Chapter 822 ความคิดเห็นของสาธารณะ ทำไมไม่คล้อยตามล่ะ
การทำอาหารของหลิวหว่านซีที่เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดินไม่ได้ด้อยกว่าของเฉียนซ่งเป้า ต้องไม่ลืมว่าการสร้างหงส์ร่อนมังกรเหินนั้นถือเป็นเรื่องที่ดูยิ่งใหญ่ ทว่าจากนั้นมันได้เปลี่ยนเป็นตัวอักษร“นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล!”ต่อหน้าทุกคนอีก.
“เฉียบเป็นบ้า!”
“ปรากฏการณ์ที่สร้างอักษรได้ด้วย!”
“เรียกนิกายตัวเองแข็งแกร่งที่สุด ช่างโอหังมากจริง ๆ!”
เหล่าผู้คนที่เห็นการโฆษณาอันบ้าคลั่งนี้ ต่างก็พูดคุยกันเสียงดัง.
จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้สอนหลิวหว่านซี ทว่านางกับทำเรื่องนี้ออกมา ทำให้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก.
ระบบเอ่ย “เลียนแบบเจ้าไง!”
กับวัฒนะธรรมจากต่างโลกที่จุนซ่างเซียวนำมามันเริ่มที่จะแพร่ลามออกไปช้า ๆ แล้ว!
ผู้เข้าร่วมแข่งขันสองคน ที่กระตุ้นก่อให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดิน สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก พวกเขาที่ได้แต่ครุ่นคิด ใครกันแน่ที่จะได้รับชัยชนะเลิศในครั้งนี้?
หากว่าหลิวหว่านซีไม่ได้ทำอาหารที่เกิดปรากฏการณ์ เกรงว่าคนส่วนมากคงจะจำได้แต่เฉียนซ่งเป้าที่ก่อให้เกิดหงร่อนมังกรเหินขึ้น และสรุปว่าเขาจะต้องได้รับชนะเลิศอย่างแน่แท้.
เป็นความจริง.
หลังจากเกิดปรากฏการณ์ครั้งแรก เหล่ากรรมการทั้งสิบดูเหมือนว่าจะให้คะแนนเรื่องนี้ด้วย.
ในความเห็นของพวกเขา มีเพียงอาหารที่ประสบความสำเร็จขั้นสุดเท่านั้น ที่จะเกิดปรากฏการณ์ ไม่ใช่อาหารทั่วไปจะมาเทียบได้.
แน่นอนว่าแม้แต่จุนซ่างเซียว ยังกังวลเล็กน้อยเช่นกันว่าศิษย์ของเขาจะแพ้เฉียนซ่งเป้า.
อย่างไรก็ตาม ขณะที่หลิวหว่านซีที่กระตุ้นปรากฏการณ์ฟ้าดิน ยังสามารถสร้างตัวอักษรโฆษณานิกายของตัวเองได้อีกด้วย.
ในเวลานี้ผู้เข้าแข่งขันอีกแปดคนที่เศร้าใจสุด.
ในเวลานี้ แววตาของพวกเขาที่สิ้นหวัง ราวกับจะยินยอมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแล้ว!
อาหารที่สร้างปรากฏการณ์ฟ้าดิน การจะเกิดขึ้นในการแข่งขันสักครั้งก็ถือว่ายากแสนยาก หากเกิดขึ้นแล้วแทบจะรับประกันได้เลยว่าคน ๆ จะได้รับชัยชนะ ตอนนี้ยังมีคนแม้แต่ควบคุมให้เกิดอักษรขึ้นอีกด้วย แล้วพวกเขาจะมีความมั่นใจ จะเอาอะไรไปสู้กัน.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม---”
ปรากฏการณ์ฟ้าดินของเฉียนซ่งเป้ายังไม่ได้หายไป สัตว์ร้ายทั้งสองที่เวลานี้ราวกับจับจ้องมองรอคอยที่จะตัดสินแพ้ชนะ.
“ร้ายกาจ!”จุนซ๋างเซียวเอ่ยชม.
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากไก่และปลา ก่อรูปเป็นหงส์ร่อนมังกรเหิน.
ส่วนสตรีคนนั้นได้เปลี่ยนมันให้กลายเป็นอักษรห้าตัว อย่างจงใจ เรื่องเช่นนี้มันเหลื่อเชื่อมาก!
แน่นอน.
ปรากฏการณ์ของทั้งสองที่ไม่มีใครด้อยกว่าใคร ดังนั้นใครจะแพ้ชนะ คงมีเพียงให้กรรมการทั้งสิบประเมินและตัดสิน.
......
หลังจากผ่านสองก้านธูป.
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันอีกแปดคนก็ทำอาหารเสร็จเช่นกัน ทว่าขณะนำอาหารมาประเมิน สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเศร้าใจอย่างที่สุด.
สองปรากฏการณ์ฟ้าดิน มันได้กดดันพวกเขาอย่างหนักหน่วง เรื่องเช่นนี้ทำให้พวกเขาใจเสียอย่างช่วยไม่ได้ การที่อาหารพวกเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ย่อมต้องรู้สึกด้อยกว่า.
“กรรมการทั้งสิบเชิญประเมิน!”หวงจินต้วนที่ประกาศกล่าวเสียงดัง.
ในเวลานั้น สายตาของทุกคนจับจ้องมองไปยังกรรมการ ที่กำลังประเมินและตัดสินว่าใครจะได้ชัยชนะเลิศครั้งนี้!
“เชิญ.”
กรรมการทั้งสิบที่ก้าวขึ้นเวที แทบจะไม่มองอาหารของผู้เข้าแข่งขันทั้งแปด ในเวลานั้นพวกเขาไปหยุดที่อาหารของเฉียนซ่งเป้า.
ไม่ว่าอาหารของผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งแปดจะสมบูรณ์ขนาดใหน ทว่าในเมื่อไม่ได้สร้างปรากฏการณ์ ย่อมต้องถูกนับว่าด้อยกว่า.
“เฮ้อ.”
หลินเหยาได้แต่ถอนหายใจ.
เขาคือหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่เป็นตัวเก็งถัดจากเฉียนซ่งเป้า ทว่าในรอบชิงชนะเลิศนี้ กรรมการกับไม่แยแสเขาแม้แต่น้อย เรื่องเช่นนี้ทำลายจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก.
การแข่งขันในปีนี้.
ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่โดดเด่น ทว่าสองคนในปีนี้มันอสุรกายพรสวรรค์ชัด ๆ.
ชายชราที่รูปร่างเหมือนปราชญ์จ้องมองไก่และปลาที่วางบนเคียงข้างกัน “อาหารของเจ้าอย่างเดียว หรือสองอย่าง.”
“รวม.”
เฉียนซ่งเป้าที่วาดมือบนอากาศ พลังวิญญาณที่แผ่ปะทุออกไป อาหารสองจานที่ลอยออกมาหมุนวนโคจร ก่อนที่จะรวมผสานกัน.
จากภาพที่เหล่าชาวยุทธ์ทั่วแผ่นดินมองเห็น ปลาและไก่ที่กำลังหมุนวนเป็นรูปตัว S โคจรเหมือนกับแผนผังหยินหยาง.
“ซี่-”
เฉียนซ่งเป้าที่โบกมือ พร้อมกับเทน้ำมันลงราด ก่อนที่กลิ่นจะหอมตลบอบอวลแผ่ซ่านไปทั่วอากาศ.
“ฟู่ ฟู่!”
บนท้องฟ้าปรากฏการณ์หงส์ร่อนมังกรเหินก็ผสานรวมกันเช่นกัน ก่อนที่จะหมุนวนโคจรคืนกลับมาผสานเข้ากับอาหาร.
เฉียนซ่งเป้าที่โบกมือเอ่ยออกมาว่า“หงส์ร่อนมังกรเหินของข้าเสร็จสมบูรณ์แล้ว โปรดชิม.”
กรรมการทั้งสิบที่สะดุ้งตกใจ เห็นชัดเจนว่าคาดไม่ถึง เจ้าเด็กนี้เพิ่งมาทำเสร็จเอาตอนนี้.
อย่างไรก็ตาม......
หลังจากที่เทน้ำมันราดแล้ว กลิ่นหอมที่รุนแรง ทำให้ร่างกายคนที่ได้กลิ่นสดชื่นขึ้นมาในทันที.
“กลิ่นหอมที่ทำน้ำลายสอนี้คืออะไร!”
ไม่ใช่แค่เพียงคนในสนาม ทว่าเหล่าคนที่จับจ้องราวกับได้กลิ่นไปด้วย จนต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว.
“นี่...จะต้องอร่อยสุดยอดอย่างแน่นอน!”
“ข้ายอมอายุลดลงสองสามปีเลย หากว่าสามารถชิมมันได้!”
“สองสามปีมันน้อยไป อย่างน้อยต้องสิบปี!”
