Chapter 824 สิ้นสุดการประลอง
การชี้ขาดจบลง.
หลิวหว่านซีได้รับคะแนนเต็มเอาชนะเฉียนซ่งเป้า.
ที่จริงอาจนับว่าเพราะถูกแผนการของจุนซ่างเซียวเล่นงานต่างหาก หากปล่อยให้เป็นไปตามกฎปรกติ ก็ยังบอกอะไรไม่ได้.
แน่นอน.
ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเฉียนซ่งเป้านั้นแข็งแกร่ง คะแนนทั้งสองไม่ได้แตกต่างกันมากนัก คนทั่วไปแทบจะแยกไม่ออก ทว่ากับกรรมการที่เชี่ยวชาญ ย่อมสามารถแยกออกได้.
“ผู้ชนะเลิศการแข่งขันเทพอาหารครั้งที่ 50-”หวงจินต้วน ที่กล่าวเสียงดัง“หลิวหว่านซี!”
“ศิษย์น้องทรงพลังนัก!”
“ศิษย์น้องแข็งแกร่งมาก!”
ศิษย์นิกายนิรันดรที่ตะโกนเสียงดัง!
“แม่นางหลิว ยินดีกับเจ้าด้วย.”เฉียนซ่งเป้าที่ก้าวเข้ามาแสดงความยินดี.
ที่จริงเขาได้เห็นกระบวนการทำหมี่ผัดกระเพราแล้ว เขารู้ว่าตัวเองต้องแพ้แน่ ทว่าก็ยังฝืนพยายามอย่างเต็มที่.
หลิวหว่านซีเผยยิ้ม“เจ้าเองก็ร้ายกาจมาก.”
นางที่ได้คะแนนเต็ม เพราะว่านางต้องเตรียมอาหารสามมื้อทุกวัน ส่วนอีกฝ่ายนั้นไม่เคยทำเช่นนี้ การที่มีคนห้าพันยอมรับ ก็บอกถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้แล้ว.
เรื่องนี้.
ปฏิเสธไม่ได้ว่าจุนซ่างเซียวมีส่วนเกี่ยวข้อง.
หากพูดถึงเรื่องทักษะอาหาร เฉียนซ่งเป้าและหลิวหว่านซีนั้นมีความสามารถเทียบเคียงการได้ การให้ทั้งสองได้รับชนะเลิศร่วมกัน ก็ไม่ได้เสียหายอะไร.
ทว่าเพื่อที่จะทำให้เกินมาตรฐานภารกิจมหากาพย์ เพื่อให้ได้รับรางวัลที่มากขึ้น ทำให้เขาจำเป็นต้องใช้แผนการนี้ออกมา.
“ข้าชิมได้ใหม?”
เฉียนซ่งเป้าที่จ้องมองหมี่ผัดกระเพา ดวงตาเป็นประกาย.
เขาเป็นพ่อครัว และยังเป็นนักชิมอีกด้วย.
ตอนนี้การแข่งขันจบแล้ว เขาที่ปลดสถานะพ่อครัวมาเป็นนักชิมยอดฝีมือแล้ว!
หวงจินต้วนเอ่ย“ตกลง.”
จากนั้นเขาก็ก้าวมาอยู่ด้านหน้าโต๊ะ พร้อมกับใช้ตะเกียบคีบเส้นผัดขึ้นมา เคี้ยวไปมา เขาที่นึกถึงข้าวผัด ช่วยชีวิตในครั้งนั้น น้ำตาที่อดไม่ได้ต้องไหลออกมา.
“ท่านพ่อ!”
เฉียนซ่งเป้าที่วางตะเกียบ สะอื้นออกมา“ข้าไม่ต้องการกลับบ้านเพื่อสืบทอดทรัพย์สินของตระกูล.....”
เฉียนปูโตวและบุตรที่ตกลงกันมาก่อนหน้า.
หากเขาไม่สามารถชนะเลิศงานประลองเทพอาหารได้ เขาจะต้องกลับไปเพื่อรับสืบทอดตระกูล.
เฉียนซ่งเป้าไม่ต้องการอยู่ในกรงนก เขาหวังที่จะทำลายโซ่ตรวน ไม่ต้องการก้าวไปยังเส้นทางที่บิดาของตัวเองวางไว้ให้.
แต่ว่า...เขาก็ไม่สามารถชนะเลิศงานประลองเทพอาหารได้ เขาจะต้องรับคำสั่ง กลับบ้านสืบทอดธุรกิจตระกูล เป็นทายาทรุ่นสองที่ร่ำรวย.
คนส่วนมากล้วนแต่คาดหวังในสมบัติ คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ต้องการ.
หลิวหว่านซีเผยยิ้ม “เจ้าสามารถเข้าร่วมนิกายนิรันดรได้ ข้าจะสอนเจ้าทำข้าวผัดและเส้นหมี่ผัดกระเพราให้!”
เห็นสาวน้อยที่ทำตามประสงค์ของเจ้านิกายโดยที่เขาไม่ได้สั่ง ก็ทำให้จุนซ่างเซียวพึงพอใจเป็นอย่างมาก.
เฉียนซ่งเป้าที่กำลังขัดขืน เห็นชัดเจนว่าภายในใจของเขาก็สั่นไหว.
หลังจากที่ครุ่นคิดเล็กน้อย เขากล่าวออกมาอย่างยากลำบาก “ข้าเป็นคนขี้เกียจมาก ข้าไม่ชอบทำงาน ข้า....กินอย่างเดียวได้หรือไม่?”
กินอย่างเดียว?”
จุนซ่างเซียวถึงกับมองบน.
นิกายนิรันดรของข้าไม่ต้องการคนขี้เกียจ และไม่จำเป็นต้องมีนักชิมด้วย!
“เรื่องนี้.....”
หลิวหว่านซีที่จ้องมองไปยังจุนซ่างเซียว“ข้าคิดว่า เจ้านิกายต้องดีใจแน่.”
ดีใจ!!!
แม้นว่าจุนซ่างเซียวจะแทบทรุดไปกับที่ ทว่าเมื่อคิดอีกอย่างหนึ่ง เจ้านี่คือคนรวยรุ่นสอง การที่รับเข้ามาเป็นศิษย์ก็ถือว่าไม่เลว.
ลำพังตัวขี้เกียจ เจ้าหมูแคระก็เกินพอแล้ว เขายังต้องรับเจ้าคนนี้มาฝึกอีกรึ?
จุนซ่างเซียวเอ่ย “สาวน้อย บอกเขา เปิ่นจั้วจะรับเขาเข้านิกายนิรันดรก็ได้ ทว่าจะต้องจ่ายค่าเข้าแพงเล็กน้อย.”
กินอย่างเดียว ย่อมต้องจ่าย.
“อืม.”
หลิวหว่านซีที่นำคำพูดของเจ้านิกายมา เฉียนซ่งเป้าที่เผยยิ้ม“ขอเพียงได้กินอาหารแม่นางหลิวทุกวัน การจะจ่ายย่อมไม่มีปัญหา!”
เห็นอีกฝ่ายตอบรับเช่นนั้น จุนซ่างเซียวเอ่ย “เช่นนั้น ข้ารับ!”
......
ภายใต้สายตาจับจ้องของปวกชวน หลิวหว่านซีที่รับถ้วยชนะเลิศการแข่งขันเทพอาหารครั้งที่ 50 ไปครอง.
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
สมาคมรับรองสิทธิ์ อี้เทียนเจียนที่หัวเราะเสียงดัง.
