉื่อ
พูดได้ว่ามันไม่ใช่อาวุธ แต่เหมือน "สมบัติวิเศษประเภทป้องกัน" ที่เคยจินตนาการไว้มากกว่า
กลายเป็นว่าเวทมนตร์ของโลกนี้ มันช่างน่าอัศจรรย์ถึงเพียงนี้เชียวเหรอ?
สมแล้วที่เป็นตระกูลปีศาจที่มีชื่อเสียง แค่รุ่นสองก็ทำให้เขาได้เปิดโลกทัศน์
"เจ้าฟังที่ข้าพูดบ้างไหม?" ปีศาจจิ้งจอกโบกมือเรียกระฆังทองแดงกลับมาที่นิ้วด้วยความหงุดหงิด
“…” แม้จะรู้สึกกังวล แต่หลินไป๋เว่ยก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก ความเย็นชาของบุคคลผู้นี้ ไม่ได้เป็นแค่นางคนเดียวสินะ...
เสินอี้เก็บดาบยาว เดินเข้าไปหาผู้หญิงทั้งสองคน
"หยุด! อย่าขยับ!"
บางทีอาจเป็นเพราะดาบเมื่อกี้นี้โหดร้ายเกินไป มันจึงทิ้งรอยแผลในใจไว้บ้าง
เมื่อเห็นเสินอี้เดินเข้ามา ปีศาจจิ้งจอกก็เกร็งนิ้วโดยไม่รู้ตัว เลือดสีแดงสดไหลรินลงมาตามลำคอของหลินไป๋เว่ย ทำให้นางครางเบาๆ และขมวดคิ้ว
ถึงอย่างนี่นชายหนุ่มก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน เขายังคงก้าวไปยืนอยู่ตรงหน้านาง
ปีศาจจิ้งจอกมองความเฉยเมยบนใบหน้าของเขา ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ความสัมพันธ์ระหว่างเสินอี้และหลินไป๋เว่ยดูเหมือนจะไม่ใกล้ชิดอย่างที่นางคิด อย่าว่าแต่คนรักที่รักกันเลย แม้แต่ความสัมพันธ์อาจารย์ลูกศิษย์ที่สั้นๆ ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้
"ถ้าเจ้าไม่สนใจนาง ทำไมเจ้าไม่จัดการนางให้เรียบร้อยไปเลยล่ะ ข้าสัญญาว่าจะให้เจ้าไปหลบที่เป้ยหยา(หน้าผาทางทิศเหนือ) เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เรื่องของอินหลางก็จบลงแค่นี้ ข้าจะไม่ติดตามมันอีกต่อไป..."
ปีศาจจิ้งจอกลังเลอยู่นานสองนาน ในที่สุดก็ยื่นข้อเสนอที่อีกฝ่ายไม่อาจปฏิเสธได้
เสินอี้สร้างความโกรธแค้นให้กับแผนกปราบปีศาจไปแล้ว เขาจะมีทางถอยกลับได้อย่างไร?
ทั้งคู่เหมือนตั๊กแตนบนเชือกเส้นเดียวกัน ถ้าเชือกขาดพวกเขาทั้งคู่ก็ร่วงหล่น แถมพวกเสี่ยวเว่ยจากแผนกปราบปีศาจที่น่าสาปแช่งเหล่านั้นได้แอบลอบเข้ามาในเมืองแล้ว ส่วนนางเองก็เริ่มเบื่อหน่ายกับตระกูลหลิน มันคงถึงเวลาจบเกมนี้ซะที
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินไป๋เว่ยก็ลืมตาขึ้น นางมองชายหนุ่มอย่างเงียบๆ ริมฝีปากสีแดงขยับ ต้องการจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่นางก็รู้สึกอ่อนแรงจนพูดไม่ออก
เดิมทีนางคิดว่าเมื่อนางคุ้นเคยกับเสินอี้มากขึ้น นางจะหาโอกาสเปิดเผยตัวตน แต่ตอนนี้ปีศาจจิ้งจอกมาเปิดเผยทุกอย่าง ด้วยนิสัยที่รอบคอบของเขา แม้นางจะพูดมากแค่ไหน มันก็ไม่มีทางทำให้เขาเชื่อคำสัญญาของนางได้
ระหว่างที่หลินไป๋เว่ยกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดีอยู่นั้น นางก็เห็นเสินอี้ยกมือขึ้น
เพี้ยะ!
นิ้วมือเรียวบางแต่ทรงพลังตวัดเข้าที่ใบหน้าของปีศาจจิ้งจอกอย่างรวดเร็ว เสียงนั้นดังกึกก้องไปทั่วห้อง
พลังอันยิ่งใหญ่ที่เหนือกว่าขอบเขตเริ่มต้นระเบิดออกมาจากฝ่ามือ ร่างของนางปีศาจจิ้งจอกที่ดูบอบบางถูกตบจนล้มหงายหลัง จากนั้นชายหนุ่มก็คว้าหลังคอของนาง แล้วเหวี่ยงนางเข้าใส่ประตูอย่างรุนแรง
"ถ้าเจ้าไม่กล้าฆ่านาง เจ้าก็อย่าทำท่าทางโหดเหี้ยมสิ"
เสินอี้ขยับข้อมือ แล้วหันไปมอง
ปีศาจจิ้งจอกล้มกลิ้งลงกับพื้นด้วยสีหน้าไม่เชื่อ ใบหน้าของนางบิดเบี้ยว ขนยาวงอก ริมฝีปากยื่นยาว คายฟันที่หักออกมาจากปาก
การตบแบบสบายๆ ของอีกฝ่าย ทำให้ซี่โครงของมันหักไปหลายซี่
เมื่อนางยกศีรษะขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของปีศาจจิ้งจอกก็เต็มไปด้วยความชั่วร้าย "เจ้าได้ตายแน่... เมื่อข้ากลับไปรายงานท่านปู่สาม ข้าจะลอกหนังเจ้าด้วยมือข้าเอง..."
การยั่วยุทั้งแผนกปราบปีศาจและเผ่าจิ้งจอกแห่งเป้ยหยา ทำให้เขาไม่มีทางรอดในชิงโจว!
หลินไป๋เว่ยอ้าปากค้าง มองดูเงาหลังที่ยืนตรงอยู่ข้างหน้านาง
หลินไป๋เว่ยคิดว่า... อย่างน้อยเขาก็ต้องถามที่มาของนาง เพราะนางมัวแต่ปิดบังมาตลอด สิ่งที่นางกลัวก็คืออีกฝ่ายจะรู้ทุกอย่าง จากนั้นเขาตัดสินใจฆ่านางเพื่อปิดปาก
แต่ตอนนี้ เมื่อความจริงถูกเปิดเผย เสินอี้กลับลงมืออย่างโหดเหี้ยม ซึ่งแตกต่างจากจินตนาการของนางมาก
"..."
เส้นประสาทที่ตึงเครียดของหลินไป๋เว่ยคลายลงชั่วขณะ รอยยิ้มที่แสร้งทำเป็นสงบนิ่งค่อยๆ เลือนหายไป เพราะเมื่อมุมปากของนางแตก การยิ้มออกมามันก็เจ็บจริงๆนะแหละ...
นางปรับการหายใจ เสียงแหบแห้งเอ่ยว่า "อย่าไปสนใจมัน สมองของมันไม่ค่อยปกติ"
ตราบใดที่นางยังอยู่ในเมืองไป๋อวิ๋น ปู่สามของปีศาจจิ้งจอกก็จะไม่มีทางก้าวเท้าเข้ามาที่นี่ได้โดยง่าย ไม่งั้นคงไม่ใช่แค่ผนึกจุดเฉียวของนางแล้วส่งกลับเข้าเมืองแน่ๆ
แม้แต่ความคิดที่จะฆ่านาง มันก็เป็นเพียงการตัดสินใจเองของนางจิ้งจอกน้อยตัวนี้
แน่นอน หลินไป๋เง่ยก็ไม่อยากให้เสินอี้จะยุ่งเกี่ยวกับปีศาจจิ้งจอกมากนัก
ด้วยสมบัติวิเศษระฆังทองแดงที่บรรพบุรุษประทานให้ แม้แต่ปรมาจารย์ยุทธในขอบเขตวารีหยกทั่วไป หากไม่มีวิธีการที่ชั่วร้ายบางอย่าง มันก็ยากที่จะเอาชนะมันได้
เมื่อกี้แค่ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต ปีศาจจิ้งจอกเลยไม่ได้ตอบโต้ ดังนั้นระฆังทองแดงจึงไม่ได้ถูกกระตุ้น
แต่ถ้าบีบให้ปีศาจจิ้งจอกต้องต่อสู้จนตัวตาย กระตุ้นความโหดร้ายของมันละก็...
ทันใดนั้น หลินไป๋เว่ยก็เห็นเสินอี้เดินไปข้างหน้า
นางฝืนทนความเจ็บปวด รีบยื่นมือไปจับแขนเสื้อของเขา "ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ ไม่จำเป็นต้อง..."
เสินอี้หันกลับมา มองนางด้วยสีหน้าอย่างประหลาดใจ
ภายใต้สายตานั้น หลินไป๋เว่ยเม้มริมฝีปาก ทันใดนั้นก็รู้สึกอึดอัด เหมือนนางเข้าใจผิดอะไรบางอย่างเช่นเดียวกับปีศาจจิ้งจอก
"ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เจ้า...เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน..."
ยิ่งพูดนางก็ยิ่งสับสน นางดูเหมือนจะสูญเสียความสงบและเฉลียวฉลาดในอดีตไปเสียแล้ว
“…”
ปีศาจจิ้งจอกค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มองทั้งคู่ด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วจึงยกระฆังในมือขึ้น
เสียงระฆังดังกังวาน อากาศเริ่มหยุดนิ่ง
เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ การกระตุ้นครั้งนี้ทำให้ออร่าทั่วร่างของมันลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ประสิทธิภาพของระฆังทองแดงนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า!
ปีศาจจิ้งจอกไม่เข้าใจจริงๆ ถึงแม้มันจะใช้ใบหน้าเดียวกัน สวมใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกัน แต่ทำไมฝ่ายตรงข้ามกลับโชคดีอยู่เสมอ แม้จะบังเอิญพบกับปู่สามของมัน แต่นางก็ยังสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ แม้จะถูกมือปราบจับไป แต่จนถึงปัจจุบันนางยังคงเป็นสาวบริสุทธิ์ แม้แต่รอยแผลถลอกก็ไม่มี
แถมในเสี้ยววินาทีที่คอของนางเกือบจะหัก นางยังสามารถยิ้มออกมาอย่างน่ารังเกียจได้
ความหึงหวงในดวงตาของปีศาจจิ้งจอกค่อยๆ เข้มข้นขึ้น มันกลับกลายเป็นความโกรธแค้น "ไอ้เจ้าสุนัขขี้แพ้ ทำไมเจ้าถึงเข้าข้างนาง!? ถึงแม้ข้าจะสังหารนางไม่ได้ แต่อย่างน้อยข้าก็จัดการเจ้าก่อนได้!"
จู่ๆ กริชก็เข้ามาอยู่ในมือทั้งสองข้าง ท่ามกลางเสียงระฆังที่ดังกังวาน มันพุ่งเข้าโจมตีเสินอี้ทันที
หลินไป๋เว่ยรู้สึกถึงร่างกายที่แข็งค้าง สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป
แม้แต่ตอนที่นางเคยบังเอิญพบกับปีศาจขอบเขตหนิงตัน(ควบแน่นยา) นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ให้สงบได้ แต่ตอนนี้บนใบหน้าของนางปรากฏรอยตื่นตระหนกที่ไม่ค่อยได้พบเห็น!
ทันใดนั้น หลินไป๋เว่ยรู้สึกว่าเสินอี้สะบัดมือนางออก
ในหล่มโคลนแบบนี้ อีกฝ่ายยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างไร?
ในชั่วพริบตา สายลมไร้รูปร่างก็รวมตัวกันในห้อง มันกลายเป็นรูปธรรมที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เหมือนดาบที่บินว่อนเต็มท้องฟ้า ลอยอยู่กลางอากาศ
ความเย็นยะเยือกแผ่กระจายไปทั่ว เงียบสงัดราวกับไม่ใช่โลกมนุษย์
ปีศาจจิ้งจอกจับกริชยืนนิ่ง ใบหน้าของมันว่างเปล่า มองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
เสินอี้ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้าซีดขาว แต่ดวงตาของเขากลับนิ่งเฉยราวกับน้ำในบ่อโบราณ
ความคิดของเขาขยับเล็กน้อย ปีศาจจิ้งจอกก็รู้สึกทันทีว่าตัวเองถูกล็อกด้วยพลัง ชั่วขณะเหมือนถูกใครบางคนบีบคอไว้จนหายใจไม่ออก
ในเสี้ยววินาที พลังงานนับไม่ถ้วนก็กระหน่ำออกมา มันพุ่งเข้าใส่ปีศาจจิ้งจอกจนหมดสิ้น!