หงส์ร่อนมังกรเหินที่เฉียนซ่งเป้าทำนั้น เป็นอาหารที่ไม่สามารถจ่ายได้ด้วยเงินตรา ทว่าจะต้องใช้อายุไขแลกเปลี่ยนถึงจะเหมาะสม!
เหล่าผู้ชมที่ต่างก็ปรารถนาที่จะพุ่งเข้าไป เตะกรรมการออกไป พร้อมกับชิมด้วยตัวเอง.
จุนซ่างเซียวเผยยิ้มเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่ร้ายกาจจากจิตสัมผัส ทำให้ลอบคิดในใจ“เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจริง ๆ!”
“วูซซซซ!”
ราชาสัตว์จื่อหลินที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ แววตาเป็นประกาย หวังที่จะระเบิดเสื้อผ้าแล้วพุ่งเข้าไปจริง ๆ!
“อย่าทำอะไรให้เปิ่นจั้วขายหน้า.”จุนซ่างเซียวกล่าวเตือน.
“เจ้านิกาย.”
เหยาเมิ่งหยิงเอ่ย “อาหารของคน ๆ นี้ค่อนข้างหอมจริง ๆ.”
นางและราชาสัตว์จื่อหลินที่ได้กินอาหารของหลิวหว่านซีแล้ว กินอาหารของคนอื่น ๆ ล้วนแต่ไร้รสชาติ ทว่าหงส์ร่อนมังกรรำของเฉียนซ่งเป้า ทำให้ความอยากอาหารของพวกเขาลุกโชน ช่างเป็นอาหารที่แข็งแกร่งจริง ๆ.
......
“ทุกท่าน.”
ชายชราที่เหมือนปราชย์ยกมือประสานกล่าวด้วยความอหังการ “ลองชิม.”
“เชิญ!”
“เชิญ!”
แม้นว่าทุกคนจะเอ่ยกล่าวเช่นนั้น ทว่าร่างกับกับทรยศ เร่งรีบถือตะเกียบคีบปลาและไก่ แม้แต่ตักน้ำซุปใส่ถ้วนอย่างว่องไว.
ท่ามกลางสายตาของผู้คนทั่วแผ่นดินจ้องมองอย่างจริงจัง.
กรรมการทั้งสิบที่เริ่มชิมแล้ว หลังจากที่อาหารเข้าปาก ร่างกายของพวกเขาก็สั่นไปมาเล็กน้อย หลับตาพริ้ม ใบหน้าที่เผยความรู้สึกราวกับจะบินได้.
ในเวลานี้ คล้ายว่าดวงวิญญาณของพวกเขาบินไปแล้ว ผสานเข้ากับปรากฏการณ์ฟ้าดิน ตามมังกรและหงส์ที่ลอยไปบนฟ้าเรียบร้อยแล้ว!
“พวกเขากำลังฟ้อนรำอย่างงั้นรึ?!”
บนหน้าจอ เหล่าชาวยุทธ์ทั่วแผ่นดินที่เห็นกรรมการทั้งสิบกำลังวิ่งวนไปมา เหมือนกันปรากฏการณ์ฟ้าดินที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้!
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.
อร่อยจนเสียทรงไปแล้ว นี่พวกเขารู้ตัวหรือไม่?!
ขณะที่กระโดดโลดเต้นอยู่ชั่วขณะ.
กรรมการทั้งสิบก็คืนกลับสติ ก่อนจะรู้ตัวว่าตัวเองเพิ่งกระโดดโลดเต้นออกไป ตอนนี้ใบหน้ากลายเป็นสีแดงซ่านด้วยความเขินอาย.
“ทุกท่าน.”
หวงจินต้วนเอ่ย “เป็นอย่างไรบ้าง.”
“ยอดเยี่ยม!”
“ยอดเยี่ยม!”
กรรมการทั้งสิบที่แสดงคะแนน คนล่ะ 10 แต้มกันหมด!
“ได้คะแนนเต็มจริง ๆ!”
ผลคะแนนเช่นนี้ เหล่าผู้ชมที่ไม่ประหลาดใจ ต้องไม่ลืมว่าอีกฝ่ายนั้นทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดินที่น่าเกรงขามขึ้น.
“แล้วหากศิษย์นิกายนิรันดรได้คะแนนเต็มล่ะ จะเป็นอย่างไร?”
“ก็มีโอกาสเป็นเช่นนั้นจริง ๆ!”
