Chapter 828 เจ้าวังซีเข้าร่วมงานเลี้ยงหงเหมิน
บนพื้นที่สวยงามเปี่ยมล้นด้วยความสดชื่น.
ไต่ลู่ในชุดสีดำที่ยืนนิ่ง ก่อนที่ร่างกายจะแผ่พลังสีเขียวออกไป ในเวลาเดียวกันพืชที่อุดมสมบูรณ์ถูกดูดซับพลังวิญญาณออกมาเริ่มเหี่ยวแห้ง.
“ฟู่!”
ในเวลาต่อมา เขาก็ลืมตาขึ้น.
พ่นลมหายใจยาว“ตัดผ่านไปยังระดับหกได้ในที่สุด.”
ชายหมวกเขียวที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อหวังที่จะแก้แค้น.
ทว่า หากต้องการไล่ตามจุนซ่างเซียว เกรงว่าคงจะยากสักหน่อย.
“เจ้าหนู.”
เผ่าวิญญาณที่รู้สึกขุ่นข้องใจอย่างหนัก “ดูดเพียงพลังจากพืชและสัตว์ ไม่มีทางที่จะตัดผ่านไปยังระดับจักรพรรดิยุทธ์ได้ ดูดพลังจากผู้ฝึกยุทธ์สิถึงจะเร็ว!”
ไต่ลู่ที่ส่ายหน้าไปมา “การล้างแค้นของข้าไม่ควรจะดึงผู้บริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เช่นนั้นข้าจะต่างอะไรกับปิศาจกัน?”
กล่าวตามจริง เขาและจุนซ่างเซียวมีความแค้นกัน หากแต่เขาก็ไม่ไช่คนโหดร้าย ไร้จิตใจ ที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อแก้แค้น.
“ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะอยู่รอด นี่คือ กฎป่า!”
เผ่าวิญญาณที่เอ่ยกล่าวเสียงดัง“หากเจ้าไม่โหดร้าย ไม่ช้าก็เร็วก็จะมีคนมาสังหารเจ้า!”
“เงียบซะ.”
ไต่ลู่เอ่ย “ข้ามีแผนการ.”
“......”
เผ่าวิญญาณที่เงียบไปในทันที.
เขาที่คิดว่าเจ้าคนนี้โง่ควรจะหลอกง่าย ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีหลักการหนักแน่น ดูเหมือนว่าเขาต้องการยึดครองเจ้าคนนี้ คงจะกินเวลานานเป็นแน่.
......
ในนิกายนิรันดร.
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในหอฝนพรำ เอ่ยออกมาว่า“ระดับกษัตริย์ยุทธ์ขั้นหกอย่างงั้นรึ?”
ลี่ลั่วฉิว เบ้ปาก เอ่ยออกมาว่า.“ข้าต้องดูแลหอฝนพรำ จัดการหอจัดซื้ออีก ใหนเลยจะมีเวลาบ่มเพาะกัน.”
นางที่ตัดผ่านระดับด้วยเม็ดยากษัตริย์ยุทธ์ การที่ตัดผ่านมาถึงขั้นที่หกนั้นเพราะเข้าไปเก็บประสบการณ์ในเขตแดนลับเป็นตาย ไม่เช่นนั้นเวลาที่ไม่ค่อยมี ในการบ่มเพาะ ตอนนี้คงอยู่ในระดับสองหรือสามเท่านั้น.
“เจ้าทำงานได้ดี.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ไม่งั้นแล้วหอวีรบุรุษ 24 คนกับมีเพียงศิษย์เท่านั้นที่ย้ายเข้าไปได้ ไม่เช่นนั้นเขาต้องมอบโควตาให้กับนางแน่.
ลี่ลั่วฉิวกล่าวล้อ.“มายังหอฝนพรำเพียงเพื่อถามระดับบ่มเพาะของข้าเท่านั้นรึ?”
“แน่นอนว่าไม่.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เรื่องที่ข้าให้ไปสืบเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
เมื่อกล่าวเป็นการเป็นงาน ลี่ลั่วฉิวก็กลายเป็นจริงจังทันที“ข้าได้ให้คนสืบไปทั่วทุกที่แล้ว หากแต่ก็ไม่ได้ผลอะไรเลย.”
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา “หรือว่าตาแก่นั่นเพ้อเจ้อ ไปเอง?”
ภายในเจดีย์สิบชั้นสะบั้นชีวิต ราชันย์ค่ายกลเอ่ยออกมาว่า“บางทีอาจต้องใช้เวลานาน ในการเดินทางมาถึงทวีปชิงหยุน ก่อนจะยึดครองกายเนื้อและค่อย ๆ เติบโตขึ้นมา.”
แม้นว่าจุนซ่างเซียวจะไม่ได้รับหน้าที่ปกป้องโลกใบนี้ ทว่าเขาก็ยังสั่งให้หอฝนพรำสืบข่าวไปทั่วแผ่นดินว่ามีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นหรือไม่?
อุโมงค์มิตินั้นถูกผนึกไว้แล้ว แข็งแกร่งหลายร้อยปีก็ไม่มีปัญหา ที่น่ากลัวคงจะเป็นเผ่าวิญญาณที่กำลังแฝงตัวอยู่ในร่างมนุษย์ในปัจจุบันต่างหาก.
ด้วยเหตุนี้ ทำให้จุนซ่างเซียวจำเป็นต้องระวัง.
หากเผ่าวิญญาณแข็งแกร่งขึ้น ดูดพลังวิญญาณมนุษย์ ขอเพียงไม่ทำลายศพและร่องรอย น่าจะมีเงื่อนงำเบาะแสอะไรหรือไม่?
ทว่า หอฝนพรำได้สืบอย่างระมัดระวัง เกี่ยวกับเหตุการณ์แปลก ๆ แต่กับไม่มีร่องรอย มันดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
“ไม่ใช่วิธีการที่ดีนัก.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งพิงเก้าอี้ เอ่ยออกมาว่า“ที่จะนั่งรอคอยให้เผ่าวิญญาณบุกมา.”
“เจ้านิกาย!”
ติงซิงหวังที่ก้าวเข้ามา.
จุนซ่างเซียวและลี่ลั่วฉิวสายตาชะงักค้าง.
เพราะว่าผมของเหล่าติงไม่เพียงฟื้นคืน ทว่ามันกับยาวไปจนถึงหลัง!
“ท่านเอาอะไรให้ข้าใช้!”
ติงซิงหวังที่เผยผมด้านหลังของเขา ใบหน้าที่แทบทรุดไปกับที่“มันยาวขึ้นทุก ๆ วัน แล้วข้าจะไปไหนได้!”
“ยาวก็ตัดออกสิ!”
“สองวันมานี้ข้าตัดไปแปดครั้งแล้ว มันยังยาวไม่หยุด!”
จุนซ่างเซียวถึงกับมุมปากกระตุก.
คนอื่น ๆ ต่างก็ต้องการไว้ผมยาวไปจนถึงหลัง ทว่าติงซิงหวังนั้นยาวเลยและต้องตัดทุกวัน.
อย่างไรก็ตามเพราะว่าเขาใช้แชมพูปลูกผมไปเป็นจำนวนมาก มันจะต้องเติบโตติดต่อไปอีกหลายวัน ถึงจะคืนกลับสู่ปรกติ.
“เจ้านิกาย.”
ถูหนานที่ก้าวตามมา “ขอข้าขวดหนึ่งได้หรือไม่?”
จุนซ่างเซียวที่ตบไปที่ไหล่ของเขา จ้องมองหัวล้านของเขา“เจ้าเป็นผู้บำเพ็ญพุทธ ควรจะมีท่าทางเหมือนกับผู้บำเพ็ญพุทธ แต่หากเจ้าทำผลงานได้ดี เปิ่นจั้วจะลองกลับไปคิดใหม่ก็แล้วกัน.”
“ตกลง ข้าจะไปกวาดลานด้านในเดี๋ยวนี้.”ถูหนานที่หายไปอย่างรวดเร็ว.
“เจ้านิกาย.”
เหล่าเหว่ยเอ่ยรายงาน“ตอนนี้สมุนไพรชุดใหม่เติบโตพอเก็บเกี่ยวแล้ว.”
“อืม.”
ใบหน้าของจุนซ่างเซียวเผยความตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที.
การหลอมเม็ดยากษัตริย์ยุทธ์รอบนี้ จะทำให้ความแข็งแกร่งโดยรวมศิษย์เพิ่มมากขึ้น.
“เจ้านิกาย.”
ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามา เอ่ยออกมาว่า“มีเรื่องบางอย่างที่ต้องรายงาน.”
“กล่าว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “สมาชิกหอฝนพรำส่งข้อมูลมว่า เจ้าวังเมี่ยวฮัวได้ออกจากนิกาย ไปยังจังหวัดหนานหวง.”
“ทำไม?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “เจ้าวังซีถูกเชิญไปยังวังเก้าพิษ.”
“นิกายปิศาจระดับห้านะรึ?”
“ไม่ผิด.”
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางสงสัย “วังเมี่ยวฮัวถือว่าเป็นนิกายที่มีชื่อเสียงฝ่ายธรรมมะ ไฉนเลยเจ้าวังซีถึงต้องเดินทางไปยังนิกายปิศาจ.”
“เท่าที่ข้ารู้.”ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “ศิษย์พี่ซีจิงเสวียนนั้น ถือว่ามีอำนาจเป็นอย่างมากในวังเมี่ยวฮัว ทว่าหลังจากพ่ายแพ้การชิงตำแหน่งเจ้าวังให้กับเจ้าวังซี ก็เกิดความเกลียดพยายาทจนออกจากนิกายไป แม้แต่เข้าร่วมเป็นศิษย์วังเก้าพิษจังหวัดหนานหวง.”
“ดังนั้น.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “นางจึงถูกเชิญไปอย่างงั้นรึ?”
“เป็นไปได้.”ลี่ลั่วฉิวเอ่ย.
ที่จริงเป็นเรื่องปรกติของนิกาย ไม่ใช่เรื่องสำคัญนัก ทว่าการที่นางนำมารายงาน เพราะว่าเกี่ยวข้องกับซีจิงเสวียนที่มีความสัมพันธ์กับเจ้านิกาย หลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่ จึงได้กล่าวรายงาน.
“แล้วเจ้าวังซีไปคนเดียวอย่างงั้นรึ?”
“จางซุนฟางฮัวและเหลิงซิงเยว่เดินทางไปด้วย.”
ได้ยินคำว่าเหลิงซิงเยว่ เหล่าเหว่ยที่นั่งอยู่ใบหน้าสั่นไหวไปมา.
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิด ก่อนเอ่ยออกมาอย่างไม่สนใจนัก "เจ้าวังซีมีอาวุโสสองกษัตริย์ยุทธ์ขั้นปลายตามไปด้วย ไม่น่าจะมีปัญหา.”
“วังเก้าพิษ แม้นว่าจะเป็นนิกายระดับห้า ทว่าวิชาใช้พิษของพวกเขามีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในยุทธภพ หากว่าอีกฝ่ายมีแผนการร้ายต่อเจ้าวังซี ถึงกษัตริย์ยุทธ์ขั้นปลายตามไปด้วย ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย!”เหล่าเหว่ยกล่าวอย่างจริงจัง.
“ความหมายของเหล่าเหว่ย?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
เหล่าเหว่ยเอ่ย “ที่เทือกเขาหัวซาน เจ้าวังซีที่ไม่ลังเลที่จะเชียร์นิกายนิรันดรที่ล่วงเกินนิการปิศาจระดับสาม สองแห่ง ดังนั้นข้าเชื่อว่า จะต้องมีคนไปหาเรื่องอย่างแน่นอน.”
จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม “เหล่าเหว่ยคงเป็นห่วงคนรักเก่าสินะ.”
เหล่าเหว่ยที่แววตาสงสัย “แล้วเจ้านิกายไม่เป็นห่วงเจ้าวังซีอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย“ข้าและเจ้าวังซีนั้นถือว่าเป็นสหายเก่ากัน ในเมื่อรู้ว่านางไปงานเลี้ยงที่สุ่มเสี่ยง แน่นอนว่าข้าย่อมไม่นิ่งดูดาย.”
“เหล่าเหว่ย.”
“เจ้านำเหล่าเจียงไปยังวังเก้าพิษ นิกายนิรันดรของพวกเราจะเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย.”
“รับทราบ!”
เหล่าเหว่ยที่เตรียมตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับนำเจียงเซี่ยบินตรงไปยังจังหวัดหนานหวงทันที.
ระหว่างทางเขาที่ครุ่นคิดในใจ“หากเจ้าวังซีพบกับปัญหา เจ้านิกายก็ควรไปช่วยด้วยตัวเองสิถึงจะถูก แต่กับส่งแค่พวกเราไป ตัวเองนั่งอยู่ที่นิกาย เรื่องนี้.....ซื่อบื้อเกินเยียวยาจริง ๆ.”
เกี่ยวกับเรื่องความรัก เหล่าเหว่ยถือว่าเป็นระดับกษัตริย์เลย ส่วนจุนซ่างเซียวนั้น กับซื่อบื้อไร้การพัฒนาอย่างแท้จริง!
......
“เจ้าวังซี.”
จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่นอกห้องโถง เอ่ยออกมาว่า“หวังว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุอะไร.”
เขาเองก็ต้องการไปยังจังหวัดหนานฮวงด้วยตัวเอง ทว่าอีกฝ่ายคือนิกายปิศาจระดับห้า การส่งสองจักรพรรดิยุทธ์เข้าร่วมงานเลี้ยง ถือว่าเป็นการใว้หน้าแล้ว.
ลี่ลั่วฉิวที่กล่าวในใจ“หากว่าเป็นศิษย์ของเขาพบเข้ากับอันตราย บางทีเจ้านิกายคงเลือดเข้าตา บุกไปยังจังหวัดหนานหวงแล้วตอนนี้.”
“หืม?”
ในเวลาต่อมา เสียงรายงานข้อมูลที่ถูกส่งมา.
“เจ้านิกาย สายของพวกเขาแจ้งข่าวมา ที่จังหวัดตงเห่าป่าแห่งหนึ่งพื้นที่กว่าสิบลี้แห้งเหี่ยว ไร้ซึ่งพลังชีวิต!”
“ขอตำแหน่งที่ถูกต้อง.”
“ที่......”
“แก๊ก แก๊ก –”
ปีกด้านหลังจุนซ่างเซียวที่ปรากฏออกมา ก่อนที่เขาจะพุ่งบินขึ้นฟ้าเห็นเป็นริ้วแสงหายลับขอบฟ้าไป.
“.....”
ลี่ลั่วฉิวที่ส่ายหน้าไปมาพูดไม่ออก.
สาวงามไม่ไปช่วย แต่กับไปทำเรื่องอะไรที่ไร้สาระ เจ้านิกายนี้เป็นเด็กรึไง ที่ไม่รู้จักเรียงลำดับความสำคัญ.