ตอนที่แล้วบทที่ 22 เขตแดนของปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24 ศาลาว่าการลงมือ

บทที่ 23 การปรับปรุงรอบด้าน


บทที่ 23 การปรับปรุงรอบด้าน

ในกระท่อมตอนนี้เหลือเพียงตัวเขาคนเดียว

เสินอี้นอนลงบนเตียง เขาเรียกแผงระบบขึ้นมา

สำหรับการฝึกฝนศาสตร์การต่อสู้ เขาเป็นเพียงมือใหม่ที่ไม่รู้อะไรเลย แถมยังได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายจากผู้หญิงคนนั้น โอสถรวบรวมปราณ ยาน้ำระดับสูง และขอบเขตวารีหยก

เขาอดไม่ได้ที่จะเริ่มจินตนาการ

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เสินอี้หยิบลูกบอลเนื้อขึ้นมา เขาต้องการพิสูจน์ความคิดของเขาทันที

สิ่งนี้เล็กกว่าไข่ไก่เล็กน้อย

เขาหลับตาลง อมมันไว้ในปาก รสขมคละคลุ้มกระจายไปทั่วปลายลิ้น แต่แก่นแท้จากสวรรค์และปฐพีที่อยู่ภายใน มันดึงดูดเขาเหมือนกับน้ำผึ้งอันหอมหวาน

ทันใดนั้น เสินอี้ก็เริ่มใช้อายุขัยของเขาลงใน 'วิชาวายุอัสนีพิชิตปีศาจ'

[อายุขัยปีศาจที่เหลือ: หกร้อยเจ็ดสิบสองปี]

[ปีแรก โฮสต์ใช้เวลาเจ็ดเดือนในการขจัดสิ่งปนเปื้อนออกจากแก่นแท้ปีศาจ โฮสต์เอาเฉพาะส่วนที่มีคุณภาพสูง ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะดูดซับแก่นแท้จากสวรรค์และปฐพี การฝึกฝนของโฮสต์จึงมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว]

[โฮสต์เติมเต็มจุดเฉียวที่หกสำเร็จ และโฮสต์ประสบความสำเร็จเล็กน้อยในวิชาวายุอัสนีพิชิตปีศาจ แต่แก่นแท้ปีศาจยังคงส่งพลังมาอย่างต่อเนื่อง โฮสต์เติมเต็มจุดเฉียวที่เจ็ด]

[โฮสต์เรียนรู้ "โลหิตสังหาร" (ไม่สมบูรณ์) จากแก่นแท้ปีศาจ]

[อายุขัยปีศาจที่เหลือ: หกร้อยเจ็ดสิบเอ็ดปี]

...

ทันทีที่เริ่มใช้อายุขัย ดวงตาของเสินอี้ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความตกตะลึง

ความคิดของเขาเป็นจริง

ตราบใดที่มียาอันล้ำค่าอยู่ในร่างกาย มันก็สามารถส่งผลต่อกระบวนการฝึกฝนศาสตร์การต่อสู้ได้

แต่เขาไม่คาดคิดว่าผลลัพธ์จะน่ากลัวขนาดนี้

ก่อนหน้านี้ใช้เวลานานแค่ไหนในการเติมเต็มสองจุดเฉียว? ยี่สิบปีเต็มใช่ไหม?

แต่เพียงแค่อมแก่นแท้ปีศาจ มันก็เทียบเท่ากับการฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลายี่สิบปี!

เรื่องนี้ถือได้ว่าคลายความสงสัยในใจเสินอี้เช่นกัน นั่นคือมนุษย์มีอายุขัยสูงสุดเพียงหนึ่งร้อยปี แม้ว่าร่างกายจะสมบูรณ์แบบ และก้าวเข้าสู่ขอบเขตเริ่มต้น เขาก็สามารถเพิ่มอายุขัยได้เพียงสี่สิบปี

แต่ปีศาจมีอายุหลายร้อยปี ไอ้สุนัขขนเหลืองที่มีระดับต่ำกว่าเขา มันยังมีอายุขัยมากกว่าห้าร้อยเจ็ดสิบปี

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ปีศาจก็คงรอจนผู้เชี่ยวชาญฝ่ายมนุษย์ตาย จากนั้นมันค่อยอาละวาดก็ได้ใช่ไหม?

เมื่อมองในแง่นี้ สาระสำคัญของการบ่มเพาะก็คือการปล้นชิง ถ้าหากมัวแต่ดึงแก่นแท้จากสวรรค์และปฐพีอย่างโง่เขลา คงจะยังอยู่ในขั้นแรกของขอบเขตเริ่มต้นเมื่อเส้นผมขาวโพลน...

"โลหิตสังหารคืออะไร?"

เสินอี้มองไปที่แผงระบบ ใต้ชื่อวิชาปัจจุบัน มีข้อความปรากฏขึ้น

[โลหิตสังหาร (ไม่สมบูรณ์): การกลืนกินแก่นแท้ปีศาจ โฮสต์ได้รับอิทธิพลจากปราณชั่วร้าย โฮสต์ได้ทำการเข้าใจมันและนำมันมาใช้ประโยชน์ ทำให้แก่นแท้แห่งสวรรค์และปฐพีในร่างกายของโฮสต์มีผลกัดกร่อน]

หลังจากอ่านคำอธิบาย เสินอี้ก็หวนนึกถึงเวทมนตร์ปีศาจของไอ้สุนัขขนเหลือง

พูดกันตามตรง ถ้าหากเขาไม่ได้อยู่ระดับที่สูงกว่าอีกฝ่ายมาก เมื่อปราณแก่นแท้ภายในร่างกายของเขาหมดลง  ชะตากรรมของเขาคงไม่ต่างจากกองกระดูกที่กลายเป็นน้ำเลือด

"ถือว่าพอจะเพิ่มวิธีโจมตีได้บ้าง"

เสินอี้จดจ่อกับความคิด  และใช้อายุขัยของปีศาจต่อไป

[ปีที่ยี่สิบเจ็ด โฮสต์เติมเต็มจุดเฉียวที่แปด เนื่องจากออร่าปราณร่างกายเต็มเปี่ยมจนล้น และปนเปื้อนไปด้วยกลิ่นอายของโฮสต์ มันขัดแย้งกับแก่นแท้จากสวรรค์และปฐพีที่บริสุทธิ์ ทำให้ความก้าวหน้าในการฝึกฝนช้าลง]

[ปีที่สี่สิบเก้า โฮสต์เติมเต็มทั้งเก้าจุดเฉียว วิชาวายุอัสนีพิชิตปีศาจบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์]

ด้วยความที่ร่ำรวย เสินอี้จึงไม่รู้สึกเสียดาย และเตรียมใส่อายุขัยให้เต็มเนี่ยวในคราวเดียว

[ปีที่เจ็ดสิบสอง โฮสต์เติมเต็มจุดเฉียวที่สิบ ในสายตาของโฮสต์ โลกนี้ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น]

[ปีที่หนึ่งร้อยสี่ เมื่อน้ำเต็มมันย่อมล้น ร่างกายของโฮสต์อิ่มตัว ไม่สามารถรองรับพลังเพิ่มเติมได้อีก จุดเฉียวทั้งสิบสองเต็ม วิชาวายุอัสนีพิชิตปีศาจสมบูรณ์แบบ]

[อายุขัยปีศาจที่เหลือ: ห้าร้อยหกสิบแปดปี]

การฝึกฝนวิชาโดยใช้อายุขัย มันถือเป็นการรับประกันได้ว่า ยังไงเขาก็สามารถบรรลุขั้นสมบูรณ์แบบได้แน่ๆ

แต่การจะคิดค้นวิชาใหม่นี่สิ มันไม่ต่างอะไรกับการเสี่ยงโชคเลย!

เสินอี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาตั้งใจเก็บอายุขัยไว้สามร้อยปี เพื่อใช้งานอย่างอื่น และนำอายุขัยส่วนที่เหลือทั้งหมดทุ่มลงไป

ทันใดนั้น ข้อความแจ้งเตือนที่เหมือนกันเป๊ะๆ ก็ปรากฏขึ้นมากมายจนทำให้เขาสมองมึนงง

[ปีแรก แม้จะอยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบ แต่โฮสต์เชื่อว่าการหยุดนิ่งคือการถอยหลัง ทุกๆ วัน โฮสต์ยังคงฝึกฝนอย่างหนัก ดึงแก่นแท้จากสวรรค์และปฐพีอย่างต่อเนื่อง...]

[ปีที่สิบ โฮสต์ยังคงดึงพลัง...]

[ปีที่ยี่สิบ โฮสต์ยังคงดึงพลัง...]

ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว และถูกลบออกด้วยข้อความถัดไป

มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาที่ฝ่ามือของเสินอี้  ทันใดนั้น ข้อความที่แตกต่างจากข้อความก่อนหน้าก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ในตอนที่เขาคิดที่จะหยุดมัน

[ปีที่หนึ่งร้อยสามสิบ บางทีอาจเป็นเพราะสวรรค์ตอบแทนความขยันหมั่นเพียรของโฮสต์  ออร่าปราณภายในจุดต้าเฉียวแรกของโฮสต์ก่อตัวขึ้น มันค่อยๆ กลายเป็นวารีหยกหยดแรก]

(大窍 dà qiào ต้าเฉียว แปลว่าจุดเฉียวใหญ่ แตกต่างจากจุด 窍 เฉียวธรรมดานะครับ)

[ปีที่หนึ่งร้อยห้าสิบ วารีหยกหยดที่สองปรากฏขึ้น มันค่อยๆ เติมเต็มจุดต้าเฉียวแรกของโฮสต์]

[ปีที่สองร้อยหกสิบแปด เกือบครึ่งหนึ่งของจุดต้าเฉียวแรกของโฮสต์กลายเป็นวารีหยก]

[อายุขัยปีศาจที่เหลือ: สามร้อยปี]

เสินอี้มีสีหน้าที่ซับซ้อน ตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

สิ่งนี้เปรียบเหมือนการกลั่นก๊าซ(ออร่าปราณ)ให้กลายเป็นของเหลว(วารีหยก) เมื่อเชื่อมโยงกับคำพูดของหลินไป๋เว่ยเกี่ยวกับขอบเขตวารีหยกที่ผ่านมา มันไม่ยากที่จะคาดเดาว่า มันคือการเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าสู่ขอบเขตถัดไป

อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อออร่าปราณทั้งสิบสองจุดต้าเฉียวกลายเป็นวารีหยกทั้งหมด  แสดงว่าได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตถัดไปอย่างเป็นทางการ

ปัญหาคือ เขาหาทางไปต่อไม่ได้!

ในระหว่างการคิดค้น เขาใช้แต่เพียงวิธีที่โง่เขลาที่สุด คือใช้ระยะเวลาที่นานมาก เพื่อเปลี่ยนออร่าปราณในร่างกาย

เขาต้องใช้อายุขัยปีศาจนานแค่ไหน ถึงจะเติมเต็มจุดต้าเฉียวได้หนึ่งจุด?

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเสียเวลาเปล่า  แต่มันยังเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมหาศาล

เสินอี้หลับตาลง สัมผัสการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย เขาพบว่าวารีหยกนั้นนอกจากจะหนาแน่นกว่าออร่าปราณทั่วไปแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อื่นใดเลย

เขาถอนหายใจออกมา และจดจ่อกับศาสตร์การต่อสู้

สามร้อยปีที่เหลือ เขาเตรียมไว้สำหรับวิชา…

วิชาดาบ วิชาหมัดมวย วิชาตัวเบา!

เสินอี้รำลึกถึงการต่อสู้กับไอ้สุนัขขนเหลืองก่อนหน้านี้ สิ่งที่เขาขาดแคลนที่สุดในตอนนี้คือวิธีโจมตี

เขาเลือกวิชาดาบปราบปีศาจ

[ปีแรก แม้ว่าวิชาจะระดับต่ำเกินไปสำหรับขอบเขตปัจจุบันของโฮสต์ แต่โฮสต์ก็นำมันขึ้นมาฝึกฝนอีกครั้ง เช่นเดียวกับตอนที่โฮสต์เริ่มฝึกครั้งแรก โฮสต์ฝึกฝนอย่างตั้งใจทีละกระบวนท่า]

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการสูญเสียมาก่อนหน้านี้ หรือเป็นเพราะโชคชะตาดี

คิ้วของเสินอี้คลายลงอย่างรวดเร็ว

[ปีที่สี่สิบหก โฮสต์ฟันดาบครั้งสุดท้าย รู้สึกโล่งสบายไปทั่วร่าง การเคลื่อนไหวที่หยาบกร้านผสมผสานกันในหัวใจของโฮสต์ และค่อยๆ กลายเป็นสิ่งใหม่]

[ปีที่ห้าสิบ โฮสต์ได้เข้าใจวิชาดาบมาหนึ่งชุด แต่รู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ  โฮสต์มองหมอกที่พันอยู่ปลายนิ้วและจมดิ่งลงสู่ความคิด]

[ปีที่ห้าสิบห้า โฮสต์เข้าใจขั้นเริ่มต้นของวิชาดาบโลหิตสังหาร]

[อายุขัยปีศาจที่เหลือ: สองร้อยสี่สิบห้าปี]

[ขอบเขตเริ่มต้น. วิชาดาบโลหิตสังหาร (เริ่มต้น)]

ด้วยการหล่อเลี้ยงด้วยอายุขัยนับไม่ถ้วน  ขอบเขตของวิชาดาบเริ่มพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว  จากเริ่มต้นสู่ขั้นสมบูรณ์

...

จนกระทั่งไก่ขัน

ภายในศาลาว่าการของจวนเจ้าเมืองไป๋อวิ๋น เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่

เฉินจี้ยืนอยู่ตรงกลาง  ข้างๆ เขาคือหัวของปีศาจสุนัขสิบสามตัว

บนเก้าอี้ประธาน ชายชราผมขาวโพลนสวมเสื้อสีฟ้า หลับตา มือที่เหี่ยวย่นจับราวพักแขนแน่น เส้นเลือดบนหลังมือปูดโปน

"ท่านหลิวเตียนลี่ การกำจัดปีศาจก็เป็นหน้าที่ของเรา..." ซ่งฉางเฟิงอธิบายเบาๆ

เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราค่อยๆ ลืมตา มองกวาดไปที่หัวปีศาจบนพื้น แล้วรีบหันเหสายตาราวกับไม่กล้ามองมันอีก

เขาโบกมือช้าๆ "ข้าไม่มีความสามารถนี้ มันคือความสามารถของพวกเจ้า เป็นความสามารถของใต้เท้าเสิน...ถ้าเป็นเช่นนั้น ให้ใต้เท้าเสินจัดการเรื่องปีศาจทั้งหมดซะ"

จากนั้น หลิวเดียนลี่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว และเตะโต๊ะข้างหน้าล้มด้วยความโกรธ!

"ให้เขาคนเดียวจัดการเรื่องนี้ทั้งหมด!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด