Chapter 871 อย่าคิดมาก
เมื่อจุนซ่างเซียววางแผนเรื่องนี้ไม่ได้กำหนดเวลาเอาไว้.
ดังนั้นเส้นทางสายลับของซูเซียวโม่นั้นยังอีกไกล และยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดที่ใดเช่นกัน.
อย่างไรก็ตามด้วยลักษณะนิสัยและการเผยรากวิญญาณและพลังบ่มเพาะ มีซุนหยิงชวนและเซี่ยซุยอวิ๋น ตลอดจนสองอาวุโสช่วยเหลือ เกรงว่าครานี้จะง่ายยิ่งกว่าเดิม.
“แผนการ ถือว่าสมบูรณ์แบบ.”
“แต่ว่า ตัวข้าจะต้องถ่อมตนสะหน่อย เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหา....”
นิกายไท่เสวียนเซิ่งนั้นนับว่าเป็นน้ำที่ไหลลึก ศิษย์สายนอกถือเป็นยอดเขาน้ำแข็งเท่านั้น สูงขึ้นไปยังมีศิษย์สายในและศิษย์หลัก แน่นอนว่าเขาจำต้องระมัดระวัง ไม่สามารถที่จะประมาทได้.
กล่าวตามจริง.
เส้นทางในการเติบโตในแต่ละนิกายนั้น ย่อมมีสิ่งกีดขวางหลายอย่างโดยเฉพาะจากผู้คนที่อาจทำให้ถึงตายได้.
หลังจากนั้น เขาจึงจงใจประจบ เซี่ยซุยอวิ๋น เพราะว่าอิทธิพลของอาวุโสเซี่ยนั้นดูจะเหนือกว่าอาวุโสซุนมาก.
แน่นอน.
เขาที่ยังคงขอคำแนะนำจากเหล่าเหว่ย ว่าจะทำอย่างไรที่จะผูกสัมพันธ์กับสตรีผู้เย็นชาคนนี้ดี.
“ไป ทำภารกิจกัน.”
วันหนึ่ง เซี่ยซุยอวิ๋นที่ปรากฏตัวขึ้น.
“เรื่องนี้......ข้า......”
“ต้องไป.”
“ตกลง.”
หลายวันมานี้ ทั้งสองที่ปรากฏที่หอภารกิจ เพื่อออกไปทำพร้อมกันอยู่เป็นประจำ.
หลังจากที่เหอจงหยินพ่ายแพ้ครั้งนั้น ก็ราวกับว่าหายไปเลยเหมือนกัน.
ในโลกนี้วิถียุทธ์ถือเป็นจ้าว การที่ไร้ความแข็งแกร่งไร้พลังต่อสู้ คงเป็นได้แค่เพียงแค่หมาโสดตลอดชีวิต.
“ศิษย์น้องโกวและศิษย์พี่เซี่ยดูเหมือนว่าใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และยังออกไปด้วยกันตลอด!”
“แม้นว่าจะรู้สึกว่าซูจินถังไม่สามารถคู่กับเซี่ยซุยอวิ๋นได้ ทว่าจะดีจะร้ายเขาก็มีรากวิญญาณระดับสุดยอด โอกาสเหนือกว่าพวกเรามาก.”
“ฮึฮึ ศิษย์น้องคนนี้ซ่อนเอาไว้ลึกจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าเอาชนะศิษย์พี่เหอได้.”
เพราะว่าซูเซียวโม่และเซี่ยซุยอวิ๋นเดินทางไปด้วยกันบ่อยมาก จนศิษย์สายนอก เริ่มพูดคุยนินทาพวกเขามากขึ้นและก็มากขึ้น แม้แต่คาดเดาว่าทั้งคู่อาจจะเป็นคู่รักกัน.
นิกายไท่เสวียนเซิ่งไม่ได้ห้ามศิษย์มีความรัก เรื่องนี้ที่จริงก็นับว่าเปิดกว้าง.
คำพูดซุบซิบนินทานี้ แน่นอนว่าซูเซียวโม่ ย่อมได้ยิน เขาได้แต่ถอนหายใจ“ข้ากับนางนั้น ไม่มีอะไรเกินเลยสักนิดเดียว.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่มีบุคลิกเย็นชาพูดน้อยครั้ง แม้นว่าทั้งสองจะไปด้วยกัน ทว่าก็แทบจะไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก ทุกอย่างมีแต่มุ่งมั่นทำภารกิจ และเมื่อส่งภารกิจก็แค่แลกเปลี่ยนทรัพยากรบ่มเพาะเท่านั้น.
แน่นอน ซูเซียวโม่ หวังที่จะเกินเลยกับนางเช่นกัน ต้องไม่ลืมว่าจะทำให้ได้รับการสนับสนุนจากอาวุโสเซี่ย เพื่อยกระดับตัวเองในนิกาย.
