Chapter 880 ยินดีต้อนรับอย่างงั้นรึ?
กล่าวตามจริง.
ภายในพิภพสงครามเวลานี้นั้นค่อนข้างสงบ ขอเพียงไม่ถูกสั่งเข้าพื้นที่สังหารอาชูร่า ทุกคนก็จะหวาดหวั่นที่จะปะทะกัน.
ส่วนจุนซ่างเซียวเพราะเขาเพิ่งเข้ามาในพิภพสงครามครั้งแรก จึงถูกไล่ล่าเอาหนึ่งร้อยแต้มบุญแรก ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์ก็คงสงบเหมือนเดิม.
สำหรับคนอื่นจากพิภพที่อยู่มาก่อนนั้น ปรกติสังหารได้เพียงแค่ 10 แต้มบุญ ไม่มีอะไรน่าสนใจนัก ไม่เหมาะที่จะเสี่ยงด้วยซ้ำ ทว่าหากเป็นผู้มาใหม่จากพิภพใหม่ สังหารครั้งแรกได้ถึง 100 แต้มบุญ เห็นชัดเจนว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง.
พิภพเช่นทวีปฉีไห่และทวีปหลิงหยุน พวกเขาเข้ามาในพิภพสงครามมานานหลายปีแล้ว ผู้คนต่างก็รู้กันและกัน.
หากไม่มีเหตุผลให้ต่อสู้ ถึงพบกันด้านนอก พวกเขาก็จะไม่ลงมือต่อกันและกัน ราวกับเป็นสิ่งที่รู้กันในใจอยู่แล้ว.
แม้นว่าพิภพสงครามจะเกิดขึ้นเพื่อให้ไล่ล่าสังหารกัน ทว่าก็ใช่ว่าพวกเขาจะพุ่งเข้าห้ำหั่นกันอย่างบ้าคลั่งแต่อย่างใด ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยที่สุดการข่มเหงรังแกผู้มาใหม่แทบจะเป็นกฎเกณฑ์ที่พวกเขารู้กัน ใช้กันจนเป็นธรรมเนียมมานานแล้ว.
บางพิภพนั้นขยายดินแดนจนมาถึงระดับที่เพียงพอแล้ว สำเร็จภารกิจไปเรียบร้อย การออกมานอกฐานที่มั่น ก็เพียงแค่ไล่ล่าหาแต้มบุญ เพื่อหาโอกาสแลกทรัพยากรและยกระดับตัวเองเท่านั้น.
สถานการณ์ของทวีปฉีไห่และทวีปหลิงหยุนเวลานี้.
พวกเขาเข้ามาในพิภพสงครามหลายร้อยปีแล้ว หลังจากขยายเขตแดนจนเพียงพอ ตอนนี้ก็มีเพียงแค่เก็บเกี่ยวผลของสนามรบเท่านั้น.
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อพิภพใด ขยายฐานที่มั่นได้ตามภารกิจแล้ว พวกเขาก็จะรอคอยต้อนรับเหล่าผู้มาใหม่ ไล่ล่าสังหารเพื่อเก็บแต้มบุญ เพื่อจะนำไปใช้แลกทรัพยากร.
เหล่าผู้มาใหม่จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะถูกรุมทึ้ง.
แน่นอน.
แม้นว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่ให้ไล่ล่าสังหารกัน ทว่าหากไม่ผิดกฎพวกเขาก็มักจะคำนวนผลได้ผลเสียก่อนเสมอ.
แต้มบุญสามารถแลกเปลี่ยนทรัพยากรได้ ทำให้ผู้คนพิภพต่าง ๆ จมอยู่ในความบ้าคลั่งเป็นธรรมดา.
หลายสิบปีมานี้ ตั้งแต่สถานการณ์เข้าสู่ภาวะสมดุล เหล่าพิภพต่าง ๆ แม้นว่าจะพบกันก็หาได้ปะทะกัน เว้นแต่จะพบกับสุดยอดของวิเศษเข้าเท่านั้น.
และแน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่ปรากฏของวิเศษขึ้นทีไร ก็เกิดการต่อสู้อย่างหนักหน่วงทุกครั้ง.
สุดยอดของวิเศษนั้นล้ำค่าเป็นอย่างมากทำให้ต่างฝ่ายต่างแย่งชิง ต้องการได้มาเป็นของตัวเอง ย่อมเป็นเรื่องปรกติ.
ไม่มีใครชื่นชอบการสังหาร จนทำเป็นเหมือนเป็นเรื่องปรกติได้.
น้อยครั้งมากที่จะมีการปะทะกันไล่ล่าสังหารกัน ซึ่งอาจเป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ที่ขัดแย้งส่วนตัว จึงได้ปะทะ และแย่งชิงเก็บแต้มบุญกัน.
......
ยอดฝีมือทวีปหลิงหยุนที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เป็นชายชราผมขาวผู้นำเอ่ยออกมาเล็กน้อย“พวกเจ้าขยันขันแข็งจริง ๆ.”
“พวกเจ้าก็ด้วยไม่ใช่รึอย่างไร!”
ชายวัยกลางคนของทวีปฉีไห่ ผู้นำเผยยิ้มมิคล้ายยิ้ม.
ก่อนหน้านี้ทั้งสอง เคยปะทะกันมาก่อน ทว่าความแข็งแกร่งเท่ากัน มีหลายคนล้มตายไป หากแต่ไม่สามารถตัดสินแพ้ชนะกันได้ ดังนั้นพบกันทีไร ต่างก็เอ่ยกล่าวเหน็บแนมอยู่เป็นประจำ หากแต่ก็ไม่กล้าเปิดการต่อสู้กันสักที.
ตั้งแต่ที่จุนซ่างเซียวหายไป พวกเขาเองก็แวะเวียน สำรวจพื้นที่รอบ ๆ นี้บ่อยที่สุด.
แน่นอนว่าแทบจะทุกคน หวังจะสังหารจุนซ่างเซียวกันทั้งนั้น ต้องไม่ลืมว่าเขามีค่าหัวคะแนนไล่ล่าถึง 500 แต้ม.
“ในความเห็นของข้า.”
ชายผมขาวเอ่ยออกมา“เจ้าหนูนั้นสามารถลบแสงแดงออกได้ พวกเจ้าอยู่กันเต็มเช่นนี้ เขาย่อมต้องลอบซ่อนตัวอยู่ไม่กล้ากลับมาแน่.”
“ชิ.”
ชายวัยกลางคนแค่นเสียงเย็นชา“สังหารคนของทวีปฉีไห่ไปมากมาย ถึงมันจะซ่อนตัวอยู่ ต่อให้พลิกแผ่นดินหา ก็ไม่มีทางที่จะหลีกหนีความตายได้.”
“โทษที.”
ชายชราผมขาวเอ่ยออกมาเล็กน้อย“นั่นคือเหยื่อทวีปหลิงหยุนของข้า.”
“เจ้ารึ?”ชายวัยกลางคนที่แค่นเสียงเย็นชา.
จากคำพูด ที่เผยความโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ทว่าก็ไม่คิดที่จะลงมือแต่อย่างใด.
“พวกเราไป.”
ชายผมขาวที่โบกมือ.
หลัก ๆนั้นเพราะว่าตรวจสอบเป้าหมายแล้ว แน่ใจว่าไม่พบร่องรอยใด ๆ ทั้งนั้น.
“พวกเรากลับ.”ชายวัยกลางคนเองก็เอ่ยกล่าวออกมาเช่นนั้น.
อย่างไรก็ตาม ขณะทั้งสองกลุ่มเตรียมที่จะจากไป ที่ฐานที่มั่นของทวีปชิงหยุนก็ปรากฏลมพัดหวิว ร่างหนึ่งคนก็ก้าวออกมา และฐานที่มั่นก็ขยายเพิ่มครึ่งเมตรด้วยเช่นกัน.
“ที่นี่......”
หลี่ชิงหยางที่ จ้องมองท้องฟ้าที่อึมครึม จ้องมองแผ่นดินสีแดง กล่าวเสียงเบา “นี่คือพิภพสงครามอย่างงั้นรึ?”
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานั้น ปรากฏกลุ่มก้อนของพลังที่แผ่ซ่านน่าเกรงขาม จากสองทิศทาง.
