Chapter 846 มันน่าหงุดหงิดมาก!
“ศิษย์น้องเซียว จะเข้าไปในค่ายกลรวมวิญญาณอย่างงั้นรึ?”
“ใช่แล้ว.”
ที่ด้านหน้าหอคอยเก็บประสบการณ์ หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อก้าวออกมาพร้อมกัน.
อย่างไรก็ตาม ขณะทั้งสองกำลังพูดคุยกันนั้น ประตูเคลื่อนย้ายพิภพสงครามก็ส่องประกายแสงออกมา จุนซ่างเซียวที่มีสภาพสะบักสบอมก็ก้าวออกมา ก่อนที่จะล้มคว่ำคะมำไปด้านหน้ากองอยู่บนพื้นหมดสติไปในทันที.
“......”
หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อ ทั้งสองที่กลายเป็นโง่งมไปเลย.
“แย่แล้ว เจ้านิกายหมดสติแล้ว!”
“เร็วเข้า! รีบพาไปหอยา!”
“ซุนปู่กง ซุนปู่กง!”
ในเวลานั้นทั่วทั้งนิกายนิรันดรที่เสียงดังโหวกเหวกขึ้นมาทันที.
เจียงเซี่ยและคนอื่น ๆ ที่ยืนรอคอยอยู่ด้านนอกหอยา ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล.
เซียวจุ้ยจื่อที่นั่งอยู่บบขั้นบันได.
หลงจื่อหยางและหลี่ซ่างเทียน ตลอดจนคนอื่น ๆ ทุกคนล้วนแต่เป็นกังวล.
ลู่เชียนเชียนที่อยู่ที่มุม ดวงตาใสกระจ่าง แม้นว่ายังคงเผยความเย็นชา ทว่าก็เผยประกายความกังวลออกมาอย่างช่วยไม่ได้.
“กึก ซี่!”
ในเวลานั้น ประตูที่สั่นไปมาและเปิดออก.
เหล่าเหว่ยและซุนปู่กงที่ก้มหน้าก้มหน้า ท่าทางดูวุ่น ๆอยู่.
เป็นคนไข้อีกคนที่ก้าวออกมา พลางกล่าวขอโทษ“โทษที ข้าเพิ่งหายดี.”
“เหล่าเหว่ย!”
หลี่ชิงหยางที่ก้าวออกไป เอ่ยออกมาว่า“เจ้านิกายเป็นอะไรหรือไม่?”
“แม้นว่าจะหมดสติ ทว่าก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก”เหล่าเหว่ยเอ่ย.
ทุกคนที่ได้ยินที่พ่นลมหายใจอย่างเบาใจ.
“.”
เหล่าเหว่ยเอ่ย “จำเป็นต้องพักผ่อนสักระยะ.”
ติงซิงหวังที่กล่าวอย่างจริงจัง“การที่ทำให้เจ้านิกายได้รับบาดเจ็บจนถึงเพียงนี้ เขตแดนลับสงครามนี้ จะน่าหวาดกลัวขนาดใหนกัน!”
......
จุนซ่างเซียวถึงจะหมดสติทว่าก็ไม่ได้หนักหนาอะไรนัก.
แม้นว่าจะได้รับการรักษา ควบคุมอาการบาดเจ็บได้แล้ว ทว่ายังไม่สามารถลุกจากเตียงได้ ชีพจรนับว่าเสียหายไม่น้อย ไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้ชั่วคราว.
ปัญหานี้ไม่ได้ใหญ่นัก.
เพียงแค่เข้าไปในเขตแดนลับกาลอวกาศ เมื่อออกมา ย่อมฟื้นฟูคืนกลับมาเป็นปรกติอย่างรวดเร็ว.
สิ่งที่เรียกว่าพิภพสงคราม แม้นว่าจะเข้าไปเพียงหนึ่งชั่วยามครึ่ง ก็ทำให้จุนซ่างเซียวตระหนักได้ว่าตัวเองนั้นอ่อนแอขนาดใหน.
ระบบที่กล่าวปลอบ “ไม่ใช่ว่าโฮสน์อ่อนแอ แต่ที่นั่นมียอดฝีมือมากจนเกินไป.”
“มารดาเถอะ!”
คิดถึงตัวเองที่ถูกฝ่ามือปราชญ์ยุทธ์ไล่ตบ ก็ทำให้จุนซ่างเซียวกำหมัดแน่น“รังแกกันเกินไปแล้ว!”
เขาที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
แค้นนี้จะต้องชำระคืนอย่างแน่นอน!
ระบบแนะนำ “โฮสน์ต้องกล้า ๆ ใช้แต้มหน่อย ซื้ออุปกรณ์ระดับสุดยอด แล้วคืนกับไปแก้แค้นซะ!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “รอให้ภารกิจมหากาพย์เสร็จก่อนเถอะ ตัดผ่านไปยังครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์เมื่อไหร่ ข้าจะไปเอาคืน!”
ที่ระบบคิดคือให้เขารีบใช้แต้ม เพื่อที่จะไปแก้แค้น.
ทว่าเจ้านิกายจุนนั้น คิดว่าจะต้องใช้แต้มมากขนาดใหนกัน ทางที่ดีอดทนอักสักสองสามเดือน พลังบ่มเพาะเพิ่มขึ้น ค่อยไปชำระแค้นก็ยังไม่สาย.
“บุรุษแก้แค้นสิบปีไม่สาย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ข้าไม่ได้ใช้แค่แซ่จุน(ผู้มีความสามารถ)เฉย ๆนะ.”
“......”
ระบบหมดคำจะพูด “แล้วผู้มีความสามารถกับแซ่จุนนี้มันเกี่ยวข้องกันอย่างไรกัน?”
[君 (jün จฺวิน) … และนั่นก็หมายความว่า มันสามารถแปลว่า 'ผู้นำ' หรือ 'ผู้ที่มีความสามารถ' และ 'ผู้ที่มีความสำคัญ' หรือ 'เรื่องราวที่สลักสำคัญ' ได้ด้วยเหมือนกัน
ปล.ความจริงต้องอ่านว่าจวิน นะครับ แต่สะกดผิดมาแต่แรกแล้วเลยเรียกจุน]
“กึกซี่.”
ประตูที่สั่นและเปิดออก สตรีในชุดสีขาวล้วน ลู่เชียนเชียนก็ก้าวเข้ามา พร้อมกับถือชามที่บรรจุน้ำสีข้นมาวางบนโต๊ะ “ถึงเวลากินยาแล้ว.”
“......”จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.
โชคดีที่เขาลุกขึ้นจากเตียงได้แล้ว ไม่เช่นนั้นจากสายตาของนาง หากถูกกรอกยาด้วยท่าทางเย็นชาเช่นนั้นแทบคิดไม่ออกเลย
ลู่เชียนเชียนเอ่ย “พิภพสงคราม ในเมื่อเต็มไปด้วยอันตรายขนาดนั้น เจ้านิกายไม่เตรียมเม็ดยาฟื้นฟูเข้าไปด้านในล่ะ?”
“เม็ดยาฟื้นฟู ด้วยพลังบ่มเพาะของเปิ่นจั้วมันไม่ได้ผลแล้ว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
อย่างไรก็ตาม.
กล่าวได้ว่าคำพูดของนางก็สะกิดใจของเขาอย่างแท้จริง.
ทักษะยุทธ์ก็ยังมีการยกระดับใหม่ ทว่าเม็ดยาฟื้นฟูตอนนี้ยังคงเป็นระดับกลางอยู่เลย.
“ดูเหมือนว่า.”
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ“ดูเหมือนว่าจะต้องรีเฟรชร้านค้าแล้วสินะ.”
ระบบเอ่ย “กำลังคิดจะใช้แต้มแล้วรึ?”
“......”
จุนซ่างเซียวที่มองบน“เจ้าคอยกระตุ้นข้าใช้ตลอด ตอนนี้กับมาถาม!”
“เฮ้อ.”