การแข่งขันเทพอาหารไม่ได้เกี่ยวกับวิถียุทธ์ ทว่าศิษย์นิกายนิรันดรได้ชัยชนะเลิศ แน่นอนว่าย่อมทำให้เขาได้หน้าไปคุยข่มสมาคมรับรองสิทธิ์จังหวัดอื่นได้.
หลายวันมานี้ นิกายนิรันดรที่สร้างเรื่องใหญ่นับไม่ถ้วน มากมายจนเลือกไม่ไหว.
เฮ้อ เลือกยากจริง ๆ.
อย่างไรก็ตามอาวุโสโจวและอาวุโสเจิ้นที่ยืนอย่างวางใจ.
โชคดีนี่เพียงแค่การประลองเทพอาหารไม่ได้เกี่ยวกับวิถียุทธ์ ไม่เช่นนั้นการที่นิกายนิรันดรได้ชนะเลิศเช่นนี้ เจ้าสมาคมคงล้มชักกระตุกไปแล้ว.
......
“ติ๊ง! ศิษย์หลิวหว่านซีได้รับชนะเลิศเทพอาหาร เป็นไปตามเงื่อนไข ภารกิจสมบูรณ์ 200% โฮสน์ได้รับ 40,000 แต้ม.”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุน : 64480 / 50000.”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนเกิน...........”
หลิวหว่านซีที่ขึ้นรับถ้วยรางวัล ในหูของจุนซ่างเซียวที่มีเสียงแจ้งเตือนที่ทำให้เขาตื่นเต้นดีใจราวกับโบยบินขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นเก้า.
“ติ๊ง! พบว่าภารกิจมหากาพย์ที่เจ็ดยังไม่สำเร็จ รางวัลภารกิจมหากาพย์ที่แปดจะถูกนำไปรวมกับภารกิจมหากาพย์ที่เจ็ด.”
ขณะที่โบยบินบนสวรรค์ ทันใดนั้นก็รู้สึกราวถูกทุบหล่นลงมาบนพื้นทันที!
จุนซ่างเซียวที่ได้แต่โอดครวญ “ขีดจำกัดเวลาบัดซบ!”
เห็นชัดเจนว่าเขาทำภารกิจเสร็จแล้ว แต่เพราะอีกหนึ่งภารกิจกำหนดระยะเวลาภารกิจจึงทำให้เขายังไม่ได้รางวัล ช่างน่าเศร้าจริง ๆ
ที่เศร้าที่สุด เพราะว่าภารกิจที่เจ็ดเองก็เป็นไปตามเงื่อนไขแล้ว เพียงแต่ต้องรอเวลาหนึ่งปีถึงจะประเมินผล.
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่ถอนหายใจ “เส้นทางนี้ยาวไกลนัก จะเร่งไม่ได้.”
......
และแล้วการแข่งขันการประลองเทพอาหารก็ประกาศจบลง เหล่าชาวยุทธ์ที่กำลังแยกย้าย เหล่ากรรมการจำเป็นที่ได้เข้าร่วมชิม ช่างเป็นโชควาสนา โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาได้กินเส้นหมี่ผัดใบกระเพรา.
“อาหารประเภทเส้นกับการยกระดับมาได้ถึงเพียงนี้ เป็นอาหารที่น่าชื่นชมจริง ๆ!”
“หากข้าได้กินผัดเส้นของสตรีผู้นั้นทุกวัน ข้าคงมีความสุขที่สุดในโลก!”
“ตัดสินใจแล้ว ข้าจะไปละทะเบียนเข้าร่วมนิกายนิรันดร!”
เหล่าชาวยุทธ์มากมายที่ไม่สามารถทนความยั่วยวนของอาหารได้ หลายต่อหลายคนที่วางแผนที่จะเดินทางไปลงทะเบียนที่มนทลชิงหยาง.
จุนซ่างเซียวไม่คาดคิดมาก่อน เท่าที่เขาคำนวณ คนที่มาลงทะเบียนเพิ่มมากขึ้น คงเป็นผลมาจากโฆษณาเป็นแน่.
“เจ้านิกายจุน ได้ชัยชนะเลิศแล้วจะกลับเลยรึ?”
ที่ทางเข้าตำหนักเจ้าเมือง เจ้าเมืองหานมาส่งเขาด้วยตัวเอง.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ภายในนิกายมีงานเยอะ จุนโหมวย่อมต้องรีบกลับไปให้เร็วที่สุด.”
“ตกลง.”
เจ้าเมืองหานที่ยกมือประสาน ”หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้ง.
จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม “หากว่าเจ้าเมืองหานจัดการไปตามที่จุนโหมววางเอาไว้ การประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรครั้งหน้าจะได้รับกำไรมากมายแน่.”
เจ้าเมืองหานที่กล่าวออกมาอย่างซื่อตรง“เกี่ยวกับเรื่องเงิน หานโหมวสามารถมองเห็นได้อย่างทะลุแล้ว.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.
เมื่อครั้งที่เจ้ารับศิลาวิญญาณจำนวนมาก ดูเหมือนว่าจะมีรอยยิ้มมากกว่าข้าอีก เชื่อเลยว่ามองขาด!
“ขอลา!”
“ขอลา!”
จุนซ่างเซียวนำหลิวหว่านซี ราชาสัตว์จื่อหลินและเหยาเมิ่งหยิงออกจากเมืองจักรพรรดิ.
แม้นว่าทั้งสองคน นึ่งคือราชาสัตว์จื่อหลิน อีกหนึ่งคือคนที่มีกายาต้นกำเนิดมาร ทว่าก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ที่จริงทั้งสองมาเพื่อเชียร์หลิวหว่านซีจริง ๆ.
เฉียนซ่งเป้าไม่ได้เดินทางไปยังจังหวัดซีเหนียนหยางพร้อมกับพวกเขา ทว่าเขาจะต้องกลับไปพูดคุยกับบิดาของตัวเองก่อน.
“หืม?”
ขณะออกมาจากเมืองจักรพรรดิ ที่เส้นทางหลัก หลินเหยาที่สะพายมีดด้านหลังยืนพิงต้นไม้อยู่.
ดูจากร่องรอยต้นไม้ดูเหมือนว่าเขาจะมารอนานแล้ว.
“เจ้านิกายจุน.”
หลินเหยาที่ก้าวเข้ามายกมือประสานไปด้านหน้า“ข้าหลินเหยาไม่มีนิกาย เป็นผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดที่ตระเวนไปทั่วยุทธ์ภพ ต้องการเข้าร่วมนิกายอันทรงเกียรติของท่าน!”
การที่มีคนเข้าคุณสมบัติพื้นฐานนั้นมีน้อย.
“เจ้าสามารถทนความยากลำบากได้หรือไม่?”
“สามารถ.”
“เจ้าสามารถแบกรับความเหนื่อยล้าได้หรือไม่?”
“สามารถ.”
“เจ้าสามารถที่จะละทิ้งชีวิต เพื่ออยู่กับนิกายของพวกเราตลอดได้หรือไม่?”
“สามารถ.”
ภายใต้การสอบถามมากมายของจุนซ่างเซียว หลินเหยาที่กล่าวตอบรับง่าย ๆ สบาย ๆ.
ในแววตาของเขา เห็นชัดเจนว่าเขาต้องการเข้าร่วมนิกายนิรันดรอย่างแท้จริง.
“ตามเปิ่นจั้วกลับไปนิกายนิรันดร.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
หลินเหยายกมือประสาน “ขอบคุณเจ้านิกาย!”
ด้วยเหตุนี้ จึงมีอีกคนหนึ่งเพิ่มขึ้นมาขณะกลับนิกาย.
ระหว่างทาง จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิด“เจ้าคนนี้สามารถรับหน้าที่หั่นผักช่วยหม่าหยงหนิงได้.”