ตอนที่แล้วChapter 871 อย่าคิดมาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 873 ขอเพียงมีเปิ่นจั้ว ย่อมมีปาฏิหาริย์

Chapter 872 เจ้านิกายจุนได้ยินเรื่องพิภพสงครามหรือไม่?


ซูเซียวโม่ที่ยังคงแฝงตัวในนิกายไท่เสวียนเซิ่งอย่างราบรื่น เขาที่ถูกนำไปทำภารกิจอยู่เป็นระยะ ๆ.

ในนิกายนิรันดร เวลานี้จุนซ่างเซียวที่ยืนเท่อยู่บนยอดเขา จ้องมองไปยังหญ้าระงับหิวที่มีอยู่เต็มไปหมด ใบหน้าที่เผยยิ้มออกมาช้า ๆ.

การที่ฝึกฝนพัฒนานิกายอย่างช้า ๆ เฝ้ามองพืชพันธ์ที่กำลังเติบโต ปลูกดอกไม้ ตกปลา นี่ก็นับเป็นชีวิตที่น่ารื่นรมย์ไม่น้อย.

น่าเสียดาย ร่างกายของเขามีระเบิดเวลาผูกอยู่  หากสำเร็จภารกิจหลัก ปลดระเบิดได้แล้ว เขาก็หวังที่จะปลดเปลื้องปล่อยวางทุกอย่าง แล้วใช้ชีวิตเช่นนี้เหมือนกัน.

“เจ้านิกาย.”

เหล่าเหว่ยเอ่ย “วัตถุดิบใหม่เติบโตพร้อมแล้ว ให้เก็บเกี่ยวตอนนี้เลยหรือไม่?”

“ตอนนี้เลย!”

ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มดีใจออกมา.

วัตถุดิบใหม่ที่หมายถึงก็คือสมุนไพรที่จะใช้ในการปรุงเม็ดยาฟื้นฟูระดับสูง นี่คือสิ่งจำเป็นในการเข้าไปในพิภพสงครามเลย.

เพียงไม่นาน.

วัตถุดิบใหม่ก็ถูกส่งมาให้กับเขา.

จุนซ่างเซียวเก็บทุกอย่างเข้าแหวนมิติ ก่อนที่จะเริ่มเปิดฟังก์ชั่นปรุงยา คอนโซนแสดงผลจำนวนที่กลั่นได้ 423.

เขาที่กดหลอมในทันที ขณะกล่าวเสียงเบา “400 กว่า น่าจะเพียงพอชั่วคราว.”

การไปยังพิภพสงครามครั้งนี้ เขาเตรียมนำเพียงคนที่แข็งแกร่งไปด้วย จำนวนย่อมไม่มาก เม็ดยาเท่านี้ นับว่าเหลือเฟือ.

จุนซ่างเซียวที่เปิดคอนโซนภารกิจ จ้องมองภารกิจมหากาพ ที่ตอนนี้เหลือไม่ถึงเดือน จากนั้นก็ถอนหายใจยาว“เหลือหลายวันเหลือเกิน ยิ่งใกล้วันเข้า ยิ่งทำให้ข้าร้อนใจ.”

“เจ้านิกาย.”

หลี่ชิงหยางที่ส่งเสียงผ่านวิญญาณ“เจ้าเมืองมู่ขอพบ.”

“โอ้ว.”

จุนซ่างเซียวตอบรับ ก่อนที่จะก้าวไปยังห้องโถง.

เขาที่ก้าวเข้ามาเห็นมู่ซ่างหงอยู่ จากนั้นก็ยกมือประสานเอ่ยออกไป“เจ้าเมืองมู่ ไม่ได้พบกันพักหนึ่งเลย.”

มู่ซ่างหงเอ่ย“เมืองหลวงนั้นมีงานมาก ไม่สามารถหาเวลาได้เลย.”

จุนซ่างเซียวที่นั่งบนที่นั่งเจ้านิกาย เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“บุตรสาวของท่านบ่มเพาะได้อย่างน่าชม ตอนนี้ตัดผ่านไปถึงระดับกษัตริย์ยุทธ์ขั้นที่หกแล้ว.”

หากเปลี่ยนเป็นในอดีต มู่ซ่างหงย่อมตื่นเต้นดีใจ ทว่าตอนนี้กับต้องถอนหายใจ.

“ทำไมเจ้าเมืองมู่ถึงต้องถอนหายใจด้วยล่ะ?”

จุนซ่างเซียวที่ปรกติจะเห็นเจ้าเมืองยิ้มตลอด ทว่าในเวลานี้กับดูร้อนใจไม่มีความสุข.

มู่ซ่างหงเอ่ย “เจ้านิกายจุนขอกล่าวตามตรง เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้ามีเรื่องให้ต้องกังวล.”

“ต้องกังวลอย่างงั้นรึ?”

