บทที่ 39 กำจัดปีศาจวานรด้วยมือเปล่า
บทที่ 39 กำจัดปีศาจวานรด้วยมือเปล่า
ปีศาจวานรสวมเสื้อกันฝนถอดหมวกไม้ไผ่ออก ขนสีดำที่ประปรายดูแก่ชรา
ถึงตัวมันจะเล็ก แต่ศีรษะค่อนข้างใหญ่ ริมฝีปากพลิกเผยให้เห็นเขี้ยวสองซี่ "ฝีมือดาบดี แต่ดาบไม่ค่อยดี"
ปีศาจวานรร่างใหญ่คุกเข่าลง หยิบสิ่งที่ห่อด้วยผ้าไหมออกมา มันค่อยๆ เปิดผ้าไหมเผยให้เห็นดาบยาว
ฝักดาบเรียบตรงสีดำสนิท มีลวดลายสีทองวาววับ
มันยื่นมือยกมันขึ้นอย่างเคารพ
ปีศาจวานรเฒ่าในเสื้อกันฝนใช้กรงเล็บที่แห้งกร้านจับด้ามดาบ ดึงใบดาบสีดำออกมา มองดูอย่างรักใคร่
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่
เสินอี้สังเกตเห็นว่า... ยิ่งปีศาจเหล่านี้มีพลังมากเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งชอบเลียนแบบมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น
ราชาปีศาจสุนัขขนเหลืองชอบนั่งเกี้ยว แต่ยังคงหมกมุ่นอยู่กับเรื่องกิน มักคิดถึงการกินมนุษย์ และตั้งชื่อตัวเองเป็นราชา(หวงผีจื่อต้าอ๋อง)
ปีศาจวานรเหล่านี้ชอบใส่เสื้อผ้ามนุษย์ เลือกชื่อเพราะๆ จากหนังสือ ตั้งชื่อตัวเองว่า "ตงเทียน(ทะลวงสวรรค์)" และต้องการนอนกับผู้หญิงที่สวยงามอ่อนหวาน
ส่วนพวกยายเฒ่าเกล็ดเขียวเหล่านั้นก็แต่งหน้าทาปาก แต่งเนื้อแต่งตัว แถมยังต้องการลักพาตัวช่างฝีมือที่ดีที่สุดมาสร้างเครื่องประดับที่สวยงามและหรูหรา
“ดาบของข้ามีชื่อว่า…” หยวนตงเทียน(วานรทะลวงสวรรค์) กลั้นลมหายใจ ดวงตาของมันเร่าร้อน เตรียมที่จะเล่าเรื่องราวที่มาของดาบวิเศษเล่มนี้ให้เสินอี้ฟัง
เสินอี้ไม่เสียเวลาฟัง เขาปล่อยเพลงดาบฟาดไปที่วานรยักษ์ที่คุกเข่าอยู่
อะไรวะ! ก่อนจะต่อสู้ พวกมันยังต้องกราบไหว้บูชาก่อน มันเรื่องอะไรกัน!?
ออร่าปราณสีเลือดห่อหุ้มใบดาบ ฟาดไปที่คอของวานรยักษ์อย่างรุนแรง
หลังจากฝึกฝน "คัมภีร์ร่างแปดขุมทรัพย์สุริยันทองคำ" จนสำเร็จ เสินอี้รู้สึกว่าพลังของเขาเหมือนแม่น้ำใหญ่ไหลเชี่ยว ไม่สิ้นสุด เหนือกว่าเมื่อก่อนมาก
ปีศาจทั้งสองตัวดูเหมือนจะไม่คาดคิดว่าเขาจะโจมตีอย่างฉับพลัน
วานรยักษืยังคงสับสนอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะยื่นมือไปขวางดาบอย่างฉุกละหุก
เพียงชั่วขณะนั้น ใบดาบก็ตัดขั้วลำคอของมันราวกับตัดเต้าหู้
ศีรษะที่จ้องมองด้วยความงุนงงกลิ้งไปตกที่เท้าของหยวนตงเทียน
มันถือดาบปลายแหลม รูจมูกหดและขยายอย่างรวดเร็ว มันส่งเสียงร้องแหลมสูงว่า "เฮ้ย! เจ้าทำบ้าอะไร!? ไอ้สถุลป่าเถื่อนที่ไม่รู้จักกฎเกณฑ์!"
แม้แต่ตัวมันเอง ก่อนจะกินก็ต้องใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดมือ อาบน้ำสามวันครั้ง เผากำยานห้าวันครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องสำคัญอย่างการฆ่าคน ยิ่งต้องแนะนำตัวเอง อธิบายที่มาที่ไป ว่าทำไมถึงต้องฆ่า และอธิบายว่าจะเอาชนะศัตรูแบบไหน
ทำไม... ทำไมเจ้าถึงทำเรื่องแบบนี้ได้หยาบคายและไม่สวยงาม!
ท่ามกลางเสียงร้องแหลม หยวนตงเทียนกระโจนขึ้นอย่างว่องไว ดาบสีดำในมือฟาดฟันอย่างต่อเนื่อง ทั้งแม่นยำและรุนแรง เพียงแค่เริ่มต้นก็แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานที่มั่นคง
ปราณดาบที่เย็นยะเยือกพุ่งออกมา กระท่อมมุงจากหลังเล็กระเบิดออกอย่างรุนแรง
แม้จะสับสน แต่การโจมตีของดาบสีดำในมือหยวนตงเทียนก็ยังเป็นระเบียบเรียบร้อย ลึกลับอย่างไม่น่าเชื่อ นี่คือวิชาดาบขอบเขตเริ่มต้นที่ฝึกฝนจนสำเร็จ
มันไม่เพียงแต่เรียนรู้การกระทำของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังฝึกฝนวิชาดาบอีกด้วย
"ไอ้สารเลว ไร้มารยาท สันดานต่ำ สมควรตาย!"
"ฆ่าลูกหลานของข้า สมควรตาย!"
"ตายซะ! ตายตายตาย!"
หยวนตงเทียนก้มตัวลง ส่งเสียงร้องโหยหวน รุกเข้าหาทีละก้าว ศีรษะและแขนยาวสองข้างแกว่งไปมาอย่างบ้าคลั่ง ดาบแต่ละเล่มเร็วกว่าดาบก่อนหน้า
ท่ามกลางการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ เสินอี้ยังคงสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ก้าวเท้าถอยแม้แต่น้อย แต่ภายในใจกลับรู้สึกอึดอัด
วานรเฒ่าตัวนี้ไม่ใช่ปีศาจธรรมดา เห็นได้ชัดว่าได้รับการชี้แนะจากใครบางคน วิชาดาบที่มันใช้ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแขนของมันโดยเฉพาะ และดาบวิเศษนั้นก็ไม่ใช่ของธรรมดา
ดาบที่เขาถืออยู่ในมือมีราคาเพียงเจ็ดตำลึงเงิน และยังไม่รวมค่าธรรมเนียมของโรงตีเหล็ก…
ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่อยู่ในขอบเขตเริ่มต้นขั้นสมบูรณ์แบบเช่นเดียวกัน แถมยังมีทักษะการต่อสู้ที่ไม่ด้อยกว่าเขา ช่องว่างของอาวุธก็ปรากฏชัดขึ้นทันที
หากเขายังคงมีความคิดที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้โดยไม่ต้องได้รับบาดเจ็บ เขาเกรงว่าจะต้องจ่ายราคาที่สูงขึ้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เสินอี้ก็มองดูช่องว่างอย่างใจเย็น และฟันดาบออกไป
ความแตกต่างของอาวุธนั้นใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้มาก
เพียงแค่การปะทะกันครั้งเดียวด้วยพลังเต็มที่ ดาบทางการก็ถูกตัดขาด ใบดาบกระเด็นออก
โชคดีที่เขาคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า เขาจึงทิ้งด้ามดาบ ไม่ถอยหลังแต่กลับพุ่งเข้าหา พยายามบังคับให้ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายใกล้กันยิ่งขึ้น เขากำหมัดที่ทรงพลังของเขาชกออกไปอย่างรวดเร็ว
กลยุทธ์ของเขาคือหมัดแลกหมัด!
หยวนตงเทียนมองออกถึงความคิดของเสินอี้ ไม่เพียงมันไม่กลัว แต่กลับยิ้มออกมา
อย่างเหี้ยมโหด
ดาบวิเศษที่มันพกติดตัวมาหลายปีนั้น มีความคมกริบแค่ไหน มันผู้เป็นเจ้าของย่อมเข้าใจดีที่สุด
สู้แบบแลกหมัด? เจ้ายังมีชีวิตรอดเพื่อใช้หมัดต่อไปได้อีก!
ในชั่วพริบตา ดาบสีดำฟาดฟันไปที่ไหล่ของเสินอี้!
แต่ไม่มีภาพเนื้อหนังแยกออกจากกัน และไม่ได้ยินเสียงเนื้อถูกเฉือน
แก๊ง!
เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น
ทั้งคู่ต่างตกตะลึง
หยวนตงเทียนกำดาวยาวแน่นด้วยความงุนงง ไม่ว่าจะออกแรงมากแค่ไหน ใบดาบสีดำก็ไม่สามารถกดลงได้แม้แต่น้อย
“…”
มันเงยหน้าขึ้น มองเห็นความประหลาดใจในดวงตาของเสินอี้เช่นเดียวกัน
อะไร…
เจ้าแปลกใจอะไร? เจ้าจะทำเป็นหลบดาบทำซากอะไ? เจ้าทำท่าเหมือนจะสวนกลับแม้จะได้รับบาดเจ็บให้ใครดู!?
เพิ่งจะตั้งสติได้ หยวนตงเทียนก็ถูกนิ้วมือทั้งห้าที่ยาวและทรงพลังจับใบหน้าไว้ พลังอันมหาศาลเทลงมา ร่างของมันทั้งตัวถูกเหวี่ยงลงพื้นอย่างรุนแรง!
มันรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในทั้งหมดของมันจะแหลกสลาย
พลังเช่นนี้ ไม่ใช่พลังของขอบเขตเริ่มต้นอย่างแน่นอน มันคือระดับที่มันใฝ่ฝันถึงมาตลอด
ผู้ฝึกตนบ่มเพาะกายเนื้อที่เทียบเท่ากับขอบเขตวารีหยก!
ทำไมเจ้าถึงไร้ยางอายลอบโจมตี?
หยวนตงเทียนยังคิดไม่ทันจบ ก่อนที่หมัดที่ตกลงมาจะทุบใบหน้าอย่างรุนแรง
จากนั้นเลือดเริ่มคั่งในโพรงจมูก มันอ้าปากส่งเสียง "อั๊กอั๊ก" เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากปากไม่หยุด
สักพักเสียงลมจากหมัดดังก้องอยู่ในหู ราวกับเสียงกระซิบของยมทูต
ไกลออกไป
จางถูหูโจมตีด้วยหมัดอีกครั้ง
เขาและนักพรตโซ่วโถวมาจากสำนักเดียวกัน รู้จักรูปแบบต่อสู้ของกันและกันดี ชั่วครู่ ทั้งสองก็ไม่สามารถแยกแยะผู้แพ้หรือชนะได้
แต่หมัดนี้กลับสร้างผลงานอย่างน่าประหลาดใจ มันฟาดไปที่สันจมูกของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง
นักพรตโซ่วโถวปิดปากและจมูกด้วยความเจ็บปวด เขาไม่สนใจเลือดกำเดาที่ไหลออกมาจากนิ้ว จากร่องมือมือทั้งสองข้าง เขาจ้องไปที่ระยะไกลที่อยู่ด้านหลังจางถูหูด้วยความหวาดกลัว
"แก่ปูนนี้แล้ว เจ้ายังเล่นแบบนี้อยู่ คิดจะหลอกให้ข้าหันหลังกลับอย่างงั้นเหรอ? ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้ข้าจะต้องกำจัดไอ้สัตว์เดรัจฉานที่ทำลายคำสอนของสำนักให้สิ้นซาก!"
จางถูหูยกหมัดขึ้น ขณะกำลังจะทุบซ้ำ แต่เขากลับเห็นนักพรตโซ่วโถวยังคงจ้องมองไปที่ด้านหลังของเขาอย่างตั้งใจ
เขากัดฟันแน่นหันหลังกลับไปมอง
จากนั้นก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งแผ่นหลัง
เขาเห็นชายฉกรรจ์หลายสิบคนยืนนิ่งอยู่ มือของพวกเขาที่ถือหอกและธนูอ่อนปวกเปียก
ที่ด้านหน้า เสินอี้กำลังกดหัววานรเฒ่าไว้ ทุบมันด้วยหมัดอย่างเฉยชา บนหลังมือของเขามีคราบสีแดงและสีขาวเหนียวเหนอะหนะเหมือนแป้งเปียก ไหลลงมาเป็นหยดๆ
ทุกครั้งที่หมัดทุบลง ขาของปีศาจวานรก็สั่นสะท้าน
เนิ่นนานจนกระทั่งไม่มีเสียงใดๆ อีกต่อไป
เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืน พ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมายาวๆ ดวงตาสีดำสนิทหันมองกลับมา
ในชั่วพริบตาที่สายตาของเขาจ้องมอง เหล่ามือปราบและทหารก็ทรุดลงคุกเข่าด้วยขาท่าที่หมดแรง แม้แต่เสียงที่จะขอความเมตตาก็ไม่มี
"นานแค่ไหนกัน..."
จางถูหูกลืนน้ำลาย เขาเองยังไม่ถือว่าอุ่นเครื่องเลย ทางนั้นก็จบลงแล้วงั้นเหรอ?
ปีศาจขอบเขตเริ่มต้นสองตัว ตายไปอย่างนี้เนี้ยนะ?
เขาหันไปมองนักพรตโซ่วโถว
แต่เขาเห็นอีกฝ่ายล้มกลิ้งไปมาบนพื้น แล้วถอยไปไกลถึงยี่สิบจั้ง ดูไม่เหมือนผู้ฝึกตน แต่เหมือนกระต่ายที่ตกใจกลัวมากกว่า