Chapter 21: ถูกยิง
มือปืนกลและผู้ช่วยของเขารู้ดีว่าสถานการณ์ของพวกตนย่ำแย่แค่ไหน พวกเขาอยู่ในที่โล่งง่ายต่อการซุ่มยิง รอบด้านยังเป็นเศษซากปรักหักพังไม่ใช่ป้อมปราการแต่อย่างใด พวกเขาตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง โดยไม่รอช้า ทั้งสองคนก็พยายามซ่อนตัวเหมือนเช่นคนอื่น ๆ แต่เหมือนว่าจะสายไปแล้ว
ปัง!
เสียงปืนอีกนัดดังขึ้นและมือปืนกลซึ่งมีเวลาไม่พอยกปืนของตัวเองขึ้นมาก็ถูกยิงเข้าที่หัวเสียก่อน มือปืนกลร่วงลงพื้นในขณะที่ผู้ช่วยหวาดกลัวมากและยกมือกุมหัวเอาไว้ เขาไม่อยากตาย ใครก็โทษเขาไม่ได้เรื่องนี้
ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม แฮงก์ไม่สนมือปืนกลไม่ได้ เขาประเมินเรียบร้อยแล้วว่ากระสุนมาจากทางไหนและเขาก็ยิงสวนกลับไปด้วยไรเฟิลจู่โจมของตัวเอง
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
คนอื่น ๆ ก็ยิงไปในทิศทางเดียวกับแฮงก์ และตำแหน่งที่ฉินหรานน่าจะอยู่ก็ถูกยิงป่นเป็นผงในทันที
หลังจากฉินหรานยิงกระสุนนัดนั้นแล้ว เขาก็กลิ้งออกหลบกระสุนที่ตามมาได้พอดี สกิล [อาวุธปืน (ปืนกลเบา) (พื้นฐาน)] ของเขาไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกาย แต่ยังเพิ่มความรู้เกี่ยวกับอาวุธปืน ทำให้เขาสามารถใช้ปืนเป็นและรู้ข้อได้เปรียบของปืนแต่ละชนิด เหมือนที่เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับปืนไรเฟิลลอบสังหารที่อยู่ในมือเขานี้ แม้ว่าจะเป็นปืนไรเฟิลลอบสังหารที่ประกอบขึ้นไม่ดีนัก แต่มันก็ไม่ได้เป็นตัวถ่วงฉินหรานเลยสักนิด ปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับมือปืนลอบสังหารก็คือตำแหน่งของพวกเขา มันสำคัญมากกว่าการสังหารศัตรูได้ด้วยการยิงนัดเดียว
ฉินหรานถือสไนเปอร์ไรเฟิลไว้ในมือ รีบหลบกระสุนที่พุ่งเข้ามาแล้วพุ่งหลบไปที่จุดซ่อนตัวถัดไปที่เขาเลือกไว้ตั้งแต่ก่อนปะทะกัน จากนั้นก็มองไปที่แผลตรงหน้าแข้งข้างซ้าย
[ถูกยิง: แผลฉีกขาด ก่อความเสียหาย 5 แต้ม]
เหมือนในการแจ้งเตือน มันเป็นแค่แผลฉีกขาดแผลหนึ่งเท่านั้นแต่มันก็เตือนให้ฉินหรานรู้ถึงความแข็งแกร่งของศัตรู ฉินหรานได้เปรียบพวกมันข้อหนึ่ง ก็คือตำแหน่งของเขาและนี่ก็ทำให้เขาสามารถลอบลงมือห่าพวกมันได้ แต่ว่า เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บหลังจากปะทะกับพวกมันเป็นครั้งที่สามเท่านั้น ก็ไม่พ้นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งแรกในเกม
อึก!
ฉินหรานฉีกชายเสื้อออกมาใช้มันเป็นผ้าพันแผลพันหน้าแข้งเอาไว้
"ฉันควรจะเรียนรู้วิธีการจัดการกับบาดแผลจากแม็กกี้ก่อนที่จะมาที่นี่..." ความเจ็บปวดขณะพันแผลให้ตัวเองเตือนเขาเรื่องนี้
เขาต้องย้ายตำแหน่งอีกรอบ เขารู้ว่าถ้าอยู่จุดเดิมนาน ๆ สุดท้ายแล้วก็จะถูกล้อมไว้ได้ พวกทหารสามารถประเมินตำแหน่งของเขาได้อย่างง่ายดายจากกระสุดนัดเมื่อครู่ ทุกอย่างในตัวเขาบอกว่าห้ามประมาทพวกมัน
แผลที่ขาของเขาทำให้เขาเคลื่อนไหวได้ช้าลงโดยเฉพาะเมื่อเขาใช้สกิล [อำพราง] มันทำให้เขาเชื่องช้าลงกว่าก่อนหน้ามาก ผ่านไป 5 นาทีเต็ม ในที่สุดเขาก็หลบออกจากพื้นที่ต่อสู้ได้ เขาแอบอยู่ในจุดซ่อนตัวใหม่และมองไปยังที่ซ่อนที่เขาเพิ่งหลบออกมา ทหารทั้งเจ็ดคนเข้าล้อมที่ตรงนั้นเรียบร้อย พวกมันใช้กลยุทธ์ 3-4 โดยสามคนเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังและคนที่เหลือคอยระวังหลังให้ ถ้าฉินหรานยังอยู่ตรงนั้น เขาคงจะถูกฆ่าไปเป็นสิบรอบแล้ว ต่อให้เขาจะสามารถจัดการกับหนึ่งหรือสองคนได้ก็ยังถูกคนที่เหลือฆ่าอยู่ดี ฉินหรานหลบออกมาจากพื้นที่นั้นแล้วและสามารถลอบยิงทหารที่เหลือจากระยะไกลได้
ปัง!