ระบบเอ่ย“โฮสน์ตอนถูกทุบตีอย่างหนักที่พิภพสงคราม ข้ารู้สึกกังวลไม่น้อย ดังนั้นจึงได้หวังให้โฮสน์มีไพ่ไม้ตายมาก ๆ จะได้แข็งแกร่ง.”
“ฮึ! ประตูสู่พิภพสงครามนั้นเจ้าให้ข้าจ่ายไปถึง 50,000 แต้มแทบไม่คุ้มค่า ข้ายังไม่ได้เอาเรื่องเจ้าเลย.”
ตั้งแต่แรกเขาที่คิดจะเข้าไปดูเพื่อใช้เป็นสถานที่หลบภัยในเวลาฉุกเฉิน ทว่าสถานที่แห่งนั้นจะต้องมีฐานที่มั่นเป็นของตัวเองถึงจะทำให้ปลอดภัย การจะให้คนจากพิภพอื่นเข้าไปหลบภัยเฉย ๆ นั้นแทบเป็นไปไม่ได้ เกือบจะเป็นการใช้ 50,000 แต้มฆ่าตัวเองซะแล้ว.
ไม่ ไม่.
จุนซ่างเซียวที่ไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้เลย คิดทีไรเจ็บปวดหัวใจทุกครั้ง.
ระบบที่ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก เดี๋ยวจะทำให้อีกฝ่ายบ้าคลั่งขึ้นมาเท่านั้น.
......
จุนซ่างเซียวที่เข้าไปในเขตแดนลับกาลอวกาศ หลังจากออกมา อาการบาดเจ็บของเขาก็ฟื้นฟูโดยสมบูรณ์.
จากนั้น.
เขาที่คิดถึงการยกระดับสิ่งก่อสร้างนิกาย.
พิภพสงครามนั้นเขาสามารถเข้าไปเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องกังวลมาก ตอนนี้การยกระดับพัฒนานิกายต้องมาก่อน ต้องไม่ลืมว่านี่คือภารกิจหลักที่สำคัญ.
“ไว้ครั้งหน้าค่อยนำเหล่าติงไปด้วย พัฒนายกระดับเป็นหมู่บ้านเพื่อที่จะเปิดร้านสมนาคุณก็แล้วกัน”จุนซ่างเซียวที่กล่าวในใจ.
การไล่ล่าสังหารในพิภพสงครามที่ผ่านมา แต้มบุญของเขามากกว่าพันแต้มไปแล้ว.
เขาที่ลอบคิดถึงทรัพยากรในร้านสมนาคุณขึ้นมาเหมือนกัน.
แน่นอน.
เหล่าติงและคนอื่น ๆ ต่างก็เต็มไปด้วยความสงสัย.
เจ้านิกายที่เข้าไปยังเขตแดนลับสงคราม คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้รับบาดเจ็บแม้แต่หมดสติออกมาเลยอย่างงั้นรึ?
“อะไรนะ?”
“โอ้วสวรรค์!”
จุนซ่างเซียวที่เล่าเรื่องที่เขาได้ประสบพบมาตั้งแต่ต้นจนจบ.
ในเวลานั้น เหล่าติง เจียงเซี่ยและคนอื่น ๆ ที่ได้ยินต่างก็ตื่นตะลึงไปตามกัน.
จักรพรรดิยุทธ์มากมายดั่งฝูงหมา ครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์มีอยู่ทุกที่ เป็นภาพที่พวกเขาไม่กล้าจะจินตนาการถึงเลย!
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “เปิ่นจั้วต้องทนการโจมตีจากปราชญ์ยุทธ์ที่ถูกจัดเป็นยอดฝีมือระดับปฐพีจึงได้รับบาดเจ็บกลับมา.”
“เจ้านิกาย!”
เหล่าติงที่ดวงตาลุกโชนขึ้นมาทันที“ข้าเข้าไปด้านในได้หรือไม่?”
“ตอนนี้ยังไม่ได้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไว้ถึงเวลา เปิ่นจั้วจะต้องนำพวกเจ้าเข้าไปด้วยแน่นอน.”
เจียงเซี่ยและสองพี่น้องหนิงที่แววตาลุกโชนด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เช่นกัน.
แม้นว่าพิภพสงครามนั้นจะน่าสะพรึงกลัว ทว่าพวกเขาคือชาวยุทธ์ แน่นอนว่าการไล่ตามความแข็งแกร่ง ย่อมต้องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องต่อสู้กับยอดฝีมือให้มาก ๆ!
“แน่นอน.”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง“ระหว่างนี้ พวกเจ้าจะต้องบ่มเพาะให้หนัก เมื่อเข้าไปในเขตแดนลับสงคราม ชีวิตและความตาย ชื่อเสียงและเกียรติยศนั้นขึ้นอยู่กับสวรรค์ ทุกคนสามารถตกตายได้จริง ๆ.”
“รับทราบ!”
เจียงเซี่ยและคนอื่น ๆ ที่ตอบรับ.
หลังจากนั้น จุนซ่างเซียวก็เรียกราชาสัตว์จื่อหลินมา“เจ้าฟื้นฟูไปถึงใหนแล้ว?”
“ก็ใช้ได้.”
ราชาสัตว์จื่อหลินเอ่ย“เกือบสมบูรณ์แล้ว.”
ด้วยอาหารของหลิวหว่านซี ตลอดจนเครื่องกลั่นร่างที่ใช้เพิ่มความแข็งแกร่ง ทำให้เขาฟื้นคืนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว.
ในอดีตนั้นปราชญ์ยุทธ์หลายคนที่เข้ารุมจัดการเขา เจ้าคนนี้ย่อมแข็งแกร่ง จุนซ่างเซียวต้องการนำเขาเข้าไปด้วย เพื่อที่จะแก้แค้นและขยายฐานที่มั่นให้กับตัวเอง!
“เจ้านิกาย.”
เย่ซิงเฉินเห็นเข้าก็เอ่ยออกมา“ข้าเข้าไปด้านในได้ด้วยหรือไม่?”
จุนซ่างเซียวที่ตอบกลับมาทันที“หากเจ้าตัดผ่านไปถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ในสิบเดือน แน่นอนว่าข้าย่อมนำเจ้าเข้าไปด้วย.”
“สิบเดือน.”
เย่ซิงเฉินเอ่ย “ยากเล็กน้อย.”
ในเวลานี้เขามีพลังบ่มเพาะกษัตริย์ยุทธ์ขั้นที่แปด ยกเว้นเหออู๋ตี้ ในบรรดาศิษย์ เขาคือคนที่มีพลังบ่มเพาะมากที่สุด.
ด้วยทรัพยากรและเขตแดนลับ สิบเดือนก้าวไปถึงขั้นปลายย่อมไม่มีปัญหา ทว่าการจะไปถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ดูเหมือนว่าต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย.
ที่จริงการจะตัดผ่านไปยังระดับจักรพรรดิยุทธ์จำเป็นต้องมีการตระหนักรู้วิถียุทธ์ด้วย ทว่าเขาเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ไม่จำเป็นต้องตระหนักรู้อะไรอีก ทว่าจะอย่างไรก็ยังต้องใช้เวลาอยู่ดี.
ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับการตระหนักรู้ แต่เป็นเวลาต่างหาก.
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและศิษย์คนอื่น ๆ ต้องการไปถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ การตระหนักรู้ของพวกเขายังถือว่ามีน้อยมาก เห็นชัดเจนว่ามีความเป็นไปได้ต่ำยิ่งกว่าเย่ซิงเฉินซะอีก.
ทว่าปัญหานี้ก็ไม่ถือว่าใหญ่นัก.
ด้วยวิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็นและวิชาลับคันฉ่องสวรรค์ห้าธาตุ พร้อมกับค่ายกลรวมวิญญาณและทรัพยากร ต่าง ๆ การจะตัดผ่านระดับไม่ได้ยากเย็นนัก เพียงแค่ต้องใช้เวลาเท่านั้น.
“มารดาเถอะ!”
จุนซ่างเซียวที่กำหมัดแน่น“หากเปิ่นจั้วนำคนเข้าไปด้วยได้มากพอ จะต้องสั่นคลอนไปทั้งพิภพสงครามอย่างแน่นอน.”