ผู้คนต่างคาดเดา สิบกรรมการเวลานี้มายืนอยู่ที่หน้าอาหารของหลิวหว่านซี ชายชราที่เหมือนปราชญ์สอบถาม “สาวน้อย อาหารเจ้าชื่ออะไร?”
“หมูสามชั้นน้ำแดง.”หลิวหว่านซีเอ่ย.
อาหารจานนี้เป็นสูตรอาหารจีนจากโลกเดิมของจุนซ่างเซียว ทว่าได้ปรับเปลี่ยนใช้วัตถุดิบของโลกใบนี้ ดังนั้นอาจนับได้ว่านี่คือนวัตกรรมอาหารแบบใหม่.
“สามารถเปิดได้ไหม?”
“ฟิ้ว!”
หลิวหว่านซีที่โบกมือ ฝาปิดที่เปิดออก ปรากฏหมูสามชั้นน้ำแดงต่อหน้ากรรมการทั้งสิบ ที่มีน้ำซุปเข้มข้นราดแล้ว.
“ดูธรรมดามาก.”ชายชราที่เหมือนปราชญ์เอ่ย.
อาหารที่หลิวหว่านซีทำนั้น ไม่ได้ดูดโดดเด่นเหมือนกับหงส์ร่อนมังกรเหิน ทว่าความจริงที่หลิวหว่านซีได้คะแนนเต็มรอบที่แล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถดูแคลนได้.
พวกเขาที่เตรียมน้ำเอาไว้ในทันที ก่อนที่จะคีบหมูสามชั้นขึ้นมา ทันทีที่เข้าไปในปาก กลิ่นหอมละมุนที่แผ่ซ่านไปทั่วปาก!
เพียงแค่กัดเบา ๆ เนื้อที่ชุ่มฉ่ำแทบละลายไหลกวาดไปทั่วปาก.
นุ่มลื่นไม่เหนียว อร่อยแบบเนียนนุ่มอ่อนละมุน.
จุนซ่างเซียวที่จดจ้องมอง เห็นกรรมการทั้งสิบไม่ได้แสดงท่าทางออกมา ภายในใจรู้สึกไม่ดีแม้แต่น้อย.
ไม่ใช่ว่าต้องแสดงท่าทางอะไรหน่อยรึ?
ก่อนหน้านี้ยังเต้นจนเสียภาพพจน์ไปหรือไม่?
กล่าวให้ถูก.
เพราะว่าอาหารของเฉียนซ่งเป้าก่อนหน้า ทำให้อีกฝ่ายมีภูมิคุ้มกันต่ออาหารของหลิวหว่านซีอย่างงั้นรึ?
ไม่ได้การแล้ว!
กล่าวให้ถูก เพราะว่าการประเมินของเฉียนซ่งเป้าและหลิวหว่านซีที่มีผลต่อภารกิจมหากาพย์ของเขา แม้นว่าจะมั่นใจว่าสามารถเอาชนะคนอื่น ๆ อีกแปดคนได้ ได้แต่ระดับความสำเร็จของภารกิจก็จะน้อยลง.
จุนซ่างเซียว ที่ต้องการทำเกินมาตรฐานของภารกิจ เพียงแค่ที่สองไม่พอใจแน่ เขาหวังให้ศิษย์ตัวเองได้ที่หนึ่งเลย.
เห็นเหล่ากรรมการทั้งสิบที่ไม่แสดงอาการออกมา ดูคล้ายกับว่าด้อยกว่าเฉียนซ่งเป้าเป็นอย่างมาก อธิบายได้ว่าหมูสามชั้นน้ำแดงนั้นไม่ได้กระแทกไปถึงดวงวิญญาณ!
“อึก.”
เหล่ากรรมการทั้งสิงที่เคี้ยวกันอาหารไม่หยุด กลืนลงทอง แล้วคีบซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า จนพบว่าบนจานนั้นเหลือหมูเพียงชิ้นเดียวแล้ว.
หลิวหว่านซีที่ตัดอาหารเป็นชิ้น ๆ แยกเป็นสิบชิ้นอย่างเท่ากัน ให้พวกเขากินจนถึงชิ้นสุดท้าย.
“เฮ้อ.”
ชายชราที่ส่ายหน้าไปมา.“ไม่ได้ทำให้เกิดอารมณ์อะไรอย่างงั้นรึ?”
ชายชราที่เอ่ยไม่เผ็ดไม่มีความสุขเอ่ย “หมูสามชั้นน้ำแดงของหลิวหว่านซี แม้นว่าจะไม่ได้กระแทกไปถึงดวงวิญญาณ แต่กับกระตุ้นความอยากอาหารจริง ๆ ทำให้ข้ารู้สึกไม่รู้จักอิ่มขึ้นมา.”