กระนั้นคิดถึงสถานะตัวเองคือศิษย์ของนิกายนิรันดร หากเขาทำให้นางตกหลุมรักเขา หากถึงวันที่เจ้านิกายสั่งถอนตัว เขาจะบอกนาง ขอโทษ ที่จริงข้าเป็นสายลับอย่างงั้นรึ? เขานี่มันตัวร้ายชัด ๆ!
“เรื่องความสัมพันธ์นี้ไม่ควรจะมีเลยจริง ๆ.”ซูเซียวโม่ที่ครุ่นคิดในใจ.
จะอย่างไรนิกายนิรันดรและนิกายไท่เสวียนเซิ่งก็ไม่ใช่ศัตรูคู่แค้นกัน ภารกิจแฝงเข้ามาก็ไม่ไช่เพื่อทำลาย ดังนั้นตัวเขาก็ควรที่จะระวังหัวใจ ต้องไม่ลืมว่าเขายังมีภารกิจที่ต้องทำให้เสร็จ ไม่ควรจะผูกภาระอะไรขึ้นมา.
“คิดอะไรอย่างงั้นรึ?”
ระหว่างทำภารกิจ เซี่ยซุยอวิ๋นที่จ้องมองไปยังเขา.
“.....ไม่ได้คิดอะไร.”
“เมื่อเร็ว ๆ นี้เรื่องระหว่างพวกเรา ดูเหมือนว่าจะถูกพูดคุยไปทั่วในนิกายไม่น้อยเลย.”
“ใช่.”
เซี่ยซุยหวิ๋นที่หยุดก้าว ก่อนหน้ามามองซูเซียวโม่“ข้าสัมผัสได้ถึงศักยภาพของเจ้าจึงตัดสินใจช่วยเจ้า ไม่ได้ต้องการอะไร เรื่องเช่นนี้ มันช่างเพ้อเจ้อไร้สาระยิ่งนัก.”
ซูเซียวโม่ที่หมดคำพูดเหมือนกัน“เช่นนั้นข้าก็คิดไปเองสินะ!”
“แน่นอน.”
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย“ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่สามารถคบกับข้าได้ ทว่าความรู้สึกชายหญิงสำหรับข้านั้นหาได้สนใจ.”
นางที่เอ่ยกล่าวออกมาตรง ๆ.
ซูเซียวโม่ที่มุมปากกระตุก ลอบคิดในใจ“หรือว่าสตรีผู้นี้คิดว่าข้ากำลังไล่จีบนางอยู่งั้นรึ?”
“ศิษย์พี่เซี่ย.”
ในเวลานั้นเขาที่เอ่ยกล่าวอออกมาอย่างจริงจัง“ที่จริงแล้ว ความรู้สึกชายหญิงสำหรับข้านั้นก็ไม่สนใจเช่นกัน.”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว.”เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย.
......
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
บนป่าเขา ร่างกายของสัตว์ร้ายที่ใหญ่โตถูกโจมตีไปยังขาที่ใหญ่ยักษ์จนเสียหลัก!
“ปราณกระบี่น้ำแข็ง!”
“ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ถือกระบี่ รวมปราณน้ำแข็งโจมตีออกไป ปะทะหนักของมันเกิดเสียงสะท้อนใส.
“โฮกกกกก ---”
สัตว์ร้ายที่คำรามออกมา ขณะที่เหวี่ยงหางอันใหญ่โตออกมาอย่างโหดร้าย.
“ไม่ได้การแล้ว!”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
“ศิษย์พี่ ระวัง!”
ในเวลานั้น ซูเซียวโม่ที่พุ่งมาจากด้านข้าง ผลักนางที่ไม่สามารถหลบได้ จนถูกหากฟาดกระเด็น ลอยออกไป กระแทกกำแพงหินเสียงดังสนั่น.
“อัก!”
เขาที่กระอักโลหิต จากนั้นก็ใช้ก้าวเงาเก้าเคลื่อนคล้อย พุ่งเข้ามากอดเซี่ยซุยอวิ๋น ก่อนเคลื่อนที่หนีจากสถานที่ดังกล่าวด้วยความเร็ว.
......
เวลากลางคืน.
ภายในถ้ำที่มีการจุดกองไฟขึ้น.
เซี่ยซุยอวิ๋นที่นั่งอยู่ขณะกำลังย่างไก่ป่า ด้วยท่าทางเก้ ๆกัง ๆ ไร้ประสบการณ์อย่างที่สุด.
“อัก!”
ซูเซียวโม่ที่กระอั๊กโลหิตสีดำออกมา ก่อนที่จะหายใจหอบ หากแต่ผ่อนคลายลง.
“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย.
ซูเซียวโม่ตอบกลับ“อืม ไม่เป็นไร.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ไม่ได้เอ่ยอะไร ยังคงย่างไก่ป่าอยู่ บรรยากาศที่เงียบดูกระอักกระอ่วน ก็เกิดขึ้น.