ทหารคนหนึ่งล้มลงจมกองเลือด
[ยิง: จู่โจมถึงตาย ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย (อาวุธปืน (ปืนกลเบา) (พื้นฐาน) 50x2) เป้าหมายเสียชีวิต...]
บันทึกการต่อสู้แจ้งเตือนขึ้นมายืนยันการตายของทหารคนนั้น ฉินหรานเริ่มขยับเปลี่ยนที่อีกครั้ง มีกระสุนหลายนัดถูกยิงตามมาเล็งไปยังตำแหน่งที่เขาอยู่เดิม ฉินหรานดีใจที่เขาเลือกบริเวณนี้ที่เขาคุ้นเคยมากกว่า
"แม่งเอ๊ย!" แฮงก์ตะโกน
คนของเขาถูกถูกยิงร่วงไปอีกคนหนึ่งแล้ว เขาอยากจะฉีกไอ้มือปืนนั่นออกเป็นชิ้น ๆ กับมือ ค่อย ๆ หักแขนหักขามัน แต่เขารู้ดีว่าความโมโหช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ไม่ได้ ถ้ายังคิดแผนดี ๆ ไม่ออก เขากับพวกคงตายตกลงที่นี่หมดทั้งกลุ่มแน่ ๆ แฮงก์เริ่มมองสังเกตไปรอบ ๆ แต่ว่าเศษซากปรักหักพังที่ซ้อนทับกันไปมาปิดกั้นมุมมองของเขา เขาสังเกตเห็นว่าจุดได้เปรียบเดียวก็คือจุดที่มือลอบยิงของเขาจับจองไว้แล้ว
"มันตั้งใจเลือกที่นี่!" หลังจากสังเกตรอบตัวแล้ว แฮงก์ก็มั่นใจ เขาสังหรณ์ใจไม่ดี นี่มันไม่ใช่แค่โจรกระจอกที่บังเอิญมีอาวุธ ถ้ามันสามารถจัดการกับมือลอบยิงได้แบบนี้ เลือกที่นี่ที่เข้ากับจุดประสงค์ของมัน มันน่าจะเป็นทหารคนหนึ่ง
"หรือว่าจะเป็นสายลับของรัฐบาล?" แฮงก์สงสัยอยู่เงียบ ๆ เขาขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะเพิ่งได้ขึ้นเป็นร้อยโทในสงครามครั้งนี้ แต่ฐานะมือขวาของซาหลูข่า เขารู้ดีว่าการก่อกบฏคราวนี้ล้มเหลว พวกเขากำลังคว้าฟางเส้นสุดท้าย เมื่อไม่มีการสนับสนุนจากฝ่ายที่สามเสบียงก็จะหมดไป และความพ่ายแพ้ก็ขึ้นกับแค่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้น
แล้วเมื่อเวลานั้นมาถึง หนี้ทั้งหมดต้องชดใช้
แฮงก์เองก็ไม่ได้คิดจะตายในสงครามนี้ เหตุผลที่เขาติดตามซาหลูข่าในตอนแรกก็เพราะซาหลูข่าสัญญากับเขาว่าสามารถรับรองได้ว่าเขาจะรอดชีวิตเมื่อรัฐบาลเข้ามาปราบปรามและรับปากว่าเขาจะมีชีวิตร่ำรวยสุขสบายต่อไป การมีชีวิตรอดของเขาขึ้นอยู่กับภารกิจนี้ แฮงก์ไม่สามารถลงมือฆ่าสายลับของรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ถ้าเขาลงมือ แม้แต่ซาหลูข่าก็ไม่สามารถรักษาสัญญาได้แล้ว
"ถ้าไอ้คนนี่เป็นสายลับของรัฐบาลจริง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันฆ่ามัน? ฉันจะลังเลอยู่ไม่ได้!ถ้านี่เป็นคำสั่งของซาหลูข่าฉัันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตาม!" แฮงก์คิด เขากัดฟันออกคำสั่งกับคนของเขา
"มาร์ค จอห์นนี่ ขึ้นไปที่จุดซุ่มยิง!"
"เฮนเดรล แกไปล่อมือสไนเปอร์นั่น!"
"ที่เหลือ คอยจับตามองไอ้สารเลวคนนั้น!"
เขาสั่งการออกไปทีละอย่าง พวกทหารรีบปฏิบัติตามคำสั่ง เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นความมีระเบียบวินัยของกองทัพ ถ้าเป็นกลุ่มโจรพวกมันจะเริ่มเกี่ยงงานกัน แต่นี่คือกองกำลังกบฏ และทหารก็จะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างมีระเบียบวินัย สามคนแรกขยับออกไปในเวลาเดียวกัน แฮงก์กับคนที่เหลือรออยู่กับที่ พยายามจะมองหาฉินหราน
ฉินหรานเห็นเหยื่อล่อแล้ว มีทหารคนหนึ่งขยับไปมาระหว่างซากตึกโดยที่ไม่พยายามซ่อนตัวเลยสักนิด ฉินหรานเล็งปืนไปที่ทหารคนนั้นแต่เขาไม่ได้ยิง การเปลี่ยนแปลงฉับพลันของทหารทำให้เขารู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่นิสัยของพวกโจรกระจอกด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงทหารที่ได้รับการฝึกฝนมา
"เป็นกับดักใช่ไหม?" เขาคิดขึ้นมาทันที
อย่างไรเสีย วิธีการที่ดีที่สุดในการจัดการกับมือปืนซุ่มยิงก็คือพยายามล่อคนออกมา ฉินหรานดึงนิ้วออกจากไกปืน เขาต้องรอดูสถานการณ์โดยรวมก่อน นั่นทำให้เขาตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ตอนที่เขาทำความคุ้นเคยกับภูมิประเทศแถบนี้ เขาได้พยายามเป็นพิเศษจดจำทุกจุดซ่อนตัวและจุดที่ปลอดภัยให้ใช้สกิลอำพราง จากตำแหน่งของพวกทหาร ไม่ยากที่จะเห็นว่าพวกมันคิดจะทำอะไร
"มีสองคนมุ่งไปที่จุดซุ่มยิงนั่น!" ฉินหรานมองไปยังเป้าหมายของพวกมันผ่านกล้องส่องทางไกล จุดซุ่มยิงนั้นเป็นจุดเดียวที่สามารถจัดการกับฉินหรานได้ เขาจัดการกับมือซุ่มยิงคนแรกไปแล้ว แต่เขาจะปล่อยให้ให้มีคนที่สองหรือสามขึ้นไปที่นั่นไม่ได้ เขายิงออกไปอย่างไม่ลังเล
ปัง!
หนึ่งในทหารที่มุ่งไปที่จุดซุ่มยิงล้มลงกับพื้น คนที่สองไม่แม้แต่จะชะงักเท้า มันรีบลุกจากท่าคลานแล้วพุ่งตัวไปยังเป้าหมาย ฉินหรานเห็นแล้วแต่เขายังไม่สามารถยิงได้
เขาต้องออกจากที่ตรงนี้ทันที เพราะตำแหน่งของเขาถูกเผยออกไปแล้วและทหารคนอื่น ๆ ก็เริ่มยิงมาทางนี้
พวกทหารเจอตำแหน่งเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่มีเวลาพอที่จะใช้สกิล [อำพราง]
ทหารที่มุ่งหน้าไปที่จุดซุ่มยิงนั้นอยู่ห่างออกไปเกือบหนึ่งร้อยเมตรและประเมินจากความเร็วของมัน มันน่าจะไปถึงจุดนั่นในไม่ช้า
"บ้าชะมัด ฉันต้องลงมือ!"
ตอนที่ทหารคนนั้นไปถึงจุดซุ่มยิง ฉินหรานก็ยกปืนไรเฟิลขึ้นอีกครั้ง เขาเสี่ยงเผยตำแหน่งตัวเองออกมาขณะที่คนอื่น ๆ เข้ามาใกล้มากขึ้นไม่ได้ แต่เขารู้ดีว่าถ้าจุดซุ่มยิงเดียวนั้นถูกยึดไป เขาก็จะตาย
ปัง!
เขายิงออกไปและทหารคนนั้นร่วงลงพื้น
แม้ว่าฉินหรานจะกลิ้งตัวหนีออกมาทันที แต่กลุ่มกระสุนที่พุ่งเขามาทำให้เขาวิ่งไปยังจุดหมายเดิมของเขาไม่ได้
เขาถูกยิง
.
.
.
.