“ดังนั้น.....”
เขาหยุดและยกป้ายขึ้น“สิบคะแนน!”
“สุดยอดอาหาร เจตจำนงแท้จริงก็เพื่อให้ท้องอิ่ม แม้นว่าจะเลิศหรูเพียงใด แต่รากฐานของมันต้องอิ่มท้อง.”กรรมการอีกคนเอ่ยพลางให้คะแนน.
บนป้ายให้คะแนน ต่างก็ปรากฏสิบแต้มเหมือนกันหมด!
หวงจินต้วนประกาศออกมาเสียงดัง“หมูสามชั้นน้ำแดงของหลิวหว่านซี ได้คะแนนเต็มเหมือนกัน!”
“เป็นความจริง!”
“ทั้งสองได้คะแนนเต็ม!”
“หากเป็นเช่นนี้? แล้วใครได้รับชัยชนะเลิศล่ะ?”
ผู้คนที่พูดคุยกันเสียงดัง.
หวงจินต้วนที่รู้สึกอักอ่วน ต้องไม่ลืมว่างานแข่งขันทำอาหารย่อมต้องมีผู้ชนะเลิศ ทว่าในเวลานี้กับมีคนได้คะแนนเต็มเท่ากัน แล้วจะมอบคนชนะเลิศให้กับใครล่ะ?
“ประมุขหวง.”
ชายที่เหมือนปราชญ์เอ่ยออกมาว่า.“ท่านเป็นคนชี้ขาดก็แล้วกัน.”
หวงจินต้วนที่ครุ่นคิดและเอ่ยว่า“หากเป็นเช่นนั้น.”
“ประมุขหวง.”
ในเวลาเดียวกัน จุนซ่างเซียวบนเวทีผู้ชมที่เอ่ยปาก“ท่านจะตัดสินชี้ขาดใครคนหนึ่งจากที่พวกเขาได้คะแนนเต็มเท่ากันอย่างงั้นรึ?”
ระบบแทบทรุด “คิดจะข่มขู่รึอย่างไร!”
“เรื่องนี้....”หวงจินต้วนที่กล่าวอักอ่วน.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “จุนโหมวมีคำแนะนำ การตัดสินของคนทั้งสอง ให้เหล่าผู้ชมได้ชิมและให้คะแนนพวกเขาเป็นอย่างไร.”
“สิบคนอาจจะเหมือนกัน หากเป็นร้อยคน พันคนหรือหมื่นคนล่ะ จะเหมือนกันไหม บางทีอาจจะชนะกันเพียงเล็กน้อยก็ได้.”
“ทุกท่าน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยกล่าวเสียงดัง”ท่านคิดว่าอย่างไร?
“เห็นด้วย!”
“เจ้านิกายจุนแนะนำได้ไม่เลว!”
“ให้คนจำนวนมากช่วยประเมิน เช่นนี้ถือว่ายุติธรรมที่สุด!”
ไม่มีใครโต้แย้ง เพราะว่าพวกเขาต้องการที่จะชิมอาหารที่ได้คะแนนเต็มอยู่แล้ว มันจะต้องอร่อยอย่างแน่นอน!
“ประมุขหวง พวกเรายินดีช่วยเหลือ!”
“ประมุขหวง พวกเรายินดีที่จะประเมินให้ฟรีเลย!”
เหล่าผู้ชมที่ตะโกนเสียงดัง เสียงที่ดังกึกก้อง ทำให้หวงจินต้วนต้องขมวดคิ้วทันที ต้องไม่ลืมว่าไม่เคยมีการให้คนที่ไม่ใช่มืออาชีพมาตัดสินชิมอาหารมาก่อน.
“ประมุขหวง.”
ในเวลานั้น เจ้าเมืองหานที่เอ่ยกล่าวออกมาเสียงดัง“ความคิดเห็นของสาธารณะ ทำไมไม่คล้อยตามล่ะ?”
ในเมื่อเจ้าเมืองจักรพรรดิเองก็แสดงความเห็นเช่นนั้นออกมา แม้นว่าหวงจินต้วนจะสงสัย ทว่าก็ประกาศออกมาเสียงดัง“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การตัดสิน จะให้ประชาชนเข้าร่วมประเมิน ตัดสินว่าใครดีกว่าใคร!”
จุนซ่างเซียวที่นั่งพิง ส่งเสียงผ่านวิญญาณ“เจ้าเมืองหาน ขอบคุณ.”