Chapter 153 : ออกจากวัดมังกรสวรรค์นิกายเซน – เก็บเกี่ยวขั้นสุด! (3)
“ฉันจะรายงานเรื่องของวัดมังกรสวรรค์นิกายเซนในทันที ให้เรื่องนี้เป็นปัญหาของพวกขาใหญ่ประจำศูนย์ใหญ่แล้วกัน” เหล่าอู๋เดินเข้ามาตบไหล่ของหลินเซวียน
บททดสอบทั้งเก้าของวัดมังกรสวรรค์นิกายเซนสิ้นสุดลงพร้อมกับหลินเซวียนกับพรรคพวกที่กลับมาได้อย่างปลอดภัย
คนกว่าเจ็ดพันคนได้เข้าไปในด่านทดสอบและมีกว่าสองพันคนที่เสียชีวิตลง
ทั้งหมดทั้งมวลนั้นล้วนเป็นนักสู้ขอบเขตที่7ทั้งสิ้น!
อย่างไรก็ตามคนที่รอดมาได้เกือบทั้งหมดนั้นต่างยกระดับกันอย่างชัดเจนเช่นเดียวกันและความแข็งแกร่งของพวกเขาเองก็พัฒนาอย่างมาก
อาจจะกล่าวได้ว่าสิ่งที่ได้รับมานั้นกลบสิ่งที่สูญเสียไปได้อย่างสมบูรณ์
หลินเซซียนจัดแจงสิ่งต่างๆที่เขาได้มาจากวัดมังกรสวรรค์นิกายเซน
เขายังใช้ไอเทมบางอย่างที่ได้มาเพื่อนำไปแลกกับเซ็ตรูนที่ต้องการอีกด้วย
เสียงร่ำไห้ของนักบุญ!
ความสามารถทั้งสามของเซ็ตรูนเกรดสีทองนี้ล้วนเกี่ยวกับการฮีลทั้งสิ้น
เช่นนี้แล้วความสามารถในการฮีลของพี่นมก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกมหาศาล
นอกจากนี้ร่างหลักของหลินเซวียนเองก็เป็นฮีลเลอร์อยู่ครึ่งตัวเช่นเดียวกัน
เช่นนี้แล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะขาดพลังชีวิตอีกต่อไป!
หลังจากกลับมาถึงห้อง เส้นประสาทที่ตึงเครียดอยู่ตลอดเวลาของเขาก็ผ่อนคลายลง
ความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมาไหลหลั่งเข้าสู่หัวใจราวกับคลื่นสาดซัด
หลินเซวียนผล็อยหลับไป
ในเวลาเดียวกัน ภายในพื้นที่ใต้ดินที่ใดซักแห่งหนึ่งภายในกองพลก่อสร้าง
เย่หลี่เจียง หว่านโหยวซีและลู่ผิงไห่ทั้งสามคนล้วนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่
เบื้องหน้าของพวกเขาคือประตูผันผวนที่ส่งแรงผันผวนรุนแรงออกมาราวกับสามารถปิดได้ทุกเมื่อ
“อีกฝั่งหนึ่งคือที่ไหน?” เย่หลี่เจียงเอ่ยถาม
หว่านโหยวซีกระชับเครื่องควบคุมในมือ บนเครื่องควบคุมนั้นมีหน้าจอขนาดเล็กติดเอาไว้อยู่ด้วย
สภาพแวดล้อมที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงปรากฏขึ้นให้เห็นอยู่บนหน้าจอที่ว่า
หว่านโหยวซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “จากประสบการณ์มากมายของฉันคิดว่าน่าจะเป็นแดนลับนั่นแหละแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ไหน”
เย่หลี่เจียงกับลู่ผิงไห่ “...”
ลู่ผิงไห่เอนกายเข้ามาดู คราแรกเขายังบอกอะไรไม่ได้มากนัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อดอกไม้ดอกเล็กๆสะท้อนเงาให้เห็นแสงจากสายฟ้าแล่บบนหน้าจอขนาดเล็ก ความคิดสายหนึ่งก็พลันวาบเข้ามาในหัวของเขาก่อนจะโพล่งออกมาในทันที “ย้อนกลับไปหน่อยแล้วลองดูที่ดอกไม้ดอกเล็กๆนั่นดีๆซิ”
หน้าจอถอยย้อนกลับ
เย่หลี่เจียง หว่านโหยวซีและลู่ผิงไห่ต่างจับจ้องมองดูเงาของดอกไม้ขนาดเล็กที่เผยให้เห็นจากประกายสายฟ้าแล่บ
ทันใดนั้นเองพวกเขาก็เอ่ยออกมากันอย่างพร้อมเพรียง “แดนต้นกก!”
หว่านโหยวซีมีความสุขจนปากหุบแทบจะไม่ลง “เจ้าพวกนี้ซ่อนแดนต้นกกเอาไว้ลึกยิ่งจนกระทั่งคนจากสมาคมผู้กู้โลกกับภาคีอัศวินแห่งความจริงก็ยังไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไป ท้ายที่สุดพวกเรากลับหามันเจอ!”
“พวกเราโชคดีมากจริงๆ กุญแจสุริยันสองดอกแรกนั้นไปเชื่อมกับแดนลับธรรมดาๆขนาดเล็กสองแดนเข้าแต่ดอกที่สามกลับไปเชื่อมกับแดนต้นกกเข้า” ลู่ผิงไห่ถอนหายใจ
หว่านโหยวซีเปลี่ยนเครื่องควบคุมให้กลายเป็นรูบิคและเก็บมันลงไป จากนั้นเขาก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “พี่สาวเย่! เซี่ยงเฉียนคุนมีโอกาสสูงมากที่จะติดอยู่ในแดนต้นกก ฉันคิดว่าพวกเราควรจะลองดู”
เย่หลี่เจียงพยักหน้ารับเล็กน้อย
เซี่ยงเฉียนคุนคือมารดาของเซี่ยงเทียนซิว เธอเองก็เป็นหนึ่งในผู้มากพรสวรรค์เลเวล9ขอบเขตที่8และยังเป็นยอดฝีมืออัจฉริยะที่มีโอกาสสูงมากว่าจะตัดผ่านไปยังขอบเขตที่9ได้ในหนึ่งปี!
อย่างไรก็ตามเธอกลับหายตัวไปอย่างลึกลับระหว่างการต่อสู่ในเมืองบาดาล
นักสู้ขอบเขตที่9ที่คอยเฝ้าคุ้มกันเมืองบาดาลหาเวลาว่างออกตรวจสอบหาร่องรอยด้วยตัวเองแต่เบาะแสที่พบนั้นกลับบ่งชี้ไปที่นักสู้จากที่ราบมหาสวรรค์
ที่ราบมหาสวรรค์เองก็ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าการหายตัวไปของเธอนั้นเกี่ยวข้องกับพวกเขา
เนื่องจากไม่อาจหาหลักฐานมาได้ กองพลก่อสร้างจึงไม่อาจทำอะไรมุทะลุได้
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากมีโอกาสเป็นไปได้เช่นกันที่องค์กรอื่นจะจงใจทิ้งหลักฐานเอาไว้เพื่อใส่ร้ายที่ราบมหาสวรรค์เพื่อบีบให้กองพลก่อสร้างเริ่มสงครามกับพวกเขา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาประสบกับแผนการเช่นนี้
“รวบรวมคนของกองพลก่อสร้างที่มีสกิลปลอมตัว พยายามทำตัวให้ติดดินเข้าไว้แล้วรวบรวมพวกเขามาหาฉันในสามวัน” เย่หลี่เจียงเอ่ยสรุป
“ทราบแล้ว” หว่านโหยวซีกับลู่ผิงไห่พยักหน้ารับทันที