ทั้งสองที่เงียบไม่พูดอะไรกันอีก และแล้วซูเซียวโม่ก็เป็นคนเริ่ม ลุกขึ้นและออกไปว่า“ไหม้แล้ว ให้ข้าทำเอง.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่หลีกทาง.
ซูเซียวโม่ที่นำไก่ป่าออกมาชำแหละใหม่ ก่อนที่จะทำการแยกไฟให้เหลือแต่ถ่านแดงก่อนเริ่มย่างใหม่.
แม้นว่าเซี่ยซุยอวิ๋นจะไม่ได้เอ่ย ทว่าดวงตาของนางที่จับจ้อง ราวกับว่ากำลังศึกษากระบวนการ เพื่อที่จะนำไปใช้ในครั้งหน้า.
“ศิษย์พี่เซี่ย.”
ซูเซียวโม่เอ่ย “ศิษย์น้องคิดว่า ท่านนั้นดูเร่งรีบเกินไป ยกตัวอย่างก่อนหน้าที่เทือกเขาหยิน ท่านไม่ประเมินกำลังเป้าหมายแล้วเร่งรีบโจมตีออกไป.”
“ข้าพอใจ.”เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ยออกมาเล็กน้อย.
สตรีผู้นี้ไม่ตระหนักความผิดพลาดตัวเอง การที่มีชีวิตมาถึงตอนนี้ ถือว่าดวงแข็งไม่น้อย.
ด้วยท่าทางเย็นชาตัดจบของนาง ซูเซียวโม่จึงไม่ได้เอ่ยอะไรต่อไป.
“.”
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ไก่ย่างก็เสร็จขณะยื่นออกไปให้อีกฝ่าย “กินได้แล้ว.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่รับมาอย่างไม่เกรงใจ.
หลังจากกินอาหารเสร็จ นางที่ชี้ไปด้านนอก “กฎเดิม.”
“ตกลง.”
ซูเซียวโม่ที่ยืนขึ้น.
กฎเดิมที่นางเอ่ยคือเขาต้องนอนด้านนอก ส่วนนางนอนในถ้ำ.
ต้องไม่ลืมว่า บุรุษและสตรีที่ไม่ได้แต่งงานไม่สามารถนอนร่วมกันได้.
ที่จริงก่อนหน้านี้ซูเซียวโม่ที่เคยจะนอนอยู่ใกล้ ทว่าเซี่ยซุยอวิ๋นั้นกับแผ่กระแสความเย็นออกมาจนแทบจะแช่แข็งทุกอย่างรอบ ๆ ทำให้เขาเกือบกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งไป.
นับจากนั้นมา ซูเซียวโม่ก็จะออกไปด้านนอกถ้ำ รักษาระยะห่างจากสตรีผู้นี้เอาไว้เพื่อความปลอดภัย.
“กึก!”
ขณะเขาลุกขึ้น ขวดหยกเล็ก ๆ ที่หล่นจากเอวของเขา.
เซี่ยซุยอวิ๋นที่จ้องมองคราหนึ่ง เอ่ยออกมาเล็กน้อย “นี่คือขวดเม็ดยาแก่นน้ำแข็งชำระจิต ไม่ใช่ว่าเจ้าให้ข้ากินไปแล้วรึ? แล้วเก็บเอาไว้ทำไมกัน?”
ซูเซียวโม่เก็บขึ้นมา พลางปัดฝุ่นออกอย่างดี ก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า“นี่คือของสิ่งแรกที่ศิษย์พี่เซี่ยมอบให้ แน่นอนว่าข้าจะต้องเก็บรักษามันเอาไว้อย่างดี.”
ในเวลานี้หากเหล่าเหว่ยอยู่ในฉากคงยกนิ้วโป้งให้ พลางกล่าวชมแน่“เจ้าหนู นี่สิ ถึงจะเป็นชายหนุ่มที่มีอนาคต!”
“โง่นัก.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่เอ่ยออกมเล็กน้อย ทว่าภายในใจที่เป็นน้ำแข็งหนานั้น เกิดเป็นรอยร้าวดังกร๊อบแกร๊บเช่นกัน.
“ข้าออกไปก่อน.”
“กลับมา อยู่ที่ทางเข้าด้านหน้าประตูก็ได้.”
“เอิ่ม....ตกลง.”
ในคืนนั้นซูเซียวโม่ที่อยู่ในถ้ำด้านหน้าประตู ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงกระแสความเย็นที่พัดมาไม่หยุด จนทำให้ร่างกายของเขาหนาวสั่น.
ความหนาวที่ทำให้เขาสะดุ้งตื่น ก่อนที่จะเริ่มสับขาวิ่งออกไป “ข้าไปอยู่ข้างนอกดีกว่า อยู่ด้านในไม่ได้พักแน่!”