ดูเหมือนว่าเจ้าเมืองมู่เอง จะมีเรื่องต้องกังวลเช่นกัน.

จุนซ่างเซียวที่แสดงท่าทางว่ายินดีที่จะรับฟังความกังวล เพื่อที่จะบรรเทาให้อีกฝ่ายได้ระบายออกมา.

เงียบไปชั่วครู่.

มู่ซ่างหงที่เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงจริงจัง“เจ้านิกายจุน เคยได้ยินเรื่องพิภพสงครามหรือไม่?”

“พิภพสงครามอย่างงั้นรึ?”

ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่แข็งไปเล็กน้อยทันที.

มันเกินกว่าได้ยินซะอีก!

ข้าเพิ่งถูกยอดฝีมือระดับปฐพีทุบมา ถึงกับหมดสติไปหลายวัน.

มู่ซ่างหงที่จ้องมองเขา รับรู้ว่าเรื่องนี้น้อยคนที่จะรู้จึงอธิบายออกมาว่า“พิภพสงครามนั้นคือมิติแยกที่ถูกสร้างจากพิภพเบื้องบน เป็นดินแดนให้ยอดฝีมือแต่ละพิภพเข้าไป เพียงแค่ไล่ล่าสังหารกันเพื่อที่จะมีชีวิตรอด.”

“งั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่แสร้งเผยท่าทางสนใจ.

จากท่าทางการแสดง หากซูเซียวโม่เห็นแล้ว คงต้องมาศึกษา หรือเขียนเป็นตำราได้เลย.

อย่าหาว่าพูดเกินจริง.

หากให้จุนซ่างเซียวไม่ต้องจัดการนิกาย เขาที่แฝงตัวเป็นสายลับในนิกายไท่เสวียนเซิ่ง แน่นอนว่าจะต้องเหนือกว่าศิษย์ของเขาอย่างแน่นอน.

ต้องไม่ลืมว่ามีหลายอย่างที่ซูเซียวโม่เทียบไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น ความหน้าหนาของเขานั่นเอง.

มู่ซ่างหงเอ่ย “พิภพสงครามนั้นจะนำยอดฝีมือจากพิภพอื่น ๆ เข้าไปทุก ๆ ห้าปี ในแต่ละพิภพจะต้องส่งยอดฝีมือระดับต่ำสุดคือจักรพรรดิยุทธ์ 2000 คน เข้าไปด้านในเพื่อไล่ล่าสังหารกัน.”

“เรื่องนี้?”จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

ไม่ใช่ว่าแกล้งแต่อย่างใด.

หากแต่เขาไม่เคยได้ยินจริง ๆ!

นอกจากนี้ เจ้านิกายจุนที่ราวกับคิดอะไรได้ ดังนั้นจึงเร่งรีบเอ่ยอะไรออกมา“ไม่ใช่ว่าทวีปชิงหยุนของพวกเราถูกเลือกหรอกนะ?”

“ไม่ผิด!”

คำพูดดังกล่าวที่ทำให้มู่ซ่างหงเผยสีหน้าเศร้าและเจ็บปวดออกมา.

เขาที่หวังว่าจะเป็นเรื่องล้อเล่น ไม่ใช่เรื่องจริงที่จะต้องเข้าร่วมไล่ล่าสังหารกันในพิภพสงครามแต่อย่างใด.

“แล้วเข้าไปตอนใหน?”

“ห้าปีหลังจากนี้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ก็ไม่ใกล้ไม่ไกล.”

“ดังนั้น......”

มู่ซ่างหงที่กล่าวออกมาอย่างยากลำบาก “ข้าหวังว่าห้าปีหลังจากนี้ หงเหลียนจะไม่ตัดผ่านไปยังระดับจักรพรรดิยุทธ์.”

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก เอ่ยออกไปว่า“บิดามารดาครอบครัวใหนต่างก็หวังให้บุตรมีพลังบ่มเพาะสูงขึ้น เจ้าเมืองมู่มีความคิดเช่นนี้ได้อย่างไร?”

“เฮ้อ.”

มู่ซ่างหงที่ถอนหายใจอีกครา“เกี่ยวกับกฎของพิภพ ทวีปชิงหยุนของพวกเราต้องสงจักรพรรดิยุทธ์ 2000 คนเข้าไป ไล่ล่าสังหารกันในอีกห้าปี หลังจากนี้ จะทำให้ยอดฝีมือมากมายต้องตกตายไปเป็นจำนวนมาก ไม่ต่างจากการถูกส่งเข้าสู่โรงเชือดเท่านั้น.”

“เจ้าเมืองมู่กังวลว่าบุตรสาวจะตัดผ่านไปยังระดับจักรพรรดิยุทธ์ แล้วได้เข้าไปในพิภพสงครามอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“ใช่แล้ว.”

มู่ซ่างหงเอ่ย“ข้ามีชีวิตมาหลายร้อยปีแล้ว ตายไปก็ไม่เสียดาย ทว่าบุตรสาวนางยังเยาว์ หากว่าเกิดอะไร.....”

คำพูดดังกล่าว น้ำเสียงของเขาที่สั่นไหว แม้แต่น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมา.

ถึงเขาจะมีระดับครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ แต่ก็เป็นบิดาด้วยเช่นกัน ใหนเลยจะยอมรับได้ที่จะให้บุตรสาวเข้าไปตายในพิภพสงครามเช่นนั้นกัน.

“คงไม่ได้หนักหนาเช่นนั้น.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

แม้นว่าพิภพสงครามจะดุร้ายอมหิต ทว่าหากส่งจักรพรรดิยุทธ์และยอดฝีมือคนอื่น ๆ เข้าไปก็ไม่น่าจะด้อยกว่าพิภพอื่นแต่อย่างใด.

ระบบเอ่ย “โฮสน์จะเอาความแข็งแกร่งตัวเองเป็นมาตรฐานได้อย่างไร สำหรับโฮสน์ย่อมไม่เป็นปัญหา ทว่าจักรพรรดิยุทธ์ของทวีปชิงหยุนนั้นกล่าวได้ว่าต่ำกว่ายอดฝีมือพิภพอื่นจริง ๆ.”

“ยกตัวอย่าง ยอดฝีมือระดับ”เหลือง“ของพิภพอื่น.”

“ความแข็งแกร่งโดยรวมนั้นแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิยุทธ์ทวีปชิงหยุนมาก หากพวกเขาเข้าไป ก็มีแต่แส่หาความตายเท่านั้น.”

“สำหรับครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์เช่นเจ้าเมืองมู่ โฮสน์คิดว่ามีความสามารถสังหารยอดฝีมือระดับ”ลึกล้ำได้อย่างนั้นรึ?”

ได้ฟังคำพูดของระบบแล้ว จุนซ่างเซียวก็กลายเป็นเงียบไปในทันที.

เขาที่เข้าไปต่อสู้ในพิภพสงครามมาแล้ว สังหารยอดฝีมือที่ล้อมเขาจำนวนมาก หนึ่งอย่างที่เขาพอบอกได้ ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาเหล่านั้น เหนือว่าผู้ฝึกยุทธ์ทวีปชิงหยุนจริง ๆ.

หากกล่าวให้ระเอียด ยกตัวอย่างเช่นยอดฝีมือระดับลึกล้ำของพิภพอื่นก็คือคนที่มีรากวิญญาณระดับสุดยอด ส่วนเจ้าเมืองมู่นั้นก็อยู่ในระดับสูงนั่นเอง แม้นว่าจะมีระดับพลังเท่ากัน ทว่าความแข็งแกร่งนั้นย่อมแตกต่างกัน.

แน่นอน.

เจ้านิกายจุนที่มีความมั่นใจในการเผชิญอยู่ด้านในได้.

อย่างแรก เขามีอุปกรณ์ชั้นยอด อย่างที่สองเขามีพรสวรรค์ระดับสูงพิเศษ สามารถต่อสู้คนที่มีพลังบ่มเพาะเหนือกว่าได้อย่างไม่มีปัญหา ในระดับเดียวกันแทบจะบอกได้ว่าไร้เทียมทานด้วยซ้ำ.

“เฮ้อ.”

เจ้าเมืองมู่ถอยหานใจ.“ครั้งนี้ทวีปชิงหยุนถูกเลือก ไม่ต้องสงสัยว่ามันคือหายนะใหญ่.”

“ไม่สามารถปฏิเสธได้อย่างงั้นรึ?”

“ไม่ได้.”

“......”

จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ“กดขี่จริง ๆ.”

“หลังจากสงครามราชันย์ ทวีปชิงหยุนพลังฟ้าดินก็เสียหายอย่างหนัก ทำให้อ่อนแอกว่าพิภพอื่น ๆ ใหนเลยจะสามารถขยายอาณาเขตได้.”ใบหน้าของเจ้าเมืองมู่กลายเป็นอัปลักษณ์.

“ขยายอาณาเขตอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวเอ่ย“หมายความว่าอย่างไร?”

มู่ซ่างหงที่กล่าวอธิบายง่าย ๆ “เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ของพิภพ หากสามารถขยายอาณาเขตไปจนถึงระดับเมืองได้ ก็จะสามารถออกมาก่อนเวลาได้ ซึ่งก็จะลดการสูญเสียได้เป็นอย่างมาก.”

“เป็นแบบนี้นี่เอง.”

จุนซ่างเซียวที่เข้าใจ พลางกล่าวกระซิบในใจ“ขยายไปยังระดับเมือง ก็ไม่ใช่เรื่องยากนิ.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด