Chapter 818 หากไม่สำเร็จก็จะไม่ได้รับการสืบทอด
สถานะของเจ้าคนนี้ทำให้จุนซ่างเซียวคาดไม่ถึง แท้จริงแล้วคนที่เขาช่วยไว้เป็นศิษย์เทพอาหารซ่งเป้า!
แล้ว.
เฉียนปู่โตวนั่นล่ะ?
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดเล็กน้อย รู้ว่าอีกฝ่ายต้องปกปิดตัวเองนั้น เพราะมีเหตุผล.
ผู้สืบทอดเทพอาหาร มานอนหมดสติเพราะหิวอยู่กลางถนน เรื่องเช่นนี้ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้.
หรือว่าเจ้าคนนี้ จงใจเข้ามาหยั่งเชิงหลิวหว่านซีอย่างจงใจอย่างงั้นรึ?
“ไม่ใช่ ไม่ใช่.”
จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นบีบขมับไปมา “สมองของข้ากำลังสับสน จะต้องใจเย็นลงหน่อย.”
หากว่าเจ้าคนนั้นจงใจเข้ามาหา แล้วทำไมถึงได้มอบเงินและศิลาวิญญาณให้ล่ะ?
และอีกอย่าง แล้วทำไมต้องแกล้งปลอมตัวเป็นเฉียนปูโตว?
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกสมองโล่งไปเหมือนกัน ดูเหมือนว่ายิ่งคิดก็ยิ่งไม่สมเหตุสมผล เจ้าคนนี้มีอะไรผิดปกติไปจนหมด.
ระบบที่ราวกับรู้สึกยินดีกับโชคร้ายของคนอื่น“เห็นโฮสน์เสียเปรียบคนอื่น ทำให้ข้ารู้สึกพอใจยิ่งนัก.”
“ไปให้พ้น!”
......
ภายในสนาม.
ขณะผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดของซ่งเป้าดวงตาเบิกกว้างไปตาม ๆ กัน.
เขาที่เป็นตัวเก็งงานประลองเทพอาหาร กับบอกว่ายากจะชนะสตรีผู้นี้ได้อย่างงั้นรึ?!
พูดจริงรึ?
หรือว่ากล่าวถ่อมตัว?
ทว่า จากสายตาแล้ว เห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายนั้นจริงจัง.
หลิวหว่านซีที่เต็มไปด้วยความสงสัย“เจ้าไม่ได้ชื่อ.....เฉียนปูโตวหรอกรึ? แล้วทำไมถึงได้กลายเป็นซ่งเป้า?”
“ข้าขอบอกความจริงกับแม่นางหลิว.”
ซ่งเป้าที่เกาศีรษะไปมา “ข้ามีสกุลว่าเฉียน นามซ่งเป้า ส่วนเฉียนปูโตวนั้นคือบิดาของข้า.”
“เขาให้ข้าไปเป็นศิษย์เทพอาหาร มีเพียงแค่สำเร็จการศึกษาได้เท่านั้นถึงจะใช้ชื่อตัวเองได้ ไม่เช่นนั้นข้าก็จะไม่สามารถกลับบ้านสืบทอดธุรกิจได้.”
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”หลิวหว่านซีเข้าใจทันที.
จิตสัมผัสของจุนซ่างเซียวก็ได้ยินคำพูดดังกล่าว ทำให้เขาเข้าใจได้ในทันที รู้สึกแทบทรุดในใจเช่นกัน “ต้องการให้บุตรชายเป็นพ่อครัว หากไม่สำเร็จก็จะไม่ได้รับการสืบทอด เฉียนปูโตวช่างเป็นคนที่ยากจะพบเห็นได้จริง ๆ.”
“ฟิ้ว!”
เฉียนซ่งเป้าเอ่ย “นี่คือความลับของข้า อย่าไปบอกคนอื่นนะ.”
ผู้เข้าร่วมแข่งขัน“.......”
คนทั่วแผ่นดิน“...........”
ในเวลานี้พวกเราควรจะร่วมมือกับเขา แกล้งเป็นไม่ได้ยินอย่างงั้นรึ?
......
“แท้จริงแล้ว ซ่งเป้าก็คือเฉียนซ่งเป้า!”
“ประมุขเฉียน แม้นว่าจะมีภารยาและอนุอีกจำนวนมาก ทว่ากับไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องบุตรของเขาเลย!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าสถานะของศิษย์เทพอาหารจะไม่ธรรมดา คาดไม่ถึงว่าจะมีบิดาเช่นนี้!”
“ข้าได้ยินมาว่าประมุขเฉียนนั้นชื่นชอบการกินและชิมอาหารเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ แม้แต่แลกด้วยศิลาวิญญาณก็ไม่มีปัญหา.”
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก “ดูเหมือนว่าเขาจะเหมือนกับบิดาเป็นอย่างมาก.”
“เคยได้ยินมาว่าตอนเด็ก ๆ บุตรชายของเขานั้นขี้เกียจมาก กล่าวได้ว่าไม่แม้แต่จับตะเกียบจนอายุถึงเจ็ดปี กระทั่งอาหารก็ยังต้องให้คนรับใช้ป้อนให้.”
“กับคนที่เกียจคร้านเช่นนี้ กับเป็นศิษย์เทพอาหาร ช่างเหลือเชื่อจริง ๆ!”
“ใช่แล้วประมุขเฉียนจ่ายไปมหาศาล เพื่อให้บุตรชายได้เป็นศิษย์เทพอาหาร.”
“แต่เขาก็ร่ำรวยมหาศาลจริง ๆ!”
ทุกคนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
อย่างไรก็ตาม พวกเขาที่สงสัยในฝีมือทำอาหารของเฉียนซ่งเป้าเหมือนกัน.
เงินที่ซื้อสถานะศิษย์เทพอาหาร ทว่าความร่ำรวยนั้นยากที่จะซื้อฝีมือทำอาหารได้.
ผู้เข้าแข่งขันเองก็แอบคิด.
เมื่อคิดเช่นนี้ขึ้นมา ทำให้หลายคนลอบคิดในใจ“เจ้าคนนี้มีบิดาซื้อสถานะให้ ทำไมพวกเขาต้องหวาดกลัวกัน.”
และคำพูดทีเอ่ยกับหลิวหว่านซีนั้น พวกเขาหาได้สนใจเช่นกัน.
แม้แต่บางคนที่เชื่อว่า เจ้าคนนั้นไร้ซึ่งฝีมือ ไม่มีอะไรที่พวกเขาต้องหวาดกลัวและหลบเลี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “จงใจให้คนอื่นประมาทอย่างงั้นรึ?”
“แล้วทำไมเจ้าต้องใช้ชื่อบิดาของเจ้าปลอมตัวด้วยล่ะ?”หลิวหว่านซีเอ่ยถาม.
เฉียนซ่งเป้าเผยยิ้ม “เพราะมันสนุก.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.
บุตรชายปลอมเป็นบิดา เพราะว่ามันสนุก ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปทำอย่างแน่นอน.
“ดี.”
หลิวหว่านซีไม่ได้เอ่ยอะไรต่อไป.
แม้นว่านางจะประหลาดใจสถานะของเฉียนซ่งเป้า ทว่าในเมื่อเข้าร่วมมการแข่งขัน ก็ถือว่าเป็นคู่แข่งกัน.
“แม่นางหลิว.”
เฉียนซ่งเป้าเอ่ย “ชุดของเจ้าไม่เลว.”
หลิวหว่านซีที่กล่าวอย่างภาคภูมิ “นี่คือชุดวิถีแม่ครัวของบรรพชนรุ่นก่อนของนิกายส่งต่อมา!”
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”
แววตาของเฉียนซ่งเป้าที่เผยความเคารพออกมา“แม่นางหลิว ข้าขอถามได้ไหมว่าบรรพชนแม่ครัวผู้ทรงเกียรติของท่านมีนามว่าอะไร?”
“เรื่องนี้....”
จุนซ่างเซียวส่งเสียงผ่านวิญญาณแจ้งหลิวหว่านซี“บรรพชนวิถีอาหารรุ่นเก่าของนิกายมีนามว่า อี้หยิน.”
“อี้หยิน.”
“อี้หยินอย่างงั้นรึ?”
เฉียนซ่งเป้าที่ลอบคิดในใจ”ไม่เคยได้ยินอาจารย์เอ่ยถึงคนผู้นี้เลย.
ไม่ได้ยินย่อมถูกแล้ว เพราะว่าอี้หยินก็คือแม่ครัวที่โลกเดิมของจุนซ่างเซียว เป็นคนที่มีชื่อเสียงของราชวงศ์ต้าซ่าง เป็นนักพรตเต๋า ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน.
หวงจินต้วนประกาศเสียงดัง“การแข่งขันเทพอาหารครั้งที่ 50 ขอให้ผู้เข้าแข่งขันประจำที่ เลือกครัวของตัวเองได้เลย!”
“ท้ายที่สุดก็เริ่มสักที!”
ขณะที่ทุกคนกำลังตั้งใจจับจ้องนั้น ภาพบนหน้าจอก็เปลี่ยนเป็นโฆษณาทันที.
บัดซบ!
นี่มันบ้าอะไรนี่!
......
“ฟิ้ว!”
หลังจากโฆษณาจบลง ภาพสนามการแข่งขันก็คืนกลับมาเช่นเดิม.
120 ผู้เข้าร่วมแข่งขันประจำที่แล้ว และกรรมการประเมินอาหารสิบคนก็นั่งประจำที่เช่นกัน.
เหล่ากรรมการล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นนักชิมชั้นยอดกันทั้งนั้น.
หลิวหว่านซีที่เลือกครัวมุมหนึ่ง หากไม่สังเกตุให้ดีก็ยากจะหาพบ และห่างออกไปกับเป็นเฉียนซ่งเป้า.
กล่าวตามตรง เจ้าคนนี้เหมือนว่าจะจงใจมาอยู่ใกล้ ๆ.
“แม่นางหลิว.”
เขากล่าวเสียงเบา “ในรอบแรกง่าย ๆ สบาย ๆ หากเจ้าทำผัดเปรี้ยวหวานปลาหลี่ฮือ จะต้องเข้ารอบอย่างไม่มีปัญหา.”
หลิวหว่านซีไม่ได้เอ่ยอะไร นางที่เริ่มเตรียมการทันที.
การแข่งขันเทพอาหารครั้งนี้นางเป็นตัวแทนของนิกายนิรันดร แน่นอนว่านางไม่กล้าที่จะประมาทเด็ดขาด.
เฉียนซ่งเป้าก็เริ่มเตรียมอาหารเช่นกัน.
“ฟิ้ว!”
มือของเขาที่ขยับอย่างเกียจคร้าน แต่กับคล่องแคล่ว.
“ฝีมือ!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ฝีมือจริง ๆ!”
“การประลองอาหารรอบแรกนั้น สามารถทำอะไรได้อย่างอิสระ!”
หวงจินต้วนเอ่ย เสียงดัง “ผู้เข้าร่วมการแข่งขันมีเวลาหนึ่งชั่วยาม คนที่ได้ 80 คะแนนก็จะได้เข้าสู่รอบต่อไป.”
“กรรมการสิบคนมีคนล่ะ 10 คะแนน ต้องได้ 80 แต้มถึงได้เข้ารอบต่อไป หมายความว่าจะต้องได้คะแนนแปดคะแนนในแต่ละคนจึงจะเข้ารอบ งานประลองเทพอาหารยากจริง ๆ!”
ทุกคนที่อุทานเสียงดัง.
“เริ่มได้!”หวงจินต้วนตะโกน.
“ฟู่ ฟู่!”
กล่าวจบ เหล่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่สร้างเปลวเพลิงขึ้นมาทันที ความร้อนที่แผ่ออกไปรอบ ๆ สนามการแข่งขัน.
“งานแข่งขันเทพอาหาร ทุกคนต่างก็สามารถควบคุมธาตุเพลิงด้วยกันทั้งนั้น!”
“เพลิงเหล่านี้ ไม่ได้นำไปใช้ต่อสู้ แต่เอาไว้ทำอาหาร.”
“เอ๊ะ? ศิษย์นิกายนิรันดร์และศิษย์เทพอาหารไม่ลงมืออย่างงั้นรึ? ไม่เห็นทั้งสองขยับเลย?”
สตรีเพียงคนเดียวที่เข้าร่วม และศิษย์เทพอาหารเพียงคนเดียว ดังนั้นหลิวหว่านซีและซ่งเฉียนเป้าย่อมเป็นที่จับตามองของทุกคนเป็นธรรมดา.
“แม่นางหลิว.”
เฉียนซ่งเป้าเผยยิ้ม “ข้าจะเริ่มแล้ว.”
“ฟิ้ว!”
ระหว่างที่กล่าว.เขาที่ขยับมือปล่อยเพลิงสีม่วงออกมา ก่อรูปขึ้นที่ด้านหน้าทันที.
“เพลิงจื่อหยิน(ม่วงปกปิด)!”
“ได้ยินมาว่ามันคือเพลิงทำอาหารที่แข็งแกร่งที่สุด!”
“ศิษย์เทพอาหารดูเหมือนว่าจะเป็นอัจฉริยะ แม้นว่าจะไม่ได้ใช้เงินซื้อก็ตาม!”
“ฟู่ ฟู่ ---”
ความร้อนของเพลิงจื่อหยินนั้นรุนแรงไม่น้อย เทียบกับเพลิงที่คนอื่นปลดปล่อยออกมาราวกับนกกระเรียนกับลูกเจี๊ยบทันที!
“ฟู่!”
หลิวหว่านซีที่พ่นลมหายใจยาว ก่อนที่จะมองไปยังจุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มให้กับนาง พร้อมกับส่งเสียงผ่านวิญญาณ “สาวน้อย จงเชื่อมั่นในตัวเอง!”
“อืม!”
หลิวหว่านซีที่ยกมือยื่นไปด้านหน้า ดวงตาเป็นประกายแวววับ.
“วูซซซซซ!”
อักขระที่ซ่อนอยู่ในผิวหนักตัวอักษร“เตา”ก็ปรากฏขึ้นมาทันที.
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม---”
เพลิงเทพแม่ครัว ในเวลานั้นก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้า มันลุกโชน แผ่ความร้อนออกไปทั่วสนามการแข่งขัน!
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
เปลวเพลิงที่รุนแรงสะกดข่ม เพลิงที่อ่อนแอ ที่หรี่ลงและมอดดับไปในทันที.
เหล่าผู้แข็งขันหลายคนที่ตกใจ ใบหน้าเปลี่ยนสีไปเหมือน ๆ กัน.
พวกเขาที่รู้สึกราวกับว่าได้ยินเสียงพยัคฆ์มังกรคำรามออกมาจากเพลิงแม่ครัว จิตใจของพวกเขาสั่นไหวแม้แต่อุทานออกมา“นี่มัน....เพลิงอะไรกัน!”
เฉียนซ่งเป้าที่อยู่ใกล้ที่สุด ใบหน้าเปลี่ยนสีไปเหมือนกัน.
แม้แต่เขาก็ยังยากจะควบคุมเพลิงจื่อหยินได้ เปลวเพลิงก็พร้อมจะดับลงทุกเมื่อ“เพลิงของข้าที่ราวกับจะยอมแพ้ เพลิงนั่นคือเพลิงทำอาหารที่แข็งแกร่งที่สุดแน่นอน!”
ทันทีที่หลิวหว่านซีปลดปล่อยเพลิงเทพอาหารออกมา เปลวเพลิงของทุกคนในสนามที่ราวกับจะมอดดับ เหมือนกับเจอเพลิงที่แข็งแกร่งกว่า จนไม่กล้าทาบรัศมี!
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ยักไหล่ขึ้นเบา ๆ เอยออกไปว่า“สยายล่ะ ไม่มีใครขัดขวางได้.”