หลี่ชิงหยางที่ตระหนักได้ว่า เหล่ายอดฝีมือหลายสิบคนที่ลอยบนท้องฟ้านั้น ล้วนแต่มีระดับจักรพรรดิยุทธ์ สายตาที่จับจ้องมองมานั้นไม่เป็นมิตรเป็นอย่างมาก.
แม้นว่าเจ้านิกายจะเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ว่ามียอดฝีมือมากมายนับไม่ถ้วนอยู่ในพื้นที่แห่งนี้แห่งแล้วก็ตาม.
ทว่าอีกฝั่ง เหล่าจักรพรรดิยุทธ์หลายคนที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ต่างก็ชะงักไปตาม ๆ กัน พวกเขารู้สึกตื่นตะลึงขึ้นมาทันที!
ฐานที่มั่นของทวีปชิงหยุนเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย.
แล้วยังมีคนปรากฏตัวขึ้นอีก.
เหล่ายอดฝีมือหลายสิบคนของทวีปฉีไห่และทวีปหลิงหยุนที่จ้องเขม็งไปยังหลี่ชิงหยาง เด็กคนนี้ไม่ใช่คนที่ถูกหมายไล่ล่าไม่ใช่รึ?
อย่างไรก็ตาม.
ในเมื่อปรากฏในฐานที่มั่น ก็หมายถึงเป็นคนของทวีปชิงหยุนอย่างไม่ต้องสงสัย.
“ไอ้หนู!”
ชายวัยกลางคนที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ไส่หัวออกมาเร็วเข้า!”
เขาที่ไม่สามารถบอกได้ว่าจุนซ่างเซียวมีชีวิตอยู่หรือไม่? เช่นนั้นก็สังหารเจ้าเด็กนี่แทนก็แล้วกัน!
ชายชราผมขาวที่คิดจะนำคนกลับไป ก่อนที่จะหยุดชะงัก จิตสังหารที่รุนแรงแผ่ออกมาในทันที.
“น่ากลัวเล็กน้อย!”
หลี่ชิงหยางที่ชะงักเผยความตกใจ.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น ลู่เชียนเชียน เซียวจุ้ยจื่อและอีกหลายคนที่ค่อย ๆ ปรากฏตัวกันออกมาที่ละคน ๆ ในทุกครั้งที่ แต่ละคนปรากฏ ฐานที่มั่นของทวีปชิงหยุนก็ขยายออกมาด้วยเช่นกัน.
ไม่ยากที่จะคาดเดา ขอเพียงมีคนทวีปชิงหยุนปรากฏขึ้น ฐานที่มั่นจะเพิ่มขึ้นครึ่งเมตรสำหรับหนึ่งคน.
กล่าวได้ว่า ยิ่งคนเข้ามามาก พื้นที่ก็จะยิ่งขยายใหญ่ขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามก็มีจำกัดเช่นกัน นี่เป็นขนาดฐานที่มั่นที่เพียงพอให้ทุกคนได้ยั้งเท้าเท่านั้น ต้องการขยายไปมากกว่านี้ก็ต้องสังหารฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นเอง.
คนของทวีปฉีไห่และทวีปหลิงหยุนที่ค่อย ๆ เห็นคนทวีปชิงหยุนปรากฏตอนนี้ยิ่งงงงวยเข้าไปใหญ่.
โดยทั่วไปนั้นพิภพใหม่จะเข้ามาทุกห้าปี ทว่าคนกลุ่มนี้เข้ามาก่อนเวลาได้อย่างไร?
หรือว่านี่ คือความตั้งใจของพิภพเบื้องบนกัน?
พิภพเบื้องบน : อย่ามาใส่ความ ข้ายังไม่ได้ให้พวกมันเข้ามาเฟย!
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว ----”
คนแล้วคนเล่า หลงจื่อหยาง ซ่งเสวียนโจว และคนอื่น ๆของทวีปชิงหยุนปรากฏขึ้นในฐานที่มั่นทวีปชิงหยุน.
ขณะที่ทุกคนปรากฏขึ้น เห็นเหล่าจักรพรรดิยุทธ์หลายคนลอยอยู่บนอากาศ แววตาของทุกคนที่ลุกโชนด้วยเปลวเพลิงทันที.
ที่นี่.
ดูเหมือนว่าจะน่าเกรงขามยิ่งกว่าดินแดนลับเป็นตาย ดั่งที่เจ้านิกายเอ่ยจริง ๆ.
น่าตื่นเต้นเล็กน้อย!
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
เจียงเซี่ยและสองพี่น้องหนิงและเหล่าอาวุโสคนอื่น ๆ ก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน.
จากนั้นก็เป็นเสี่ยวหลงและเซียวโม่เซียน ฐานที่มั่นของทวีปชิงหยุนที่เพิ่มขึ้นทีละน้อย ๆ ตอนนี้มากกว่า 30 ตารางเมตรแล้ว.
ยอดฝีมือทวีปฉีไห่และทวีปหลิงหยุนที่ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที.
ในความคิดของพวกเขา ยอดฝีมือทวีปชิงหยุน 20 คน ก็หมายถึงเหยื่อ 20 คนนั่นเอง.
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น ร่างที่ทุกคนคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นในฐานที่มั่นทวีปชิงหยุนอีกครั้ง.
ยอดฝีมือทวีปฉีไห่ทันใดนั้นดวงตาเบิกกว้างระเบิดจิตสังหารอออกมาอย่างรุนแรง.
ราวกับแมวถูกเหยียบหาง แต่ละคนดวงตาแดงกล่ำ ขนทั่วร่างลุกตั้ง
ใช่แล้ว เป้าหมายของทุกคน คนที่ถูกออกหมายไล่ล่า จุนซ่างเซียวนั่นเอง
“ยินดีต้อนรับการคืนกลับพิภพสงครามอีกครั้ง”เสียงของระบบสตรีดังขึ้นในหู.
แน่นอนว่าเขาคุ้นเคยเสียงดังกล่าวนี้ดีอยู่.
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อ และคนอื่น ๆ ต่างก็ตะลึงไม่แพ้กันกับปฏิกิริยาของคนเหล่านี้.
“เอ๊ะ ๆ ?”
จุนซ่างเซียวที่ปรับสายตาได้แล้ว กวาดตามองคนสองกลุ่มด้านนอก พลางเผยยิ้มออกมา“รู้ว่าเปิ่นจั้วจะกลับมาวันนี้ เลยมาต้อนรับเป็นพิเศษอย่างงั้นรึ?”
“ต้องต้อนรับอยู่แล้ว!”
ชายวัยกลางคนที่กำหมัดกัดฟัน เอ่ยกล่าวรอดไรฟันออกมาว่า“สังหารคนทวีปฉีไห่ไปตั้งมากมาย รีบไสหัวออกมารับโทษซะ!”
จุนซ่างเซียวเข้าใจในทันที.
แม้นว่าเขาจะไม่อยู่ในพิภพสงครามแล้ว เกรงว่าคนเล่านี้คงไม่คิดจะยอมแพ้ แวะเวียนมาหาเขาทุกวันเป็นแน่.
“แส่หาความตาย?”
จุนซ่างเซียวที่ดีดนิ้ว เป็นสัญญาณ.
ในเวลาปรกติ เซียวจุ้ยจุ้ยจื่อจะต้องนำเก้าอี้ออกมาให้เขา ทว่าเพราะว่าสภาพแวดล้อมแปลกไป ทำให้ปรับตัวไม่ทัน จึงได้ลืมนำเก้าอี้ออกมาให้เจ้านิกาย.
“พรึด โครม!”
จุนซ่างเซียวที่ทรุดล้มลงบนพื้นในทันที.
ศิษย์“......”
ยอดฝีมือพิภพอื่น “......”
ภายใต้สถานการณ์อักอ่วน จุนซ่างเซียวเปลี่ยนเป็นนอนแผ่ลงบนพื้น ยกไหล่ขึ้นค้ำพื้น มือหนี่งค้ำใบหน้า ขาที่ยกโค้งขึ้นทับกัน ในท่วงท่านอนตัว’S’ มือหนึ่งที่ชี้ออกไป “พวกเจ้าก็เข้ามาสิ!”